หลังจากปล่อยให้แฟนๆและสาวกโซนี่ต้องนั่งร้องเพลงรอการกลับมาของ Xperia Z-Serie มานาน (เนื่องจากตอน Xperia Z4 โซนี่เลือกทำตลาดเฉพาะประเทศญี่ปุ่น) วันนี้โซนี่พร้อมแล้วที่จะนำสมาร์ทโฟนแฟลกชิปกลับมาทำตลาดทั่วโลกอีกครั้งกับ “Sony Xperia Z5” ที่เปิดตัวพร้อมกันถึง 3 รุ่นได้แก่ Xperia Z5 รุ่นมาตรฐาน (รุ่นที่เรานำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้) Xperia Z5 Compact และรุ่นใหญ่สุด Xperia Z5 Premium
การออกแบบและสเปก
โซนี่ยังคงใช้แนวทางการออกแบบ Xperia Z5 แบบ OmniBalance หรือการออกแบบให้สมดุลทุกส่วน พร้อมปรับปรุงวัสดุตรงกรอบโลหะและกระจกด้านหลังใหม่ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเวลาจับถือมากขึ้น อีกทั้งโซนี่ยังได้เพิ่มสีทองเข้ามาทำตลาดใหม่และตัวเครื่องป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP65 และ IP68
ด้านขนาดตัวเครื่องกว้าง 72 มิลลิเมตร ยาว 146 มิลลิเมตร หนา 7.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 154 กรัม หน้าจอเป็น Triluminos พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Contrast Enhancer ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1,920×1,080 พิกเซล มาพร้อมกล้องหน้าเลนส์มุมกว้างพิเศษ (25 มิลลิเมตร) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ FullHD และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วย
นอกจากนั้นถ้าสังเกตบริเวณขอบหน้าจอทั้งบนและล่าง จะเห็นช่องลำโพงกระจายเสียงแบบสเตอริโอติดตั้งอยู่อย่างแนบเนียนทั้ง 2 ข้าง
มาดูบริเวณด้านหลังของ Xperia Z5 จุดเด่นหลักอยู่ที่กล้องหลัง Sony Exmor RS ขนาด 1/2.3 นิ้วที่โซนี่ปรับปรุงใหม่ในชื่อรหัส IMX300 ประกบเลนส์ G มุมกว้าง 24 มิลลิเมตรและไฟแฟลช LED
โดย Xperia Z5 รองรับความละเอียดภาพสูงสุด 23 ล้านพิกเซล (Clear Zoom 5 เท่า) รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วย ISO ที่สามารถเพิ่มระดับได้ถึง 12,800 สำหรับภาพนิ่ง และ ISO 3,200 สำหรับงานวิดีโอ พร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบไฮบริด สามารถจับโฟกัสด้วยความเร็ว 0.03 วินาที
ส่วนระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot ใน Xperia Z5 โซนี่ได้ปรับปรุงใหม่โดยใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำงานช่วยเหลือกันในชื่อ Intelligent Active SteadyShot ระบบเดียวกับที่อยู่ในกล้องดิจิตอลของโซนี่
มาถึงปุ่มกดและพอร์ตเชื่อมต่อรอบตัวเครื่อง จากด้านซ้ายจะเป็นช่องใส่ซิม (รองรับ Nano SIM) และการ์ด MicroSD เพิ่มความจุเครื่องได้สูงสุด 200GB โดยทั้งสองช่องติดตั้งอยู่ในส่วนเดียวกัน พร้อมฝาปิดป้องกันน้ำเข้าตามแบบฉบับของโซนี่ ถัดลงมาด้านล่างเป็นโลโก้ Xperia
