ปีนี้แบรนด์หัวเว่ยรุกตลาดสมาร์ทดีไวซ์ (สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต) อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะในส่วนของนวัตกรรมที่หัวเว่ยทุ่มเทสร้างดีลร่วมพัฒนากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ยกตัวอย่างที่โด่งดังสุดในปีนี้ก็คือ การจับมือร่วมกับ “Leica (ไลก้า)” เพื่อพัฒนากล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน Huawei P9/P9 Plus เป็นครั้งแรกของโลก
จนมาถึงวันนี้ หัวเว่ยสร้างดีลครั้งใหม่ (Co-Engineered) ให้กับกลุ่มแท็บเล็ตรุ่นใหม่ “HUAWEI MediaPad M3” โดยจับมือกับ harman/kardon (ฮาร์แมน คาร์ดอน) ร่วมพัฒนาและออกแบบลำโพง เพื่อทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้สามารถใช้งานด้านความบันเทิงได้สมบูรณ์แบบที่สุด
การออกแบบ
MediaPad M3 เป็นแอนดรอยด์แท็บเล็ตหน้าจอขนาด 8.4 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 16:10 แบบ IPS ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 2K 2,560×1,600 พิกเซล พร้อมความหนาแน่นพิกเซล 359 พิกเซลต่อตารางนิ้ว
ด้านขนาดตัวเครื่อง ความสูงอยู่ที่ 215.5 มิลลิเมตร กว้าง 124.2 มิลลิเมตร หนา 7.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 310 กรัม มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล
มาดูปุ่มโฮมและส่วนสแกนลายนิ้วมือแบบสัมผัส (คล้ายกับปุ่มโฮมบนไอโฟน 7 เพียงแต่ไม่มีเซ็นเซอร์รับรู้แรงกด) โดยมาพร้อมความสามารถดังต่อไปนี้
– ระหว่างหน้าจอปิดอยู่ ผู้ใช้สามารถสัมผัสเพื่อสแกนนิ้วพร้อมปลดล็อกหน้าจอทันที
– เมื่ออยู่ในหน้าแอปฯ ถ้าสัมผัสปุ่มโฮมหนึ่งครั้งจะแทนคำสั่งย้อนกลับ (Back)
– สามารถกดปุ่มโฮมนี้ค้างไว้เพื่อไปหน้าโฮมสกรีนได้ทันที
– สามารถสไลด์นิ้วซ้ายหรือขวาที่ปุ่มโฮมเพื่อเรียกส่วน Recent Apps ได้
ในส่วนระบบสแกนลายนิ้วมือจะเหมือนกับสมาร์ทโฟนหัวเว่ยทุกรุ่น กล่าวคือจะใช้เทคนิคการสัมผัสลงไปตรงๆ ซึ่งตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าการรูดนิ้วเพื่อสแกนแบบเดิม
ด้านหลัง เป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ด้านบนเป็นส่วนของเสาสัญญาณโทรศัพท์และกล้องถ่ายภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ไม่มีไฟแฟลช LED ตรงกลางเป็นโลโก้หัวเว่ย ด้านล่างเป็นโลโก้ harman/kardon และส่วนของเสาสัญญาณโทรศัพท์เช่นเดียวกัน
พลิกมาดูด้านบนและล่างของตัวเครื่อง เริ่มจากด้านบนจะเป็นที่อยู่ของช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พร้อมลำโพงตัวที่ 1 ส่วนด้านล่างจะเป็นที่อยู่ของลำโพงตัวที่ 2 (ลำโพงสเตอริโอทั้ง 2 ตัวพัฒนาร่วมกับ harman/kardon บนเทคโนโลยี SWS 3.0) และพอร์ต MicroUSB 2.0
ถัดจากช่องลำโพง สำหรับโมเดลที่ขายในบ้านเราจะรองรับ 3G/4G LTE สามารถใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบ Nano SIM พร้อมใส่การ์ดความจำ MicroSD (สูงสุด 128GB) ได้จากช่องนี้
ด้านข้าง เริ่มจากขวามือจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเปิดปิดเครื่องและปุ่มเพิ่มลดเสียง ส่วนอีกด้านจะไม่มีปุ่มกดและพอร์ตเชื่อมต่อใดๆติดตั้งอยู่
สุดท้ายในส่วนของอุปกรณ์ที่แถมมาในแพกเกจ HUAWEI MediaPad M3 สำหรับรุ่นที่ขายในบ้านเราจะมีอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ สาย MicroUSB เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด คู่มือและฟิล์มกันรอยหน้าจอพร้อมผ้าเช็ดทำความสะอาดเท่านั้น ไม่มีการแถมหูฟัง AKG มาให้
สเปก
HUAWEI MediaPad M3 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล HUAWEI HiSilicon Kirin 950 Octa-core ความเร็ว 2.30GHz (4 แกน) และ 1.8GHz (4 แกน) แรม (RAM) ให้มา 4GB รอม (ROM) 32GB แต่เหลือใช้งานเก็บข้อมูลได้จริงประมาณ 25GB ส่วนระบบปฏิบัติการเป็นแอนดรอยด์ 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย EMUI 4.1 จากหัวเว่ย
สำหรับแบตเตอรี หัวเว่ยเลือกใช้ Lithium Polymer ความจุ 5,100 mAh
