ตลาดหูฟังบลูทูธเริ่มกลับมาคึกคักอีกรอบในกลุ่มผู้ใช้ระดับบน ที่ต้องการเครื่องมือมาช่วยให้ใช้งานสมาร์ทโฟนได้สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งในแง่ของการติดต่อสื่อสารผ่านทั้งพีซี และสมาร์ทโฟน รวมถึงการใช้งานเพื่อความบันเทิงกับคุณภาพเสียงที่ได้
โดยจะเห็นได้จากการที่แบรนด์หูฟังทั้งหลายพยายามปรับตัวเน้นกลุ่มลูกค้าเฉพาะมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการออกกำลังกาย และที่ขาดไม่ได้เลยคือกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการหูฟังบลูทูธแบบตัดเสียงได้
Plantronics Backbeat Pro 2 ถือเป็นหูฟังบลูทูธแบบครอบหูที่มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน (Noise Canceling) และในขณะเดียวกันก็ใช้ประโยชน์ของการเป็นผู้นำในด้านของการเป็นผู้นำในกลุ่มหูฟังบลูทูธนำไมโครโฟนมาใช้ในการรับเสียงรอบข้าง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องปลดหูฟังออกเมื่อต้องการฟังเสียงรอบข้าง
การออกแบบ
ด้วยการที่แต่เดิมสินค้าของแพลนโทรนิคส์จะเน้นจับกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นนักธุรกิจเป็นหลัก ทำให้สไตล์ในการออกแบบจะเน้นไปที่ความเรียบหรู ด้วยสีดำ ตัดกับลายไม้ และสีน้ำตาล ที่ให้ความเคร่งขรึมไปในตัว โดยน้ำหนักของหูฟังจะอยู่ที่ราว 289 กรัม
บริเวณที่ครอบหูด้านในทั้ง 2 ข้าง จะมีการออกแบบให้เข้ากับสรีระของใบหูที่เป็นรูปทรงไข่ พัฒนาขึ้นจากในรุ่น BackBeat Pro ที่เป็นทรงกลม ภายในจะมีการระบุชัดเจนในการใส่ใช้งานว่าเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา เพื่อให้ครอบหูได้พอดี
ส่วนบริเวณฟองน้ำจะมีการหุ้มหนังซึ่งในส่วนนี้เมื่อใช้ไปนานๆ ถ้ามีการลอกตามอายุการใช้งาน ก็สามารถนำหูฟังไปเปลี่ยนฟองน้ำได้ เพราะทางแพลนโทรนิคส์จะมีการเก็บอะไหล่ในส่วนนี้ไว้ให้ผู้ใช้งาน ประกอบกับการที่หูฟังมีระยะเวลารับประกัน 2 ปี (เมื่อซื้อราคาเต็ม) ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้งานได้ระดับหนึ่ง
มาดูบริเวณปุ่มควบคุมรอบๆหูฟัง ฝั่งขวาจะมีการสกรีนโลโก้ PLT ในจุดที่เป็นลายไม้ ใช้กดสั่งงานได้ บริเวณรอบๆก็จะมีปุ่มสั่งงานอย่างการเปิด–ปิดหูฟัง ที่เมื่อดันปุ่มค้างไว้จะเข้าสู่โหมดเชื่อมต่อบลูทูธ (สังเกตไฟกระพริบสีน้ำเงินแดง) และปุ่มปิดไมค์ ไว้ใช้เมื่อมีการสนทนาแบบกลุ่มเป็นต้น
ถัดลงมาจากปุ่มควบคุมต่างๆก็จะเป็นพอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเสียบชาร์จ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ (ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม) เพื่อใช้ในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของหูได้ และปรับตั้งค่าบางอย่างได้ และพอร์ต 3.5 มม. ไว้ให้ใช้งานงานกรณีที่หูฟังแบตหมดก็สามารถต่อสายใช้งานได้
ส่วนทางฝั่งซ้ายจะเป็นแผงควบคุมไว้ใช้สั่งเล่น/หยุด รวมถึงเปลี่ยนเพลงได้ ถัดลงมาข้างๆก็จะมีปุ่มสำหรับเลือกโหมดตัดเสียงรบกวนให้ปรับใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าต่างๆผ่านแอปพลิเคชัน
บริเวณข้อต่อจะถูกออกแบบมาให้หมุนได้ราว 90 องศา เพื่อใช้ในกรณีที่เก็บหูฟังลงในซองที่แถมมาให้ หรือการวางลงบนพื้นราบ ถัดขึ้นไปจะเป็นบริเวณที่คาดบนศรีษะจะใช้เป็นผ้าบุฟองน้ำที่ช่วยระบายอากาศได้สีน้ำตาล
