นอกจากรุ่นใหญ่สเปกแรงอย่าง Xiaomi Mi 6 ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ อีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจของ Xiaomi คงหนีไม่พ้นรุ่นกลางๆ ในช่วงราคาต่ำกว่า 8,000 บาท อย่าง Xiaomi A1 ที่มีความพิเศษอยู่ที่เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับ Android One
จุดเด่นหลักของ Xiaomi A1 คือเป็นสมาร์ทโฟนที่มากับหน้าจอ 5.5 นิ้ว พร้อมกับกล้องหลังคู่ รองรับการใช้งาน 3G/4G ในสเปกระดับกลางๆ ที่สำคัญสุดคือการเป็น Android One ทำให้การันตีได้ว่า จะได้รับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่มาใช้งานแน่นอน
การออกแบบ
ในแง่ของการออกแบบตัว Xiaomi Mi A1 ถือว่าไม่ได้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เพราะยังมากับดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่ายของตัวเครื่อง พร้อมความโค้งของหลังเครื่องเพื่อให้จับใช้งานถนัดมือ โดยวัสดุที่ใช้ก็จะเน้นไปที่ตัวเครื่องอะลูมิเนียม และกระจก โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 155.4 x 75.8 x 7.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 165 กรัม มีให้เลือกด้วยกัน 3 สีคือ ดำ ทอง และชมพู
ด้านหน้า – ไล่จากขอบบนก็จะมีช่องลำโพงสนทนา กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล 1.12μm, f/2 หน้าจอ 5.5 นิ้ว FullHD 1080p 403ppi ส่วนล่างหน้าจอจะมีปุ่มสัมผัสเรียกดูแอปล่าสุด ปุ่มโฮม และย้อนกลับ
ด้านหลัง – ตัวเครื่องจะเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก ทำให้ส่วนของฝาหลังจะมีกล้องคู่หลักเลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล 1.25μm f/2.2 + เลนส์เทเล 12 ล้านพิกเซล 1.0μm f/2.6 ที่มุมบน (ตัวเลนส์กล้องยื่นออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual LED ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สัญลักษณ์ “Mi” ภายในมีแบตเตอรีขนาด 3,000 mAh
ด้านบน – จะมากับเซ็นเซอร์อินฟาเรด (IR) เพื่อใช้ร่วมกับ Mi Remote ในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า และไมโครโฟนตัวที่ 2 ด้านล่าง – จะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ไมโครโฟนสนทนา ช่องเสียบสาย USB-C และลำโพง
ด้านซ้าย – เป็นที่อยู่ของถาดใส่ซิมที่ต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิมออกมา โดยถาดซิมที่ให้มาจะเป็นแบบ Hybrid คือเลือกใส่ระหว่าง 2 นาโนซิมการ์ด หรือ 1 นาโนซิมการ์ด และไมโครเอสดีการ์ด ด้านขวา – เป็นปุ่มเปิด–ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องของ Mi A1 นอกจากตัวเครื่อง ก็จะมีเข็มจิ้มซิม อะเดปเตอร์ และสายชาร์จ USB-C เท่านั้น
สเปก
สำหรับสเปกภายในของ Xiaomi Mi A1 จะมากับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 ที่เป็น Octa Core 2.0 GHz RAM 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่อง 64 GB รองรับไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มสูงสุด 128 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.1.2
