ตระกูล RX100 จากโซนี่ถือเป็นการเปลี่ยนโลกกล้องพรีเมียมคอมแพกต์มาตั้งแต่รุ่นแรกจนมาถึงรุ่นปัจจุบัน (Mark IV) โดยจุดเด่นของกล้องตระกูลนี้คือเป็นกล้องคอมแพกต์ขนาดเล็ก (Cyber-shot) แต่ทรงประสิทธิภาพทั้งเรื่องเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่และฟังก์ชันใช้งานครบครันตั้งแต่งานภาพนิ่งไปถึงวิดีโอ 4K ด้วยไฟล์คุณภาพสูงไม่ต่างจากกล้องโปร
มาถึงวันนี้โซนี่ก็พร้อมจะเปิดตัว RX100 Mark V (5) ต่อเนื่องจากรุ่น Mark IV ด้วยการปรับปรุงระบบออโต้โฟกัสและกลไกภายในจนได้ชื่อว่าเป็นกล้องคอมแพกต์ที่ถ่ายภาพได้เร็วสุดในโลก เอาใจทั้งขาสแนปและผู้กำลังมองหากล้องเล็กเพื่อใช้งานระดับโปร
การออกแบบและสเปก
Sony RX100 V เป็นกล้องคอมแพกต์ขนาดจิ๋ว โดยตัวกล้องมีขนาดแค่ฝ่ามือ น้ำหนักประมาณ 299 กรัม (ขนาดอ้วนกว่า RX100 IV เล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้เช่นเดิม) วัสดุภายนอกเป็นอะลูมิเนียมทั้งหมด แต่สเปกภายในเรียกได้ว่าจัดเต็มมากตั้งแต่เซ็นเซอร์รับภาพ Exmor RS CMOS ขนาด 1 นิ้ว หน่วยประมวลผลภาพ BIONZ X มี DRAM แปะด้านหลังเซ็นเซอร์เพื่อช่วยให้การส่งข้อมูลทำได้รวดเร็วขึ้น (โซนี่ขยาย DRAM ให้ใหญ่กว่า RX100 IV) ไปถึงความละเอียดภาพ 20.1 ล้านพิกเซล
ในส่วนความไวแสงรองรับ ISO 125-12,800 มี Multi-Frame NR ให้เลือกใช้ พร้อมระบบปรับ Dynamic Range อัตโนมัติ
ด้านเลนส์ใช้ ZEISS Vario-Sonnar T* ชิ้นเลนส์ 10 ชิ้น เป็นซูมเลนส์ 2.9 เท่า ระยะเทียบกล้องฟูลเฟรมคือ 24-70 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงกว้างสุด f1.8 ที่ระยะกว้างสุด ส่วนเมื่อซูมรูรับแสงกว้างสุดจะอยู่ที่ f2.8 (รูรับแสงแคบสุด f11) มาพร้อมฟิลเตอร์ลดแสง 3 สตอป และรองรับระบบ Clear Image Zoom 5.8 เท่า
ด้านหลังกล้องมาพร้อมหน้าจอไลฟ์วิวขนาด 3 นิ้วความละเอียด 1,228,800 จุด หน้าจอสามารถพับขึ้นได้ 180 องศา รองรับการเซลฟี ส่วนพับลงได้มากสุด 45 องศา
ด้านปุ่มคำสั่งต่างๆไม่แตกต่างจาก RX100 IV โดยบางปุ่มคำสั่งจะใช้สั่งงานได้สองคำสั่งพร้อมกัน ผู้ใช้งานครั้งแรกอาจเกิดความสับสนได้ต้องทำความเข้าใจก่อนใช้งาน
นอกจากหน้าจอไลฟ์วิวแล้ว โซนี่ยังให้ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์แบบ OLED มาด้วย (EVF) โดยช่องมองภาพมีความละเอียด 2,359,296 จุด มาพร้อมสวิตซ์ปรับไดออปเตอร์ตั้งแต่ -4.0 ถึง +3.0m-1
ด้านบนกล้องเหมือน RX100 IV ทุกสัดส่วนตั้งแต่ตำแหน่งไฟแฟลช ไมโครโฟนรับเสียงสเตอริโอ ไม่มี Hot Shoe ไปถึงปุ่มเปิดปิดและโหมดถ่ายภาพที่ไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า
สามารถติดตามอ่านรีวิว Sony RX100 IV ได้โดย >กดที่นี่<
ในส่วนวงแหวนบริเวณเลนส์กล้องสามารถหมุนแทนคำสั่งปรับรูรับแสง ชัตเตอร์สปีดหรือใช้แทนสวิตซ์ซูมภาพได้เมื่ออยู่ในโหมดถ่ายภาพแต่ละแบบ
ด้านไฟแฟลชหัวกล้องยังคงเอกลักษณ์เดิมคือเป็นก้านยกขึ้น ทำให้สามารถยิงแฟลชแนวตรงหรือใช้นิ้วดันให้ยิงสะท้อนกับเพดานได้
