เอชพี – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Mon, 12 Oct 2020 12:14:45 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : HP Envy x360 ขุมพลัง AMD ที่มายกระดับมาตรฐานโน้ตบุ๊กสมัยใหม่ https://cyberbiz.mgronline.com/review-hp-envy-x360-2020/ Mon, 12 Oct 2020 12:11:32 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=33881

ด้วยรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายของ HP Envy x360 ทำให้ปัจจุบัน โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ ถือเป็นหนึ่งในรุ่นเด่นของ เอชพี ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงาน นักธุรกิจ จนถึงผู้บริหาร ที่ต้องการความคล่องตัว และประสิทธภาพในการใช้งาน

จุดเด่นของ HP Envy x360 คือการที่มากับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ตัวเครื่องสามารถหมุนหน้าจอเพื่อใช้งานแทนแท็บเล็ตได้ น้ำหนักเบา พกพาง่าย และที่สำคัญเมื่อจับคู่กับซีพียูจาก AMD Ryzen 7 ทำให้ได้โน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพสูง และใช้งานได้ยาวนานด้วย

ขณะเดียวกันในเรื่องของความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว HP ได้มีการนำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello และยังมีม่านชัตเตอร์ปิดกล้องเว็บแคม และฟีเจอร์ที่ลดการมองเห็นจากด้านข้าง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วย

ข้อดี

  • ตัวเครื่องเล็ก พกพาง่าย
  • ปรับโหมดใช้งานได้ทั้งเป็นโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต
  • ประสิทธิภาพสูงจาก AMD Ryzen 7

ข้อสังเกต

  • ไม่มีพอร์ต HDMI / LAN ต้องใช้งานร่วมกับอะเดปเตอร์แทน
  • ด้วยการที่ตัวเครื่องบาง ทำให้บริเวณจอยวบๆ เวลาจับถือตัวเครื่อง

ยกระดับคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ก

ตั้งแต่ HP Envy x360 ออกมาสู่ตลาดในระดับราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึง 3 หมื่นบาท จากการนำหน่วยประมวลผลของ AMD Ryzen มาใช้งาน ทำให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมโน้ตบุ๊ก ในช่วงระดับราคาใกล้เคียงกันให้โดดเด่นมากขึ้น

โดยปัจจุบัน ถ้าเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา อาจจะเริ่มต้นมองหาโน้ตบุ๊กในระดับราคาประมาณ 2 หมื่นบาท เพื่อให้รองรับการใช้งานระหว่างเรียน และในช่วงเริ่มต้นทำงาน ทำให้อาจจะได้เครื่องที่มีขนาดค่อนข้างหนา เน้นเรื่องประมวลผลเป็นหลัก

แต่จริงๆ แล้วช่วงระดับราคาที่เหมาะสมสำหรับการเลือกซื้อโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง ดีไซน์สวย นั้นจะขยับขึ้นมาอยู่ในช่วงราคา 3 หมื่นบาท ที่จะได้ทั้งโน้ตบุ๊กที่รองรับการทำงานในระยะยาว และมีดีไซน์ท่ีเหมาะสม พกพาง่าย เพิ่มเติมด้วยรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

อย่าง HP Envy x360 ที่ถูกออกแบบมาให้หมุนหน้าจอได้ 360 องศา หน้าจอสัมผัส ทำให้นอกจากใช้งานในลักษณะของโน้ตบุ๊กทั่วไปแล้ว ยังสามารถหมุนพับหน้าจอกลับมาเป็นแท็บเล็ต หรือกางหน้าจอเพื่อใช้พรีเซ็นต์งาน หรือไว้ใช้เพื่อความบันเทิงก็ได้ด้วย

ด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้ HP Envy x360 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในระดับราคานี้ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มนักธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องพกพาโน้ตบุ๊กติดตัวไปใช้งานได้ตลอดเวลา สอดคล้องกับการทำงานยุคใหม่ที่เกิดขึ้น คือพนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีวิดีโอคอลล์รองรับ

