Notebooks 2015 – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Thu, 26 May 2016 01:40:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review: HP Pavilion x360 โน้ตบุ๊กหมุนรอบทิศ เสียง B&O ราคาเบา https://cyberbiz.mgronline.com/review-hp-pavillion/ Wed, 30 Sep 2015 07:46:52 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=18217

558000011387303

เมื่อการผลักดันของอินเทล เริ่มทำให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กหันมาให้ความสำคัญกับเครื่องเป็นที่แนว 2in1 มากยิ่งขึ้น ก็ทำให้ผู้บริโภคเริ่มได้เห็นโน้ตบุ๊กในระดับราคาไม่เกิน 2 หมื่นบาท แต่มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน และการที่ตัวเครื่องหมุนได้ 360 องศามาเป็นของแถม

HP Pavilion x360 ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในกลุ่มตลาดโน้ตบุ๊กแบบ 2in1 ที่นำหน่วยประมวลผลประหยัดพลังงาน และความร้อนต่ำอย่าง Intel Core M มาขับเคลื่อนไปกับฟีเจอร์พิเศษอย่างการสัมผัสหน้าจอ การที่จอสามารถหมุนได้ 360 องศา และตัวเครื่องรองรับการใช้งานวินโดวส์ 10 อย่างเต็มรูปแบบ

การออกแบบและสเปก

558000011387303

ด้วยการที่ HP วาง x360 อยู่ในกลุ่มโน้ตบุ๊กสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานเป็นโน้ตบุ๊กเครื่องแรก เน้นการพกพาใช้งานสะดวก ทำให้ดีไซน์การออกแบบของ x360 เน้นไปที่การทำขอบมุมตัวเครื่องให้ดูบางลง แม้ว่าแท้จริงแล้วขนาดจะไม่แตกต่างจากโน้ตบุ๊กทั่วไปในตลาดเท่าไหร่

โดยขนาดรอบตัวของ x360 จะอยู่ที่ 306 x 208 x 22.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.362 กิโลกรัม

558000011387315

ด้านหน้าจะมีโลโก้ เอชพี สีเทา ตัดกับสีแดงของตัวเครื่อง เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาจะพบกับกล้องหน้าความละเอียด HD ลงมาเป็นหน้าจอ LED ขนาด 11.6 นิ้ว ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล โดยเป็นหน้าจอแบบ IPS ถัดลงมาเป็นชื่อแบรนด์ Hewlett Packard โดยจะมีข้อต่อแบบหมุนได้ 360 องศาอยู่ 2 ฝั่ง

558000011387328

ในส่วนของคีย์บอร์ดที่ให้มาถือว่าขนาดใกล้เคียงกับมาตรฐาน เพียงแต่ปุ่มแถบบนสุดจะมีขนาดเล็กกว่าปุ่มปกติประมาณครึ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับตัวอักษรขึ้นลง ถัดลงมาบริเวณที่วางข้อมือจะมีการสกรีนระบุรุ่น Pavilion และสติกเกอร์ระบุว่าใช้ลำโพงคู่ของ B&O (Bang & Olufsen) และหน่วยประมวลผลอินเทล การสั่งงานบริเวณทัชแพด รองรับการใช้งานแบบมัลติทัชด้วย

558000011387305

เมื่อคว่ำหลังเครื่องดูจะพบกับช่องลำโพงอยู่ทั้ง 2 ฝั่งเครื่อง โดยมีปุ่มยางที่ทำให้เครื่องสูงขึ้นมาเล็กน้อย โดยมีการสกรีนตัวอักษรระบุรายละเอียดต่างๆของเครื่องอยู่ที่บริเวณกลางบน ภายในมีแบตเตอรีขนาด 32Whr

558000011387319

ด้านซ้าย – จะมีปุ่มเปิดเครื่อง ช่องล็อกโน้ตบุ๊ก พอร์ตยูเอสบี 2.0 ช่องอ่านเอสดีการ์ด และปุ่มปรับระดับเสียง

558000011387323

ด้านขวา – จะมีทั้งช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ปุ่มวินโดวส์ พอร์ตยูเอสบี 3.0 2 พอร์ต ช่องต่อ HDMI ช่องเสียบสายแลน ไฟแสดงสถานะการชาร์จ และช่องเสียบสายชาร์จ