มาดูสันเครื่องเริ่มจากขวาจะเป็นช่อง Multi (MicroUSB) สำหรับเชื่อมต่อสาย USB ชาร์จไฟ (รองรับการชาร์จกับพอร์ต USB 5V เช่น Power Bank) และเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ถัดลงมาเป็น HDMI และสัญลักษณ์แสดงการรองรับ WiFi
อีกด้านจะเป็นที่อยู่ของสวิตซ์เปิดช่องมองภาพ Finder ถัดลงมาเป็นช่องใส่สายคล้องข้อมือและสัญลักษณ์บอกตำแหน่งเซ็นเซอร์ NFC เพื่อใช้แตะเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์
ด้านล่าง ตรงกลางเป็นช่องเชื่อมต่อกับขาตั้งกล้อง ซ้ายเป็นช่องใส่แบตเตอรี NP-BX1 และการ์ดความจำ ขวาสุดเป็นช่องลำโพง
ฟังก์ชันใช้งานและฟีเจอร์เด่น
ระบบออโต้โฟกัสปรับปรุงใหม่ครั้งแรกของกล้องคอมแพกต์ โดยในครั้งนี้โซนี่นำระบบออโต้โฟกัสจากมิร์เรอร์เลสมาใช้ในชื่อ “Fast Hybrid AF” 315 จุด ครอบคลุม 65% ของพื้นที่รับภาพบนเซ็นเซอร์ตัวใหม่ ทำให้ RX100 V สามารถจับโฟกัสได้เร็วสุด 0.05 วินาที รองรับ AF Lock on และ Eye AF สามารถโฟกัสติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวรวดเร็วไปถึงสามารถโฟกัสดวงตาและติดตามแบบต่อเนื่องได้เลย
24 fps Continuous Shooting เป็นจุดขายหลักของ RX100 V และเป็นครั้งแรกของโลกที่โซนี่ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วสุด (Hi) 24 เฟรมต่อวินาทีที่ความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซล พร้อมบัฟเฟอร์ขนาดใหญ่จากการขยาย DRAM ทำให้การกดชัตเตอร์ค้างไว้หนึ่งครั้ง (เมื่ออยู่ในโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง) สามารถถ่ายภาพได้มากถึง 150-160 ภาพ
HFR (High Frame Rate) หรือโหมดวิดีโอสโลโมชัน ถูกปรับปรุงเรื่องระยะเวลาในการถ่ายเพิ่มอีก 2 เท่าจาก RX100 IV โดยโหมด HFR สามารถเลือกความเร็วถ่ายได้ตั้งแต่ 250fps 500fps และ 1,000fps (PAL)
มาถึงฟังก์ชันใช้งานทั่วไป ซึ่งจะเหมือนกับ RX100 IV โดยด้านคุณภาพไฟล์จะมีให้เลือกทั้ง JPEG, JPEG+RAW และ RAW สามารถถ่าย Dual Rec หรือระหว่างถ่ายวิดีโอสามารถกดชัตเตอร์ถ่ายภาพนิ่งได้ที่ความละเอียดสูงสุด 17 ล้านพิกเซล
ส่วนวิดีโอใช้ฟอร์แมต XAVC S ความละเอียด 4K 30fps และ 1080p ความเร็วสูงสุด 60fps พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว Intelligent Active ให้ผลลัพท์ไม่ต่างจากกันสั่น 5 แกนในมิร์เรอร์เลสโซนี่แต่อย่างใด (ลองรับชมได้จากคลิปวิดีโอด้านบน)
WiFi/NFC/Application มีให้เลือกใช้เช่นเดียวกับ RX100 IV พร้อม Smart Remote หรือรีโมทชัตเตอร์บนสมาร์ทโฟน รวมถึงสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ด้วย
ส่วนผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งปุ่มคำสั่งต่างๆด้วยตัวเอง RX100 V เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ตามความถนัดแทบจะทุกปุ่มคำสั่ง รวมถึงผู้ใช้งานวิดีโอ โซนี่ได้ใส่ Marker ไว้ให้ใช้งานด้วย เช่น ต้องการถ่ายวิดีโอที่อัตราส่วน 1.85:1 ก็สามารถเลือกใช้งานได้
Memory recall (MR) ถือเป็นฟังก์ชันตอบสนองผู้ใช้มืออาชีพที่ชอบปรับค่ากล้องหลากหลายแนวและต้องการตั้งเป็นโปรไฟล์ไว้เพื่อความรวดเร็วในการเลือกใช้ โดย MR ใน RX100 V จะให้เราเลือกสร้างโปรไฟล์ได้มากสุด 3 โปรไฟล์
ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป
เริ่มจากการทดสอบความไวแสง(ISO)ช่วงต่างๆ สำหรับ RX100 V ให้ผลลัพท์ไม่ต่างจาก RX100 IV ตัวก่อนแต่อย่างใด นอยซ์ที่ค่าความไวแสงตั้งแต่ ISO100-12,800 ทำได้ดีมากสำหรับ JPEG ซึ่งก็สอดคล้องกับจุดประสงค์หลักที่โซนี่ต้องการให้ RX100 เป็นกล้องคอมแพกต์ใช้งานง่าย ใครถ่ายก็ได้ภาพคุณภาพสูงทั้งหมด
ส่วนถ้ามืออาชีพขึ้นมาและใช้งาน RAW เป็นหลัก RX100 V จะให้คุณภาพไฟล์ที่ดีเมื่อถ่ายด้วย ISO ไม่เกิน 3,200 ไม่ต่างจาก RX100 IV เช่นกัน
คราวนี้มาดูสิ่งที่แตกต่างจาก RX100 IV กันบ้างก็คือเรื่องระบบออโต้โฟกัสและความรวดเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง 24 เฟรมต่อวินาที ถามว่าจำเป็นไหม สำหรับคนชอบถ่ายสแนปหรือสตรีทโฟโต้ 24fps ถือเป็นส่วนช่วยให้เรามีโอกาสได้ภาพที่ไม่หยุดนิ่งสูงขึ้น ยกตัวอย่างภาพนี้ทีมงานเดินสวนกับเด็ก 2 คนที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งแบบรวดเร็วมาก ถ้าไม่มีระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง 24fps อาจพลาดจังหวะที่ต้องการไป
1/400s : f4.5 : ISO125
หรือแม้แต่ภาพนี้ซับเจคที่เห็นทั้งหมดไม่หยุดนิ่ง แต่โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง 24fps ใน RX100 V ก็สามารถสแนปไว้ได้และหลังจากนั้นทีมงานค่อยมาเลือกภาพที่ดีที่สุดภายหลัง
1/160s : f5.6 : ISO125
1/80s : f2.8 : ISO320
1/160s : f2.8 : ISO250
1/160s : f1.8 : ISO125
1/500s : f4 : ISO125
1/100s : f6.3 : ISO125
1/40s : f5 : ISO125
ในส่วนการถ่ายภาพทั่วไป คุณภาพไฟล์ภาพไม่ต่างจาก RX100 IV อย่างชัดเจนนัก รวมถึงฟังก์ชันใช้งานต่างๆก็ยังเหมือนเดิม เรียกได้ว่า RX100 V เน้นเรื่องความรวดเร็วของระบบออโต้โฟกัสและการถ่ายภาพต่อเนื่องเป็นหลัก รวมถึงงานวิดีโอที่ได้รับผลจากการเปลี่ยนไปใช้โฟกัสแบบ Fast Hybrid AF 315 จุด พร้อม Lockon AF เต็มๆเพราะทำให้ระบบออโต้โฟกัสวิดีโอทำได้แม่นยำขึ้นกว่ารุ่นก่อนมาก โดยเฉพาะการโฟกัสติดตามวัตถุทำได้แม่นยำดี
ส่วนการใช้งานอื่นๆก็เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้แทบทั้งหมด ฟังก์ชันใช้งานมีให้เลือกมากมายเช่น วิดีโอ 4K, โปรไฟล์สี Slog, ถ่ายสโลโมชัน HFR ได้สูงถึง 1,000 เฟรมต่อวินาทีไปถึงการถ่ายภาพคร่อมแสง คร่อม White Balance ทำภาพ HDR และอื่นๆอีกมากมาย แน่นอนว่าก่อนใช้งานต้องเรียนรู้สักเล็กน้อย เนื่องจากตัว RX100 V ถูกออกแบบเมนูมาค่อนข้างซับซ้อนไปเสียหน่อย รวมถึงแบตเตอรีที่ไม่ทนทานนัก ใช้งานในหนึ่งวันหนักๆอาจต้องพกถึง 3-4 ก้อนเลยทีเดียว (แบตเตอรี 1 ก้อนชาร์จไฟเต็มสามารถถ่ายภาพได้ประมาณ 200-220 ภาพ ภาพยนตร์ประมาณครึ่งชั่วโมง)
อีกทั้งในส่วนของราคาค่าตัว RX100 V เปิดตัวมาค่อนข้างสูง 38,990 บาท ส่วน RX100 IV ลดลงเหลือ 29,990 บาท ถ้าผู้สนใจไม่ได้ต้องการสเปกออโต้โฟกัสและการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็งสูง RX100 IV ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้ Mark V เพราะถ้ามองเรื่องคุณภาพไฟล์ภาพอย่างเดียวแล้วเรียกว่าแทบไม่แตกต่างกันชัดเจนนัก