ด้านการรองรับเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อใช้งานดาต้าอินเตอร์เน็ต รองรับ 3G/4G LTE ทุกคลื่นความถี่ในบ้านเรา WiFi รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11 a/b/g/n/ac บนย่านความถี่ 2.4/5GHz พร้อม GPS รองรับทั้ง A-GPS, Glonass และ Beidou ส่วนบลูทูธรองรับเวอร์ชัน 4.1
สุดท้าย MediaPad M3 ยังมาพร้อมชิปประมวลผลเสียง AK4376 จาก Asahi Kasei Microdevices ซึ่งรองรับการถอดรหัสเสียง HiFi 192khz/24-bit ด้วย
ฟีเจอร์เด่น
เริ่มจากส่วนระบบปฏิบัติการที่ถูกครอบทับด้วย EMUI 4.1 ของหัวเว่ย โดยในรุ่นใหม่นี้ หน้าตายูสเซอร์อินเตอร์เฟสจะเรียบร้อยและมีแอปฯติดตั้งมาให้ใช้งานเท่าที่จำเป็น เช่น แอปฯบันทึกเสียง, WPS Office เป็นต้น ทำให้การใช้งานค่อนข้างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น
ในส่วนฟีเจอร์เด่นของ MediaPad M3 จะมาพร้อมฟีเจอร์ถนอมสายตา Eye comfort สำหรับผู้ใช้ที่ชอบอ่าน ebook epaper ในแท็บเล็ต ระบบจะปรับสีหน้าจอและควบคุมแสงสว่างเพื่อความสบายตา นอกจากนั้นสำหรับผู้ชอบความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลงผ่าน MediaPad M3 ยังสามารถเลือกปิดเปิดฟีเจอร์เสียง SWS Mode ได้จากหน้าตั้งค่าอีกด้วย
ในส่วนกล้องถ่ายภาพ ทางหัวเว่ยก็จัดเต็มฟีเจอร์กล้องไม่แพ้สมาร์ทโฟนของตน โดยซอฟต์แวร์กล้องถ่ายภาพใน MediaPad M3 จะมาพร้อมโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้หลากหลายตั้งแต่ โหมดอัตโนมัติ, Pro Mode ปรับตั้งค่ากล้องเอง ไปถึงโหมดถ่ายภาพกลางคืนที่หลายคนประทับใจมาแล้ว ก็มีให้เลือกใช้ครบทุกฟังก์ชัน
แต่ทั้งนี้เพราะ MediaPad M3 เป็นแท็บเล็ตที่หัวเว่ยไม่เน้นเรื่องกล้องถ่ายภาพมากนัก คุณภาพของไฟล์ภาพที่ได้จากกล้องหลังจึงถูกลดทอนลงไปอยู่ในเกณฑ์แค่พอใช้เท่านั้น แต่ในส่วนกล้องหน้ากลับให้คุณภาพที่ดีมาก ทั้งเรื่องความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล สกินโทนที่ดี รวมถึงความคมชัดที่อยู่ในระดับน่าประทับใจ
ทดสอบประสิทธิภาพ
PC Mark : Work Performance score = 5,614 คะแนน
3D Mark
Sling Shot using ES 3.1 = 701 คะแนน
Sling Shot using ES 3.0 = 1,272 คะแนน
AnTuTu Benchmark = 68,568 คะแนน
Vellamo
Chrome Browser = 5,616 คะแนน
Metal = 2,935 คะแนน
Multicore = 3,274 คะแนน
Quadrant Benchmark = 35,405 คะแนน
Geekbench 4
Single-Core Score = 1,700 คะแนน
Multi-Core Score = 4,620 คะแนน
มาถึงเรื่องการทดสอบประสิทธิภาพ MediaPad M3 ใช้ซีพียูตัวเดียวกับ Mate 8 เพราะฉะนั้นประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ของปีที่แล้ว ส่วนการทดสอบใช้งานจริงร่วม 1 อาทิตย์เต็มพบว่า ตัวเครื่องใช้งานลื่นไหลดีมาก อาการแรมหมดระหว่างใช้งานหนักหน่วงไม่มีให้เห็น การเล่นเกมสามารทำได้ไม่ต่างจากไฮเอนด์สมาร์ทโฟน
ส่วนเรื่องหน้าจอความละเอียด 2K ให้ความคมชัดที่ดี จออาจให้สีไม่สว่างสดใส แต่เรื่องความสบายตาเป็นธรรมชาติถือว่าสอบผ่าน
ด้านระบบเสียงและลำโพงจาก harman/kardon ซึ่งเป็นจุดขายหลักของ MediaPad M3 ทีมงานทดสอบพบว่า ด้านความดังของเสียงถือว่าดีมาก เสียงดังจริง เวลารับชมยูทูปหรือฟังเพลงจะเปิดเสียงเพียงครึ่งเดียวก็เพียงพอแล้ว ส่วนเรื่องการจัดตำแหน่งลำโพงซ้ายขวาถือว่าทำได้ดี เสียงจากลำโพงซ้ายและขวาแยกชัดเจน มีมิติและสามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้ เช่น ใช้งานในแนวตั้งเสียงจะเปลี่ยนเป็นโมโน ส่วนเมื่อเอียงเครื่องใช้งานแนวนอน เสียงจะเปลี่ยนเป็นสเตอริโอโดยอัตโนมัติ
ในส่วนคุณภาพเสียง ส่วนนี้ถือว่าให้คุณภาพพอใช้ ความคมชัดอยู่ในเกณฑ์ดีแต่เรื่องน้ำหนักเสียง โดยเฉพาะเสียงเบสให้แค่พอใช้ เนื่องจากโทนเสียงจะออกกลางๆแหลมๆมากกว่า
สุดท้ายเรื่องแบตเตอรี ทดสอบโดย Geekbench 3 สามารถทำเวลาใช้งานต่อเนื่องได้ 9 ชั่วโมง 22 นาที 30 วินาที หรือถ้าคิดเป็นเวลาใช้งานปกติทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 14-17 ชั่วโมง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน