Review : WD My Book Pro ท็อปสุดของ External Harddisk

11850

WDBDTB0120JSL

สำหรับผู้ใช้แมคที่ต้องการเอ็กซ์เทอร์นัลฮาร์ดดิสก์ประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้ในงานตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งภาพหรือทำงานกราฟิกที่ต้องใช้อัตรารับส่งข้อมูลความเร็วสูงตลอดเวลา WD “My Book Pro” ถือเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องการออกแบบไดร์ฟแบบ Hot-swap ให้ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ด้วยตัวเองได้ในรูปแบบเดียวกับ NAS Storage

การออกแบบและสเปก

IMG_3595

หน้าตาของ WD My Book Pro มองเผินๆจะคล้าย NAS Storage แต่จริงๆแล้ว My Book Pro ถูกเรียกว่าเป็น “Professional RAID Storage” หรือเรียกภาษาง่ายๆก็คือ “ฮาร์ดดิสก์พกพาประสิทธิภาพสูง” ที่ออกแบบมาเพื่อคนทำงานสายศิลป์ โดยเฉพาะงานตัดต่อภาพยนตร์ที่ต้องการความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลตลอดเวลา

IMG_3608

โดยหัวใจหลักของ My Book Pro ก็คือ ฮาร์ดดิสก์ WD Black แบบองค์กร มาพร้อมรอบหมุน 7,200 รอบต่อนาที จำนวน 2 ลูก และถูกผูกการทำงานด้วย Hardware RAID Controller ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูลให้แรงกว่าการใช้ฮาร์ดดิสก์ลูกเดียวทั่วไป (ค่าเริ่มต้นเมื่อเปิดใช้งานครั้งแรกระบบจะตั้งเป็น RAID 0 ไว้)

IMG_3611IMG_3638

นอกจากนั้นบริเวณด้านหน้า ทาง WD ยังได้ติดตั้งพอร์ต USB 3.0 เพื่อเป็นฮับ (HUB) ขยายพอร์ต USB จากคอมพิวเตอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถนำฮาร์ดดิสก์พกพาตัวเล็ก กล้องดิจิตอลและอื่นๆมาเชื่อมต่อได้ทันที (ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ใดๆเพิ่มเติม)

wdfMB_Pro-1

มาดูเรื่องการเชื่อมต่อข้อมูล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคอขวด WD My Book Pro จึงถูกออกแบบให้มาพร้อมช่องเชื่อมต่อ Thunderbolt 2 (20 Gb/s) จำนวน 2 พอร์ต และ USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต โดย  Thunderbolt รองรับการต่อพ่วง (daisy chain) พร้อมกันสูงสุด 6 เครื่อง โดยระบบจะจัดการแบนด์วิธให้อัตโนมัติ

IMG_3612

ในส่วนแหล่งพลังงาน จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์ 12V 5.42A (ขนาดประมาณอะแดปเตอร์จ่ายไฟโน้ตบุ๊ก) ซึ่งเมื่อรวมกับน้ำหนักของฮาร์ดดิสก์ 2 ลูกและเคสอลูมิเนียมแล้ว WD My Book Pro มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ไม่เหมาะแก่การเคลื่อนย้ายไปใช้งานนอกสถานที่

การใช้งาน ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป

raidsetup-wdmybook-pro

สำหรับการเริ่มต้นใช้งานครั้งแรก เมื่อเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์กับสาย Thunderbolt เข้ากับเครื่องแมค ฮาร์ดดิสก์จะพร้อมใช้งานทันที (ฟอร์แมตเริ่มต้นคือ HFS+J) โดย RAID ที่ WD ตั้งไว้เป็นค่าเริ่มต้นคือ RAID 0

แต่ทั้งนี้ถ้าผู้ใช้ต้องการตั้งค่า RAID ใหม่ สามารถทำได้ด้วยการถอดสาย Thunderbolt ออกแล้วเชื่อมต่อสาย USB 3.0 แทน จากนั้นติดตั้งซอฟต์แวร์ WD Drive Utilities ระบบจะอนุญาตให้ปรับแต่งส่วนของ RAID ได้ดังนี้ (การปรับแต่งทุกครั้ง ระบบจำเป็นต้องฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์ทั้ง 2 ลูก)

Stripe (RAID 0) – ระบบจะมัดรวมฮาร์ดดิสก์รวมถึงความจุของทั้ง 2 ลูกรวมเป็นลูกเดียวกัน ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นจากการช่วยกันทำงานของฮาร์ดดิสก์ทั้ง 2 ลูก แต่ข้อเสียคือ ถ้าฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งเสียหาย ข้อมูลทั้งหมดจะหายไป