อีกด้านหนึ่ง จะเป็นที่อยู่ของปุ่มกดสั่งงานต่างๆ เริ่มจากซ้ายมือของภาพจะเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องถ่ายภาพ (กดครึ่งหนึ่งเพื่อล็อคโฟกัส กดเต็มแรงเพื่อถ่ายภาพ หรือถ้าหน้าจอปิดอยู่ กดปุ่มนี้ค้างไว้จะเป็นการเรียกแอปฯกล้องขึ้นมา) ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง และตรงกลางจะเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง ซึ่งในครั้งนี้โซนี่แอบใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้ปุ่มดังกล่าวด้วย
มาดูส่วนด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง ด้านบนจะเป็นช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและไมโครโฟนรับเสียงตัวที่สอง ด้านล่าง ตรงกลางเป็นพอร์ต MicroUSB ด้านซ้ายเป็นช่องคล้องสายรัดข้อมือ
ด้านสเปกหน่วยประมวลผล ครั้งนี้โซนี่มาแปลกเพราะเลือกใช้ซีพียูเจ้าปัญหา Qualcomm Snapdragon 810 Octa-core 64 บิต ความเร็ว 1.56GHz (ใช้กราฟิก Adreno 430 GPU) ที่มีปัญหาเรื่องความร้อนสะสมภายในและผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเกือบทุกเจ้าต่างหลีกเลี่ยงชิปตัวนี้ทั้งนั้น
โดยโซนี่มั่นใจว่าตนจะสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยวิธีเพิ่มท่อระบายความร้อนแบบคู่ (Dual Heat pipes) ประกบเข้ากับ Heat sink บนซีพียูและระบายออกทางฝาหลังตัวเครื่อง ซึ่งผลลัพท์จะเป็นอย่างไรติดตามในส่วนทดสอบประสิทธิภาพต่อไป
กลับมาดูเรื่องสเปกแรมกันต่อ โซนี่ใส่แรมมาให้ 3GB รอมภายใน 32GB เหลือใช้งานจริงประมาณ 21.78GB แบตเตอรีใส่มา 2,900mAh และโซนี่เครมว่าแบตเตอรีสามารถใช้งานได้ยาวนาน 2 วัน
มาถึงเรื่องระบบเชื่อมต่อต่างๆ Sony Xperia Z5 รองรับ 3G/4G LTE ทุกเครือข่ายในไทย ส่วน WiFi เลือกใช้ MiMo เข้ามาเสริม มี NFC, Bluetooth 4.1 อีกทั้งพอร์ต MicroUSB ยังรองรับการเชื่อมต่อสาย MHL รุ่น 3.0 ด้วย
ยูสเซอร์อินเตอร์เฟสและฟีเจอร์เด่น
ระบบปฏิบัติการที่ใช้ขับเคลื่อน Xperia Z5 คือ Android 5.1.1 Lollipop ซึ่งมีหน้าตาการทำงานและแอปฯหลายตัวคล้ายกับ Xperia M5 ที่ทีมงานได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ ทีมงานจะเน้นอธิบายฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่เพียงอย่างเดียว ส่วนฟีเจอร์เดิมผู้อ่านสามารถย้อนกลับไปอ่านได้จากลิงค์ด้านล่างนี้
Screenshot Live Streaming – เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน Xperia Z3 เดิมแต่ถูกพัฒนาปรับปรุงใหม่ใน Xperia Z5 กับความสามารถในการถ่ายทอดสดจากหน้าจอสมาร์ทโฟนของคุณไปสู่บริการ YouTube Live ได้ รวมถึงระหว่างถ่ายทำคุณยังสามารถเปิดกล้องหน้าได้ด้วย เหมาะแก่ผู้ใช้ที่อยากทำคลิปวิดีโอสอนการใช้แอปฯต่างๆได้อย่างดี
