Moto – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Tue, 14 Mar 2017 04:28:10 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : Moto M ดีไซน์สะดุดตา ราคาสะดุดใจ https://cyberbiz.mgronline.com/reviews-moto-m/ Mon, 13 Mar 2017 03:39:44 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=25454

ตั้งแต่เปลี่ยนมือจาก Google มาเป็น Lenovo สมาร์ทโฟน Moto ก็มีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเราก็ได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ซีรีส์ Moto M สมาร์ทโฟนดีไซน์ทันสมัย สไตล์โลหะ (Metal)

นอกจากเรื่องของดีไซน์ที่โดดเด่นแล้ว ในส่วนของสเปกภายในก็เด่นไม่แพ้กัน ด้วยซีพียูแบบ 8 คอร์ หน่วยความจำ 4GB หน้าจอแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว Full HD การเชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB-C รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมแบบ 4G/3G

การออกแบบ

Moto M มีการออกแบบที่ดูโฉบเฉี่ยวน่าสนใจ ตัวเครื่องทำจากโลหะซึ่งเป็นจุดขายของรุ่นนี้ มีขนาดโดยรอบ 151.35 x 75.35 x 7.85 มม. และมีน้ำหนัก 163 กรัม เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่บางและเบาตัวหนึ่ง แม้ว่าจะใส่เคสที่แถมมาให้ก็ดูไม่เทอะทะ และยิ่งทำให้จับถนัดมือมากขึ้น งานประกอบแน่นหนา มีสีให้เลือกซื้อสามสีคือ ทอง เทา และเงิน

หน้าจอเป็น IPS ขนาด 5.5 นิ้ว แบบ Full HD 1080p (1920×1080 พิกเซล) มีความละเอียดเม็ดสีที่ 401 ppi ทำให้การแสดงผลมีความชัดเจน คมชัด สีสันสดใส บริเวณด้านบนตรงกลางมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ ให้เสียงชัดเจน มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมซอฟต์แวร์แต่งภาพ


Moto M
มีการออกแบบให้ไม่มีปุ่ม Home ที่ตัวเครื่องภายนอก มีเพียงแค่สัญลักษณ์ Moto แสดงไว้สวยๆ เท่านั้น แต่จะแสดงปุ่ม Home, Recent App และ Back เป็นแบบ Touch Screen ที่หน้าจอแทน

การเปิดปิดเครื่องจะทำได้ที่ปุ่มทางด้านขวาของตัวเครื่อง ซึ่งอยู่ใกล้กับปุ่มเพิ่มลดเสียง ช่องใส่ซิมจะอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง โดยจะเป็นแบบ Dual Sim สามารถใส่ซิมได้สองเบอร์ และที่ช่องใส่ซิมสองสามารถเลือกที่จะใส่หน่วยความจำเพิ่มเติม MicroSD ได้ (รองรับได้สูงสุด 128 GB)

ด้านบนของตัวเครื่องเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 นิ้ว ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องเป็นช่องไมโครโฟน และพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ส่วนด้านหลังจะเป็นกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED คู่ แบบ CCT และมีที่สแกนลายนิ้วมืออยู่บริเวณด้านล่างของกล้อง

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มากับเครื่องจะมีสายชาร์จ USB-C พร้อมอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ หูฟัง เข็มจิ้มถาดซิม คู่มือ เคสใส และฟิล์มกันรอย

สเปก

สมาร์ทโฟน Moto M ใช้ขุมพลังของซีพียู ARM MediaTek P15 CPU Octa-Core แบบ 64-bit ความเร็ว 2.2GHz และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ARM Mali T860mp2 มีหน่วยความจำภายใน 4GB พื้นที่เก็บข้อมูล 32GB สามารถใส่ MicroSD เพิ่มได้ 128 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow)

หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้วที่ความละเอียด Full HD เสริมความทนทานด้วยจอแบบ Corning Gorilla Glass ทนแรงขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่อง Moto M มีเทคโนโลยีไล่น้ำ Nano Coating หมายถึงเมื่อมีน้ำ ฝน หรือฝุ่นกระเซ็นมาใส่เครื่อง สามารถทำความสะอาดได้ง่าย น้ำหรือฝุ่นซึมเข้าตัวเครื่องได้ยาก (ถ่ายใต้น้ำไม่ได้)

Moto M รองรับสัญญาณคลื่นความถี่ LTE (4G)/WCDMA (3G) ถือว่ารองรับการใช้งานคลื่นของทุกค่ายในบ้านเรา การเชื่อมต่อ Wi-Fi รองรับการเชื่อมต่อ Dual Band มาตรฐาน IEEE 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz และ 5GHz มาพร้อมเทคโนโลยี MIMO รองรับการทำงานร่วมกับเราท์เตอร์แบบ Dual Band ช่วยให้การรับส่งสัญญาณ Wi-Fi มีประสิทธิภาพมากขึ้น

รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1 มีระบบตำแหน่ง GPS, GLONASS, A-GPS สำหรับการใช้พลังงาน Moto M ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 3050 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 5V/2A

