HP – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Wed, 24 Mar 2021 03:48:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : HP ProBook 635 Aero G7 โน้ตบุ๊กองค์กรขุมพลัง AMD https://cyberbiz.mgronline.com/review-hp-probook-635-aero-g7/ Wed, 24 Mar 2021 03:44:22 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=34954

เอชพี (HP) เป็นอีกแบรนด์ที่หันมานำซีพียูตัวแรงจาก AMD มาใช้ในกลุ่มโน้ตบุ๊กองค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะในซีรีส์ ProBook ที่เน้นเรื่องของดีไซน์ที่ให้ความทนทาน น้ำหนักเบา สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ และมาพร้อมการเชื่อมต่อที่ครบถ้วน

HP ProBook 635 Aero จึงกลายมาเป็นรุ่นเด่นของเอชพี ที่ถูกนำเสนอแก่องค์กรธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนผ่านการทำงานของพนักงานในองค์กร ที่เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบจากทำงานในสำนักงาน มาเป็น Work from Home หรือ Work from Anywhere ที่ให้ทั้งประสิทธิภาพในการใช้งาน ระยะเวลาการใช้งานที่ต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน เมื่อรูปแบบของการทำงานจากที่บ้านได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เอชพี เลยมีการนำเสนอหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่จะมาเชื่อมต่อให้สามารถใช้งาน HP ProBook ร่วมกับจอขนาด 27 นิ้ว ได้ง่ายๆ ผ่านพอร์ตเชื่อมต่อเดียวคือ USB-C ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เพิ่มเติมด้วย

ข้อดี

  • ตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะ อะลูมิเนียม ผสมแมกนีเซียมอัลลอยด์ให้ความแข็งแรง
  • น้ำหนักเบา เริ่มต้นไม่ถึง 1 กิโลกรัม
  • รองรับการเชื่อมต่อครบถ้วน
  • ทำงานบน AMD Ryzen ที่ประมวลผลแรง และประหยัดพลังงาน

ข้อสังเกต

  • ดีไซน์ตัวเครื่องจะเป็นเหลี่ยมๆ สีเงินคลาสสิกทั่วๆ ไป
  • ขนาดเครื่องค่อนข้างหนา เนื่องจากต้องการให้พอร์ตครบที่สุด

โน้ตบุ๊กสู่การเปลี่ยนการทำงานยุคใหม่

ที่ผ่านมา เอชพี พยามนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโน้ตบุ๊กสำหรับองค์กรธุรกิจ และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จุดที่น่าสนใจสำหรับ HP ProBook 635 Aero คือการที่เอชพี สามารถลดน้ำหนักของตัวเครื่องโน้ตบุ๊กหน้าจอ 13.3 นิ้ว ลงมาให้เหลือต่ำกว่า 1 กิโลกรัมได้

แม้ว่าจะใช้งานดีไซน์ตัวเครื่องแบบเดิมของ ProBook แต่ด้วยน้ำหนักที่เบาขึ้น จึงทำให้รุ่นนี้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับพนักงานองค์กรธุรกิจยุคใหม่ ที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ จึงทำให้การมีโน้ตบุ๊กที่พกพาได้ง่าย น้ำหนักเบา จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

HP ProBook 635 Aero มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 307.6 x 204.5 x 17.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 0.99 กิโลกรัม ที่ชูจุดเด่นในเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อใช้งานที่ครบถ้วน ทำให้ขนาดตัวเครื่องจะหนากว่าโน้ตบุ๊กที่มีเฉพาะพอร์ต USB-C เพียงอย่างเดียว

หน้าจอของ HP ProBook 635 Aero จะมีขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล โดยเป็นจอแบบ IPS ที่ป้องกันแสงสะท้อน โดยมีกล้องเว็บแคมความละเอียด HD 720p อยู่ขอบจอด้านบน ซึ่งในจุดนี้จะมี HP Privacy Camera ที่เป็นม่านปิดกล้องมาให้เลื่อนปิดเวลาที่ไม่ได้ใช้งานด้วย

ถัดลงมาในส่วนของคีย์บอร์ด ที่เอชพีเรียกว่าเป็น HP Premium Keyboard นั้น จะมาพร้อมกับไฟ backlit ทำให้สามารถใช้งานในที่แสงน้อยได้ รวมถึงขนาดของแป้นพิมพ์ และการรับสัมผัสต่างๆ ทำได้อย่างน่าสนใจ พิมพ์สนุก เหมาะกับการทำงานได้อย่างเต็มที่

อีกความใส่ใจในเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ทำให้ HP เพิ่มปุ่มปิดไมโครโฟนมาไว้ที่ปุ่มคำสั่งลัดบริเวณแถบบนของคีย์บอร์ดด้วย เมื่อปิดไมค์จะมีไฟแสดงสถานะสีส้มโชว์ขึ้นมา และยังมีปุ่มลัดให้ผู้ใช้สามารถเลือกตั้งสำหรับเรียกใช้งานโปรแกรมที่ใช้งานประจำได้ด้วย

ถัดลงมาในส่วนของ Clickpad รองรับการใช้งานแบบมัลติทัชแล้ว ทำให้การสั่งงานต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น และเพิ่มเติมในเรื่องของความปลอดภัยด้วยการใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาเป็นตัวเลือกให้องค์กรธุรกิจสามารถเลือกใส่เพิ่มเติมได้

สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ทางฝั่งซ้ายจะมีพอร์ตล็อกเครื่อง Kensington ตามด้วยพอร์ต USB-A 2 พอร์ต และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ทางฝั่งขวาจะมีช่องเสียบสายชาร์จมาตรฐาน ตามด้วยพอร์ต HDMI พอร์ต USB-C ที่รองรับทั้งการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ และใช้เป็นพอร์ตชาร์จไฟได้ด้วย

ภายในให้แบตเตอรีขนาด 53Wh แบบ 3 เซลล์ มาพร้อมอะเดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 65W ทำให้สามารถชาร์จได้เต็มภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ในขณะที่การใช้งานบนแบตเตอรีสามารถทำงานได้ต่อเนื่องมากกว่า 11 ชั่วโมง

เชื่อมต่อจอ ทำงานใช้งานในบ้าน

นอกเหนือจากการนำเสนอ HP ProBook 635 Aero G7 แล้ว อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เปิดตัวมาพร้อมกันก็คือหน้าจอ HP E27u USB-C จุดเด่นของหน้าจอรุ่นนี้ ก็คือเป็นหน้าจอขนาด 27 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับพอร์ต USB-C กับโน้ตบุ๊กเพื่อใช้เสียบชาร์จ และเป็น Display Port ไปในตัว เรียกได้ว่า เพียงแค่เชื่อมต่อโน้ตบุ๊กกับ จอด้วยสาย USB-C เส้นเดียวก็พร้อมใช้งานแล้ว