558000011387334558000011387330

สำหรับสเปกภายในของ HP Pavilion x360 Conv 11 รหัส k031TU จะทำงานบนหน่วยประมวลผล Intel Core M 5Y10C 800 MHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพ (Turbo Boots) ได้ถึง 2 GHz L3 Cache ขนาด 4 MB

กราฟิกออนบอร์ด Intel HD 5300 RAM 4 GB และฮาร์ดดิสก์ขนาด 1 TB ในแง่ของการเชื่อมต่อภายในตัวเครื่องรองรับบลูทูธ 4.0 และ WiFi 802.11 b/g/n ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 แต่รองรับการอัปเกรดเป็นวินโดวส์ 10

ฟีเจอร์เด่น

558000011387314

จุดเด่นที่น่าสนใจของ x360 คือการที่เปลี่ยนมาใช้หน่วยประมวลผล Intel Core M ทำให้ช่วยเพิ่มระยะเวลาต่อเนื่องในการใช้งาน กับเรื่องของความร้อนจากตัวเครื่องในกรณีที่ใช้งานบนตัก ทำให้ช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้

558000011387313

ขณะเดียวกัน ด้วยการที่ต่อยอดการพัฒนารูปแบบตัวเครื่องเป็นแบบ 2in1 ทำให้ตัวเครื่องรองรับการใช้งานแบบสัมผัสหน้าจอ กับการหมุนหน้าจอได้แบบ 360 องศา ทำให้สามารถวางใช้งานได้หลายรูปแบบตามแต่ความต้องการ

558000011387329

ที่สำคัญคือ การที่ตัวเครื่องให้พอร์ตใช้งานมาครบทั้งพอร์ตยูเอสบี 3 พอร์ต พอร์ต HDMI แลน ช่องอ่านการ์ดรีดเดอร์ แม้ว่าจะทำให้ตัวเครื่องมีขนาดหนาขึ้น แต่ก็แลกมากับการใช้งานที่ครบแทน

558000011387339

ในส่วนของระบบเสียงตัว x360 มากับลำโพงจาก B&O ทำให้เชื่อถึงพลังเสียงได้ว่า ดีกว่าเครื่องในระดับเดียวกันในท้องตลาดแน่นอน โดยทาง B&O ก็มีซอฟต์แวร์มาให้ติดตั้งเพื่อปรับระดับ และควบคุมเสียงให้ได้ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นด้วย

558000011387336

สุดท้ายก็คือฟีเจอร์อย่าง HP Coolsense ที่เข้ามาช่วยผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานเครื่องในสถานที่เงียบๆ ไม่ต้องการให้มีเสียงพัดลมทำงานหนักจนไปรบกวนเสียงอื่นๆ ก็จะมีระบบ CoolSense มาให้ใช้งานด้วย

558000011387338

ทั้งนี้ เครื่องที่ทีมงานได้มาทดสอบยังทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 โดยมีการพรีโหลดแอปพลิเคชันบางส่วนมาให้นอกเหนือไปจากแอปพื้นฐานที่ติดตั้งมากับวินโดวส์ ก็จะมีพวกระบบเกม WildTangent คอนเทนต์จาก TripAdviser ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ และ Intel WiDi

ทดสอบประสิทธิภาพ

558000011387337

เมื่อทำการทดสอบด้วยโปรแกรมทดสอบ PCmark8 Home Conventional ได้ 1,525 คะแนน Creative Conventional ได้ 2,143 คะแนน Work Conventional 2,470 คะแนน Storage ได้ 2,247 คะแนน

558000011387335558000011387331558000011387332

ส่วน 3Dmark Fire Strike 429 คะแนน Sky Driver 1,693 คะแนน Cloud Gate 3,641 คะแนน Ice Storm 37,235 คะแนน ส่วนทดสอบกราฟิกการ์ด CINEBENCH R15 OpenGL 20.83 fps ส่วน CPU 181 cb

558000011387333

ทดสอบจาก GeekBench ได้คะแนน Single-Core 2,215 คะแนน Multi-Core 4,582 คะแนน ขณะที่เวลาการใช้งานต่อเนื่องบนแบตเตอรีแบบเต็มประสิทธิภาพจะอยู่ที่ราว 3 ชั่วโมง 16 นาที ก่อนแบตเตอรีจะเข้าสู่โหมดสแตนบาย แต่ถ้าใช้งานทั่วๆไปจะอยู่ที่เกือบๆ 8 ชั่วโมง