Hi-Res Audio – ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธง เพราะฉะนั้นโซนี่ต้องจัดเต็มเรื่องคุณภาพเสียงเช่นเดิม โดย Xperia Z5 มาพร้อมชิปประมวลผลเสียง Hi-Res Audio 24bit/96KHz รองรับการเล่นไฟล์ FLAC ที่เข้ารหัส Hi-Res Audio ได้ รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธ Hi-Res และหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบดิจิตอล Digital Noise Canceling
นอกจากนั้นตัวระบบยังสามารถเปิด S-Force Front Surround ใช้งานร่วมกับลำโพงคู่หน้าบนสมาร์ทโฟนตัวนี้ได้ ซึ่งจะช่วยให้เสียงมีมิติมากขึ้น เหมาะแก่การเปิดระหว่างรับชมภาพยนตร์
PartyShare – เป็นแอปฯสร้างสรรค์ตัวใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ Xperia Z5 กับเพื่อนที่มีสมาร์ทโฟนโซนี่และรองรับ PartyShare สามารถแชร์คอนเทนต์ เช่น ภาพถ่ายหรือรายการเพลงกับเพื่อนๆแบบเรียลไทม์ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
Xperia Transfer Mobile เป็นอีกหนึ่งบริการอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่กำลังคิดเปลี่ยนจากสมาร์ทโฟนรุ่นเก่ามายัง Xperia Z5 โดย Xperia Transfer Mobile จะช่วยให้คุณย้ายข้อความ สมุดโทรศัพท์และอื่นๆได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งคัดลอกด้วยตัวเองเหมือนสมัยก่อน
มาถึงกล้องถ่ายภาพ สำหรับซอฟต์แวร์กล้องยุคใหม่ของโซนี่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุด 23 ล้านพิกเซลในโหมดอัตโนมัติพิเศษได้ ส่วนโหมด Manual ปรับแต่งค่ากล้องเอง จะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถตั้งชดเชยแสง White Balance และเปิดปิด HDR หรือเลือกซีนโหมดได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ยังไม่เห็นฟีเจอร์ปรับความเร็วชัตเตอร์ ถ่าย RAW ได้เหมือนคู่แข่ง (แม้ตัวฮาร์ดแวร์จะรองรับก็ตาม)
สุดท้ายโหมดวิดีโอ 4K มีสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ การรองรับไฟล์รูปแบบใหม่ H.265 ที่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลน้อยกว่ารูปแบบ H.264 อีกทั้งวิดีโอ 4K ยังรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot เป็นครั้งแรกของโซนี่ด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพ
ไม่เสียแรงที่ใช้ซีพียูแฟลกชิป Qualcomm Snapdragon 810 ที่ถึงแม้หลายเจ้าจะเมินหน้าหนีเพราะปัญหามากมาย แต่โซนี่กลับเลือกใช้และทำให้ผลคะแนนทดสอบออกมาดีมากจนสูสีกับแชมป์เก่า Samsung Galaxy S6 edge ที่เคยทำคะแนน AnTuTu ไว้สูงสุดของตาราง (68,296 คะแนน)
แบรนด์ | คะแนนทดสอบ | ราคาเปิดตัว |
Samsung Galaxy S6 edge (64 บิต) | 68,296 | 27,900.- |
Sony Xperia Z5 (64 บิต) | 64,201 | 24,990.- |
Apple iPhone 6s Plus 128GB | 58,689 | 30,500.- |
Apple iPhone 6s 128GB | 58,615 | 26,500.- |
Samsung Galaxy Note 5 | 61,835 | 25,900.- |
HTC One M9+ | 50,794 | 24,990.- |
LG G4 (Korea Model) | 50,610 | 21,990.- |
Samsung Galaxy Note Edge | 48,156 | 28,900.- |