ฟีเจอร์เด่น

Moto M ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow) แบบ Pure Android ไม่มีการเขียน UI เพิ่มลงไปในระบบ ข้อดีก็คือ มีความเร็วในการทำงาน ฟังก์ชันการทำงานแบบมาตรฐานจาก Google วิดเก็ตมาตรฐาน สามารถปรับแต่งได้ง่ายสำหรับคนที่ชอบโมฯ ระบบ หรือนักพัฒนาแอพฯ บนมือถือ แต่จะขาดความตื่นเต้น เพราะไม่มีวิดเก็ตหวือหวา หรือลูกเล่นแพรวพราวให้ได้ใช้กัน

จุดเด่นอีกอย่างที่น่าสนใจของ Moto M ก็คือ ระบบเสียง Dolby Atmos ระบบเสียงสามทิศทางที่ให้ความสมจริงไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลง

ทดสอบประสิทธิภาพ

สำหรับการใช้งานทั่วไป Moto M สามารถทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และความบันเทิงต่างๆ การใช้งานโทรศัพท์สามารถจับสัญญาณ 4G และ 3G ได้ (เมื่อใช้ 2 ซิม) โดยผู้ใช้สามารถเลือกว่าจะใช้ซิมไหนเป็นซิมหลัก และสามารถสลับการใช้งานได้ ตามต้องการ แต่หากต้องการเลือกเพิ่มพื้นหน่วยความจำ คุณจะเสียความสามารถในการใช้สล็อตซิม 2 ไป

คุณภาพเสียงของการรับสายโทรเข้าออกทำได้ชัดเจนดี แม้ในที่ที่มีเสียงรบกวนค่อนข้างเยอะ เช่น ริมถนน ก็ยังสามารถพูดคุยได้โดยไม่ต้องตะโกนเร่งเสียง ด้านการพกพา ด้วยรูปทรงที่ออกแบบมาตัวโทรศัพท์สามารถถือได้ถนัดมือ แต่การออกแบบที่ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมด ทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างลื่นหลุดมือได้ง่าย แต่ถ้าใส่เคสเข้าไปก็จะช่วยลดความลื่นได้พอสมควร

การใช้งานกล้อง กล้องหลังมากับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F2.0 ขนาดเม็ดพิกเซล 1.0um ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น แฟลชแบบ Color Correlated Temperature ช่วยให้ค่าอุณหภูมิสีที่แม่นยำมากขึ้น ภาพที่ใช้แฟลชจะไม่ขาวเวอร์เกินไป โดยเมื่อทดสอบถ่ายภาพโดยใช้แฟลชอัตโนมัติ ระบบจะทำการยิงแฟลชครั้งแรก (Pre Flash) เพื่อวัดแสงและค่าต่างๆ เพื่อคำนวณกำลังแฟลช ก่อนที่ยิงแฟลชจริงพร้อมบันทึกภาพ

นอกจากนี้ยังมีโหมดการใช้งานอาทิ Pro ที่ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าการใช้งานเอง เช่น ระยะโฟกัส ค่าชดเชยแสง ความเร็วชัตเตอร์ ค่า White Balance และค่า ISO นอกจากนี้ยังมีโหมด Panorama โหมดถ่ายทิวทัศน์ในเวลากลางคืน และเอฟเฟกต์ต่างๆ ให้ใช้ด้วย

จากการใช้งานถ่ายภาพในโหมด Auto และ โหมด Panorama คุณภาพของภาพที่ได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งคุณภาพของภาพ สีสัน ด้วยขนาดรูรับแสง F2.0 ทำให้สามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี และยังคมชัดอยู่ สำหรับโหมดถ่ายทิวทัศน์ในเวลากลางคืนหากจะใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพดี อาจจะต้องมีขาตั้งหรือวางมือถือไว้กับพื้นที่มั่นคง ไม่สั่นไหวง่าย

โหมดถ่ายภาพวิดีโอสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด 4K 30 fps และ FullHD 1080p 60 fps จากการทดสอบถ่ายวิดีโอในตอนกลางคืน คุณภาพที่ได้อยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าในการทดสอบเป็นการเดินถ่ายโดยไม่มีขาตั้ง ภาพที่ได้เลยอาจจะสั่นไหวไปบ้าง

หลังจากการใช้งานทั่วไปทั้งวันพบว่า แบตเตอรี่ความจุ 3050 mAh มีความอึดอยู่พอสมควร หากใช้งานหนักๆ จะใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง แต่หากใช้งานพื้นฐานก็อาจจะยืดไปได้ถึง 8 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้น

ผลการทดสอบ
AnTuTu Benchmark = 49,233
คะแนน
Multi-Touch = 10
จุด

Vellamo

Multicore = 2,439 คะแนน
Metal = 1,267
คะแนน
Chrome Browser = 3,238
คะแนน
Android WebView = 2,898
คะแนน

PCMark
Work 2.0 = 3,209
คะแนน
Computer Vision = 2,976
คะแนน
Storage = 7,479
คะแนน

Battery Life


5
ชั่วโมง 21 นาที

3DMark
Sling Shot using ES 3.1 = 461
คะแนน
Sling Shot using ES 3.0 = 595
คะแนน
Ice Storm Unlimited = 8,583
คะแนน
Ice Storm Extreme = 5,645
คะแนน
Ice Storm = 9,037
คะแนน

