Jabra – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Sat, 18 Feb 2017 07:51:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : Jabra Elite Sport หูฟังไร้สายเพื่อคนรักสุขภาพ วัดหัวใจได้ https://cyberbiz.mgronline.com/review-jabra-elite-sport/ Sat, 18 Feb 2017 07:25:09 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=25336

IMG_0975

Jabra (จาบร้า) ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตหูฟังไร้สายจากเดนมาร์ก ซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยยังเป็นหูฟังบลูทูธสำหรับใช้สนทนาโทรศัพท์ จนปัจจุบัน Jabra แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกมาจับกลุ่มที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพที่กำลังอยู่ในกระแสตอนนี้

โดย “Jabra Elite Sport” เป็นหูฟังไร้สายในกลุ่ม Wireless sport headphones ตัวใหม่ล่าสุดที่นอกจากขนาดที่เล็กกว่าหูฟังไร้สายทุกรุ่นในกลุ่มแล้ว เรื่องของเสียงและฟีเจอร์เพื่อคนรักสุขภาพก็จัดอยู่ในระดับไฮเอนด์เลยทีเดียว

การออกแบบและสเปก

IMG_0979

IMG_0982

Jabra Elite Sport เป็นหูฟังไร้สายแบบ in-ear ใช้การเชื่อมต่อผ่านสัญญาณบลูทูธ 4.1 รองรับทั้ง iOS และ Android

โดยตัวหูฟังจะถูกเก็บอยู่ในกล่องที่เป็นทั้งกล่องใส่และที่ชาร์จแบตเตอรี หูฟังสามารถใช้งานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง เมื่อไฟหมดสามารถนำมาใส่กล่องเพื่อชาร์จไฟได้มากสุด 2 ครั้ง หรือคิดเป็นเวลาใช้งานทั้งหมดประมาณ 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นต้องนำกล่องไปเชื่อมต่อกับสาย MicroUSB เพื่อชาร์จไฟจากภายนอก (ไม่มีอแดปเตอร์ชาร์จไฟมาให้ แต่สามารถใช้ร่วมกับอแดปเตอร์สมาร์ทโฟน, Power Bank, หรือเชื่อมต่อโดยตรงกับคอมพิวเตอร์ก็ได้)

IMG_0983

IMG_0989

มาดูตัวหูฟัง มองภาพรวมจะเหมือนกับ Apple AirPods ทั้งรูปแบบการใช้งานและแนวคิดการออกแบบ เพียงแต่ Jabra Elite Sport จะเน้นจับกลุ่มคนออกกำลังกายเป็นหลัก ทำให้วัสดุครอบตัวหูฟังทั้งหมดจะผลิตจากยาง ป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IP67 สามารถลงน้ำลึก 1 เมตรได้

IMG_0992

นอกจากนั้นตัวหูฟังยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ภายในมากมาย เริ่มตั้งแต่ Tri-axis accelerometer รองรับการตรวจจับการเคลื่อนไหว (TrackFit Motion) สำหรับการวิ่งหรือเดินออกกำลังกาย

in-ear heart rate monitor หรือเซ็นเซอร์ตรวจวัดหัวใจ ก็ได้ถูกติดตั้งมากับตัวหูฟังเพื่อใช้ตรวจวัดชีพจรระหว่างออกกำลังกายด้วยเช่นกัน

IMG_0978

มาถึงส่วนหูฟัง Earbuds (EarGels) และ EarWings สามารถเปลี่ยนได้ 3 ขนาด S/M/L มีให้เลือกทั้งเป็นซิลิโคนและโฟม ส่วนสเปกด้านเสียงจะมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Passive noise cancelation ด้วย

hearthrough

ส่วนไมโครโฟนรับเสียงสำหรับสนทนาโทรศัพท์ นอกจากมาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (Advanced noise cancellation technology) จาบร้ายังได้ใส่ฟังก์ชันพิเศษ “HearThrough” มาให้ด้วย

HearThrough จะเป็นการแก้ปัญหาหูฟัง in-ear ที่เมื่อใส่ฟังเพลงวิ่งบนถนน ผู้ใช้มักไม่ได้ยินเสียงรถที่วิ่งอยู่ข้างหลังหรือสัญญาณเตือนต่างๆ แต่เมื่อเราเปิดใช้โหมดนี้ ไมโครโฟนจะรับเสียงรอบตัวเข้ามาที่หูฟัง ทำให้เราได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมขณะสวมใส่หูฟังได้

การเชื่อมต่อและใช้งาน

jelitesp-app-1

jelitesp-app-2

การเชื่อมต่อ Jabra Elite Sport สามารถทำผ่านบลูทูธได้ตามปกติ โดยเมื่อเชื่อมต่อเสร็จสิ้นแล้ว สำหรับ iOS จะแสดงสถานะแบตเตอรีทั้งบนแถบสถานะด้านบนและในส่วน Battery บน Notifications แบบเดียวกับ Apple AirPods

ส่วนการใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน “Jabra Sport Life” (มีให้ดาวน์โหลดบน iOS และ Android) เพิ่มเติม

jelitesp-app-3

โดยภายในแอปฯ Jabra Sport Life จะเน้นเรื่องการใช้เซ็นเซอร์จากหูฟังตรวจจับการออกกำลังกาย ตั้งแต่วัดอัตราการเต้นของหัวใจพร้อมบอกโซน VO2 Max สามารถตั้งโปรแกรมออกกำลังกาย ตรวจจับการวิ่ง บอกระยะทางแคลอรี่ที่เผาผลาญไปได้

และที่สำคัญ Jabra Sport Life ยังมาพร้อม Real Time audio coaching โดยระบบจะพูดบอกระยะทาง อัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เราไม่ต้องคอยดูหน้าจอโทรศัพท์ขณะออกกำลังกาย

jelitesp-button

ส่วนปุ่มคำสั่งที่ตัวหูฟัง (ใช้การกดลงไป) เริ่มจากหูซ้ายจะเป็นปุ่ม +/- เพิ่มลดระดับเสียง หูขวา ปุ่มบนเป็น Sport Button

โดยกด 1 ครั้งจะเรียกแอปฯ Jabra Sport Life
กดค้างไว้ จะเป็นการเริ่มออกกำลังกาย (Workout) และระหว่างโหมด Workout ทำงานกดค้างไว้ 1 วินาทีจะเป็นการหยุดชั่วคราวและกดค้างไว้อีก 1 วินาทีจะเป็นการเริ่ม Workout ต่อ

ส่วนการควบคุมการเล่นเพลง รับและวางสายโทรศัพท์สามารถกดปุ่มคำสั่งด้านล่าง (วงกลม) ส่วนการเล่นเพลงถัดไปหรือก่อนหน้า ต้องกดปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงค้างไว้ 1 วินาที และสุดท้ายการเปิดปิดโหมด Hearthrough ให้กดปุ่มวงกลม (หูขวา) 2 ครั้งติดกัน

ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป

IMG_0995

การทดสอบประสิทธิภาพเรื่องเสียง ถ้าเทียบกับ Apple AirPods ที่มีราคาใกล้ๆกันและรูปแบบใช้งานไม่ต่างกัน (Jabra Elite Sport ราคา 9,700 บาท AirPods ราคา 6,900 บาท) ต้องกล่าวว่าคุณภาพเสียงที่ได้ใกล้เคียงกันมาก (คุณภาพเสียงกลางๆไม่ได้เด่นไปทางใดทางหนึ่ง) แต่ AirPods จะให้เวทีเสียงที่กว้างกว่า Jabra Elite Sport นอกนั้นแทบไม่แตกต่างกันแต่อย่างใด

ด้านการสวมใส่ทำได้กระชับดี แต่เรื่องน้ำหนักและความสบายเมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน ถือว่าทำได้กลางๆเท่านั้น ยิ่งเมื่อเทียบกับ AirPods ที่ขึ้นชื่อเรื่อเบามากแล้ว Elite Sport จะใส่แล้วอึดอัดกว่า อีกทั้งแบตเตอรีของตัวหูฟังสำหรับใช้งานต่อเนื่องทำได้เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น

ในส่วนฟังก์ชัน HearThrough ถือว่าทำได้ดี คุณสามารถฟังเสียงสภาพแวดล้อมพร้อมกับฟังเพลงได้ และถือเป็นฟังก์ชันเด่นที่ควรเปิดใช้เมื่อคุณอยากวิ่งออกกำลังกายบนท้องถนน เพราะระบบนี้ช่วยให้คุณได้ยินเสียงรอบตัวทั้งหมด

สุดท้ายเรื่องการใช้งาน สำหรับ Jabra Elite Sport เกิดมาเพื่อเป็นหูฟังไร้สายสำหรับคนชอบออกกำลังกายอย่างมาก เพราะนอกจากไม่มีสายไฟให้เกะกะคอและมาพร้อมเซ็นเซอร์ต่างๆมากมายแล้ว เรื่องการใช้งานแบบลุยน้ำ ลุยฝนรวมทั้งเหงื่อก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม พร้อมประกัน 3 ปีด้วย

ข้อดี

– กันน้ำ (Waterproof) ตามมาตรฐาน IP67
– ฟังก์ชันตอบสนองคนชอบออกกำลังกายอย่างดี โดยเฉพาะเซ็นเซอร์วัดหัวใจทำงานได้แม่นยำและอ่านค่ารวดเร็ว
– หูฟังใส่แล้วกระชับ ไม่หลุดร่วงง่ายเพราะมี EarWings ช่วย
– เคสเป็นทั้งที่เก็บหูฟังและชาร์จไฟ

ข้อสังเกต

– ปุ่มคำสั่งที่หูฟังต้องใช้แรงกดค่อนข้างมากและการกดเพื่อสั่งงานค่อนข้างซับซ้อนต้องอาศัยการเรียนรู้และจดจำก่อนใช้งานพอสมควร
– คุณภาพเสียงกลางๆ

Gallery

]]>
Review : Jabra Eclipse หูฟังบลูทูธหรู มีระดับ https://cyberbiz.mgronline.com/review-jabra-eclipse/ Mon, 08 Aug 2016 07:17:54 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=22985

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีหูฟังที่ไปไกลถึงการชาร์จไร้สายพร้อมการควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ทำให้หูฟังรุ่นใหม่ซึ่งมาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่นอย่าง Jabra Eclipse ที่ให้พลังเสียงสมจริง พร้อมการควบคุมและสั่งการขั้นสูงผ่านแอปพลิเคชั่นอย่างลงตัว ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

ความโดดเด่นของ Jabra Eclipse ที่นอกจากการออกแบบที่สวยหรูและแข็งแรงแล้ว ยังสามารถทำงานควบคู่กับแท่นชาร์จทรงกลมที่ฝังการเชื่อมต่อและควบคุมการเชื่อมต่อบางส่วนระหว่างเครื่องและสมาร์ทโฟนได้อย่างลงตัว และที่สำคัญคุณภาพของเสียงระดับ HD Voice ซึ่งให้ความคมชัดและมิติของเสียงจริงได้อย่างชัดเจน ช่วยตอบสนองการใช้งานในหลากหลายรูปแบบของชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี

การออกแบบ

001

Jabra Eclipse ออกแบบมาให้ไร้ปุ่มกดโดยการปรับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตัวเครื่องใช้การปัดนิ้วขึ้นลงแบบสัมผัส ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพ น้ำหนักเบาเพียง 5.5 กรัม สอดรับกับสรีระโครงสร้างหูหลายรูปแบบ อีกทั้งยางรอบลำโพงมีความนิ่มในระดับที่น่าพอใจ ช่วยให้สวมใส่สบาย ไม่เจ็บหู แม้จะฟังเพลงหรือสนทนาเป็นระยะเวลานาน

002

ขณะที่ตัวตลับ ออกแบบมาให้เป็นทรงกลม พร้อมแม่เหล็กในตำแหน่งการวางหูฟังเพื่อช่วยให้วางลงล็อกได้อย่างรวดเร็ว ตัวตลับทำจากยางทั้งชิ้น พร้อมปุ่มกดด้านล่างสำหรับกดเพื่อเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นกับหูฟังผ่านระบบบลูทูธ นอกจากนั้นยังมีช่องต่อ ไมโครยูเอสบี เพื่อเชื่อมต่อสายชาร์จไฟ

003

การทำงานของตัวเครื่องจะเปิดระบบเมื่อทำการดึงส่วนของหูฟังออกจากตลับ ไฟสีเขียวจะแสดงขึ้นเป็นอันว่าเครื่องได้เปิดขึ้นแล้ว ขณะที่การปิดก็สามารถทำสวนทางกันโดยวางกลับเข้าสู่ตลับระบบก็จะเข้าสู่โหมดสแตนบายเพื่อประหยัดพลังงานทันที

004

ตัวเครื่องมาพร้อมลำโพงคุณภาพสูง ที่ช่วยถ่ายทอดพลังเสียงระดับ HD Voice พร้อมผสานการตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Advanced Noise Blackout แบบ 2 ไมโครโฟน ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดสมจริงให้กับทั้งเสียงสนทนา เสียงดนตรี รวมทั้งเสียงเซอร์ราวด์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

005

Jabra Eclipse มีน้ำหนักของตัวหูฟังเพียง 5.5 กรัม ขณะที่ตลับชาร์จมีน้ำหนักเพียง 35 กรัม ช่วยให้สะดวกในการพกพาไปในทุกที่ที่ต้องเดินทาง สามารถสนทนาได้กว่า 3 ชั่วโมง ฟังเพลงได้กว่า 7 ชั่วโมง และสแตนบายได้นานกว่า 3 วัน รองรับการจับคู่เชื่อมต่อแบบ NFC ช่วยค้นหาแอปพลิเคชั่นด้วยการสัมผัส รองรับการเล่นเพลงผ่านเครื่องสมาร์ทโฟน พร้อมระบบการสั่งงานด้วยเสียง เช่นการตรวจสถานะแบตเตอรี่ การจับคู่อุปกรณ์หรือเชื่อมต่อ สามารถทำงานร่วมกับระบบบลูทูธในหลากหลายอุปกรณ์ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีดำ โดยวางจำหน่ายที่ราคา 4,490 บาท

สเปก

  • ระบบปรับเสียงอัตโนมัติ
  • ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น jabra assist
  • ระบบแจ้งเตือนชื่อหรือหมายเลขโทรเข้าด้วยเสียง
  • Noise blackout HD ลดเสียงรบกวนด้วยไมค์โครโฟน 2 ตัว
  • สั่งงานด้วยระบบสัมผัส ไม่มีปุ่มกด
  • น้ำหนักเบา 5.5 กรัม (เคสหนัก 35 กรัม)
  • bluetooth 4.1 ใช้งานได้ในระยะ 30 เมตร
  • รองรับ NFC
  • สนทนานาน 10 ชั่วโมง(Eclipse 3 ชั่วโมง + 7 ชั่วโมงด้วยเคส)
  • สแตนบายด์ได้ 10 วัน

ฟีเจอร์เด่น

006

Jabra Eclipseมาพร้อมระบบลดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี 2 ไมค์โครโฟน Noise blackout HD ช่วยให้เสียงสนทนาสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งผสานเข้ากับลำโพงเสียงระดับพรีเมี่ยมที่ทำให้ได้รับเสียงสนทนาที่คมชัด รวมถึงการฟังเพลง อ่านข้อความ เมื่อใช้งานโหมดแฮนด์ฟรีก็สามารถให้คุณภาพเสียงที่ดี

007

การทำงานควบคู่กับแอปพลิเคชั่น Jabra Assist ช่วยให้สามารถปรับแต่งการทำงานขั้นสูงทั้งการตั้งค่ารับสายเรียกเข้าด้วยเสียง เปิดปิดเสียงแนะนำการใช้งาน ได้ตรงความต้องการมากขึ้น และนอกจากนี้ยังสามารถอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านแอปพลิเคชั่นได้อย่างสะดวก โดยจะสามารถตั้งค่าในการอัปเดตเฟิร์มแวร์อัตโนมัติหรือจะเลือกการอัปเดตเมื่อเชื่อมต่อไวไฟก็สามารถตั้งค่าได้ตามชอบ

008

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญคือ Find my jabra / car ฟังก์ชั่นเสริมที่ช่วยจดจำสถานที่วางหูฟังในตำแหน่งสุดท้าย ซึ่งแม้ว่าฟังก์ชั่นนี้จะต้องเปิดการใช้งานระบบระบุพิกัด GPSที่อาจจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่ไปบ้าง แต่กระนั้นประโยชน์ที่มากกว่าการค้นหาหูฟังนั่นก็คือการค้นหาตำแหน่งรถยนต์ที่วางหูฟังไว้นั่นเอง นับเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อาจจะมีประโยชน์แฝงที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก

009

ปรับเสียงอัตโนมัติช่วยลดอาการช็อกของเสียงเมื่อไฟล์เสียงมีบิทเรตหรือคุณภาพของเสียงไม่เท่ากัน ทำให้ความดังของเสียงแตกต่างกันจนเกินไป หรือการสนทนาของคู่สายที่มีระดับของเสียงที่แตกต่างกันระบบจะช่วยปรับเสียงให้อัตโนมัติ เพื่อการฟังเสียงที่สมจริง

010

ใช้งานควบคู่กับตลับทรงกลม โดยการเชื่อมต่อครั้งแรกจะมีปุ่มกดอยู่ด้านล่างของตลับ นอกจากนี้ตลับยังเป็นเสมือนแท่นชาร์จในตัว เนื่องจากมีช่องเสียบสายชาร์จไมโครยูเอสบีและหลุมวางที่มีแม่เหล็กดูดอยู่ข้างในช่วยให้ง่ายและสะดวกในการวางหูฟัวให้ลงบล็อกพอดี

011

การใช้งานคำสั่งเสียงเพื่อสั่งการ เนื่องจากขนาดที่เล็กและไม่มีปุ่มให้ ซึ่งแม้ว่าจะสามารถแตะเบาๆเพื่อตอบรับสายเรียกเข้า หรือวางสายได้ แต่กระนั้นฟีเจอร์การรับสายด้วยการพูด “Answer” เพื่อรับสาย หรือ “Ignore” เพื่อปฏิเสธการรับสายเรียกเข้าก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ช่วยเพื่อความสะดวกเมื่อต้องตกอยู่ในสถานะแฮนด์ฟรี(มือไม่ว่าง) นั่นเอง แน่นอนว่าคำสั่งเสียงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่การใช้งานรับสายเรียกเข้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเรียกคำสั่งเสียงอันเนื่องมาจากความสามารถของตัวเครื่อง เช่นเครื่องซัมซุงก็สามารถเรียกความสามารถของ S voice ขึ้นมาใช้งาน หรือจะเป็น Google Now ที่สามารถเปล่งเสียงเรียก ‘OK Google’ เพื่อเปิดหน้าจอการค้นหาด้วยเสียงของกูเกิลขุ้นมาได้อย่างง่ายดาย โดยคำสั่งเพิ่มเติมก็สามารถดูได้จากคู่มือภายในแอปพลิเคชั่นได้อย่างครบถ้วน

ทดสอบประสิทธิภาพ

012

กลับมามองเรื่องราคาจำหน่ายที่วางไว้ที่ 4,490 บาทนั้น นับว่าเป็นหูฟังบลูทูธที่มีราคาสูงอยู่พอสมควร ซึ่งเมื่อเทียบกับความสามารถและความจำเป็นของการใช้หูฟังบลูทูธในการใช้งาน แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่า Jabra Eclipse เป็นหูฟังพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับสูงได้อย่างสมบูรณ์พร้อม ด้วยฟีเจอร์ ความสามารถ วัสดุที่เลือกใช้ ตลอดจนระดับราคาที่ตั้งขาย สะท้อนให้เห็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้สนใจเรื่องราคา แต่ต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระมือที่อยู่ในสภาวะวุ่นอยู่ตลอดนั่นเอง แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้จะต้องสร้างรายได้จากการใช้งานอุปกรณ์เช่นนี้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง

013

การทดสอบฟังเสียงสนทนาเมื่อใช้งานผ่านการโทร เสียงที่ได้มีความชัดเจน และไม่พบการตัดเสียงแวดล้อมของคู่สนทนาออกแบบผิดปกติ เสียงที่ได้มีความใสของเสียงสมจริงดี ขณะที่การฟังเพลงแม้ว่าจะมีเพียงหูฟังด้านเดียว กระนั้นเสียงที่ได้รับก็สามารถแยกแยะมิติของเสียงได้ในระดับที่น่าพอใจ มีซาวน์ของเครื่องดนตรีครบถ้วน เสียงร้องฟังชัดสมบูรณ์ นอกจากนี้การจับเสียงเมื่อเปล่งออกไปเพื่อใช้งานคำสั่งเสียง ก็สามารถจับใจความและทำงานได้ตรงตามที่สั่ง แม้ว่าจะต้องออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็ตาม

สรุป

สิ่งที่น่าสนใจใน Jabra Eclipse ก็คือการออกแบบและการใช้งานผ่านคำสั่งเสียงที่เพิ่มความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าคุณประโยชน์ของการใช้หูฟังบลูทูธหลักก็คือการลดใช้มือ ซึ่ง Jabra Eclipse สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดี เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่ไม่มีปุ่มกด การทำเครื่องแบบใช้งานในหู ขนาดเล็ก เบา เพื่อลดการแตะต้องเครื่องโดยไม่จำเป็น ขณะที่คุณภาพของเสียงมีคุณภาพที่ดีในหลากหลายแง่มุมการใช้งาน

หากนับโดยรวมเมื่อเทียบกับราคายังไม่หวือหวาที่จะจองมาเป็นเจ้าของเนื่องจากราคาที่สูงอยู่พอสมควร แต่หากใครกำลังต้องการหูฟังบลูทูธที่มีคุณภาพโดยไม่คำนึงด้านราคา Jabra Eclipse รุนนี้ก็เหมาะด้วยรูปลักษณ์การออกแบบและฟังก์ชั่นของลูกเล่นในการใช้งานเช่นการรับสายหรือปฏิเสธด้วยเสียง ควบคุมการเล่นเพลงด้วยคำสั่งเสียง ตลอดจนตลับทรงกลมที่แม้ว่าจะเปื้อนฝุ่นได้ง่ายสักหน่อยเนื่องมีลักษณะเป็นยาง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยเก็บรักษาหูฟังที่มีขนาดเล็กไม่ให้หายได้ง่ายๆได้เป็นอย่างดี

ข้อดี

  • ดีไซน์ขนาดเล็ก เบา ช่วยให้สวมใส่ได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน
  • แบตเตอรี่ที่สามารถสนทนาได้นานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง
  • มาพร้อมตลับชาร์จที่ช่วยทั้งการจัดเก็บและการเชื่อมต่อให้ง่ายขึ้น
  • สามารถทำงานควบคู่กับแอปพลิเคชั่นได้อย่างดีเยี่ยม
  • มียางสวมให้ 3 ขนาดตรงตามขนาดหูเพื่อความกระชับ

ข้อสังเกต

  • เหมาะกับการใส่กับหูขวา เพียงด้านเดียว ไม่สามารถปรับแต่งได้
  • เสียงแวดล้อมของหูที่ใส่จะถูกบล็อก เนื่องจากยางที่ช่วยให้อุปกรณ์ไม่หลุดจากหู จะต้องอุดพอดีหู
  • คู่สนทนายังได้ยินเสียงแวดล้อมอยู่ ทำให้ความคมชัดลดน้อยลงระหว่างโทร
  • ยังไม่สามารถอ่านข้อความเข้าเป็นภาษาไทยได้

Gallery

]]>