สรุป

กับราคาค่าตัวที่ 19,990 บาท ทำให้ x360 ถือเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กเครื่องแรกมาใช้งาน เพียงแต่ด้วยประสิทธิภาพของตัวเครื่องอาจจะเหมาะกับการใช้งานทั่วๆไป อย่างเล่นเน็ต ดูหนัง ฟังเพลง พิมพ์งานเอกสาร แต่ไม่สามารถใช้งานหนักๆอย่างตัดต่อวิดีโอ หรือทำกราฟิกหนักๆได้แน่นอน

ดังนั้น กับราคาดังกล่าว แล้วได้โน้ตบุ๊กที่เป็น 2in1 หน้าจอสัมผัส มากับวินโดวส์แท้ พร้อมอัปเกรดเป็นวินโดวส์ 10 ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ค่อนข้างคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป

ข้อดี

– เครื่องโน้ตบุ๊ก 2in1 จอสัมผัส หมุนจอได้ ราคาไม่ถึง 20,000 บาท
– ตัวเครื่องมากับหน่วยประมวลผล Intel Core M / HDD 1TB / RAM 4GB
– ระบบเสียง B&O ที่เหนือกว่าเครื่องในระดับราคาเดียวกัน

ข้อสังเกต

– ประสิทธิภาพของ Core M ยังตอบโจทย์การใช้งานหนักๆไม่ได้ แต่ใช้งานทั่วๆไปสบาย
– ต้องนำมาอัปเป็นวินโดวส์ 10 ด้วยตนเอง
– เครื่องมีขนาดใหญ่ และหนัก เมื่อเทียบกับอัลตร้าบุ๊กรุ่นอื่นในตลาด

Gallery

]]>
Review: Apple Macbook (2015) เปิดโลกไร้สายสไตล์แอปเปิล https://cyberbiz.mgronline.com/review-apple-macbook-2015/ Thu, 06 Aug 2015 04:11:20 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=17318

558000008746904

เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการโน้ตบุ๊กอีกครั้งก็ได้ หลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว Macbook รุ่นใหม่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Macbook 12” 2015 เนื่องจากเป็น Macbook ขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว ที่เพิ่งถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 และเริ่มทยอยวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อเดือนที่ผ่านมา และถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

สิ่งที่ Macbook รุ่นใหม่แตกต่างจากเดิมแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆเลยคือเรื่องของดีไซน์ คีย์บอร์ด และทัชแพด ที่เรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจนเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ ในอุตสาหกรรมไอทีก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมองได้ว่า Macbook รุ่นนี้ มาเร็วเกินไปจนอาจจะเป็นต้นแบบของทิศทางอุตสาหกรรม

การออกแบบ


558000008746905

ถ้าถามว่าดีไซน์ของ Macbook มีความเปลี่ยนแปลงไปมากไหมเมื่อเทียบกับ Macbook Air ก็เรียกว่าไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่จากเดิม Macbook Air ที่มีความบางเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว Macbook กลับทำได้บางกว่า Macbook Air ด้วยการที่มีขนาดเพียง 280.5 x 196.5 x 13.1 มิลลิเมตร (บางสุด 3.5 มิลลิเมตร) และน้ำหนัก 920 กรัม โดย Macbook จะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สีด้วยกันคือ สีทอง สีเทา และสีเงิน

เริ่มกันจากภายนอกเครื่อง จุดที่มีการเปลี่ยนแปลงจุดแรกเลยคือสัญลักษณ์ของแอปเปิล ที่แต่เดิมเมื่อมีการใช้งานตรงโลโก้จะมีไฟสว่างขึ้นมา แต่ในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นโลโก้ปกติ เหมือนที่ใช้ใน iPad

558000008746906

เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมา จะพบกับจอแสดงผลขนาด 12 นิ้ว ที่ให้ความละเอียด 2304 x 1440 พิกเซล โดยทางแอปเปิลระบุว่าเป็นจอภาพที่มีการออกแบบใหม่เพื่อลดพื้นที่ในการใช้งานให้บางลงเหลือ 0.88 มิลลิเมตร แต่ยังคงความสามารถในเรื่องของ Retina Display ไว้ และที่สำคัญคือสว่างกว่าจอภาพแบบเดิม 30%