Sony Xperia Z3 | 45,039 | 23,990.- |
เรื่องประสิทธิภาพหมดห่วงได้แต่เรื่องความร้อนของ Qualcomm Snapdragon 810 สรุปโซนี่จัดการได้ดีหรือไม่ คำตอบคือ “จัดการได้ดีระดับหนึ่ง” เพราะทีมงานได้ทดลองตั้งแต่เล่นเกม 3 มิติ ถ่ายภาพต่อเนื่องและถ่ายวิดีโอ FullHD ต่อเนื่อง พบว่า ไม่เจอปัญหาแอปฯปิดตัวเพราะเครื่องค้างเหมือนกับที่หลายแบรนด์พบเจอ แต่จุดที่น่าเป็นห่วงก็คือฝาหลังเครื่อง (บริเวณโลโก้ SONY) จะมีความสะสมค่อนข้างมากและกลายเป็นเรื่องน่ากังวลของผู้ที่ได้ลองสัมผัส หลายคนจับแล้วต้องร้องตกใจกับความร้อนที่เกิดขึ้นพร้อมตั้งคำถามว่า
“ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรเพราะโซนี่ออกแบบการระบายความร้อนมาได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าใช้เป็นระยะเวลานาน (ในที่นี้หมายถึงใช้เครื่องนานกว่า 1-2 ปีขึ้นไป) ระบบระบายความร้อนจะมีปัญหาหรือไม่ ซิลิโคนและฮีตไปป์คู่จะยังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนช่วงซื้อเครื่องใหม่หรือไม่” คำถามเหล่านี้ทีมงานอยากฝากทีมโซนี่เข้ามาตอบจะเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง…
จบเรื่องทดสอบประสิทธิภาพ มาดูเรื่องงานวิดีโอกับการทดสอบจุดเด่นสำคัญก็คือ “ไมโครโฟนรับเสียงสเตอริโอกับระบบออโต้โฟกัสที่ทำงานร่วมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวตัวใหม่” จุดนี้จาก 2 คลิปวิดีโอด้านบน ถือว่าโซนี่ปรับปรุงงานวิดีโอมาได้ดีกว่าเดิมมาก และถือเป็นกล้องถ่ายวิดีโอบนสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงติดอันดับต้นๆของปีนี้ได้เลย
H.265 ถูกใช้ในการบีบอัดไฟล์ 4K รูปแบบใหม่ เพราะขนาดไฟล์ที่เล็กลงแต่คุณภาพเท่าต้นฉบับ แต่ปัจจุบันซอฟต์แวร์ที่จะใช้จัดการไฟล์ลักษณะนี้ยังมีน้อยมาก
ในส่วนวิดีโอ 4K จุดนี้ถือว่าให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าเดิม แต่ถามว่าดีที่สุดไหม ทีมงานขอตอบว่า “ไม่” ข้อสังเกตสำคัญของวิดีโอ 4K บน Xperia Z5 ก็เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าก็คือ ไฟล์คุณภาพสูงจริง แถมมีให้เลือก 2 รูปแบบทั้ง H.264 และ H.265 ใหม่ แต่เมื่อต้องการนำไฟล์ออกมาใช้งานจริง ความลำบากจะเกิดขึ้นทันทีเพราะในตัวสมาร์ทโฟนเองยังไม่มีซอฟต์แวร์เข้ามาจัดการไฟล์ 4K เหล่านี้ได้ โดยเฉพาะ H.265 (ขนาดซอฟต์แวร์ที่ติดมากับเครื่องยังฟ้องไม่รู้จักเลย) เพราะฉะนั้นถ้าใครถ่าย 4K มาแล้วอยากตัดต่อเรียบเรียงคลิปก็ต้องใช้วิธีเดียวคือดึงไฟล์มาจัดทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์สเปกสูงเท่านั้น
มาถึงการทดสอบกล้องถ่ายภาพ 23 ล้านพิกเซล ถือเป็นจุดสูงสุดของ Xperia Z5 เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่โซนี่ปรับไปใช้เซ็นเซอร์รับภาพตัวใหม่ คุณภาพไฟล์ถือว่าทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการเลือกซีนโหมด การปรับสมดุลแสงและโทนภาพทำได้ฉลาดขึ้น ยิ่งเป็นภาพในที่แสงน้อยหรือภาพวิวช่วงกลางคืนด้วยแล้ว Xperia Z5 ให้ผลลัพท์ภาพที่ดีกว่ารุ่นที่แล้วแน่นอน