ความพิเศษของจอตัวนี้อีกอย่างคือ สามารถปรับหมุนจอภาพให้ใช้งานในแนวตั้งได้ จึงเหมาะกับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ช่วยเสริมการทำงานให้สะดวกขึ้น อีกอย่างคือเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาครบ ทั้งพอร์ต USB Type A 4 พอร์ต สำหรับเชื่อมต่อเมาส์ คีย์บอร์ด จนถึง Display Port อีก 2 ช่อง และ HDMI ให้เชื่อมต่อใช้งาน

ตัวเครื่องยังมาพร้อมความละเอียดหน้าจอระดับ QHD สามารถสลับใช้งานระหว่างดีไวซ์ต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล มีระบบจ่ายไฟ Power Delivery ให้แก่โน้ตบุ๊ก ทำให้ไม่ต้องเสียบสายชาร์จโน้ตบุ๊ก ก็ใช้งานร่วมกับหน้าจอได้ ถือเป็นอุปกรณ์ที่มาช่วยให้เกิดเวิร์กสเตชันของการทำงานในบ้าน

สเปก

ด้วยการที่เป็นโน้ตบุ๊กสำหรับองค์กรธุรกิจ ทางเอชพี จึงเปิดให้สามารถปรับแต่งสเปกต่างๆ เพื่อให้นำไปใช้งานในองค์กรได้อย่างเหมาะสม โดย HP ProBook 635 Aero G7 จะมีตัวเลือกทั้ง AMD Ryzen 5 4500U และ Ryzen 7 4700U มาให้ใช้งาน พร้อมกับเลือกปรับ RAM ได้ตั้งแต่ 8 – 32 GB พื้นที่เก็บข้อมูลเริ่มต้นเป็น SSD 512 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro

อีกจุดแข็งของ HP ProBook 635 Aero คือเรื่องของการเชื่อมต่อที่มีทั้งพอร์ต USB-C รองรับการส่งข้อมูลระดับ 10 Gbps ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายจะเป็น WiFi 6 บนชิปเซ็ต Intel AX200 มีบลูทูธ 5.0 มาให้ใช้งานเพิ่มเติม เรียกได้ว่าให้มาครบเพียงพอกับการใช้งานโน้ตบุ๊กยุคใหม่เรียบร้อย

ทดสอบประสิทธิภาพ

ด้วยการที่เป็นโน้ตบุ๊กสำหรับใช้งานในองค์กร ประสิทธิภาพของการประมวลผล และแบตเตอรี ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน จะเป็น 2 ปัจจัยหลักที่ควรคำนึงถึง โดยใน HP ProBook 635 Aero G7 นี้ สามารถทำได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะแบตเตอรีที่ใช้ได้ยาวต่อเนื่องมากกว่า 11 ชั่วโมง

ในขณะที่การใช้งานรองรับการทำงานในสำนักงานแทบทั้งหมด รวมถึงใช้ในการคำนวนข้อมูลจาก Excel ทำ PowerPoint เพื่อพรีเซ็นต์งานได้สบายๆ ไปจนถึงในกรณีที่มีงานครอบคลุมไปยังการทำรูปภาพต่างๆ ตัวเครื่องก็สามารถรองรับการใช้งานได้

สรุป

HP ProBook 635 Aero G7 น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกโน้ตบุ๊กสำหรับองค์กร ที่มองหาโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง น้ำหนักเบา ไปใช้พนักงานใช้งาน โดยเฉพาะในยุคที่การ Work From Anywhere กลายเป็นลักษณะการทำงานที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปแล้ว

ด้วยการที่ตัวเครื่องให้พอร์ตมาครบ รองรับการทำงานที่หลากหลาย แบตเตอรีใช้งานได้ต่อเนื่องมากกว่า 11 ชั่วโมง จึงเหมาะกับการพกพาไปใช้งานได้อย่างสบายใจ สำหรับราคาจำหน่ายของ HP ProBook 635 Aero G7 เริ่มต้นที่ 31,890 บาท – 37,990 บาท ส่วนหน้าจอ HP E27u USB-C ราคา 10,900 บาท

Gallery

]]>
Review : HP Envy x360 ขุมพลัง AMD ที่มายกระดับมาตรฐานโน้ตบุ๊กสมัยใหม่ https://cyberbiz.mgronline.com/review-hp-envy-x360-2020/ Mon, 12 Oct 2020 12:11:32 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=33881

ด้วยรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายของ HP Envy x360 ทำให้ปัจจุบัน โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ ถือเป็นหนึ่งในรุ่นเด่นของ เอชพี ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงาน นักธุรกิจ จนถึงผู้บริหาร ที่ต้องการความคล่องตัว และประสิทธภาพในการใช้งาน

จุดเด่นของ HP Envy x360 คือการที่มากับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ตัวเครื่องสามารถหมุนหน้าจอเพื่อใช้งานแทนแท็บเล็ตได้ น้ำหนักเบา พกพาง่าย และที่สำคัญเมื่อจับคู่กับซีพียูจาก AMD Ryzen 7 ทำให้ได้โน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพสูง และใช้งานได้ยาวนานด้วย

ขณะเดียวกันในเรื่องของความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว HP ได้มีการนำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello และยังมีม่านชัตเตอร์ปิดกล้องเว็บแคม และฟีเจอร์ที่ลดการมองเห็นจากด้านข้าง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วย

ข้อดี

  • ตัวเครื่องเล็ก พกพาง่าย
  • ปรับโหมดใช้งานได้ทั้งเป็นโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต
  • ประสิทธิภาพสูงจาก AMD Ryzen 7

ข้อสังเกต

  • ไม่มีพอร์ต HDMI / LAN ต้องใช้งานร่วมกับอะเดปเตอร์แทน
  • ด้วยการที่ตัวเครื่องบาง ทำให้บริเวณจอยวบๆ เวลาจับถือตัวเครื่อง

ยกระดับคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ก

ตั้งแต่ HP Envy x360 ออกมาสู่ตลาดในระดับราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึง 3 หมื่นบาท จากการนำหน่วยประมวลผลของ AMD Ryzen มาใช้งาน ทำให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมโน้ตบุ๊ก ในช่วงระดับราคาใกล้เคียงกันให้โดดเด่นมากขึ้น

โดยปัจจุบัน ถ้าเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา อาจจะเริ่มต้นมองหาโน้ตบุ๊กในระดับราคาประมาณ 2 หมื่นบาท เพื่อให้รองรับการใช้งานระหว่างเรียน และในช่วงเริ่มต้นทำงาน ทำให้อาจจะได้เครื่องที่มีขนาดค่อนข้างหนา เน้นเรื่องประมวลผลเป็นหลัก

แต่จริงๆ แล้วช่วงระดับราคาที่เหมาะสมสำหรับการเลือกซื้อโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง ดีไซน์สวย นั้นจะขยับขึ้นมาอยู่ในช่วงราคา 3 หมื่นบาท ที่จะได้ทั้งโน้ตบุ๊กที่รองรับการทำงานในระยะยาว และมีดีไซน์ท่ีเหมาะสม พกพาง่าย เพิ่มเติมด้วยรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

อย่าง HP Envy x360 ที่ถูกออกแบบมาให้หมุนหน้าจอได้ 360 องศา หน้าจอสัมผัส ทำให้นอกจากใช้งานในลักษณะของโน้ตบุ๊กทั่วไปแล้ว ยังสามารถหมุนพับหน้าจอกลับมาเป็นแท็บเล็ต หรือกางหน้าจอเพื่อใช้พรีเซ็นต์งาน หรือไว้ใช้เพื่อความบันเทิงก็ได้ด้วย

ด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้ HP Envy x360 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในระดับราคานี้ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มนักธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องพกพาโน้ตบุ๊กติดตัวไปใช้งานได้ตลอดเวลา สอดคล้องกับการทำงานยุคใหม่ที่เกิดขึ้น คือพนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีวิดีโอคอลล์รองรับ

หรือในกรณีที่ต้องการแปลงโน้ตบุ๊กให้กลายเป็นแท็บเล็ตเพื่อจดบันทึก HP Envy x360 ก็มาพร้อมกับปากกา HP Rechargeable MPP 2.0 Tilt Pen ที่ให้ความแม่นยำในการสัมผัสถึง 4096 ระดับ มีปุ่มคำสั่งให้เลือกตั้งค่าเพิ่มเติมได้ และที่สำคัญคือสามารถชาร์จแบตเตอรีเพื่อใช้งานได้ต่อเนื่อง 30 วัน

เสริมฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัว

เมื่อรูปแบบการทำงานจากนอกสถานที่ กลายเป็นพฤติกรรมใหม่ของผู้ใช้ ทำให้ทาง HP มีการเสริมฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยปกป้องการใช้งานของผู้ใช้ที่น่าสนใจในเครื่องรุ่นีนี้ ตั้งแต่เรื่องการล็อกอินใช้งาน จนถึงการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

โดยในเครื่อง HP Envy x360 มีการนำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาใช้งานร่วมกับ Windows Hello ทำให้สามารถใช้การสแกนนิ้วเพื่อล็อกอินใช้งานเครื่องได้ทันที หรือจะเลือกใช้การปลดล็อกด้วยการตรวจจับใบหน้าก็ได้เช่นเดียวกัน

ถัดมาคือการเพิ่มปุ่มลัดสำหรับตัดการทำงานของไมโครโฟน และกล้องเว็บแคม โดยเมื่อปิดการทำงานแล้วจะมีไฟสถานะสีส้มขึ้นแจ้งไว้ ที่ตัวกล้องจะมีม่านชัตเตอร์มาบังไว้ทันที ทำให้ไม่ต้องกังวล หรือหาสติกเกอร์มาปิดกล้องอีกต่อไป

อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ HP Sure View ที่จะปรับการแสดงผลของหน้าจอให้มองเนื้่อหาบนหน้าจอจากด้านข้างได้ยากขึ้น เพื่อป้องกันผู้ที่นั่งอยู่ใกล้เคียงเห็นหน้าจอ ทำให้สามารถทำงานสำคัญๆ ในพื้นที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของ HP Sure View ก็คือเมื่อเปิดใช้งานความสว่างของหน้าจอจดลดลงเล็กน้อย ทำให้ถ้าใช้งานในที่แสงจ้า อาจจะต้องปรับมุมมองของหน้าจอให้เข้ากับใบหน้าตรงๆ ถึงจะเห็นหน้าจอชัดเจน 

นอกจากนี้ HP ยังได้มีการใส่ปุ่มลัด HP Command Center มาให้กดใช้งานเพื่อปรับโหมดการทำงานของตัวเครื่องด้วย อย่างการเร่งประสิทธิภาพสูงที่สุด เพิ่มการทำงานของพัดลมระบายอากาศเพื่อให้เครื่องเย็นที่สุด และปรับความแรงของพัดลมให้เครื่องเงียบที่สุดเป็นต้น

ความพิเศษของเครื่องรุ่นนี้คือมากับ Microsoft Office Home & Student ทำให้ผู้ซื้อเครื่องสามารถใช้งาน Microsoft Office ได้ฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย

สเปก

สำหรับ HP Envy x360 มากับหน่วยประมวลผล AMD Ryzen 7 4700U ที่เป็นซีพียู 8 คอร์ให้ความเร็ว 2 GHz และสามารถเร่งความเร็วขึ้นไปถึง 4.1 GHz RAM 8 GB SSD 512 GB ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home

ทดสอบประสิทธิภาพ

ในส่วนของการใช้งานด้วยการที่ HP Envy x360 ที่มีรูปแบบการใช้งานหลากหลายนั้น ถือว่า Ryzen 7 นั้นถือว่าเอาอยู่ โดยเฉพาะลักษณะการทำงานแบบออฟฟิศ ที่เน้นการใช้งานนอกสถานที่ ใช้จดบันทึก แก้ไขข้อมูลต่างๆ ได้

โดยจุดเด่นของ Ryzen 7 ช่วยให้การใช้งาน HP Envy X360 สามารถใช้งานได้ตลอดวัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานอย่างถ้าเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุดใช้งานจะใช้ได้ราว 6 ชั่วโมง ถ้าปรับความสว่างหน้าจอลงเหลือ 50% ก็จะใช้งานได้มากกว่า 10 ชั่วโมง

ส่วนผลการทดสอบจากทั้ง Geekbench PCMark 10 และ 3D Mark ได้จากภาพด้านล่าง

สรุป

ถ้าใครกำลังมองหาโน้ตบุ๊กสเปกดี รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ในระดับราคา 3 หมื่นบาท เชื่อว่า HP Envy x360 จะกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ในช่วงระดับราคานี้ทันที เพราะนอกจากประสิทธิภาพการใช้งานที่ครอบถ้วนรอบด้านแล้ว ยังมากับ Windows 10 และ Microsoft Office ให้ใช้งานกันด้วย

นอกจากนี้ ในกล่องยังมีอุปกรณ์อย่างอะเดปเตอร์แปลงพอร์ต USB-C เพื่อต่อกับจอ HDMI และพอร์ต USB Type-A มาให้ กับปากกา ทำให้ตัวเครื่องบางๆ นี้ ยังมีพอร์ตให้ใช้ครบครัน ในราคา 32,990 บาท

Gallery

]]>
Review : HP Pavilion x360 (2017) โน้ตบุ๊ก 360 องศา จอสัมผัส มีปากกา https://cyberbiz.mgronline.com/review-hp-x360/ Sun, 13 Aug 2017 09:58:57 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=26842