หรือในกรณีที่ต้องการแปลงโน้ตบุ๊กให้กลายเป็นแท็บเล็ตเพื่อจดบันทึก HP Envy x360 ก็มาพร้อมกับปากกา HP Rechargeable MPP 2.0 Tilt Pen ที่ให้ความแม่นยำในการสัมผัสถึง 4096 ระดับ มีปุ่มคำสั่งให้เลือกตั้งค่าเพิ่มเติมได้ และที่สำคัญคือสามารถชาร์จแบตเตอรีเพื่อใช้งานได้ต่อเนื่อง 30 วัน

เสริมฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัว

เมื่อรูปแบบการทำงานจากนอกสถานที่ กลายเป็นพฤติกรรมใหม่ของผู้ใช้ ทำให้ทาง HP มีการเสริมฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยปกป้องการใช้งานของผู้ใช้ที่น่าสนใจในเครื่องรุ่นีนี้ ตั้งแต่เรื่องการล็อกอินใช้งาน จนถึงการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

โดยในเครื่อง HP Envy x360 มีการนำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาใช้งานร่วมกับ Windows Hello ทำให้สามารถใช้การสแกนนิ้วเพื่อล็อกอินใช้งานเครื่องได้ทันที หรือจะเลือกใช้การปลดล็อกด้วยการตรวจจับใบหน้าก็ได้เช่นเดียวกัน

ถัดมาคือการเพิ่มปุ่มลัดสำหรับตัดการทำงานของไมโครโฟน และกล้องเว็บแคม โดยเมื่อปิดการทำงานแล้วจะมีไฟสถานะสีส้มขึ้นแจ้งไว้ ที่ตัวกล้องจะมีม่านชัตเตอร์มาบังไว้ทันที ทำให้ไม่ต้องกังวล หรือหาสติกเกอร์มาปิดกล้องอีกต่อไป

อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ HP Sure View ที่จะปรับการแสดงผลของหน้าจอให้มองเนื้่อหาบนหน้าจอจากด้านข้างได้ยากขึ้น เพื่อป้องกันผู้ที่นั่งอยู่ใกล้เคียงเห็นหน้าจอ ทำให้สามารถทำงานสำคัญๆ ในพื้นที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของ HP Sure View ก็คือเมื่อเปิดใช้งานความสว่างของหน้าจอจดลดลงเล็กน้อย ทำให้ถ้าใช้งานในที่แสงจ้า อาจจะต้องปรับมุมมองของหน้าจอให้เข้ากับใบหน้าตรงๆ ถึงจะเห็นหน้าจอชัดเจน 

นอกจากนี้ HP ยังได้มีการใส่ปุ่มลัด HP Command Center มาให้กดใช้งานเพื่อปรับโหมดการทำงานของตัวเครื่องด้วย อย่างการเร่งประสิทธิภาพสูงที่สุด เพิ่มการทำงานของพัดลมระบายอากาศเพื่อให้เครื่องเย็นที่สุด และปรับความแรงของพัดลมให้เครื่องเงียบที่สุดเป็นต้น

ความพิเศษของเครื่องรุ่นนี้คือมากับ Microsoft Office Home & Student ทำให้ผู้ซื้อเครื่องสามารถใช้งาน Microsoft Office ได้ฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย

สเปก

สำหรับ HP Envy x360 มากับหน่วยประมวลผล AMD Ryzen 7 4700U ที่เป็นซีพียู 8 คอร์ให้ความเร็ว 2 GHz และสามารถเร่งความเร็วขึ้นไปถึง 4.1 GHz RAM 8 GB SSD 512 GB ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home

ทดสอบประสิทธิภาพ

ในส่วนของการใช้งานด้วยการที่ HP Envy x360 ที่มีรูปแบบการใช้งานหลากหลายนั้น ถือว่า Ryzen 7 นั้นถือว่าเอาอยู่ โดยเฉพาะลักษณะการทำงานแบบออฟฟิศ ที่เน้นการใช้งานนอกสถานที่ ใช้จดบันทึก แก้ไขข้อมูลต่างๆ ได้

โดยจุดเด่นของ Ryzen 7 ช่วยให้การใช้งาน HP Envy X360 สามารถใช้งานได้ตลอดวัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานอย่างถ้าเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุดใช้งานจะใช้ได้ราว 6 ชั่วโมง ถ้าปรับความสว่างหน้าจอลงเหลือ 50% ก็จะใช้งานได้มากกว่า 10 ชั่วโมง

ส่วนผลการทดสอบจากทั้ง Geekbench PCMark 10 และ 3D Mark ได้จากภาพด้านล่าง

สรุป

ถ้าใครกำลังมองหาโน้ตบุ๊กสเปกดี รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ในระดับราคา 3 หมื่นบาท เชื่อว่า HP Envy x360 จะกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ในช่วงระดับราคานี้ทันที เพราะนอกจากประสิทธิภาพการใช้งานที่ครอบถ้วนรอบด้านแล้ว ยังมากับ Windows 10 และ Microsoft Office ให้ใช้งานกันด้วย

นอกจากนี้ ในกล่องยังมีอุปกรณ์อย่างอะเดปเตอร์แปลงพอร์ต USB-C เพื่อต่อกับจอ HDMI และพอร์ต USB Type-A มาให้ กับปากกา ทำให้ตัวเครื่องบางๆ นี้ ยังมีพอร์ตให้ใช้ครบครัน ในราคา 32,990 บาท

Gallery

]]>
Review : HP EliteDisplay 23.8″ จอพร้อม Docking ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำงาน https://cyberbiz.mgronline.com/review-hp-elitedisplay/ Wed, 31 Jul 2019 04:36:10 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=31035 ในยุคของการทำงานแบบ Mobility อุปกรณ์ในการทำงานที่ใช้ในแต่ละวันอาจจะมีรูปแบบที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่ทำงานร่วมกับเดสก์ท็อปเครื่องใหญ่ๆ กลายมาเป็นโน้ตบุ๊กเครื่องบางเบา ไปจนถึงการพกพาสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ในการทำงานแทน

ดังนั้นส่วนประกอบที่เลือกนำมาใช้งานบนโต๊ะทำงาน จากเดิมอาจจะใช้เป็นพีซีเครื่องใหญ่ๆ คู่กับจอ หรือถ้าเป็นออฟฟิศสมัยใหม่อาจจะเลือกใช้พีซีเครื่องเล็กๆ เพื่อใช้งาน ก็อาจจะเปลี่ยนรูปแบบไป

เอชพี เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มองเห็นช่องว่างตรงนี้ และเริ่มนำผลิตภัณฑ์จอภาพรุ่นใหม่อย่าง EliteDisplay เข้ามาทำตลาด โดยชูจุดเด่นที่ไม่ใช่เป็นแค่จอภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็น Docking เพื่อใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆได้

ข้อดี

  • จอภาพพร้อม Docking ที่ให้พอร์ตมาครบ
  • รองรับการหมุนหน้าจอเพื่อใช้งานหลายๆรูปแบบ
  • USB-C พ่วงกับโน้ตบุ๊กทีเดียวจบ

ข้อสังเกต

  • ความละเอียดของหน้าจอ ยังอยู่ที่ Full HD
  • ฐานจอยังค่อนข้างกินพื้นที่ เมื่อเทียบกับจอสมัยใหม่

จอที่พร้อมวางไว้ต่อกับอุปกรณ์ทำงาน

ด้วยการที่ HP EliteDisplay เป็นจอมอนิเตอร์ที่ออกแบบมาให้เป็น Docking ภายในตัว ดังนั้นความสามารถโดยรวมของจอรุ่นนี้จึงถูกออกแบบมาให้ครบ สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน

แน่นอนว่าด้วยพื้นฐานของ HP EliteDisplay อาจจะถูกออกแบบมาเพื่อเป็นจอมอนิเตอร์สำหรับต่อพ่วงกับโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ของเอชพี ที่เน้นตัวเครื่องบาง เบา มากับพอร์ตแบบ USB-C ที่ทำให้มีช่องเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊กจำกัด

เมื่อนำโน้ตบุ๊กมาเชื่อมต่อกับมอนิเตอร์ ก็จะได้พื้นที่ในการทำงานบนหน้าจอเพิ่มขึ้น สามารถใช้เป็นจอเสริมคู่กับโน้ตบุ๊ก หรือจะเลือกใช้งานเป็นจอหลักแทนก็ได้ แต่ความน่าสนใจจริงๆของ HP EliteDisplay ไม่ได้อยู่แค่ที่การแสดงผล แต่อยู่ที่พอร์ตเชื่อมต่อที่รองรับได้หลากหลาย