ด้านสเปกการเชื่อมต่อเครือข่าย รองรับ 3G/4G ในบ้านเราทั้งหมด โดย 4G (รองรับ VoLTE) จะรองรับความเร็วระดับ Cat6 ดาวน์โหลดสูงสุด 300Mbps 3G รองรับความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 42 Mbps ส่วน WiFi รองรับมาตรฐาน 802.11 b/g/n/ac บลทูธ 4.2
ฟีเจอร์เด่น
จุดเด่นหลักๆของ Mi A1 คือการเป็น Android One หรือการที่เป็นสมาร์ทโฟนที่มากับ Pure Android โดยทางผู้ผลิตอย่าง Xiaomi จะไม่ได้มีการนำอินเตอร์เฟสใดๆมาครอบ เพื่อให้ได้ความเป็นแอนดรอยด์ในการใช้งานมากที่สุด แต่ก็จะมีการนำบันเดิลแอปพลิเคชันบางตัวติดมาให้ใช้งานด้วย
การที่เป็น Pure Android จึงทำให้ Mi A1 ทำงานได้ลื่น โดยรูปแบบการใช้งานก็จะเป็นเหมือนแอนดรอยด์ทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นการมีหน้าหลักมาให้ใช้ สามารถเลือกดูแอปพลิเคชันทั้งหมดได้จากการปาดจากขอบล่างขึ้นมา
ถ้าต้องการเข้าไปดูการแจ้งเตือนต่างๆ ก็สามารถปาดหน้าจอจากขอบบนลงมาได้ รวมถึงการตั้งค่าด่วน ไม่ว่าจะเป็นการเปิด–ปิดการเชื่อมต่อไวไฟ บลูทูธ การหมุนหน้าจอ ปรับความสว่างหน้าจอ ก็สามารถปรับได้จากแถบแจ้งเตือนที่อยู่ส่วนบน
กล้องเป็นอีกจุดเด่นที่น่าสนใจในเครื่องรุ่นนี้ เพราะมากับกล้องคู่เลนส์มุมกว้าง และเลนส์เทเล ทำให้เวลาถ่ายภาพสามารถถ่ายรูปแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายขึ้น หรือถ้าต้องการเก็บรายละเอียดด้วยการซูมภาพ การมีเลนส์เทเลมาให้ก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
สำหรับโหมดกล้องที่มีมาให้เลือกจะเริ่มตั้งแต่การใส่ลายน้ำให้ภาพ เลือกโหมดพาโนราม่า นับเวลาถอยหลัง บันทึกภาพพร้อมเสียง โหมดตั้งค่าเอง โหมดแต่งหน้า ถ่ายกรุ๊ปเซลฟี่ ถ่ายรูปในอัตราส่วน 1:1 เป็นต้น
ในส่วนของการตั้งค่ากล้องก็จะมีให้เลือกพื้นที่เก็บข้อมูล การเปิดเสียงชัตเตอร์ ใส่เวลาในรูป เพิ่มตารางขณะถ่าย เลือกสัดส่วนหน้า การตั้งค่าการตรวจจับใบหน้า แสดงอายุและเพศ ใช้ปุ่มเพิ่มลดเสียงเป็นชัตเตอร์
ขณะเดียวกันแอปพลิเคชันของ Xiaomi ที่ติดตั้งเข้ามาให้และมีความน่าสนใจ ก็จะมีอย่าง Mi Remote ที่สามารถใช้งาน Mi A1 ให้เป็นรีโมทในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ ชุดโฮมเทียเตอร์ เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่สามารถใช้รีโมทควบคุมได้
โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกได้ว่าต้องการใช้งานกับอุปกรณ์ประเภทใด หลังจากนั้นก็เข้าไปเลือกแบรนด์จากตัวเลือกที่มี ก่อนทำการทดลองควบคุมว่าสามารถกดสั่งงานได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็เปลี่ยนรูปแบบสัญญาณที่ส่งไปจนกว่าจะควบคุมได้
หลังจากตั้งค่าเบื้องต้นเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถใช้ Mi A1 ในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทันที อย่างถ้าใช้เป็นรีโมทโทรทัศน์ ก็สามารถเปลี่ยนช่อง ปรับเพิ่มลดเสียง เปลี่ยนที่มาของสัญญาณได้ตามปกติ หรือถ้าใช้ในการควบคุมเครื่องปรับอากาศก็สามารถกำหนดเพิ่มลดอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมได้