สำหรับอุปกรณ์ที่แถมมาให้ในกล่องจะประกอบไปด้วยหูฟัง Backbeat Pro 2 สายชาร์จไมโครยูเอสบี สายต่อแบบ 3.5 มม. คู่มือการใช้งาน และซองผ้าสำหรับเก็บหูฟัง (ถ้าเป็นรุ่น Pro 2 SE จะมากับกล่องใส่หูฟังแบบแข็งแทน + เชื่อมต่อ NFC ในราคา 9,890 บาท)
ฟีเจอร์เด่น
จุดเด่นหลักๆของ Plantronics Backbeat Pro 2 จะมีด้วยกัน 5 ส่วนหลักๆคือ เรื่องของการใช้งานเป็นหูฟังบลูทูธแบบครอบหูที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีจากไดรฟเวอร์ลำโพงขนาด 40 มม. ที่ให้เสียงค่อนข้างกว้าง และครอบคลุมในทุกช่วงเสียง ไม่ได้เน้นไปที่เบสแน่นๆ หรือเสียงใสๆ แต่จะอยู่ในช่วงกลางๆ
ประกอบกับการที่มีเทคโนโลยีทางด้านไมโครโฟนของแพลนโทรนิคส์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบสื่อสาร ด้วยการใส่ไมโครโฟนคู่มาให้ใช้งาน ดังนั้นจึงสามารถใช้ Backbeat Pro 2 ทั้งเพื่อความบันเทิง และใช้ในแง่ของการพูดคุยติดต่อสื่อสารได้ทันที
ถัดมาคือการที่ Backbeat Pro 2 มีการนำเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่มาใช้งาน ทำให้เมื่อผู้ใช้ทำการเชื่อมต่อกับพีซีหรือสมาร์ทโฟน ขณะที่ฟังเพลง หรือดูหนังอยู่ ถ้ามีการถอดหูฟังออกเมื่อไหร่ เซ็นเซอร์ดังกล่าวจะทำงานด้วยการหยุดเล่นเพลง/หนัง และเล่นต่อเนื่องเมื่อมีการสวมหูฟังเข้าไป
เช่นเดียวกับกรณีที่โทรศัพท์มีสายเรียกเข้า หรือมีการโทรผ่านแอปพลิเคชันต่างๆทั้งบนสมาร์ทโฟน และพีซี เมื่อหูฟังทำการเชื่อมต่ออยู่ ผู้ใช้หยิบมาสวมไว้ที่ศรีษะ ก็จะทำการรับสายดังกล่าวจากหูฟังได้ทันที ช่วยอำนวยความสะดวกให้ไม่ต้องควานหาสมาร์ทโฟนกรณีที่มีสายด่วนเข้ามา
อีกจุดที่นำประโยชน์ของบลูทูธ 4.0 แบบใหม่ ที่มาพร้อมการส่งต่อข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถรับ–ส่ง เสียงคุณภาพสูงผ่านบลูทูธได้โดยไม่ถูกตัดทอนคุณภาพ ขณะเดียวกันจากเดิมระยะใช้งานบลูทูธที่อยู่ราว 10 เมตร ก็ถูกปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้ไกลสุดถึง 100 เมตร (ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม)
แน่นอนว่าเมื่อเป็นหูฟังไร้สายก็จะมากับข้อจำกัดในแง่ของระยะเวลาการใช้งาน แต่สิ่งที่ทำให้ Backbeat Pro 2 น่าสนใจก็คือระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องที่สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้ราว 24 ชั่วโมง จากระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 3 ชั่วโมง
สุดท้ายคือเรื่องของ ระบบตัดเสียง ที่ถือเป็นจุดขายของรุ่นนี้ โดยผู้ใช้สามารถปรับระดับการใช้งานหูฟังได้ออกเป็น 3 โหมด คือ เปิดใช้โหมดตัดเสียง ปิดโหมดตัดเสียง และเปิดโหมดรับเสียงจากรอบข้าง ส่งผลให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังออกเวลามีประกาศ หรือฟังเพื่อนๆสนทนาด้วย
สรุป
ถ้ามองไปในตลาดหูฟังบลูทูธแบบครอบหูที่มีโหมดตัดเสียงรบกวนดีๆ ส่วนใหญ่ระดับราคาจะอยู่ในช่วงเกิน 1 หมื่นบาทขึ้นไป แต่ Backbeat Pro 2 วางจำหน่ายอยู่ที่ 7,890 บาท ดังนั้นจึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังบลูทูธแบบครอบหูที่ค่อนข้างครบเครื่อง
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ราคาไม่สูงมาก กับเน้นไปที่การสนทนา และตัดเสียงรบกวนเป็นหลัก คุณภาพเสียงของหูฟังที่ได้จึงอยู่ในระดับกลางๆ ดังนั้นถ้าต้องการประหยัดงบ Backbeat Pro 2 ก็เป็นรุ่นตอบโจทย์ แต่ถ้างบเหลือก็สามารถอัปขึ้นไปดูพวก Bose Beat Sennheiser หรือ Sony ได้เช่นเดียวกัน