แต่ทั้งนี้ถ้าถามว่าคุณภาพไฟล์ภาพดีขึ้นมากจนน่าประทับใจไหม คำตอบของทีมงานก็คือ ดีกว่าเดิมครับ แต่ไม่ถึงกับดีจนน่าประทับใจ ไฟล์ภาพคุณภาพกลางๆ (รู้สึกเหมือนกล้องใน Xperia M5 จะทำได้น่าประทับใจกว่า) ทำให้จุดเด่นเรื่องกล้องทั้งหมดไปตกอยู่กับเรื่องระบบออโต้โฟกัสแบบไฮบริดที่ทำได้ดีมาก
ตารางผลทดสอบแบตเตอรีสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ประจำปี 2015 (กรกฏาคม-ธันวาคม)
*โมเดลขายในประเทศไทย / ชุดทดสอบ : Geekbench / ทดสอบจากสถานะแบตเตอรี 100% ถึง 0%
*EXTREMELY TEST เป็นการสอบแบบหนักหน่วง (เปิดหน้าจอตลอดเวลา) ไม่ใช่การทดสอบใช้งานทั่วไป
*คาดการณ์เวลาสำหรับใช้งานทั่วไปให้ +6 ชั่วโมงโดยประมาณ จากช่องเวลาที่ทำได้
แบรนด์ | ความจุแบตเตอรี | สเปก CPU/DISPLAY/OS Ver. | เวลาที่ทำได้ | คะแนน | ราคาเปิดตัว |
Samsung Galaxy Note 5 | 3,000 mAh | Exynos 7420 Octa 1.5+2.1 / 5.7″ 2K / A5.1.1 | 8h39m50s | 5,198 | 25,900.- |
Sony Xperia M5 Dual | 2,600 mAh | MediaTek Helio X10 Octa 2.0 / 5″ 1080p / A5.0 | 7h18m30s | 3,157 | 14,990.- |
i-mobile IQ II Android One | 2,500 mAh | Snapdragon 410 Quad 1.2 / 5″ 720p / A5.1.1 | 7h10m00s | 2,867 | 4,444.- |
Lenovo Phab Plus | 3,500 mAh | Snapdragon 615 Octa 1.5 / 6.8″ 1080p / A5.0 | 6h6m50s | 2,446 | 11,990.- |
Samsung Galaxy Tab S2 | 4,000 mAh | Exynos 5433 Octa 1.9+1.3 / 8″ 2K / A5.0.2 | 6h36m10s | 3,945 | 15,900.- |
LG G4 (Korea Model) | 3,000 mAh | Snapdragon 808 Hexa 1.44 / 5.5″ 2K / A5.1 | 5h47m20s | 3,470 | 21,990.- |
Sony Xperia Z5 | 2,900 mAh | Snapdragon 810 Octa 1.56 / 5.2″ 1080p / A5.1.1 | 5h29m50s | 3,298 | 24,990.- |
สุดท้ายกับการทดสอบแบตเตอรี โซนี่เครมไว้ว่าสามารถใช้งานได้ 2 วัน แต่เอาเข้าจริงแล้ว ถ้าใช้งานทั่วไปแบตเตอรีจะอยู่ได้ประมาณ 11-13 ชั่วโมง ใช้งานสลับสแตนบายรอรับสายโทรเข้าจะอยู่ได้ 1 วัน (เปิดโหมด STAMINA) ส่วนถ้าใช้งานหนักหน่วง เช่น เล่นเกม 3 มิติ แบตเตอรีจะลดลงอย่างรวดเร็วเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น จุดนี้น่าจะมีผลมาจากชิป Snapdragon 810 ด้วย คะแนนแบตเตอรีถึงได้ตกไปอยู่ท้ายตารางเลย
สรุป
สำหรับราคาเปิดตัว Sony Xperia Z5 อยู่ที่ 24,990 บาท ถือเป็นการกลับมาของโซนี่โมบายที่ยังคงเน้นเรื่องกล้องถ่ายภาพเป็นจุดขายสำคัญ ส่วนเรื่องสเปกเครื่องถือเป็นการอัปเกรดตามกระแส ไม่มีสิ่งใดหวือหวา ยกเว้นในรุ่น Z5 Premium ที่มาพร้อมหน้าจอความละเอียด 4K 806ppi แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่เพิ่มเป็น 27,990 บาท