การกลับมาทำตลาดสมาร์ทโฟนในไทยอีกครั้งของ โมโตโรล่า (Motorola) ในปีนี้ ไม่ใช่มาแค่สมาร์ทโฟนระดับกลางล่าง ในซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Moto G เท่านั้น แต่มีการนำนวัตกรรมจอพับอย่าง Razr 5G เข้ามาขายในไทยด้วย
ความโดดเด่นของ Motorola Razr 5G คือการนำดีไซน์สุดคลาสสิกของ Razr ในทรงฝาพับเครื่องบาง กลับมาทำตลาดอีกครั้ง กับสมาร์ทโฟนจอพับของโมโตโรล่า ที่ได้รับการอัปเกรดให้รองรับ 5G
เมื่อเทคโนโลยีจอพับ เริ่มกลายเป็นนวัตกรรมที่เข้าถึงได้ของสมาร์ทโฟน หลังจากที่เห็นหลายๆ แบรนด์เริ่มผลิตมือถือจอพับออกสู่ตลาด จึงไม่แปลกที่แบรนด์อย่าง Motorola ที่โดดเด่นในเรื่องสมาร์ทโฟนจอพับทรงคลาสสิกจะให้ความสนใจ
Motorola Razr เป็นสมาร์ทโฟนจอพับที่มากับจอแสดงผล 2 หน้าจอ ให้ใช้งานด่วนๆ ด้านนอก และใช้งานแบบเต็มที่เมื่อกางหน้าจอออกมา ทำให้ได้ขนาดจอ 6.2 นิ้ว ในตัวเครื่องเล็ก พกพาง่าย ในราคา 44,990 บาท
มือถือจอพับ ปลุกตำนาน RAZR
ถ้ามองไปในยุคของโทรศัพท์มือถือจอพับสมัยก่อน เชื่อว่า Motorola Razr ได้กลายเป็นโทรศัพท์เครื่องโปรดของใครหลายๆ คนที่อาจจะเคยใช้งาน หรือได้สัมผัสถึงความบางของมือถือในยุคนั้น
จนทำให้ Razr กลายเป็นหนึ่งในตำนานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Motorola และมีการนำซีรีส์นี้กลับมาผลิตใหม่ในยุคสมาร์ทโฟนหลายๆ ครั้ง เพียงแต่ที่ผ่านมานวัตกรรมจอพับยังไม่เกิดขึ้น ทำให้เน้นจุดเด่นเรื่องความบางของตัวเครื่องเป็นหลัก
ในวันที่มือถือจอพับกลับมาเป็นเทคโนโลยีใหม่ในตลาดอีกครั้ง Motorola จึงไม่รอช้าที่จะนำซีรีส์ Razr กลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง ในการเป็นสมาร์ทโฟนจอพับ ที่จะเรียกความเชื่อมั่นแบรนด์กลับมา
ดีไซน์ของ Motorola Razr 5G นั้น ถือว่าพยามนำจุดเด่นของ Razr กลับมา ในการเป็นมือถือจอพับแบบฝาหอย แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างทำให้ตัวเครื่องเวลาพับหน้าจอนั้น ยังค่อนข้างหนาอยู่
ขนาดของตัวเครื่องเวลาพับจะอยู่ที่ 91.7 x 72.6 x 16 มิลลิเมตร ด้านหน้าจะมีจอแสดงผลขนาด 2.7 นิ้ว (800 x 600 พิกเซ,)ให้ใช้สั่งงานแบบง่ายๆ ในกรณีที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลในสมาร์ทโฟนแบบด่วนๆ
ด้านล่างหน้าจอจะเป็นกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ซึ่งการที่มี 2 จอทำให้สามารถใช้กล้องนี้ในการถ่ายภาพเซลฟี่ได้เช่นเดียวกัน
เมื่อกางหน้าจอขึ้นมาตัวเครื่องจะอยู่ที่ 169.2 x 72.6 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนักจะอยู่ที่ 192 กรัม ถ้าดูที่ความหนาของตัวเครื่องเมื่อพับหน้าจอจะอยู่ที่ 16 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนาเมื่อเทียบกับขนาดของสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่เมื่อกางหน้าจอออกมาเหลือ 7.9 มิลลิเมตร ก็นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่บางมากๆ รุ่นหนึ่ง
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลด้านในจะมีขนาด 6.2 นิ้ว (2142 x 876 พิกเซล) ในสัดส่วน 21:9 ซึ่งจะเห็นว่าจอค่อนข้างยาว เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปในท้องตลาด โดยจอจะมีแถบกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล อยู่ด้วย
สำหรับปุ่มควบคุมรอบตัวเครื่องทางซ้าย จะมีปุ่มเปิดเครื่องอยู่ที่ขอบจอส่วนบน และปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ทางฝั่งขวา ทำให้เวลากางหน้าจอใช้งาน จะรู้สึกว่าตำแหน่งของปุ่มอยู่สูงไปสักหน่อย
ด้านหลังเครื่อง จะมีสัญลักษณ์ของ Motorola อยู่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย ซึ่งเวลาถือจะปลดล็อกใช้งานต้องขยับจุดในการจับตัวเครื่องเล็กน้อย ถึงจะสามารถสแกนลายนิ้วมือได้อย่างง่ายๆ
ส่วนข้อต่อจอพับของ Motorola Razr 5G นั้นถูกออกแบบมาได้เป็นอย่างดี และถือว่าทำมาได้แข็งแรงมากๆ เพราะด้วยลักษณะการใช้งานของมือถือฝาพับ ในกรณีที่สะดวกเปิดใช้งานมือเดียว เรายังสามารถใช้นิ้วแทรกเข้าไป และเหวี่ยงหน้าจอให้เปิดได้เหมือนเดิม
ด้านล่างของเครื่องจะมีพอร์ต USB-C ถาดใส่ซิมการ์ดแบบนาโนซิม ไมโครโฟน และลำโพงอยู่ ซึ่งทำให้บริเวณนี้หนาขึ้นมาเล็กน้อย ส่งผลให้เวลาสัมผัสขอบล่างของหน้าจอจะชอบโดนตรงจุดนี้เป็นประจำ
แบตเตอรีของ Motorola Razr 5G มีขนาด 2800 mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบ TurboPower 15W โดยเท่าที่ใช้งานมา แม้ว่าจะเชื่อมต่อ 5G ตลอดเวลา ก็สามารถใช้งานได้ตลอดวันสบายๆ
สเปก
ในส่วนของสเปกตัวเครื่อง Motorola Razr 5G มากับซีพียู Qualcomm Snapdragon 765G กราฟิก Aderno 620 RAM 8 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 256 GB (ไม่สามารถใส่ MicroSD การ์ดเพิ่มเติมได้)
รองรับการเชื่อมต่อทั้ง 4G 5G Wi-Fi 5 บลูทูธ 5.1 NFC GPS เรียกว่าใส่มาให้ครบถ้วนทั้งหมด ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่รองรับการอัปเกรดเป็น Android 11 ในอนาคต
การใช้งาน RAZR 5G
ด้วยการที่ตัวเครื่อง Razr 5G มีหน้าจอแสดงผลภายนอก ที่เรียกว่า Quick View มาให้ใช้งานด้วย ในหน้าจอนี้ เราสามารถเข้าถึงการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ทันทีที่เราปลดล็อกเครื่อง
ดังนั้นถ้ามีข้อความแจ้งเตือนเข้ามา ก็สามารถใช้นิ้วปลดล็อกที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง เพื่อดูข้อความได้ทันที หรือแม้แต่เข้าใช้งานแอปโซเชียลมีเดียต่างๆ
โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกตั้งแอปฯ ด่วนที่ใช้งานประจำไว้เรียกใช้งานได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เข้าโหมดกล้องเพื่อถ่ายภาพจากกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซลได้ทันที
ความน่าสนใจก็คือเวลาที่ใช้งานแอปฯ ในหน้าจอเล็กอยู่แล้วเปิดฝาขึ้นมา ถ้าเป็นแอปที่รองรับการใช้งานแบบต่อเนื่อง อย่างแอปของ Google อย่าง Maps หรือ YouTube ก็สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้ต่อทันที
เมื่อเปิดฝาพับขึ้นมา ก็จะพบกับหน้าจออินเตอร์เฟสแบบ My UX ที่มาพร้อม Android 10 แบบโล่งๆ ไม่ได้มีการปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมมากนัก ทำให้การใช้งานโดยรวมค่อนข้างลื่นไหล
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพที่ให้มาทั้งกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล และกล้องเซลฟี่ 20 ล้านพิกเซล ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานอยู่แล้ว
ตัวเครื่อง Razr 5G ยังมีฟีเจอร์การควบคุมต่างๆ (Moto Actions) ที่น่าสนใจ อย่างการถ่ายภาพด่วน สามารถทำได้ด้วยการสบัดข้อมือ 2 ครั้ง เปิดไฟฉายด้วยการเขย่ายเครื่อง 2 ครั้ง หรือการใช้สามนิ้วแตะที่หน้าจอค้าง เพื่อจับภาพหน้าจอ มาให้เพิ่มเติมด้วย
สำหรับการใช้งานทั่วไป Razr 5G ถือว่ารองรับทุกรูปแบบการใช้งานอยู่แล้ว แต่ด้วยตัวเครื่องที่มาเป็นลักษณะของฝาพับ อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานเล่นเกมมากสักเท่าไหร่ เนื่องจากเวลาใช้งานตัวเครื่องในแนวนอน บริเวณขอบเครื่องด้านล่างจะทำให้การสัมผัสหน้าจอแถวๆ นั้นยากขั้น
ประกอบกับตัวจอแสดงผลที่เป็นแบบจอพับ ยังไม่ได้เรียบเนียนเหมือนจอแสดงผลแบบปกติ ทำให้เวลาลูบผ่านจะรู้สึกว่าจอบริเวณแกนฝาพับนั้นยุบลงไปเล็กน้อย
อีกอย่างคือจอพับของ Razr 5G นั้น ยังไม่สามารถใช้งานในลักษณะของการงอหน้าจอเหมือนใน Galaxy Z Flip ทำให้ลักษณะการใช้งานจะอยู่ในรูปแบบของการกางจอจนสุดเท่านั้น
สรุป
Motorola Razr 5G ได้เรียกกลิ่นอายของ Razr กลับมาได้อย่างน่าสนใจ ผู้ที่ชื่นชอบโทรศัพท์แบบฝาพับน่าจะชื่นชอบรุ่นนี้ได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือการที่ตัวเครื่องรองรับ 5G ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวๆ
เช่นเดียวกับงานประกอบ และวัสดุของตัวเครื่อง ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม แกนของฝาพับทำได้แข็งแรง รองรับการพับจอ และกางจอได้เป็นอย่างดี
แต่ด้วยลักษณะของการใช้งานจะเน้นที่การใช้เป็นโทรศัพท์ และใช้งานทั่วๆ ไปมากกว่า ไม่ได้เด่นในแง่ของกล้องถ่ายภาพ หรือการเล่นเกม เพราะให้กล้องมาระยะเดียว และซีพียูที่เลือกใช้ก็ไม่ใช่รุ่นท็อปสุด
Motorola Razr 5G วางจำหน่ายแล้วในราคา 44,990 บาท มีให้เลือกสีเดียวคือ สีเทาเข้ม Polished Graphite