ห่างหายจากการรีวิวโน้ตบุ๊กในกลุ่ม Convertible ไปเสียนาน มาวันนี้ HP (เอชพี) นำ Pavilion x360 มาอัปเกรดสเปกปี 2017 พร้อมความสามารถใหม่กับการรองรับปากกา Digital Pen ที่รองรับ Windows Ink บน Windows 10 อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมหน้าจอพับเปลี่ยนมุมมองได้แบบ 360 องศา สามารถใช้เป็นโน้ตบุ๊กพิมพ์งานหรือพับจอเป็นแท็บเล็ตก็สามารถทำได้อย่างไร้รอยต่อ

การออกแบบ

ขึ้นชื่อว่าเป็นโน้ตบุ๊กประเภท “Convertible PC” เพราะฉะนั้นความสามารถหลักของ x360 จะอยู่ในเรื่องของหน้าจอสามารถพับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ถึง 4 รูปแบบหลักได้แก่ Stand, Tent, Laptop และ Tablet (ตามภาพประกอบด้านบน) พร้อมหน้าจอสัมผัสและรองรับ Digital Pen ขนาด 14 นิ้วแบบ IPS LED ความละเอียด 1,920×1,080 พิกเซล 

ด้านวัสดุรอบตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียมพร้อมบานพับจอภาพผลิตจากเหล็กสามารถป้องกันฝุ่นละอองและทนทานต่อการสึกหรอ ส่วนน้ำหนักจะอยู่ประมาณ 1.4 กิโลกรัม

อีกจุดที่น่าสนใจ x360 ปี 2017 ยังมาพร้อมกล้อง Web Cam พร้อมเลนส์มุมกว้าง 88 องศา รองรับการใช้งานในลักษณะประชุมเป็นหมู่คณะ อีกทั้งตัวกล้องยังมาพร้อมเซ็นเซอร์อินฟราเรดเพื่อใช้ร่วมกับ Windows Hello ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ด้านล่างตัวเครื่อง HP เพิ่มความแข็งแรงด้วยการเลือกใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว ส่วนภายในมาพร้อม HP 3D DriveGuard ซึ่งช่วยให้ระหว่างใช้งานถ้าเกิดอุบัติเหตุโน้ตบุ๊กตกกระแทกกับพื้น ระบบดังกล่าวจะสั่งให้ฮาร์ดดิสก์หยุดทำงานเพื่อป้องกันความเสียหาย

ในส่วนแป้นพิมพ์จะเป็นคีย์แบบ Full Size รุ่นขายบ้านเรามีสกรีนไทยพร้อมไฟส่องสว่างใต้คีย์สำหรับใช้งานในที่มืด ด้านล่างเป็น TrackPad ส่วนบนสุดเป็นลำโพงสเตอริโอจาก B&O (Bang & Olufsen) เสียดายไม่มีซัฟวูฟเฟอร์ติดตั้งมาให้

มาดูรอบตัวเครื่องกันบ้าง เริ่มจากด้านซ้ายมือ จะเป็นที่อยู่ของปุ่มเปิดปิดเครื่องพร้อมไฟแสดงสถานะการทำงาน ถัดมาเป็นช่องระบายความร้อน ช่องหูฟัง/Headset ขนาด 3.5 มิลลิเมตร ปุ่มปรับระดับเสียงและไฟแสดงการทำงานของฮาร์ดดิสก์

อีกด้านจะเป็นที่อยู่ของช่องอ่านการ์ด SD Card, USB-C (เพิ่มเข้ามาจากรุ่น 2016), USB, HDMI และช่องเชื่อมต่ออะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้านพร้อมไฟแสดงสถานะการชาร์จ (สีส้มกำลังชาร์จแบตเตอรี – สีขาวแบตเตอรีเต็ม)

มาถึงไฮไลท์เด็ดของ Pavilion x360 (2017) ก็คือปากกา “Digital Pen” ที่ออกแบบมารองรับแรงกดหลายระดับ เน้นการใช้งานทั้งเขียนข้อความและวาดภาพได้ พร้อมรองรับฟีเจอร์ Windows Ink ใน Windows 10 อย่างเต็มรูปแบบ โดยตัวปากกาถูกออกแบบการจับถือให้เหมือนปากกาจริงพร้อมปุ่มคำสั่ง 2 ปุ่ม (ค่ามาตรฐานกดค้างไว้จะเป็นยางลบ) สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้ผ่าน Settings ใน Windows 10

นอกจากนั้นตัวปากกายังจำเป็นต้องใส่ถ่านขนาด AAA จำนวน 1 ก้อนด้วย

สเปก

นอกจากตัวโน้ตบุ๊กจะให้วินโดวส์ 10 ลิขสิทธิ์แท้มาแล้ว ในส่วนซอฟต์แวร์ภายในที่โดดเด่นได้แก่ B&O PLAY ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ X360 สามารถปรับแต่งเสียงลำโพงได้ตามต้องการ นอกจากนั้นในส่วนไมโครโฟนยังรอบรับระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างด้วย

HP CoolSense เป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการควบคุมระบบระบายความร้อนของ HP เมื่อระบบตรวจจับได้ว่าโน้ตบุ๊กไม่ได้วางไว้บนโต๊ะ (อาจถือใช้งาน หรือวางบนตัก) ระบบจะปรับรอบพัดลมพร้อมควบคุมอุณหภูมิพื้นผิวทั้งส่วนบนและใต้โน้ตบุ๊กให้อยู่ในระดับพอดี ไม่ร้อนเกินไปแม้ระบบจะกำลังทำงานเต็มประสิทธิภาพอยู่ก็ตาม

HP Orbit! เป็นฟีเจอร์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถจับคู่สมาร์ทโฟน (iOS และ Android) กับโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์ของ HP เพื่อให้ผู้ใช้สามารถโยนไฟล์รูป เอกสารหรือจะสั่งให้กล้องบนสมาร์ทโฟนถ่ายภาพและส่งภาพจากสมาร์ทโฟนเข้ามาสู่คอมพิวเตอร์ของ HP ได้อย่างง่ายผ่านฟีเจอร์ดังกล่าว

รองรับ Windows Ink อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า X360 ปี 2017 จะมาพร้อมปากกา Digital Pen รองรับ Windows Ink เต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกดาวน์โหลดแอปฯวาดเขียนจาก Windows Store มาใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงการปรับรูปแบบและตั้งค่าปากกาสามารถทำผ่านระบบของ Windows 10 ได้ทันที

สุดท้ายเป็นดีลฟรีสำหรับลูกค้า HP กับบริการคลาวด์สตอเรจรับฝากไฟล์อย่าง Dropbox ที่ให้พื้นที่ฟรีถึง 25GB เป็นเวลา 1 ปี ใครเป็นลูกค้า HP อย่าลืมไปรับดีลนี้กันด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป

PCMark 10 = 2,212 คะแนน

Cinebench R15 / OpenGL = 59.86fps, CPU = 352cb

Geekbench 4 / Single-core = 4,000 คะแนน, Multi-core = 7,140 คะแนน

เริ่มจากการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานภาพรวมของตัวเครื่อง ไม่ได้มีความแตกต่างจากอัลตร้าบุ๊ก รุ่นอื่นนักเพราะสเปกซีพียูเหมือนกันหมดทั้งตลาด แต่ X360 ปี 2017 จะมีจุดแตกต่างในเรื่องของแรมที่ HP ใส่มาให้เพียง 4GB ซึ่งถ้าผู้ใช้เน้นพิมพ์งาน ท่องเว็บไซต์ต่างๆหรือจะใช้ตกแต่งรูปเล็กๆน้อยยังถือว่าสามารถใช้งานได้ลื่นไหลดี แต่ถ้าผู้ใช้เป็นคนชอบใช้งานโน้ตบุ๊กแบบหนักหน่วง เช่น ตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูงหรือตกแต่งภาพไฟล์ภาพขนาดใหญ่ X360 จะเริ่มแสดงอาการแรมไม่พอให้เห็นบ้าง (ที่ทีมงานพบเจอก็คือตัดวิดีโอ 4K ด้วย Adobe Premiere เปิดพรีวิวไฟล์แล้วเครื่องทำงานช้ามากเมื่อเทียบกับอัลตร้าบุ๊กสเปกเดียวกันแต่มีแรมให้ 8GB DDR4)

 

ส่วนปากกา Digital Pen ถือว่าตอบสนองดีใช้ได้ ตัวปากการองรับแรงกดหลายระดับ ความลื่นไหลถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับปากกา Digital Pen ที่ออกแบบมาเพื่อโน้ตบุ๊กประเภท Convertible หลายรุ่น แต่จะมีข้อสังเกตเล็กน้อยตรงที่ปากกาต้องใส่ถ่าน และไม่มีที่เก็บมาให้

ในส่วนแบตเตอรีใช้งานได้ต่อเนื่องได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานทั่วไปและตัวเครื่องมาพร้อมฟังก์ชันชาร์จไฟแบบเร็ว (ชาร์จ 90 นาทีได้ 90%) และจุดเด่นในเรื่อง HP CoolSense ยังถือเป็นจุดขายที่ดีของ HP เช่นเดิม

สุดท้ายในส่วนราคาเริ่มต้นที่ 22,990 บาท ถือเป็นโน้ตบุ๊กลูกผสมแท็บเล็ตที่โดดเด่นในเรื่องการใช้งานที่ทำได้หลากหลาย โดยเฉพาะหน้าจอแบบสัมผัสพับได้ 360 องศาและปากกา Digital Pen ทำงานได้แม่นยำ ถือว่าตอบโจทย์ได้ทั้งคนทำงาน (รองรับ e-sign สำหรับนักธุรกิจที่ต้องเซ็นเอกสารดิจิตอลบ่อยครั้ง) ไปถึงนักศึกษาก็สามารถใช้งาน Pavilion x360 ได้เช่นกัน

ข้อดี

– Convertible Notebook หน้าจอสัมผัส พับได้ 360 องศาเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ตได้
– ปากกา Digital Pen ใช้งานลื่นไหลดี
– มีระบบ HP CoolSense
– งานประกอบแข็งแรง

ข้อสังเกต

– แรมให้มาน้อย ปัจจุบันขั้นต่ำควรเริ่มที่ 8GB
– ลำโพง B&O ให้เสียงที่ใสเพียงอย่างเดียว (เสียงเบสแทบไม่ได้ยินเลย)
– ดีไซน์ยังคงติดความเป็นโน้ตบุ๊กแบบดั้งเดิมอยู่ ตัวเครื่องค่อนข้างหนา มีน้ำหนักและอะแดปเตอร์ชาร์จไฟมีขนาดใหญ่ไปเมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่ง

Gallery

]]>
Review : Hp ENVY 14 โน้ตบุ๊กสเปกสูง Core i7 Gen6 https://cyberbiz.mgronline.com/review-hp-envy-14-2016/ Sun, 17 Apr 2016 09:40:38 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=22133

IMG_2635

แม้ว่าตลาดโน้ตบุ๊กในช่วงที่ผ่านมาจะไม่ค่อยได้มีความเคลื่อนไหวมากนัก แต่เมื่อมีการออกซีพียูใหม่จากผู้ผลิตอย่างอินเทลที่นำ Intel Core i Gen 6 ออกมาสู่ตลาด ในฝั่งของผู้ผลิตก็จะมีการนำซีพียูในซีรีส์ดังกล่าว เข้ามาร่วมกับผลิตภัณฑ์ในไลน์เพื่อออกสู่ตลาด มาจับความต้องการของผู้บริโภค

สำหรับ HP ENVY Notebook 14-j109TX ที่นำมารีวิวในวันนี้ จะเป็นโน้ตบุ๊กที่เน้นจับกลุ่มพรีเมี่ยม ที่ต้องการประสิทธิภาพตัวเครื่องสูงเป็นหลัก ด้วยการใส่หน่วยประมวลผลอย่าง Core i7-6700 เข้ามาร่วมกับอัด RAM มา 12 GB เรียกได้ว่า ตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบ

การออกแบบ

IMG_2627

ด้วยการดีไซน์ของ ENVY 14 ในรุ่นปี 2016 ที่แทบไม่แตกต่างจากในรุ่น 2015 เนื่องจากเอชพี มองว่าเป็นดีไซน์ที่เหมาะสมแล้ว สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ดังกล่าว ซึ่งถ้าต้องการดีไซน์ที่แปลกใหม่ เอชพีก็จะมีในรุ่นที่กำลังจะวางจำหน่ายอย่าง HP Spectre ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ และมีความแตกต่างจากรุ่นเดิมๆอย่างชัดเจน

โดยตัวเครื่องจะเน้นไปที่สีเงิน เพื่อเพิ่มความหรูหรา ที่มีโลโก้ เอชพี ในรูปวงกลมอยู่ตรงกลาง แน่นอนว่าโลโก้ยังเป็นรูปแบบเก่าอยู่ ขนาดตัวเครื่องของ HP Envy 14 จะอยู่ที่ 34.49 x 24.61 x 2.26 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 1.99 กิโลกรัม

IMG_2603

เมื่อเปิดฝาพับขึ้นมาจะพบกับหน้าจอ IPS ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ที่เป็นพาแนลแบบ WLED-Backlit ทำให้หน้าจอสามารถใช้งานได้ในหลายๆมุม และให้สีสรรที่คมชัด โดยมีกล้องเว็บแคมความละเอียด 720p ติดมาให้ พร้อมไมค์ 2 จุดอยู่ข้างๆ ส่วนล่างหน้าจอมีสัญลักษณ์ เอชพี อยู่เช่นเดียวกับภายนอก