558000008746911

โดยส่วนบนหน้าจอจะมีกล้องสำหรับใช้งาน Facetime ความละเอียด 480p ขณะที่ขอบล่างก็จะมีสัญลักษณ์ MacBook สีเทาอยู่

558000008746912

ถัดลงมาในส่วนของตัวเครื่อง แนวบนสุดจะเป็นที่อยู่ของช่องลำโพง ถัดมาเป็นคีย์บอร์ดแบบใหม่ที่แอปเปิลคิดค้นขึ้นเป็นกลไกแบบปีกผีเสื้อ (Butterfly) โดยลดความหนาของปุ่มลงมาเหลือ 0.5 มิลลิเมตร จากเดิมที่อยู่ราว 1.5 มม. หรือราว 60% ที่สำคัญคือเมื่อเทียบกับ Macbook Air ขนาดจะใหญ่ขึ้น 17%

558000008746915

ถัดลงมาเป็นทัชแพดรูปแบบใหม่ (Force Touch) ที่รองรับการกดทั้งแผ่น และทำให้สามารถกดใช้งานได้สะดวกขึ้น พร้อมกับการเพิ่มระดับสัมผัสให้ง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น พร้อมกับคงจุดเด่นในเรื่องของการสัมผัส และใช้งานแบบมัลติทัชด้วย

558000008746919

โดยภายในเครื่อง แอปเปิลได้มีการออกแบบการจัดวางภายในใหม่ ทำให้ขนาดเมนบอร์ดลดลงเหลือ 1 ส่วน 3 ของเครื่อง เมื่อเทียบกับ Macbook Air จะมีขนาดเล็กลงถึง 67% ขณะเดียวกันได้มีการเพิ่มปริมาณของแบตเตอรีให้เพิ่มขึ้น ด้วยการจัดเรียงชั้นของแบตเตอรีให้สามารถวางได้เต็มพื้นที่ เป็นแบตเตอรีขนาด 7.55 V 39.71 Wh 5,263 mAh

ที่สำคัญคือการตัดพัดลมระบายอากาศออก ทำให้ช่วยลดเสียงรบกวนขณะใช้งานเครื่องลงไปได้ โดยเกิดจากความสามารถของหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ ที่นอกจากประหยัดพลังงานแล้วยังมีความร้อนต่ำด้วย

สเปกและฮาร์ดแวร์เด่น


558000008746932

ขณะที่สเปกภายในของ Macbook จะทำงานบนหน่วยประมวลผล Intel Core M 1.1 GHz ที่มี Turbo Boots ขึ้นไปเป็น 2.4 GHz (เลือกใส่ได้สูงสุด 1.3 GHz / 2.9 GHz) L3 Cache 4 MB RAM DDR3 8 GB พื้นที่เก็บข้อมูลแบบ SSD เริ่มต้นที่ 256 GB หน่วยประมวลผลภาพ Intel HD 5300

ด้านการเชื่อมต่อรองรับ WiFI มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/ac บลูทูธ 4.0 ส่วนที่เหลือจะเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C ที่ใช้ทั้งเป็นสายชาร์จ พอร์ตยูเอสบีปกติ และพอร์ตต่อจอภาพภายนอก ทำงานบนระบบปฏิบัติการ OS X Yosemite 10.10.4

4 จุดเด่น Macbook ใหม่


558000008746907

4 จุดเด่นหลักที่ห้ามพลาดในการพูดถึง Macbook 2015 เลยคือเรื่องของหน้าจอที่มีขนาด 12 นิ้ว แต่มีการจัดเลเยอร์ของหน้าจอใหม่ให้มีขนาดบางลง ขณะเดียวกันขอบจอก็มีขนาดเล็กลง ทำให้ผู้ใช้ได้เห็นเครื่องที่มีขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว มีขนาดเล็กกว่าเครื่องขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ที่สำคัญคือเรื่องของการแสดงผลที่นำจอแบบ Retina มาใช้งาน ส่งผลให้สามารถแสดงผลได้คมชัดกว่าจอแบบเดิม