PassMark PerformanceTest Mobile
System = 4,955
คะแนน
CPU Tests = 121,267
คะแนน
Disk Tests = 33,797
คะแนน
Memory Tests = 4,876
คะแนน
2D Graphics Test = 3,394
คะแนน
3D Graphics Tests = 1,259
คะแนน

สรุป

Moto M คือสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่อง คุ้มค่า รองรับการใช้งานตามที่ต้องการได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะโทรศัพท์ เล่นเกมที่ไม่เน้นกราฟิกหนักๆ ดูหนัง ฟังเพลง ในราคาที่ไม่เกินเอื้อม ประมาณ 9,900 บาท รองรับทั้งระบบ 4G มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบสแกนลายนิ้วมือ มีเทคโนโลยีป้องกันละอองน้ำ มีระบบเสียงที่ดี อีกทั้งยังมีพอร์ตแบบ USB-C ที่จะสามารถรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้ในอนาคต

ข้อดี

ประสิทธิภาพดี หน้าจอใหญ่
รองรับ 4G และใส่ได้ 2 ซิม (ซิม 2 เลือกระหว่างซิมกับ MicroSD)
ราคาไม่สูงมาก
ระบบเสียง Dolby Atmos ดี

ข้อสังเกต

ตัวเครื่องเป็นโลหะ ถ้าไม่ใส่เคสจะลื่นง่าย
ใช้งานหนักต่อเนื่อง จะเกิดความร้อนง่าย
– Android Pure
เร็วดี แต่ไม่มีลูกเล่น
หน่วยความจำภายในน้อยไป หากใส่ 2 ซิม

]]>
Review : Moto Z บทพิสูจน์ใหม่ในตลาดสมาร์ทโฟน https://cyberbiz.mgronline.com/review-moto-z/ Mon, 12 Dec 2016 06:55:01 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=24699

IMG_6486

หนึ่งในผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนที่มีแนวคิดน่าสนใจในปีนี้คงหนีไม่พ้น Moto Z ที่ถือเป็นการกลับมาลุยตลาดอีกครั้ง ภายใต้ซีรีส์ และแนวคิดใหม่ ภายใต้บริษัทแม้รายใหม่อย่างเลอโนโว ทำให้แนวทางในอนาคตของ Moto เริ่มชัดขึ้น กับการโฟกัสในตลาดกลางบน หรือพรีเมียมแมสมากขึ้น

จุดเด่นหลักของ Moto Z คือการเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงภายใต้ชื่อ Moto Mods ได้ และจะเป็นแนวคิดหลักในการผลิตสมาร์ทโฟนต่อจากนี้ของ Moto ที่จะมีการต่อยอดออกผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่รองรับการใช้งาน Mods ออกสู่ตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ตัวสมาร์ทโฟนก็มาพร้อมกับสเปกระดับสูงทั้งหน่วยประมวลผล Snapdragon 820 RAM 4 GB และความบางตัวเครื่อง 5.19 มม. แม้ว่าจะมีการตัดพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. ออกไป ทำให้ต้องใช้ตัวแปลงหูฟังจากพอร์ต USB C แทน รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม 4G/3G และหน้าจอแสดงผลระดับ 2K

การออกแบบ

IMG_6451

สิ่งที่ Moto Z นำเสนอได้ดีคือความพรีเมียมของโทรศัพท์ จากงานประกอบที่ดูแน่นหนา ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมขัดเงา ผสมกับกระจกคลุมด้านหน้า โดยมีขนาดรอบตัว 75.3 x 155.3 x 5.19 มิลลิเมตร น้ำหนัก 136 กรัม มีให้เลือกสีเดียวคือ สีดำ และสีขาว

IMG_6458

ด้านหน้าพื้นที่หลักจะถูกแบ่งให้จอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (2560 x 1440 พิกเซล) ความละเอียดเม็ดสี 526 ppi โดยมีช่องลำโพงสนทนาพาดอยู่กึ่งกลางบน พร้อมด้วยกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช และเซ็นเซอร์ตรวจจับใบหน้า และเซ็นเซอร์วัดแสง

IMG_6464

ส่วนล่างหน้าจอจะมีสัญลักษณ์ ‘Moto’ อยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างจอ และปุ่มเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือ ที่จะทำงานทันทีเมื่อสัมผัส ทำให้ไม่ต้องไปกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่องบ่อยๆ ส่วนจุดใสๆ 2 ข้างก็จะเป็นเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว และไมโครโฟน 2 จุด ที่มีระบบตัดเสียงภายในตัว

IMG_6450

ด้านหลังเมื่อไม่ได้มีการเชื่อมต่อ Moto Mods ใดๆ จะเห็นถึงตัวเครื่องที่แสดงถึงความเป็นโลหะครอบด้วยกระจก ทำให้จุดนี้เป็นรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างง่าย ภายในมีแบตเตอรี 2,600 mAh โดยจะมีกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยไฟแฟลชแบบ Dual LED เพื่อช่วยเกลี่ยแสง ซึ่งถ้างสังเกตว่าบริเวณกล้องจะนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อยทำให้ขีดช่วนค่อนข้างง่าย

IMG_6453

ถัดลงมาส่วนล่างจะเป็นแถบขั้วสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Moto Mods ทั้งหลาย โดยตรงส่วนนี้จะเป็นจุดส่งต่อข้อมูลระหว่าง Mods ที่ปัจจุบันมีทั้ง Mods ที่เป็นแบตเตอรีเสริม ลำโพง โปรเจกเตอร์ กล้อง Hasselblad และฝาหลังให้เลือกใช้งาน โดยเมื่อติดใช้งานตัวเครื่องจะใช้แม่เหล็กในการยึดยิดทำให้ไม่หลุดง่ายๆชณะใช้งาน

IMG_6455

ทั้งนี้ เมื่อสวมฝาหลังที่แถมมาให้ภายในกล่องเข้าไป บริเวณหลังเครื่องก็จะกลายเป็นลายไม้ หรือลายต่างๆตามสีของฝาหลัง และขอบกล้องก็จะไม่นูนขึ้นมาอีกต่อไป ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าจะต้องการเชื่อมต่อกับ Mods อื่นๆ หรือใช้ร่วมกับฝาหลังที่เป็นลายปกติก็ได้

IMG_6461IMG_6460ด้านบนจะมีช่องใส่ใช้เข็มจิ้มซิมนำ ถาดซิมการ์ดออกมา โดยถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบไฮบริดจ์คือผู้ใช้สามารถเลือกใส่ใช้งาน 2 นาโนซิมการ์ด หรือผสมระหว่างนาโนซิมการ์ด และไมโครเอสดีการ์ดได้ ด้านล่างจะมีเพียงพอร์ต USB-C เพียงพอร์ตเดียวเท่านั้น

IMG_6463IMG_6462

ด้านซ้ายจะถูกปล่อยโล่งไว้ ด้านขวาเป็นปุ่มเปิด=ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง

IMG_6447

เมื่อต้องการเชื่อมต่อกับหูฟังขนาด 3.5 จำเป็นต้องใช้ตัวแปลง USB-C เป็นพอร์ต 3.5 มม. ซึ่งทางโมโต แถมมาให้ภายในกล่อง สามารถนำไปใช้กับหูฟัง 3.5 มม. เดิมที่มี หรือใช้กับหูฟังที่แถมมาได้ทันที

IMG_6445

สำหรับอุปกรณ์ที่แถมมาให้ภายในกล่องประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง สายเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ (USB-A to USB-C) อะเดปเตอร์พร้อมสายชาร์จ USb-C หูฟัง เข็มจิ้มซิม ฝาหลัง กรอบใส และคู่มือการใช้งาน

สเปก

s18

Moto Z มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820 ที่เป็นควอดคอร์ 1.8 GHz พร้อมหน่วยกราฟิก Adreno 530 RAM 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB รองรับไมโครเอสดีการ์ดสูงสุด 2 TB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 6.0.1 (Marshmallow)

ด้านการเชื่อมต่อรองรับ 4G LTE บนคลื่น 2100/1800/850 3G ทุกคลื่นความถี่ที่ให้บริการในประเทศไทย ส่วนการเชื่อมต่อ WiFi รองรับมาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/ac + 5 GHz with MIMO บลูทูธ 4.1 พร้อม NFC GPS GLONASS และอุปกรณ์เสริม Moto Mods ทั้งหลาย

ฟีเจอร์เด่น

s01

การใช้งานของ Moto Z ยังคงความเป็น Pure Android มาเหมือนสมัยที่ Moto ยังอยู่ภายใต้กูเกิลก่อนหน้านี้ โดยถือว่าเป็นข้อดีของสมาร์ทโฟนตระกูล Moto เลยก็ว่าได้ที่มากับความเป็นมาตรฐาน โดยเฉพาะบนแอนดรอยด์ 6.0.1 Marshmallow ที่กูเกิลพัฒนาออกมาได้ลื่นและน่าใช้กว่าเดิม และไม่จำเป็นต้องครอบอินเตอร์เฟสใดๆเพิ่มเติม

การใช้งานหลักๆ ยังคงอยู่ที่การนำวิตเจ็ต หรือ ไอค่อนหลักๆที่ใช้งานมาไว้บนหน้าจอหลัก ที่ขึ้นอยู่กับสไตล์ในการใช้งานของผู้ใช้แต่ละราย ในส่วนของแถบการแจ้งเตือน ที่มาพร้อมกับปุ่มลัดในการตั้งค่าต่างๆก็มาในดีไซน์ที่เป็นมาตรฐาน และคุ้นเคยกันดีกับผู้ที่ใช้งานแอนดรอยด์มาก่อน

ในส่วนของหน้าจอล็อกเครื่อง จะมีความพิเศษขึ้นมาเล็กน้อยจากการที่ตัวเครื่องรองรับการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ทำให้เมื่อมีการแตะที่เซ็นเซอร์หน้าจอก็จะขึ้นแสดงผลวัน เวลา และการแจ้งเตือนที่มีอยู่ พร้อมให้ผู้ใช้กดสแกนลายนิ้วมือ หรือจะเลือกเปิดกล้อง และใช้คำสั่งเสียงจากหน้านี้ก็ได้เช่นเดียวกัน

IMG_6476

อีกความสะดวกในการใช้งาน Moto Z คือการที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวมาให้ ส่งผลให้เวลาวางเครื่องไว้ เมื่อนำมือปาดผ่าน ตัวเซ็นเซอร์ก็จะทำงาน หน้าจอก็จะมีการแสดงผลภาพพักหน้าจอ หรือเวลา ขึ้นมาให้ดูในทันที ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ไม่ต้องไปกดปุ่มหรือสัมผัสหน้าจอเพื่อเปิดดูเวลา

s02

และด้วยการที่มากับ Pure Android การที่มี Google Assistant มาช่วยในการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตารางนัดหมาย การแจ้งเตือนสภาพการจราจร เตือนเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอลของทีมโปรด ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ขณะที่ในหน้าจอ Recent App ผู้ใช้สามารถลากปิดแอปที่ไม่ใช้งาน หรือกดเคลียแอปทั้งหมดทิ้งได้ด้วย

s03

ในการเริ่มต้นการใช้งาน Moto Z จะมีขั้นตอนเริ่มต้นง่ายๆอยู่ 3 ชั้นตอน คือการเรียนรู้การใช้คำสั่งลัด ที่จะมีการลากนิ้วมือจากขอบล่างเพื่อย่อหน้าจอให้เหมาะกับการใช้งานมือเดียว เขย่าเครื่อง 2 ครั้งเพื่อเปิดใช้ไฟฉาย รวมถึง Moto Display หรือการวาดมือผ่านเครื่องที่กล่าวไป

ยังมีระบบการเปิดหน้าจอค้างไว้เมื่อมีการดูหน้าจออยู่ (ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับดวงตา) การหมุนเครื่อง 2 ครั้ง เพื่อเข้าสู่โหมดกล้องถ่ายรูป การพลิกเครื่องเมื่อมีสายเรียกเข้า ในการเข้าสู่โหมดห้ามรบกวน หรือการยกเครื่องขึ้นเพื่อให้สายเรียกเข้าหยุด

ถัดมาคือการตั้งค่าคำสั่งเสียง ในการเรียกใช้งาน ซึ่งจำเป็นต้องตั้งในห้องที่ไม่มีเสียงรบกวน ทำให้เราใช้คำสั่งอย่าง OK Google เพื่อเรียกใช้งานระบบคำสั่งเสียงได้ทันที สุดท้ายคือการจัดการการแจ้งเตือนบนหน้าจอล็อก ที่สามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงผลแอปพลิเคชันใดบ้าง และแอปใดที่ไม่ควรแสดงผลในหน้าจอนี้เป็นต้น

s04

ในส่วนของแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องจะเป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานในการใช้งานสมาร์ทโฟนไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ ข้อความ ปฏิทิน กล้อง อัลบั้มภาพ ตัวจัดการไฟล์ เครื่องเล่นเพลง เครื่องเล่นวิดีโอ รวมถึงกูเกิล เซอร์วิสอื่นๆที่มีมาให้ครบถ้วน จะมีแอปที่เพิ่มมาอย่าง Moto และ Moto Mods ในการเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเท่านั้น

s05

สำหรับตัวจัดการไฟล์ (File Manager) ที่ให้มา ถือว่าใช้งานได้ค่อนข้างง่าย ผู้ใช้สามารถเลือกดูไฟล์ได้จากประเภทของไฟล์ ดูไฟล์ล่าสุด หรือเลือกดูตามโฟลเดอร์ และยังสามารถเข้าไปดูพื้นที่ใช้งานที่เหลืออยู่ได้อีกด้วย และจากการที่ใช้เป็นพอร์ตแบบ USB-C ผู้ใช้สามารถใช้ตัวแปลงเพื่อเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟ การ์ดรีดเดอร์ รวมถึง External HD ในการเข้าถึงไฟล์ได้ด้วย

s08

โหมดการใช้งานโทรศัพท์จะเน้นความง่ายในการใช้งาน จากอินเตอร์เฟสมาตรฐานของแอนดรอยด์ รองรับระบบการคาดเดารายชื่อจากที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ กรณีที่สายเข้าใช้การลากปุ่มจากกึ่งกลางเพื่อรับสาย ตัดสาย หรือส่งข้อความกลับได้ ส่วนกรณีใช้สายสนทนาจะมีปุ่มลัดอย่างเปิดลำโพง ปิดไมค์ เรียกปุ่มตัวเลข พักสาย เพิ่มสาย และปุ่มวางสายตามปกติ

s06

การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ที่ให้มาจะเป็น Chrome ที่มีกาพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว การแสดงผลบนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน การที่รองรับการซิงค์ข้อมูลจากบนพีซีมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนยิ่งทำให้การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์สะดวก และฉลาดมากขึ้น

s07

คีย์บอร์ดเสมือนที่ให้มาใช้งานเป็นคีย์บอร์ดมาตรฐานของแอนดรอยด์อยู่แล้ว ผู้ใช้สามารถเข้าไปปรับแต่งสีของคีย์บอร์ดได้ การสลับภาษาใช้การกดที่ปุ่มลูกโลกเพื่อสลับไปมาระหว่างภาษาไทยอังกฤษ หรือถ้าต้องการใช้งานอักขระพิเศษ และอีโมติคอน ก็มีให้กดเลือกใช้งานได้ทันที

s13

ในส่วนกล้องของ Moto Z จะมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/1.8 ที่มีเซ็นเซอร์ขนาด 1.12um มาพร้อมระบบกันสั่น OIS อินเตอร์เฟสในการใช้งานจะเน้นความง่าย โดยจะมีปุ่มหลักๆให้เลือกกดเพียงแค่ ตั้งเวลาถ่ายภาพ เปิดปิดแฟลช เปิดปิด โหมด HDR กับปุ่มสลับกล้องหน้าหลัง ปุ่มชัตเตอร์ และเข้าไปดูรูปภาพ

ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วลากจากบริเวณขอบเพื่อเลือกโหมดในการถ่ายภาพได้ โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ โหมดถ่ายภาพแบบมืออาชีพ โหมดถ่ายภาพสโลว์โมชัน พาโนราม่า วิดีโอ และโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนของการตั้งค่าก็จะมีง่ายๆแค่เปิดปิดเสียงชัตเตอร์ เปิดระบบใช้งานกล่องด่วน บันทึกพิกัดภาพ เลือกขนาดภาพนิ่ง และวิดีโอ กับตั้งปุ่มชัตเตอร์

s14

สำหรับการใช้งานในโหมดถ่ายภาพแบบมืออาชีพ ผู้ใช้สามารถเลือกตั้งได้ตั้งแต่ระยะโฟกัส ปรับ White Balance ตั้งความเร็วชัตเตอร์ ปรับความไวแสง (ISO) และตั้งค่าชดเชยแสง ซึ่งก็จะเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการถ่ายภาพตามสภาพแสงจริง ช่วยให้การถ่ายภาพสนุกมากยิ่งขึ้น

ขณะที่กล้องกล้องหน้า จะมากับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.2 โดยมากับเลนส์มุมกว้าง แฟลช ขนาดเม็ดพิกเซล 1.4um ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ขณะที่โหมดถ่ายภาพวิดีโอสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด 4K 30 fps และ FullHD 1080p 60fps

s09

ส่วนของการตั้งค่าต่างๆ จะมากับมาตรฐานของแอนดรอยด์อีกเช่นกัน ด้วยการแบ่งประเภทการตั้งค่าออกเป็น ระบบไร้สายและเครือข่าย อุปกรณ์ ส่วนตัว และตัวเครื่อง ซึ่งจะมีที่แตกต่างจากทั่วไปอย่างตรงส่วนของ ซิมการ์ด เนื่องจากตัวเครื่องรองรับระบบ 2 ซิม และเพิ่มในส่วนของ Moto Mods ในการบริการจัดการอุปกรณ์เชื่อมต่อ Mods ทั้งหลาย

s10

สำหรับในส่วนของหน้าจอที่ Moto เลือกกลับมาใช้จอ AMOLED ก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดสีที่จะแสดงผลได้ว่าจะให้แสดงผลแบบมาตรฐาน หรือแบบเร่งสี เพื่อให้จอดูสวยงามมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับ NFC ดังนั้นในการเชื่อมต่อก็สามารถใช้งาน Android Beam ในการส่งข้อมูล หรือใช้สำหรับชำระเงินในอนาคตได้

s11

การใช้งาน 2 ซิม ของ Moto Z เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกซิมการ์ดที่จะใส่สแตนบายสามารถจับเครือข่าย 3G ได้ ดังนั้นจึงไม่เกิดปัญหาเหมือนสมาร์ทโฟน 2 ซิมรุ่นก่อนๆ ที่จะจับสแตนบายบน 2G โดยผู้ใช้สามารถเลือกสลับซิมหลักในการใช้งานได้ตามความต้องการ

s12

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงผลในส่วนของพื้นที่ใช้งานในตัวเครื่อง จะเห็นได้ว่าจะพื้นที่ 64 GB ที่ให้มาจะเป็นพื้นที่ของระบบปฏิบัติการไปประมาณ 10.58 GB อยู่แล้ว เช่นเดียวกับในส่วนของหน่วยความจำ RAM ที่จะมีแสดงว่าใช้งานไปเท่าไหร่เช่นเดียวกัน

Photos Gallery

ทดสอบประสิทธิภาพ

s15

AnTuTu Benchmark = 119,934 คะแนน
Quadrant Standard Edition = 40,088 คะแนน
Multi-Touch = 10 จุด

s16

Vellamo
Multicore = 3,546 คะแนน
Metal = 3,567 คะแนน
Chrome Browser = 5,031 คะแนน
Android WebView = 5,749 คะแนน

Geekbench 3
Single-Core = 2,024 คะแนน
Multi-Core = 5,075 คะแนน

ทดสอบการใช้งานแบตเตอรี จะอยู่ที่ 6 ชั่วโมง 39 นาที หรือคิดเป็นคะแนนที่ 3,990 คะแนน ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเครื่องในระดับเดียวกัน แต่ในการใช้งานทั่วๆไป แบตเตอรีที่ให้มา 2,600 mAh ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานทั่วๆไปในแต่ละวัน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมากับระบบชาร์จเร็วให้ใช้งานด้วย

s17

PCMark
Work 2.0 = 5,370 คะแนน
Computer Vision = 2,976 คะแนน
Storage = 7,479 คะแนน

3DMark
Sling Shot using ES 3.1 = 2,163 คะแนน
Sling Shot using ES 3.0 = 2,811 คะแนน
Ice Storm Unlimited = 24,976 คะแนน
Ice Storm Extreme / Ice Storm = Maxed Out!

PassMark PerformanceTest Mobile
System = 8,216 คะแนน
CPU Tests = 155,636 คะแนน
Disk Tests = 36,662 คะแนน
Memory Tests = 7,347 คะแนน
2D Graphics Test = 4,479 คะแนน
3D Graphics Tests = 2,453 คะแนน

โดยรวมแล้วในแง่ของประสิทธิภาพถือว่า Moto Z สอบผ่านในการใช้งานทั้งการใช้งานทั่วไป และการใช้งานหนักๆอย่างการเล่นเกม ทำได้ลื่นไหล เสียตรงการที่ให้แบตเตอรีมาเพียง 2,600 mAh เมื่อใช้งานหนักๆต่อเนื่องจะอยู่ได้ไม่ถึงวัน แต่ถ้าใช้งานทั่วๆไปต้องยอมรับการการจัดการแบตเตอรีทำได้ค่อนข้างดี

สรุป

สิ่งที่ทำให้ Moto Z น่าสนใจคือเรื่องของการที่ไม่กักสเปกทั้งหน้าจอระดับ 2K หน่วยประมวลผล Snapdragon 820 รองรับ 4G ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ มีการเคลือบ Nano Coating เพื่อป้องกันละอองน้ำ พร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่ออย่าง USB-C ที่เริ่มมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกใช้มากขึ้น

แม้ว่าราคาค่าตัวจะสูงในระดับ 23,900 บาท แต่เมื่อเทียบถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการนำมาใช้งานควบคู่ไปกับ Moto Mods ทั้งกล้องจาก Hasselblad โปรเจกเตอร์ ลำโพงจาก JBL รวมถึงแบตเตอรีเสริม และฝาหลังลวดลายต่างๆ ไม่นับกับที่จะทยอยมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ก็ถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ข้อดี

– แอนดรอยด์โฟนประสิทธิภาพสูง จอ AMOLED 5.5” ความละเอียด 2K

– รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด (เลือกใส่ซิมหรือไมโครเอสดีการ์ด)

– ตัวเครื่องแข็งแรง และบาง (กรณีที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับ Mods)

– Moto Mods ที่ทำให้สมาร์ทโฟนมีลูกเล่นมากขึ้น

ข้อสังเกต

– ฝาหลังเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย

– ตัวเครื่องร้อนง่าย เมื่อใช้งานหนักๆ

– ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ต้องใช้ตัวแปลงจากพอร์ต USB-C (มีมาให้ในกล่อง)

Gallery

]]>
ลองเล่น Moto Mods : Hasselblad True Zoom อุปกรณ์เสริมที่จะทำให้หลงรักโมโต https://cyberbiz.mgronline.com/preview-hasselblad-true-zoom/ Mon, 05 Sep 2016 09:23:59 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=23687

DSC00669

จากแนวคิดใหม่ของ Moto ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมของสมาร์ทโฟน ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อเสริมอื่นๆได้ภายใต้แนวคิด Moto Mods ที่ใช้งานร่วมกับ Moto Z ซึ่ง 1 ในอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น Hasselblad True Zoom ที่ร่วมมือกับเจ้าพ่อแบรนด์กล้องมีเดียมฟอร์แมตระดับโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างจุดต่างให้กับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ

DSC00754

ความง่ายในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม ถือเป็นจุดเด่นของ Moto Mods เพียงแค่นำอุปกร์มาเชื่อมต่อกัน แม่เหล็กที่ตัวอุปกรณ์เสริมจะทำการดูดติดกับด้านหลังของสมาร์ทโฟนในทันที ที่สำคัญคือแข็งแรงไม่ลื่นหลุดง่ายๆ นอกจากงัดบริเวณขอบล่างของเครื่อง เพื่อให้เกิดช่องว่างก่อนถอดออก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นวิธีการหลักในการเชื่อมต่อ Moto Mods อื่นๆด้วย

s01

เมื่อเชื่อมต่อกับ Hasselblad True Zoom เข้าไป กล้องหลักที่ใช้งานก็จะเปลี่ยนจากกล้องด้านหลังเครื่อง เป็นกล้องของ Hasselblad ที่จะมีอินเตอร์เฟสใกล้เคียงกัน เพียงแต่จะมีโหมดให้ปรับใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยในโหมดอัตโนมัติจะมีให้เลือกถ่ายภาพแบบสีปกติ ภาพขาวดำ และภาพสีแบบไฟล์ RAW เพื่อให้มาปรับแต่งเพิ่มเติมได้ กับเลือกรูปแบบการถ่ายภาพอย่างอัตโนมัติ กีฬา ภาพบุคคล ย้อนแสง ภาพทิวทัศน์ หรือจะเลือกโหมดพาโนราม่า และถ่ายวิดีโอในการใช้งานก็ได้