รวมถึง Mi Community ที่จะเป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Xiaomi ที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปมีส่วนร่วม เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ และยังมีหน้าให้เข้าไปค้นหาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ การเก็บคะแนนเพื่อแลกของรางวัลในอนาคต่อไปด้วย
สุดท้ายในส่วนของการตั้งค่าก็จะมาแบบที่เป็น Pure Android แบ่งการตั้งค่าการเชื่อมต่อ อุปกรณ์ ส่วนตัว ระบบตามปกติ โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างการใช้นิ้วเลื่อนผ่านเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เพื่อดูการแจ้งเตือน หรือการกดปุ่มเปิดเครื่อง 2 ครั้งเพื่อเข้าโหมดกล้องด่วนมาให้ด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพ
Antutu Benchmark = 63,437 คะแนน
Quadrant Standard = 24,248 คะแนน
Multi-Touch = 10 จุด
Geekbench 4
Single-Core = 860 คะแนน
Multi-Core = 4,287 คะแนน
Compute = 3,166 คะแนน
AndroBench
Sequential Read = 282.59 MB/s
Sequential Write = 209.95 MB/s
Random Read = 51.66 MB/s
Random Write = 15.79 MB/s
3D Mark
Sling Shot Unlimited = 514 คะแนน
Sling Shot Extreme = 463 คะแนน
Sling Shot = 841 คะแนน
Ice Storm Extreme = 8,221 คะแนน
Ice Storm Unlimited = 13,461 คะแนน
Ice Storm = 12,451 คะแนน
PC Mark
Work 2.0 = 4,943 คะแนน
Computer Vision = 2,451 คะแนน
Storage = 3,565 คะแนน
Work = 6,066 คะแนน
PassMark PerformanceTest
System = 5,391 คะแนน
CPU Tests = 114,458 คะแนน
Memory Tests = 6,286 คะแนน
Disk Tests = 47,855 คะแนน
2D Graphics Tests = 3,511 คะแนน
3D Graphics Tests = 1,336 คะแนน
ในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพแบตเตอรี เมื่อลองเปิดเทสผ่าน PCMark จนเหลือแบตเตอรี 20% จะอยู่ได้ราว 9-10 ชั่วโมง ซึ่งถ้าใช้งานต่อเนื่องไปจนถึงแบตหมด น่าจะอยู่ได้ราว 12 ชั่วโมง ทำให้เมื่อเทียบกับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานสบายๆ ส่วนระยะเวลาชาร์จแบตฯจนเต็มจะอยู่ราว 2 ชั่วโมง
สรุป
จากจุดเด่นหลักของ Xiaomi คือสมาร์ทโฟนที่เน้นในแง่ของความคุ้มค่ากับสเปก ประกอบกับการเป็น Android One ทำให้ Mi A1 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจในช่วงระดับราคา 7,990 บาท แม้ว่าในตลาดนี้จะมีแบรนด์จีนหลายๆแบรนด์ทำตลาดอยู่ แต่ก็เป็นช่องว่างที่ไม่มี Android One อยู่ในตลาดนี้
ประกอบกับประสิทธิภาพของตัวเครื่องทีไ่ด้ แม้ว่ากล้องถ่ายภาพที่เป็นกล้องคู่จะไม่ได้ให้คุณภาพที่สูงเทียบเท่ากับรุ่นไฮเอนด์ แต่ก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้เมื่อเทียบกับราคาเครื่องที่จ่ายไป การใช้งานอื่นๆอย่างโซเชียลมีเดีย เล่นเกม หรือใช้งานเพื่อความบันเทิงในชีวิตประจำวันสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด
ทำให้ Xiaomi Mi A1 กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดสมาร์ทโฟนที่กลุ่มผู้ใช้งานแอนดรอยด์ราคาประหยัดต่างกำลังมองหา เพียงแต่ว่าก็จะไม่มีฟีเจอร์แปลกๆพิเศษช่วยเพิ่มแวลูให้กับตัวเครื่องอย่างความโดดเด่นเรื่องของกล้องเซลฟี่ หรือการใช้งานโซเชียลมีเดีย 2 บัญชีในเครื่องเดียว