Review : Xiaomi Mi 8 สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้วยสเปกไฮเอนด์ กล้องคู่ ในราคาหมื่นกลางๆ

5845

นอกจากตัวท็อปของ Xiaomi อย่าง Mi Mix 2S แล้ว Xiaomi ยังมีอีกรุ่นที่เป็นระดับเรือธงสเปกสูงในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น คือในตระกูล Mi ที่ปีนี้เป็นรุ่น Mi 8 ที่เพิ่งทำตลาดในประเทศไทยในระดับราคา 15,900 – 17,900 บาท ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำ และพื้นที่เก็บข้อมูล

จุดเด่นหลักๆของ Mi 8 เลยคือเรื่องของการใส่สเปกระดับสูงอย่างซีพียู Snapdragon 845 มาพร้อมกับกล้องคู่ 12+12 ล้านพิกเซล ที่ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นด้วยการนำ AI มาช่วยประมวลผล ไปจนถึงหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ รวมถึงดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงนวัตกรรมต่างๆที่ถูกใส่เข้ามา

ข้อดี

สเปกระดับท็อปในราคาหมื่นกลางๆ

กล้องคู่ พร้อม AI

จอแสดงผลขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FullHD+

รองรับระบบ Fast Charge

ข้อสังเกต

ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. (มีอะเดปเตอร์แปลงให้ในกล่อง)

ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย

ไม่สามารถเพิ่มไมโครเอสดีการ์ดได้

ตัวเครื่องยังไม่กันน้ำตามมาตรฐาน IP

เน้นนวัตกรรม-ความคุ้มค่า

ด้วยการที่จุดขายของ Xiaomi Mi 8 คือเรื่องของสเปก ความคุ้มค่า และนวัตกรรม โดยในแง่ของสเปกตัวเครื่อง Mi 8 มากับทั้งหน่วยประมวลผล Snapdragon 845 ที่เป็นชิปเซ็ตที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในปีนี้ ตามด้วยการใส่ RAM มาให้เลือกทั้งรุ่น 4 GB และ 6 GB ตามด้วยพื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB และ 128 GB ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้

ภายในก็จะมีการนำเซ็นเซอร์ที่น่าสนใจอย่างที่เป็นพื้นฐานก็คือการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง พร้อมกับการเพิ่มการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อก ที่ยอมรับว่า Mi 8 ทำได้ดีขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะมาก เรียกได้ว่าแค่ยกเครื่องขึ้นมาหน้าจอติด แล้วสแกนเจอใบหน้าก็ปลดล็อกใช้งานทันที

ส่วนการประมวลผลของ Snapdragon 845 ถือว่าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งในแง่ของการเล่นเกม ใช้งานเพื่อความบันเทิง รวมไปถึงนำมาเป็นตัวช่วยของการประมวลผลภาพจากกล้องคู่ AI ที่ให้มาด้วย โดยเฉพาะเรื่องของคะแนนทดสอบผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ

อีกจุดเด่นที่ Mi 8 มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า คือเรื่องของกล้องคู่ AI ที่มีความฉลาดมากขึ้น ทั้งในแง่ของการเลือกซีนในการถ่ายภาพ การปรับสีให้ดูสดใสมากขึ้น แต่ที่สำคัญก็คือผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะเปิดใช้หรือไม่ รวมถึงการเข้าไปใช้งานโหมดถ่ายภาพมืออาชีพ ที่สามารถปรับความไวแสง และความเร็วชัตเตอร์ได้ตามปกติ

หลักๆแล้ว ความโดดเด่นของ Mi 8 ที่แสดงออกมาให้เห็นชัดเจนคือ 2 เรื่องนี้ ส่วนที่เหลือในแง่ของการใช้งานทั่วไป ด้วยการที่มากับ MIUI ที่ใช้งานง่ายอยู่แล้ว มีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ที่ต่อเนื่อง รวมถึงการเชื่อมต่อในระดับไฮเอนด์ รวมๆแล้ว Mi 8 จึงกลายเป็นเครื่องที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับระดับราคา 15,990 – 17,990 บาท