s03

ถัดมาถ้าเป็นช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการปรับแต่งมากยิ่งขึ้น Hasselblad จะมีโหมดถ่ายภาพแบบ Pro ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ทั้งความเร็วชัตเตอร์ ความไวแสง (ISO) ไวท์บาลานซ์ ปรับโฟกัส ไม่นับรวมกับการซูมภาพที่สามารถปรับซูมได้จากบริเวณปุ่มชัตเตอร์ ทำให้สามารถซูมภาพได้ 10 เท่าแบบออปติคัลซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่สมาร์ทโฟนทั่วไปไม่สามารถทำได้

DSC00750

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการนำปุ่มชัตเตอร์บนหน้าจอออก เหลือเพียงการถ่ายภาพจากปุ่มชัตเตอร์ที่ตัว Hasselblad ซึ่งสามารถกดครึ่งปุ่มเพื่อล็อกโฟกัสได้เหมือนกล้องถ่ายภาพทั่วไป ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของการออกแบบ ตัว Hasselblad ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้จับถือกล้องเพื่อถ่ายภาพได้สะดวกขึ้น

DSC00751

สำหรับสเปกคร่าวๆของ Hasselblad True Zoom จะมีขนาดอยู่ที่152.3 x 72.9 x 9 – 15.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 145 กรัม ตัวเลนส์ใช้เซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว 1.55 um f/3.5-6.5 ความละเอียดภาพที่ได้ 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p/30fps

DSC00670

ส่วนระยะการถ่ายภาพอยู่ที่ 25 – 250 มิลลิเมตร ระยะมาโครที่ 5 เซนติเมตร (1x) และ 1.5 เซนติเมตร (10x) นอกจากนี้ ยังมีการใส่ Xenon Flash มาให้ใช้งาน พร้อมระบบกันสั่น OIS สำหรับภาพนิ่ง และ EIS สำหรับภาพเคลื่อนไหว ปรับ ISO ได้ตั้งแต่ 100 – 3,200 และการบันทึกภาพจะมีการจัดเก็บไว้ภายในสมาร์ทโฟน พร้อมอัปโหลดขึ้นไปเก็บไว้บนคลาวด์แบบอัตโนมัติ

DSC00668

โดยรวมแล้ว ต้องยอมรับว่าการที่โมโต เลือกการเป็นพันธมิตรกับทาง Hasselblad ถือเป็นความแปลกใหม่ในวงการอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ที่แน่นอนว่าในไลน์การผลิตของโมโต ไม่ได้มีเพียงแค่ True Zoom เพียงอุปกรณ์เดียว เพราะจากการที่ได้พูดคุยกับทาง Hasselblad พบว่า การเป็นพันธมิตรดังกล่าว ถือเป็นความร่วมมือในระยะยาว ซึ่งในอนาคตอันใกล้ก็จะได้เห็นผลิตภัณฑ์อื่นๆตามออกมาในส่วนของการถ่ายภาพเช่นเดียวกัน

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว True Zoom จึงถือเป็นอุปกรณ์ที่จะมาบุกเบิกจากความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ ด้วยการตอบโจทย์ในการแปลงสมาร์ทโฟนเป็นกล้องถ่ายภาพที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับถือสมาร์ทโฟนถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น จากการกริปที่ยื่นออกมา ประกอบกับคุณภาพที่ได้ถือว่าอยู่ในระดับสูงของกล้องถ่ายภาพอยู่แล้ว

ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ช่างภาพหลายคนหันมาเลือกใช้ Moto Z / Moto Z Play เหมือนกับการที่ผู้ถ่ายภาพหลายรายเลือกซื้อ Huawei P9 ที่ได้ร่วมมือกับ Leica ในการนำเทคโนโลยีมาใส่ให้ใช้งาน อย่างไรก็ตามในตลาดแมส ชื่อชั้นของ Hasselblad อาจจะไม่คุ้นหูเท่า Leica เพราะด้วยแบรนด์ที่ทำแต่กล้องขนาดใหญ่ ทำให้ต้องจับตาดูเหมือนกันว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างไร เนื่องจากราคาเปิดตัวของ True Zoom อยู่ที่ 299 เหรียญ หรือราวๆหมื่นบาท

ด้านล่างจะเป็นตัวอย่างภาพที่ถ่ายจาก Hasselblad True Zoom ที่มีทั้งการถ่ายภาพสีปกติ ขาวดำ รวมถึงการซูมภาพเมื่อเทียบกับระยะที่ถ่ายแบบปกติ เพื่อให้เห็นถึงความละเอียดของภาพเมื่อทำการซูม 10x ถ้าต้องการรับชม ไฟล์ภาพ จริงสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้

ส่วนข่าวดีก็คือ เตรียมพบกับ Moto Z, Moto Z Play และ Moto Mods ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ที่งาน Thailand Mobile Expo 2016 จัดวันที่ 29 ก.ย. – 2 ต.ค. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

Gallery

]]>