558000008746914

ถัดมาคือในเรื่องของการปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นพอร์ต USB-C ที่แม้ว่าแอปเปิลจะเป็นรายแรกในท้องตลาดที่นำพอร์ตดังกล่าวมาใช้ แต่แอปเปิลเชื่อว่า พอร์ตนี้จะกลายเป็นมาตรฐานที่สำคัญต่อไปในอนาคต ทำให้ในช่วงแรกอาจจะเกิดความไม่คุ้นชินในการใช้งานก็ตาม

 

558000008746930

อย่างไรก็ตามด้วยการที่แอปเปิล ไม่ได้วางคอนเซปต์ในการใช้งาน Macbook ให้มาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นผ่านสาย แต่เน้นไปที่การเชื่อมต่อแบบไร้สายมากกว่า ดังจะเห็นได้จากการที่แอปเปิล มีการปรับเปลี่ยนในแง่การเชื่อมต่อระหว่าง OS X และ iOS ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายได้แล้ว

558000008746910

ต่อมาคือเรื่องของคีย์บอร์ด ที่มีการออกแบบใหม่เช่นเดียวกัน ด้วยการเปลี่ยนกลไกที่ใช้รับสัมผัสเป็นแบบปีกผีเสื้อ ส่งผลให้ในการใช้งานแม้ว่าจะกดที่มุมของปุ่มขนาดไหนก็รับสัมผัสได้ ขณะเดียวกันขนาดของปุ่มก็มีขนาดกว้างขึ้น เมื่อเทียบกับ Macbook Air และบางลงอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญคือยังมีไฟ LED อยู่ใต้แผงคีย์บอร์ดให้สามารถใช้งานในเวลากลางคืนได้

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้สัมผัสใช้งานคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ของ Macbook ช่วงแรกๆอาจจะไม่คุ้นชินกับการใช้งานเท่าไหร่ แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัว เพราะทำให้สามารถพิมพ์สัมผัสได้รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่ว่าจะไม่ได้สัมผัสในการกดปุ่มลึกๆแบบเดิม

558000008746927

มาถึงจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ Macbook รุ่นนี้เลย และถือว่าเป็นจุดขายสำคัญที่จะกลายเป็นอนาคตในการใช้งาน Macbook รุ่นอื่นๆต่อไปในอนาคตคือ Force Touch Trackpad ที่เปลี่ยนการรับสัมผัสให้เป็นการใช้ไฟฟ้าสถิตแทน เพื่อส่งแรงกดมายังนิ้วมือของผู้ใช้ โดยสามารถรับแรงกดได้หลายระดับ

558000008746926

โดยการทำงานของแทร็กแพดแบบใหม่นี้ จะมีอยู่ด้วยกัน 4 ส่วนหลักๆเลยคือ เรื่องของการ คลิก ที่สามารถกดคลิกได้ทุกส่วนของแทร็กแพด จากในรุ่นเดิมที่แถบบนจะกดค่อนข้างยาก เนื่องจากมีการใช้เซ็นเซอร์รับแรงกด 4 จุด ครอบคลุมทั่วแทร็กแพด

558000008746928

นอกจากนี้ยังมีการเสริมฟังก์ชันพิเศษอย่างการกดย้ำลงไปอีกระดับ (Force Click) เพื่อใช้ในการแสดง Preview ค้นหาที่อยู่ใน Safari บันทึกตารางนัดหมายลงปฏิทิน แสดงผลลิงก์ และอื่นๆอีกมากมาย

558000008746925

ต่อมาคือการ เร่ง ที่จะแสดงความสามารถในการรับแรงกดของแทร็กแพด ยกตัวอย่างเช่นกรณีเล่นไฟล์วิดีโออยู่ ต้องการเร่งความเร็ว สามารถกดที่ปุ่ม Forward เมื่อกดแล้วสามารถลงน้ำหนักนิ้วเพิ่มเติมเพื่อเร่งความเร็วในการเลื่อนจาก 5 เท่า เป็น 10 เท่า 30 เท่า และ 60 เท่าได้

อีก 2 ส่วนที่เหลือคือ การจัดระเบียบ ที่สามารถใช้แทร็กแพดในการช่วยจัดเรียงไอคอนได้ง่ายขึ้น และสุดท้ายคือความสามารถใน การวาดรูป เนื่องจากตัวแทร็กแพดมีการรับแรงกด ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะกดปุ่มด้วยความแรงขนาดไหน ลายเส้นทีไ่ด้ก็จะหนาขึ้นตามการกดไปด้วย