ตัวจอ HP EliteDisplay นอกเหนือจากช่องที่ใช้เชื่อมต่อหลักกับโน้ตบุ๊กอย่างพอร์ต USB-C และช่องต่อสายชาร์จแล้ว ถือว่าให้มาค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็น USB 4 พอร์ต ช่องเสียบหูฟัง HDMI (ต่อจอเพิ่มได้) ช่องเสียบสาย LAN และช่องต่อลำโพง

โดยตัวหน้าจอจะมากับขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD ซึ่งมีขอบจอ 3 ด้านที่บางมากๆ (3 Sided Micro-edge bezel) ที่มากับขาตั้งแบบที่สามารถปรับระดับความสูงได้ (เลื่อนจอขึ้น-ลง) หมุนซ้าย-ขวา ไปจนถึงหมุนจอเพื่อให้เป็นโหมดแนวตั้งแทนก็ทำได้

ลองนึกภาพว่าบนโต๊ะที่ทำงาน แค่นำโน้ตบุ๊กที่ใช้ประจำมาเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์ เชื่อมต่อกับเมาส์ และคีย์บอร์ด (ทั้งผ่านสาย USB หรือบลูทูธก็ตาม) ก็จะได้พื้นที่ในการทำงานบนหน้าจอที่กว้างขึ้น และช่วยให้สะดวกมากขึ้นด้วย

รองรับทุกดีไวซ์

ในมุมของเอชพี อาจจะนำเสนอแค่การที่จอมอนิเตอร์รองรับการเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊กที่รันบนวินโดวส์ 10 แต่จริงๆแล้ว HP EliteDisplay กลับรองรับการทำงานของทุกๆ อุปกรณ์ จากพื้นฐานที่ใช้งานกันคือพีซีบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์

HP EliteDisplay สามารถเชื่อมต่อกับ MacBook ผ่านพอร์ต USB-C เพื่อใช้งานเป็นจอภาพพร้อมมอนิเตอร์ และสายชาร์จไปได้ในตัว (เอชพีระบุว่าชาร์จไฟผ่าน USB-C ได้ 65w ซึ่งแรงกว่าอะเดปเตอร์ของ MacBook Air อีก)

แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะมอนิเตอร์รุ่นนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับ iPad Pro (ผ่านพอร์ต USB-C เช่นกัน) แท็บเล็ต Android หรือแม้แต่สมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ๆ ที่มีโหมดการทำงานร่วมกับจอภาพแยกออกมาได้

อย่างที่ทีมงานลองเชื่อมต่อกับ Samsung Galaxy S10+ เพื่อใช้งาน Samsung DeX ตัวจอ HP EliteDisplay ก็รองรับการใช้งานได้ครบถ้วน เมื่อต่อกับคีย์บอร์ด และเมาส์ ก็สามารถใช้งานทดแทนพีซีได้ทันที

สรุป

ด้วยการที่ เอชพี ตั้งราคาจำหน่ายของ HP EliteDisplay E243d 23.8 นิ้ว จะอยู่ที่ 11,390 บาท ทำให้อาจจะมองว่าราคาค่อนข้างสูงไปสักนิด เมื่อเทียบกับหน้าจอความละเอียด Full HD ขนาดนี้ แต่อย่าลืมว่ามอนิเตอร์รุ่นนี้เป็น Docking ภายในตัว

ดังนั้นความสามารถที่ได้จากการใช้งานจึงอยู่ในระดับที่คุ้มค่า สำหรับกลุ่มนักธุรกิจ หรือการนำไปใช้งานในออฟฟิศสมัยใหม่ ที่อุปกรณ์หลักของพนักงานคือโน้ตบุ๊กที่พกพาได้ง่ายๆ พอมานั่งทำงานที่โต๊ะก็สามารถเชื่อมต่อกับ HP EliteDisplay เพื่อทำงานได้สะดวกขึ้น

]]>