Review : Xiaomi Mi Robot Vacuum หุ่นยนต์ดูดฝุ่น สั่งงานผ่านมือถือ

10213

ตลาดอุปกรณ์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นภายในบ้าน นอกจากผู้ผลิตรายหลักอย่าง iRobot แล้ว เราก็จะเริ่มเห็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Philips Samsung LG มีการนำสินค้าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น และล่าสุด Xiaomi ก็เริ่มนำหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Mi Ecosystems เพื่อทำตลาดในประเทศไทยแล้ว

จุดเด่นหลักของ Mi Robot Vacuum คือเรื่องของความฉลาดที่ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น จะมีการใช้เลเซอร์ในการช่วยวัดระยะ และสร้างแผนที่จำลองขึ้นมา ก่อนที่จะคำนวนหาเส้นทางในการทำความสะอาด โดยผู้ใช้สามารถควบคุมได้ผ่านแอปบนสมาร์ทโฟนทุกที่ทุกเวลา แม้ไม่ได้อยู่บ้านก็ตาม

ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายของ Mi Robot Vacuum จะอยู่ที่ 12,990 บาท

ข้อดี

มีระบบสแกนพื้นที่ เพื่อทำความสะอาดให้รอบบริเวณ
เชื่อมต่อกับไวไฟ และควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
ตั้งเวลา / สั่งให้ทำความสะอาดเวลาไม่อยู่บ้านได้

ข้อสังเกต

ไม่สามารถใช้งานบริเวณพื้นผิวต่างระดับได้
ถ้าไม่ต้องการให้เข้าไปบางจุด ไม่สามารถกำหนดในแอปได้ ต้องหาอะไรมาวางกั้

เชื่อมต่อเครือข่าย สั่งงานผ่านมือถือ

ด้วยการที่ Mi Robot Vacuum เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่อยู่ใน Mi Ecosystems ดังนั้นในการใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพผู้ใช้ควรที่จะทำการเชื่อมต่อหุ่นยนต์ทำความสะอาดเข้ากับเครือข่ายไวไฟภายในบ้าน เพื่อให้สามารถควบคุมได้ง่ายที่สุด

โดยอุปกรณ์ที่มาในกล่องของ Mi Robot Vacuum นอกจากตัวเครื่องดูดฝุ่น แล้วก็จะมีแท่นชาร์จ และแปรงทำความสะอาดมาให้เท่านั้น ไม่ได้มีรีโมทมาใช้ควบคุม หรืออุปกรณ์อื่นๆมาให้แต่อย่างใด

เมื่อแกะจากกล่องออกมา ทำวางลงที่พื้น เริ่มแรกเลยคือการเชื่อมต่อเข้ากับไวไฟภายในบ้าน ด้วยการเปิดเครื่อง ทำการกดปุ่มเปิดเครื่องพร้อมปุ่มโฮม (สัญลักษณ์รูปบ้าน) พร้อมกันค้างไว้เพื่อเปิดให้ตัวเครื่องเข้าสู่โหมดเชื่อมต่อ

ขณะเดียวกันในมือถือก็เปิดแอปพลิเคชัน Mi ขึ้นมา ทำการเลือกเพิ่มอุปกรณ์เข้าไป โดยให้เลือก Mi Robot Vacuum ตัวแอปจะให้ทำการเชื่อมต่อเข้ากับไวไฟของหุ่นยนต์ทำความสะอาด เพื่อให้เข้าไปตั้งค่าเชื่อมต่อกับไวไฟในบ้านอีกครั้ง

หลังจากนั้น ก็สามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นนี้ อยู่ที่ห้องใดภายในบ้าน เพื่อที่ในกรณีที่มีหลายตัว ใช้งานในหลายๆ ห้องจะได้สามารถแยกสั่งงานกันได้ด้วย เมื่อเลือกห้องเสร็จก็ทำการตั้งชื่อให้เรียบร้อย

ส่วนแท่นชาร์จก็สามารถนำไปเสียบปลั้กวางไว้ในบริเวณที่ Mi Robot Vacuum เข้าถึงได้ หลังกดสั่งงานผ่านแอปให้เข้าไปหาแท่นชาร์จ (Dock) ได้ โดยไม่ต้องยกไปลากชาร์จในครั้งแรก เพราะตัวหุ่นยนต์สามารถสแกนหาได้เอง

เลือก 3 โหมดในการทำความสะอาด

ในการสั่งให้หุ่นยนต์เริ่มดูดฝุ่น ผู้ใช้สามารถกดปุ่ม Clean จากหน้าจอแอปพลิเคชันได้เลย หลังจากนั้นก็สามารถกดเลือกได้ว่าจะให้ทำงานในโหมดปกติ (Normal) โหมดความแรงสูง (Turbo) หรือโหมดเงียบ (Silent) ในกรณีที่ทำความสะอาดอยู่แล้วต้องการให้หยุดก็สามารถสั่งหยุดชั่วคราว (Pause) หรือจะกดให้เครื่องกลับไปหาแท่นชาร์จ (Dock) ก็กดได้ทันที

ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่ Mi Robot Vacuum นำมาใช้เพื่อสแกนหาพื้นที่ในการทำความสะอาดคือใช้กลไกการทำงานของ LDS (Laser Distance Sensor) และ SLAM (Simultaneous Lacalization and Mapping)

ที่ช่วยให้ Mi Robot Vacuum สร้างแผนที่ของห้องขึ้นมา ก่อนทำการคำนวณหาเส้นทางในการทำความสะอาด โดยจะเป็นการสแกนแบบ 360 องศา ราว 1,800 ครั้งในแต่การสแกน โดยเมื่อสังเกตถึงการทำแผนที่ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะเริ่มจากเริ่มไล่ทำความสะอาดจากริมกำแพงก่อนเข้ามาทำความสะอาดบริเวณกลางห้อง

เมื่อทำความสะอาดเสร็จ ก็จะกลับเข้าสู่แม่นชาร์จในทันที เพื่อสแตนบายในการทำความสะอาดครั้งต่อไป ในจุดนี้ ผู้ใช้สามารถเปิดฝาขึ้นมา เพื่อถอดกล่องที่อยู่ภายในเพื่อนำฝุ่นผง ไปเททิ้ง และทำความสะอาดได้ตลอดเวลา

แน่นอนว่าในการใช้งานจริง หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาดก็ยังมีข้อจำกัดหลังๆอยู่ในเรื่องของพื้นต่างระดับ ประกอบกับ Mi Robot Vacuum ไม่สามารถสั่งจำกัดบริเวณได้จากในแอปได้ ทำให้เวลาใช้งาน ต้องมีการกั้นพื้นที่ในระดับนึงก่อนเปิดใช้งาน รวมถึงข้อจำกัดเดิมๆ เรื่องกรณีที่พื้นมีน้ำขัง อย่างทำน้ำหกก็อาจเกิดปัญหาในการใช้งานได้

Gallery

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น