ทั้งนี้ ถ้าสังเกตในการใช้งาน กรณีที่ตัวเครื่องปิดตัว ตัวแทร็กแพดจะไม่สามารถกดลงไปได้ แสดงให้เห็นถึงระบบการรับสัมผัสที่เกิดจากไฟฟ้า ดังนั้นกรณีที่เครื่องไม่มีไฟเลี้ยงก็จะไม่สามารถกดปุ่มเพื่อใช้งานแทร็กแพดได้นั่นเอง แน่นอนว่าถ้าอยากได้สัมผัสที่กดแล้วรู้สึกว่าลึก หรือไม่จำเป็นก็สามารถเข้าไปปรับได้เช่นเดียวกัน

ทดสอบประสิทธิภาพ


558000008746931558000008746929

สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพ Macbook 2015 ด้วยโปรแกรมทดสอบอย่าง GeekBench wด้คะแนน Single Core 2,424 คะแนน Multi Core 4,619 คะแนน ส่วน Cinebench R15 ได้คะแนน Open GL 17.87 fps CPU 190 cb

โดยรวมแล้วความสามารถใหม่ๆของ Macbook ที่เกิดจากส่วนของฮาร์ดแวร์จะมีประมาณนี้ แต่อย่างที่รู้กันว่าโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่จะเรียกประสิทธิภาพในการทำงานมาจากระบบปฏิบัติการเป็นหลัก ดังนั้นความสามารถในการใช้งานต่างๆก็จะขึ้นอยู่กับตัว OS X อย่าง Yosemite และ El Capitan ที่จะทยอยอัปเกรดในช่วงปลายปีนี้

สรุป


ถ้าเป็นผู้ใช้งาน Mac ที่เดิมมี Macbook Pro หรือ iMac อยู่ แล้วต้องการเครื่องใหม่มาใช้งานสำหรับพกพา หรือกำลังใช้งาน Macbook Air รุ่นเก่าแล้วมีความคิดจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ Macbook 2015 ถือว่า เข้ามาตอบโจทย์การใช้งานในแง่ของอุปกรณ์พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้เป็นอย่างดี

เพียงแต่ในการใช้งานจำเป็นต้องมองถึงโลกของการเชื่อมต่อไร้สายเป็นหลัก ด้วยการใช้ iCloud หรือ AIrDropควบคู่กับ iPad หรือ iPhone ในการโอนย้ายไฟล์มาใช้งานภายในเครื่อง มากกว่าการเชื่อมต่อผ่านพอร์ตยูเอสบีแบบเดิมๆ

ในแง่ของประสิทธิภาพตัวเครื่อง สามารถนำมาใช้งานทั่วไปได้สบายๆ รวมไปถึงสามารถใช้ในการแต่งรูปประเภท RAW ไฟล์ได้ หรือตัดต่อวิดีโอขนาดสั้นๆได้ แต่อย่านำไปเทียบกับเครื่องอย่าง Macbook Pro ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า แม้ระดับราคาจะใกล้เคียงกันก็ตาม

ทั้งนี้ Macbook 2015 วางจำหน่ายให้เลือกกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ รุ่นที่ใช้ Intel Core M 1.1 GHz SSD 256 GB ในราคา 43,900 บาท และรุ่น Intel Core M 1.2 GHz SSD 512 GB ในราคา 54,900 บาท (หรือเพิ่มเงินอีก 4,920 บาท สำหรับ Intel Core M 1.3 GHz)

558000008746903

ส่วนอุปกรณ์เสริมอย่าง USB-C to USB อยู่ที่ 690 บาท USB-C to VGA Multiport และ USB-C to Digital AV Multiport ที่ราคา 2,990 บาท

ข้อดี

– ความบางของตัวเครื่อง ทำให้เหมาะกับการพกพา
– ระยะเวลาการใช้งานบนแบตเตอรีต่อเนื่องประมาณ 9 ชั่วโมง
– คีย์บอร์ด และแทร็กแพด ใหม่ที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

ข้อสังเกต

– ประสิทธิภาพไม่สูงมาก เหมาะกับการใช้งานพกพาทั่วๆไป
– พอร์ต USB-C ยังหาอุปกรณ์ใช้ด้วยยาก

Gallery

]]>