IMG_2609

ในส่วนของตัวเครื่องส่วนล่าง จะมีปุ่มเปิดเครื่องอยู่ที่มุมซ้ายบน ส่วนมุมขวาบนสกรีนระบบพลังเสียง Bang & Olufsen เพื่อยืนยันว่าเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบเสียงดังกล่าว ช่วยยืนยันถึงพลังเสียงที่จะได้จากเครื่องรุ่นนี้ จากลำโพงที่ขนาบข้างคีย์บอร์ดทั้ง 2 ฝั่ง ถัดจากคีย์บอร์ดเป็นทัชแพดที่มีกรอบสีเงินล้อมรอบ และระบบสแกนลายนิ้วมือเพื่อความปลอดภัย ส่วนมุมขวาล่างมีสัญลักษณื Envy และสติกเกอร์ อินเทล และเอ็นวีเดีย

IMG_2613IMG_2612

สำหรับคีย์บอร์ดของ HP Envy 14 จะเป็นคีย์บอร์ดแบบ 5 แถว เพียงแต่แถวบนสุดจะมีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของปุ่มปกติ ส่วนเลย์เอาท์คีย์บอร์ดจะมีการนำปุ่ม delete Home PageUp PageDown End มาไว้ที่แถบฝั่งขวา ทำให้เวลาใช้งานอาจจะมีการพลาดกดผิดไปจากแป้นคีย์บอร์ดปกติได้ นอกเหนือไปจากนี้ก็จะมีปุ่มตัวอักษรขึ้นลงที่เล็กกว่าปกติ ที่เหลือก็ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐาน เพิ่มด้วยไฟ Backlit ทำให้สามารถใช้งานตอนกลางคืนได้ด้วย

IMG_2597

ด้านหลังเครื่อง พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นช่องระบายความร้อน โดยมีการสกรีนรายละเอียด สัญลักษณ์มาตรฐานต่างๆอยู่ ส่วนของข้อต่อฝาพับจะเป็นอะลูมิเนียมที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับการใช้งาน นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นช่องน็อตต่างๆรอบฝาหลัง 10 จุด ภายในจะมีแบตเตอรี Lithium-ion ขนาด 3-cell 55.5WHr

IMG_2625IMG_2624

มาถึงในส่วนของพอร์ตการใช้งานทางฝั่งซ้าย จะมีตั้งแต่ช่องล็อกโน้ตบุ๊ก พอร์ต HDMI ขนาดปกติ พอร์ตยูเอสบี 3.0 2 พอร์ต ช่องเสียบหูฟัง และการ์ดรีดเดอร์ขนาดเอสดี ส่วนฝั่งขวาจะเป็นช่องเสียงสายชาร์จ ช่องเสียบสายแลน ที่จะมีฝาปิดอยู่ต้องง้างออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้งาน และพอร์ตยูเอสบี 3.0 อีก 1 พอร์ต โดยมีไฟแสดงการทำงานของเครื่องอยู่ข้างๆ

สเปก

w4

สำหรับสเปกภายในของ HP ENVY 14-j109TX จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel® Core i7-6700HQ ที่มีกราฟิกการ์ดภายในเป็น Intel HD Graphics 530 และยังเพิ่มด้วยกราฟิกการ์ดจาก NVIDIA GeForce GTX 950M RAM 12 GB (Onboard 4 GB + DIMM 8 GB) พื้นที่เก็บข้อมูลเป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 2 TB 5400 rpm ทำงานบนระบบปฏับัติการวินโดวส์ 10 64 บิต ด้านการเชื่อมต่อแบบไร้สายจะมาพร้อมกับไวเลส มาตรฐาน 802.11ac และบลูทูธ 4.0

ฟีเจอร์เด่น

IMG_2626

ในส่วนของฟีเจอร์การใช้งานที่น่าสนใจ เริ่มกันจากภายนอกก่อน ตัวเครื่อง ENVY 14 จะแตกต่างจากโน้ตบุ๊กรุ่นอื่นๆในท้องตลาดอยู่ส่วนหนึ่งคือ เมื่อมีการเปิดหน้าจอขึ้นมาแล้ว ตัวจอจะทำการยกตัวเครื่องขึ้นมาเพื่อให้คีย์บอร์ดรับกับมือเวลาใช้งาน และในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยระบายความร้อนได้สะดวกขึ้น ในกรณีที่วางใช้งานบนโต๊ะเรียบๆ

IMG_2606

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อถูกออกแบบมาให้เป็นแบบนี้ ทำให้องศาในการกางหน้าจอเพื่อใช้งานจะถูกจำกัดอยู่ที่ประมาณ 120 องศา ไม่สามารถแหงนหน้าจอมากไปกว่านี้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตรงข้อพับของตัวเครื่องออกแบบมาได้ค่อนข้างดี เพราะจอไม่มีการโยกเวลาใช้งานแต่อย่างใด

ถัดมาอีกส่วนก็คือลำโพงจาก B&O ที่ใส่ลำโพงมาให้ด้วยกัน 4 จุด คือบริเวณข้างคีย์บอร์ดทั้ง 2 ฝั่ง และหลังเครื่อง พร้อมกับซัพวูฟเฟอร์อีก 1 ตัว อยู่ด้านล่างเครื่อง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สินค้าในตระกูล ENVY พยายามใช้ทำตลาดตลอดช่วงที่ผ่านมา ซึ่งภายในก็จะมีซอฟต์แวร์ทำการควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเสียงอีกระดับหนึ่ง

w1

เมื่อเปิดใช้งาน ก็จะพบกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 Home 64 bit โดยจะมีการลงโปรแกรมทั่วๆไปที่ติดตั้งมาพร้อมกับวินโดวส์ไว้ และโปรแกรมช่วยเหลือจากทางเอชพีอีกนิดหน่อย เพื่อให้ตัวเครื่องพร้อมใช้งานในเบื้องต้นได้ทันที นอกจากนี้ยังมีสิทธิในการได้พื้นที Dropbox 25 GB เพิ่มเติมด้วยเมื่อลงทะเบียนใช้งาน

w2

สำหรับโปรแกรมจากเอชพีที่ลงไว้และน่าสนใจจะมีด้วยกัน 2 ส่วนคือ ในแง่ขงอระบบรักษาความปลอดภัย ที่มีการใส่ระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ ผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่า HP Simple Pass ร่วมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ เพื่อใช้ในการล็อกอินเข้าใช้งานตัวเครื่องได้ทันที

w3

อีกส่วนคือในแง่ของความช่วยเหลือ ที่ทางเอชพี จะมีโปรแกรมที่คอยช่วยอัปเดตไดร์ฟเวอร์ และโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวเครื่อง รวมถึงสามารถใช้ในการเช็กความปลอดภัย ระยะเวลารับประกันตัวเครื่อง (ปัจจุบันขยายระยะเวลารับประกันเป็น 2 ปีแบบออนไซด์เซอร์วิส) ตรวจสอบตัวเครื่อง เช็กพื้นที่เก็บ้ขอมูลต่างๆได้ทันที ถ้าต้องการความช่วยเหลือก็สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที

ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานแล้วว่าจะติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมเพื่อมาใช้งาน โดยทีมงานทดลองใช้งานทั่วๆไปอย่างการเล่นเกมที่ใช้สเปกแรงๆ ใช้ดูภาพยนตร์ความละเอียดสูง ตัดต่อวิดีโอสั้นๆ ตัวเครื่องสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด เพียงแต่ด้วยตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้พกพาลำบากเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นขนาดปกติของเครื่องหน้าจอ 14 นิ้วอยู่แล้ว

ทดสอบประสิทธิภาพ

w8

เมื่อทำการทดสอบด้วยโปรแกรมทดสอบ PC mark 8 Home accelerated ได้ 3,371 คะแนน Creative accelerated ได้ 3,862 คะแนน Work accelerated 4,194 คะแนน Storage ได้ 2,100 คะแนน เมื่อทดสอบเวลาใช้งานบนแบตเตอรีผ่าน PC Mark 8 แบบ Home Accelerated จะได้ระยะเวลาใช้งานอยู่ที่ 3 ชั่วโมง 2 นาที

w9

ส่วน 3D mark Fire Strike Ultra 720 คะแนน Fire Strike Extreme 1,426 คะแนน Fire Strike 2,783 คะแนน Sky Driver 10,244 คะแนน Cloud Gate 14,337 คะแนน Ice Storm Unlimited 109,337 คะแนน Ice Storm Extreme 62,201 คะแนน Ice Storm 64,729 คะแนน

w7

Geek bench 3 Pro แบบ 32 bit Single-Core ได้ 2,923 คะแนน Multi-Core ได้ 11,311 คะแนน ส่วน 64 bit Single-Core ได้ 3,094 คะแนน Multi-Core ได้ 11,875 คะแนน

w6

CineBench R15 OpenGL ได้ 47.29fps CPU 585cb

w5

Catzilla ได้ 7,536 คะแนน

สรุป

สินค้าในตระกูล ENVY ถือเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมียมที่เน้นประสิทธิภาพในการใช้งานอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อต้องการโน้ตบุ๊กที่มำงานได้ครบถ้วน และมีงบประมาณที่เพียงพอ ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะด้วยราคาเปิดตัวรุ่นนี้ที่ 42,990 บาท อาจจะสูงไปสักหน่อย ถ้าซื้อไปใช้งานทั่วๆไป

ดังนั้น กลุ่มลูกค้าที่จะเหมาะกับ HP ENVY 14 จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงมาใช้งาน เพราะจากหน่วยประมวลผลที่เป็น Intel Core i7 กับ RAM ที่อัดมา 12 GB ถ้านำมาใช้งานทั่วๆไปคงน่าเสียดาย แต่อีกจุดที่ถ้ามีงบประมาณเพิ่ม อาจจะลองเปลี่ยน HD เป็น SSD แทนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงขึ้น

ข้อดี

โน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ

มีพอร์ตการเชื่อมต่อให้ใช้งานครบทั้ง HDMI USB Card Reader LAN

จอ IPS 14 นิ้ว ความละเอียด FullHD คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit

ลำโพง B&0

ข้อสังเกต

ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่

ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี เมื่อใช้งานหนักๆจะอยู่ไม่ถึง 3 ชั่วโมง

ไม่มีช่อง DVD

Gallery

]]>
Review: HP Pavilion x360 โน้ตบุ๊กหมุนรอบทิศ เสียง B&O ราคาเบา https://cyberbiz.mgronline.com/review-hp-pavillion/ Wed, 30 Sep 2015 07:46:52 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=18217

558000011387303

เมื่อการผลักดันของอินเทล เริ่มทำให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กหันมาให้ความสำคัญกับเครื่องเป็นที่แนว 2in1 มากยิ่งขึ้น ก็ทำให้ผู้บริโภคเริ่มได้เห็นโน้ตบุ๊กในระดับราคาไม่เกิน 2 หมื่นบาท แต่มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน และการที่ตัวเครื่องหมุนได้ 360 องศามาเป็นของแถม

HP Pavilion x360 ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในกลุ่มตลาดโน้ตบุ๊กแบบ 2in1 ที่นำหน่วยประมวลผลประหยัดพลังงาน และความร้อนต่ำอย่าง Intel Core M มาขับเคลื่อนไปกับฟีเจอร์พิเศษอย่างการสัมผัสหน้าจอ การที่จอสามารถหมุนได้ 360 องศา และตัวเครื่องรองรับการใช้งานวินโดวส์ 10 อย่างเต็มรูปแบบ

การออกแบบและสเปก

558000011387303

ด้วยการที่ HP วาง x360 อยู่ในกลุ่มโน้ตบุ๊กสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานเป็นโน้ตบุ๊กเครื่องแรก เน้นการพกพาใช้งานสะดวก ทำให้ดีไซน์การออกแบบของ x360 เน้นไปที่การทำขอบมุมตัวเครื่องให้ดูบางลง แม้ว่าแท้จริงแล้วขนาดจะไม่แตกต่างจากโน้ตบุ๊กทั่วไปในตลาดเท่าไหร่

โดยขนาดรอบตัวของ x360 จะอยู่ที่ 306 x 208 x 22.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.362 กิโลกรัม

558000011387315

ด้านหน้าจะมีโลโก้ เอชพี สีเทา ตัดกับสีแดงของตัวเครื่อง เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาจะพบกับกล้องหน้าความละเอียด HD ลงมาเป็นหน้าจอ LED ขนาด 11.6 นิ้ว ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล โดยเป็นหน้าจอแบบ IPS ถัดลงมาเป็นชื่อแบรนด์ Hewlett Packard โดยจะมีข้อต่อแบบหมุนได้ 360 องศาอยู่ 2 ฝั่ง

558000011387328

ในส่วนของคีย์บอร์ดที่ให้มาถือว่าขนาดใกล้เคียงกับมาตรฐาน เพียงแต่ปุ่มแถบบนสุดจะมีขนาดเล็กกว่าปุ่มปกติประมาณครึ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับตัวอักษรขึ้นลง ถัดลงมาบริเวณที่วางข้อมือจะมีการสกรีนระบุรุ่น Pavilion และสติกเกอร์ระบุว่าใช้ลำโพงคู่ของ B&O (Bang & Olufsen) และหน่วยประมวลผลอินเทล การสั่งงานบริเวณทัชแพด รองรับการใช้งานแบบมัลติทัชด้วย

558000011387305

เมื่อคว่ำหลังเครื่องดูจะพบกับช่องลำโพงอยู่ทั้ง 2 ฝั่งเครื่อง โดยมีปุ่มยางที่ทำให้เครื่องสูงขึ้นมาเล็กน้อย โดยมีการสกรีนตัวอักษรระบุรายละเอียดต่างๆของเครื่องอยู่ที่บริเวณกลางบน ภายในมีแบตเตอรีขนาด 32Whr