Mirror (RAID 1) – เน้นความปลอดภัย โดยฮาร์ดดิสก์ตัวที่หนึ่งจะทำงานเป็นหลัก ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์ตัวที่สองจะใช้สำรองข้อมูล ถ้าฮาร์ดดิสก์ตัวใหตัวหนึ่งเสียหาย ผู้ใช้สามารถเรียกคืนข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์อีกลูกหนึ่งได้ แต่ข้อเสียคือ พื้นที่เก็บข้อมูลจะน้อยลง เช่น ใส่ฮาร์ดดิสก์ความจุ 6TB + 6TB ถ้าอยู่ใน RAID 0 จะได้พื้นที่ 12TB แต่ถ้าเปิดใช้ RAID 1 จะเหลือพื้นที่ใช้งานแค่ 6TB เท่านั้น

Individual Drives (JBOD) – มัดรวมฮาร์ดดิสก์ 2 ลูกเป็นลูกเดียว แต่การทำงานจะต่างคนต่างแยกกันทำงาน ทำให้ประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูลจะเท่ากับใช้งานฮาร์ดดิสก์ลูกเดียว และถ้าฮาร์ดดิสก์ตัวใดตัวหนึ่งเสีย ข้อมูลจะหายเฉพาะในฮาร์ดดิสก์ตัวที่เสียเท่านั้น

benchmark-wdmybookprowdmybook-benchmark2

มาถึงเรื่องทดสอบใช้งาน โดยทีมงานเลือกเชื่อมต่อกับ MacBook Pro 13” Late 2011 ด้วยพอร์ต Thunderbolt รุ่นแรก ผลคะแนนด้านประสิทธิภาพทำได้น่าพอใจ ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลทำได้รวดเร็วและเมื่อทดลองใช้งานเป็นฮาร์ดดิสก์เก็บไฟล์ตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูง 1080p 100Mbps พร้อมตัดต่อสดๆผ่านซอฟต์แวร์ Final Cut Pro X ถือว่าสามารถทำงานได้ลื่นไหลมาก

wdfMB_Pro

ส่วนเมื่อนำไปใช้งานตัดต่อไฟล์วิดีโอ 4K ร่วมกับ iMac และพอร์ต Thunderbolt 2 ประสิทธิภาพที่ได้จะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น อีกทั้งเมื่อนำ My Book Pro หนึ่งตัวไปต่อพ่วงกับอุปกรณ์ที่รองรับ Thunderbolt จำนวน 3 เครื่อง พบว่าเอ็กซ์เทอร์นัลฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้สามารถจัดการแบนด์วิธในตัวเองได้ค่อนข้างดี ถึงแม้ความเร็วอ่านเขียนในแต่ละดีไวซ์จะตกลงไปบ้าง แต่ความเสถียรที่ได้ยังคงยอดเยี่ยม ไม่พบอาการฮาร์ดดิสก์ค้างแต่อย่างใด

ถือเป็นเอ็กซ์เทอร์นัลฮาร์ดดิสก์ประสิทธิภาพสูงที่ถูกออกแบบมาได้เหมาะสมกับผู้ใช้งานเฉพาะทางที่ต้องการความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงตลอดเวลา พร้อมความสามารถ Hot-swap ถอดเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ได้ตามต้องการอย่างสะดวกสบาย

สำหรับราคาเปิดตัว WD My Book Pro เริ่มต้นที่ 24,900 บาท สำหรับความจุ 6TB / 31,900 บาท สำหรับความจุ 8TB / 37,900 บาท สำหรับความจุ 10TB และ 42,900 บาท สำหรับความจุ 12TB

ข้อดี

– ฮาร์ดดิสก์ทำงานแบบ RAID ประสิทธิภาพสูง สามารถเลือกการใช้งาน RAID ได้ตามต้องการ
– ประสิทธิภาพสูง รองรับการตัดต่อวิดีโอ 4K จนถึง 6K
– รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Thunderbolt 1/2 และ USB 3.0
– ด้านหน้ามี USB Hub 3.0 รองรับการชาร์จไฟให้สมาร์ทดีไวซ์และเชื่อมต่อกล้องดิจิตอลเพื่อโอนถ่ายข้อมูลได้
– ฮาร์ดดิสก์ทั้งสองลูกสามารถถอดเปลี่ยนได้
– WD ให้ฮาร์ดดิสก์ภายในเป็นรุ่น Black ทุกความจุ ทุกราคา

ข้อสังเกต

– พัดลมระบายความร้อนเสียงดัง เคสไม่เก็บเสียงเวลาฮาร์ดดิสก์ทำงาน
– น้ำหนักมาก ไม่เหมาะแก่การเคลื่อนย้ายบ่อยๆ
– ค่าเริ่มต้น ฟอร์แมตมาเพื่อ Mac เพียงอย่างเดียว

Gallery

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

REVIEW OVERVIEW
การออกแบบ
8.5
สเปก/ฟีเจอร์เด่น
9
ความสามารถโดยรวม
9.5
ความคุ้มค่า
7.5
SHARE