Review : Dell XPS 13 (2018) โน้ตบุ๊กพกพาระดับพรีเมียมที่อัปเดตซีพียูให้แรงขึ้น

6960

โน้ตบุ๊กตระกูลบางเบาระดับพรีเมียมของเดลล์ (Dell) อย่าง XPS 13 ยังกลายเป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊กพกพาที่พัฒนาต่อเนื่องมาได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการทำการบ้านในเรื่องของจอภาพ แบตเตอรี ไปพร้อมกับการเพิ่ประสิทธิภาพในการใช้งานให้สูงขึ้น

แม้ว่า XPS 13 ในปีนี้ จะไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนจากรุ่นปีก่อนหน้ามากนัก แต่ถ้ามองเฉพาะในแง่ของการปรับมาใช้ซีพียูรุ่นใหม่จาก Intel ก็เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้เครื่องรุ่นนี้น่าสนใจมากขึ้น เพียงแต่สุดท้าย เรื่องของราคาจำหน่ายที่สูงเกือบ 8 หมื่นบาท ก็ทำให้ต้องคิดหนักพอสมควร

ก่อนหน้านี้ทีมงานเคยรีวิว Dell XPS 13 (2017) ไว้ โดยฟีเจอร์หลักๆ จะคล้ายคลึงกัน แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือเรื่องของดีไซน์​ และรูปแบบการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป

ข้อดี

เครื่องบางเบา ประสิทธิภาพสูง

จอภาพระดับ 4K รองรับการสัมผัสหน้าจอ

ข้อสังเกต

ราคาเริ่มต้นที่ 59,990 – 79,990 บาท ขึ้นอยู่กับสเปกเครื่อง

พอร์ตเชื่อมต่อเป็น Thunderbolt 3 / USB-C ทั้งหมด ถ้าจะใช้กับอุปกรณ์เสริมเดิมต้องใช้อะเดปเตอร์

โน้ตบุ๊ก 13 นิ้ว ในขนาดเครื่อง 11 นิ้ว

Dell XPS 13 ถือเป็นเครื่องในตระกูลบางเบาของเดลล์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนการออกแบบตัวเครื่องให้มีขนาดเล็กลง บางลง โดยในรุ่นล่าสุด สามารถทำความบางในจุดที่บางที่สุดได้ 7.8 มิลลิเมตร ส่วนหนาสุดก็จะอยู่ประมาณ 11.6 มม. เท่านั้น ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ราว 1.21 กิโลกรัม

ก่อนหน้านี้ XPS 13 ถือเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกๆในตลาดที่มากับขนาดหน้าจอ 13.3” ในขนาดตัวเครื่องเท่ากับโน้ตบุ๊กจอ 11 นิ้วก่อนหน้านี้ โดยใช้วิธีการลดขอบจอให้บางลงเหลือ 4 มม. ทำให้ได้ตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กลง แต่ยังให้จอแสดงผลใหญ่เหมือนเดิม

เดลล์เรียกการออกแบบหน้าจอใหม่นี้ว่าเป็น InfinityEdge Display และเลือกนำจอความละเอียด 4K Ultra HD (3840 x 2160 พิกเซล) มาใช้งาน ทำให้การแสดงผลคมชัด ให้ความสว่างถึง 400nit มุมมองในการแบบ IPS เรียกได้ว่าใส่เทคโนโลยีในการแสดงผลมาครบ

ถัดจากหน้าจอลงมา เดลล์ มีการใส่กล้องอินฟาเรตมาให้ใช้งานคู่กับกล้องเว็บแคมปกติด้วย ทำให้เวลาใช้งาน Windows Hello สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแสง และขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลด้วย

ขณะที่ในส่วนของคีย์บอร์ด เดลล์ ยังทำการบ้านมาได้เป็นอย่างดี ที่แม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กลง แต่ในการพิมพ์ใช้งานแบบสัมผัสได้แม่นยำ เช่นเดียวกับทัชแพดที่มีขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานได้ลื่นไหลดี

ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อบริเวณฝั่งซ้ายจะมีพอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) 2 พอร์ต ไว้ใช้ทั้งชาร์จไฟ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม และต่อกับจอภาพ ข้างๆ จะเป็นไฟแสดงสถานะแบตเตอรีไว้ให้เช็กเวลาชาร์จทิ้งไว้ว่าเต็มหรือยัง โดยไม่ต้องเปิดเครื่องขึ้นมาดู

ทางฝั่งขวาจะมีตั้งแต่ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. พอร์ต USB-C 3.1 ช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด ส่วนบริเวณปลายขอบๆ จะเป็นที่อยู่ของลำโพงทั้ง 2 ฝั่ง ขนาดของ XPS 13 จะอยู่ที่ 302 x 199 x 7.8-11.6 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.21 กิโลกรัม

สำหรับสเปกของ XPS 13 ที่นำมาทดสอบจะเป็นรุ่นที่มากับซีพียู 8th Gen Intel Core i7 8550U ที่เป็น 4 คอร์ ความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 4 GHz มากับ L3-Cache 8MB Intel UHD 620 RAM 16 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 256 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home 64bit

Gallery

ทดสอบประสิทธิภาพ

สำหรับผลการทดสอบประสิทธิภาพของ XPS 13 สามารถดูได้จากผลทดสอบด้านล่าง

สรุป

สำหรับในแง่ของการใช้งาน XPS 13 มาตอบโจทย์การใช้งานสำหรับนักธุรกิจและการใช้งานเพื่อความบันเทิงเป็นหลักโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กบางเบาพกพาง่ายที่เน้นในเรื่องของการแสดงผลที่คมชัดและไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของงบประมาณเนื่องจากในตลาดนี้เริ่มมีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น