แต่แน่นอนว่า Mi 8 ก็ไม่ใช่เครื่องที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพราะว่าตัวเครื่องยังมีข้อจำกัดหลายๆอย่าง ที่ไฮเอนด์แบรนด์อื่น (ที่มีราคาแพงกว่า) ทำได้ อย่างเรื่องของการเพิ่มไมโครเอสดีการ์ด ตัวเครื่องมาพร้อมกันน้ำกันฝุ่น IP68 ระบบชาร์จไร้สายเป็นต้น

ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานแล้วว่าต้องการฟีเจอร์อื่นๆดังที่กล่าวมาหรือไม่ ถ้าไม่ได้สนใจ Xiaomi Mi 8 ก็เป็นเครื่องรุ่นที่น่าสนใจในระดับราคาต่ำกว่า 18,000 บาท ส่วนถ้าไม่ได้เน้นเรื่องของกล้องคู่ และนวัตกรรมอื่นๆ เน้นความแรงอย่างเดียวทาง Xiaomi ก็จะมีรุ่นอย่าง Poco F1 ที่ใช้ Snapdragon 845 ออกมาทำตลาดในราคาที่ต่ำกว่า

Gallery

รับแรงบันดาลใจมาช่วยออกแบบ

ในแง่ของการออกแบบ Xiaomi Mi 8 เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่มากับแนวคิดจากการออกแบบของ iPhone X ทั้งการที่มากับจอรอยบาก และกล้องหลังคู่ในแนวตั้ง แต่ที่ปรับเปลี่ยนไปคือเรื่องของจอภาพที่ใหญ่ขึ้น และวัสดุที่ใช้ที่เป็นโลหะอลูมิเนียมเงาที่มีสีสันมากขึ้น สำหรับขนาดตัวเครื่องของ Mi 8 อยู่ที่ 154.9 x 74.8 x 7.6 มิลลิเมตร 175 น้ำหนัก

ส่วนของหน้าจอแสดงผลที่ให้มาอยู่ที่ 6.15 นิ้ว ในสัดส่วน 18:9 ความละเอียด Full HD+ (2280 x 1080 พิกเซล) ความละเอียดเม็ดสีอยู่ที่ 402 ppi  โดยจะเป็นหน้าจอแบบเต็มพื้นที่ให้ได้ใช้งาน โดยมีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์วัดแสงอยู่บริเวณรอยบาก

พลิกเครื่องกลับมาด้านหลังจะพบกับกล้องคู่ความละเอียด 12 f/1.8 + 12 f/2.4 ล้านพิกเซล ที่เป็นเลนส์มุมกว้างคู่กับเลนส์เทเล โดยมีไฟแฟลชคู่อยู่ตรงกลาง ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่รองรับการสแกนโดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอ และส่วนล่างเป็นสัญลักษณ์ของ Mi และการรับรองมาตรฐานต่างๆ

รอบเครื่องทางซ้ายจะเป็นถาดใส่ซิมการ์ดที่รองรับ 2 นาโนซิมการ์ด สามารถสแตนบาย 4G ได้ทั้ง 2 ซิมพร้อมกัน ส่วนทางขวาเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มลดเสียง ด้านบนจะมีไมโครโฟนตัดเสียงเท่านั้น ส่วนด้านล่างก็จะเป็นพอร์ต USB-C และช่องลำโพง

สำหรับสเปกภายในของ Xiaomi Mi 8 รุ่นที่ทดสอบคือ Snapdragon 845 ที่เป็น Octa Core 2.4 GHz + 1.8 GHz  Adreno 630 RAM 6 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB แบตเตอรีภายใน 3,400 mAh มาพร้อมแอนดรอยด์ 8.1 และอินเตอร์เฟส MIUI 9.5

ส่วนการเชื่อมต่อในส่วนของ 4G LTE รองรับถึง Cat16 ที่สามารถรวมคลื่นได้ 4 CA ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงสุด 1 Gbps / 150 Mbps ส่วน 3G ก็ตามมาตรฐาน HSPA ที่ 42.2/5.76 Mbps Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac บลูทูธ 5.0 GPS NFC

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น