558000011387319

ด้านซ้าย – จะมีปุ่มเปิดเครื่อง ช่องล็อกโน้ตบุ๊ก พอร์ตยูเอสบี 2.0 ช่องอ่านเอสดีการ์ด และปุ่มปรับระดับเสียง

558000011387323

ด้านขวา – จะมีทั้งช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ปุ่มวินโดวส์ พอร์ตยูเอสบี 3.0 2 พอร์ต ช่องต่อ HDMI ช่องเสียบสายแลน ไฟแสดงสถานะการชาร์จ และช่องเสียบสายชาร์จ

558000011387334558000011387330

สำหรับสเปกภายในของ HP Pavilion x360 Conv 11 รหัส k031TU จะทำงานบนหน่วยประมวลผล Intel Core M 5Y10C 800 MHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพ (Turbo Boots) ได้ถึง 2 GHz L3 Cache ขนาด 4 MB

กราฟิกออนบอร์ด Intel HD 5300 RAM 4 GB และฮาร์ดดิสก์ขนาด 1 TB ในแง่ของการเชื่อมต่อภายในตัวเครื่องรองรับบลูทูธ 4.0 และ WiFi 802.11 b/g/n ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 แต่รองรับการอัปเกรดเป็นวินโดวส์ 10

ฟีเจอร์เด่น

558000011387314

จุดเด่นที่น่าสนใจของ x360 คือการที่เปลี่ยนมาใช้หน่วยประมวลผล Intel Core M ทำให้ช่วยเพิ่มระยะเวลาต่อเนื่องในการใช้งาน กับเรื่องของความร้อนจากตัวเครื่องในกรณีที่ใช้งานบนตัก ทำให้ช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้

558000011387313

ขณะเดียวกัน ด้วยการที่ต่อยอดการพัฒนารูปแบบตัวเครื่องเป็นแบบ 2in1 ทำให้ตัวเครื่องรองรับการใช้งานแบบสัมผัสหน้าจอ กับการหมุนหน้าจอได้แบบ 360 องศา ทำให้สามารถวางใช้งานได้หลายรูปแบบตามแต่ความต้องการ

558000011387329

ที่สำคัญคือ การที่ตัวเครื่องให้พอร์ตใช้งานมาครบทั้งพอร์ตยูเอสบี 3 พอร์ต พอร์ต HDMI แลน ช่องอ่านการ์ดรีดเดอร์ แม้ว่าจะทำให้ตัวเครื่องมีขนาดหนาขึ้น แต่ก็แลกมากับการใช้งานที่ครบแทน

558000011387339

ในส่วนของระบบเสียงตัว x360 มากับลำโพงจาก B&O ทำให้เชื่อถึงพลังเสียงได้ว่า ดีกว่าเครื่องในระดับเดียวกันในท้องตลาดแน่นอน โดยทาง B&O ก็มีซอฟต์แวร์มาให้ติดตั้งเพื่อปรับระดับ และควบคุมเสียงให้ได้ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นด้วย

558000011387336

สุดท้ายก็คือฟีเจอร์อย่าง HP Coolsense ที่เข้ามาช่วยผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานเครื่องในสถานที่เงียบๆ ไม่ต้องการให้มีเสียงพัดลมทำงานหนักจนไปรบกวนเสียงอื่นๆ ก็จะมีระบบ CoolSense มาให้ใช้งานด้วย

558000011387338

ทั้งนี้ เครื่องที่ทีมงานได้มาทดสอบยังทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 โดยมีการพรีโหลดแอปพลิเคชันบางส่วนมาให้นอกเหนือไปจากแอปพื้นฐานที่ติดตั้งมากับวินโดวส์ ก็จะมีพวกระบบเกม WildTangent คอนเทนต์จาก TripAdviser ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ และ Intel WiDi

ทดสอบประสิทธิภาพ

558000011387337

เมื่อทำการทดสอบด้วยโปรแกรมทดสอบ PCmark8 Home Conventional ได้ 1,525 คะแนน Creative Conventional ได้ 2,143 คะแนน Work Conventional 2,470 คะแนน Storage ได้ 2,247 คะแนน

558000011387335558000011387331558000011387332

ส่วน 3Dmark Fire Strike 429 คะแนน Sky Driver 1,693 คะแนน Cloud Gate 3,641 คะแนน Ice Storm 37,235 คะแนน ส่วนทดสอบกราฟิกการ์ด CINEBENCH R15 OpenGL 20.83 fps ส่วน CPU 181 cb

558000011387333

ทดสอบจาก GeekBench ได้คะแนน Single-Core 2,215 คะแนน Multi-Core 4,582 คะแนน ขณะที่เวลาการใช้งานต่อเนื่องบนแบตเตอรีแบบเต็มประสิทธิภาพจะอยู่ที่ราว 3 ชั่วโมง 16 นาที ก่อนแบตเตอรีจะเข้าสู่โหมดสแตนบาย แต่ถ้าใช้งานทั่วๆไปจะอยู่ที่เกือบๆ 8 ชั่วโมง

สรุป

กับราคาค่าตัวที่ 19,990 บาท ทำให้ x360 ถือเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กเครื่องแรกมาใช้งาน เพียงแต่ด้วยประสิทธิภาพของตัวเครื่องอาจจะเหมาะกับการใช้งานทั่วๆไป อย่างเล่นเน็ต ดูหนัง ฟังเพลง พิมพ์งานเอกสาร แต่ไม่สามารถใช้งานหนักๆอย่างตัดต่อวิดีโอ หรือทำกราฟิกหนักๆได้แน่นอน

ดังนั้น กับราคาดังกล่าว แล้วได้โน้ตบุ๊กที่เป็น 2in1 หน้าจอสัมผัส มากับวินโดวส์แท้ พร้อมอัปเกรดเป็นวินโดวส์ 10 ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ค่อนข้างคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป

ข้อดี

– เครื่องโน้ตบุ๊ก 2in1 จอสัมผัส หมุนจอได้ ราคาไม่ถึง 20,000 บาท
– ตัวเครื่องมากับหน่วยประมวลผล Intel Core M / HDD 1TB / RAM 4GB
– ระบบเสียง B&O ที่เหนือกว่าเครื่องในระดับราคาเดียวกัน

ข้อสังเกต

– ประสิทธิภาพของ Core M ยังตอบโจทย์การใช้งานหนักๆไม่ได้ แต่ใช้งานทั่วๆไปสบาย
– ต้องนำมาอัปเป็นวินโดวส์ 10 ด้วยตนเอง
– เครื่องมีขนาดใหญ่ และหนัก เมื่อเทียบกับอัลตร้าบุ๊กรุ่นอื่นในตลาด

Gallery

]]>