Nokia 6.1 Plus – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Tue, 13 Nov 2018 09:16:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : Nokia 6.1 Plus จอไร้ขอบขนาดเหมาะมือ https://cyberbiz.mgronline.com/review-nokia-6-1-plus/ Tue, 13 Nov 2018 09:05:56 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=29671 Nokia 6.1 Plus เหมาะกับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มองไม่เหมือนสมาร์ทโฟนจีน รวมถึงทุกคนที่ต้องการประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะ Android One ที่จะรับประกันว่าเครื่องจะได้อัปเดทระบบแน่นอนภายใน 2 ปีหลังจากซื้อ บนราคาที่ถือว่าเป็นระดับเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนระดับกลาง

ข้อดี

– รูปลักษณ์พรีเมี่ยม ดูหรูแวววาว
– ขนาดกะทัดรัดกำลังดี
– จอแสดงผลยอดเยี่ยม
– ระบบ Android One เร็วและไม่รก

ข้อสังเกต

– การถ่ายภาพในที่แสงน้อยยังไม่น่าพอใจ
– ระบบสแกนนิ้วผิดพลาดบ่อย

*** กระจกเงาให้ความหรู

ไม่ถึง 2 ปีดีหลังจากที่ HMD Global ชุบชีวิต Nokia ขึ้นมา วันนี้สมาร์ทโฟนแบรนด์ Nokia ถูกมองว่าสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้แล้ว บนจุดยืนเรื่องความจงรักภักดีกับโครงการ Android One ของ Google อย่างเหนียวแน่น ซึ่งกรณีของ Nokia 6.1 Plus ที่รับไม้ต่อจาก Nokia 6 และ Nokia 6.1 ถือว่าเป็นอีกจุดขายที่เสริมให้ Nokia 6.1 Plus น่าเชื่อถือมากขึ้น

สิ่งที่มีใน Nokia 6.1 Plus คือการอัปเดทฮาร์ดแวร์ที่ดีขึ้น บนรูปลักษณ์ใหม่ซึ่งหลายคนบอกว่าต่างจาก Xiaomi และ Honor ซึ่งเป็นคู่แข่งในตลาดระดับราคาเดียวกัน ด้านหน้าของ Nokia 6.1 Plus คือจอใหญ่ไร้ขอบดูธรรมดาทั่วไป แต่บอดี้ด้านข้างที่ใช้อะลูมิเนียม คู่กับฝาหลังที่ทำจากกระจกนั้นทำให้เครื่องมีความโดดเด่นสวยงามดี ทำให้ดูราคาแพงกว่าที่เป็นจริง

เครื่องสีขาวที่ทดลองใช้งานนั้นไม่เห็นลายนิ้วมือหรือรอยเปื้อนเลย จุดนี้ผู้สนใจควรสังเกตให้ดีหากต้องการซื้อสีดำ จุดนี้ข้อมูลระบุว่าหน้าจอ IPS ของ Nokia 6.1 Plus มีขนาด 5.86 นิ้ว ความละเอียด FHD (1080 x 2280 พิกเซล) ความละเอียดเม็ดสี 432 ppi อัตราส่วนภาพ 19:9 โดย Nokia 6.1 Plus เป็นรุ่นแรกสำหรับโทรศัพท์โนเกียที่มีรอยบาก ตัวหน้าจอใช้ Corning Gorilla Glass 3 เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน

กล้อง 2 ตัวด้านหลังเรียงกันในแนวตั้งอยู่บนแฟลช ทั้งหมดยื่นออกมาเล็กน้อยเพื่อให้โทรศัพท์ไม่ราบเรียบบนผิวเครื่อง จุดนี้ต้องปรบมือให้เพราะโมดูลกล้องและเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านล่างมีโครเมี่ยมเงาล้อมอยู่รอบตัว ดูแวววาวน่าสนใจมากขึ้นเหมือนปุ่มเพาเวอร์และปุ่มปรับระดับเสียง

Nokia 6.1 Plus ถือเป็น 1 ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัดที่สุดในตลาดในขณะนี้ขนาดไล่เลี่ยกับ Pixel 2 ความหนาเครื่องคือ 8 มม. น้ำหนัก 151 กรัม แทบทุกคนตกใจกับราคาเครื่องที่บอกว่าอยู่ระดับ 8,990 บาท เนื่องจากคิดว่าราคาเครื่องจะสูงกว่านี้

***ชิปวางใจได้

Nokia 6.1 Plus แตกต่างจากโทรศัพท์โนเกียรุ่นก่อนที่การใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 636 พร้อมชิปเซ็ต Kryo 260 ซึ่งเป็นชิปเดียวกับสมาร์ทโฟนคู่แข่งรายอื่นเช่น Asus Zenfone Max Pro M1 และ Xiaomi Redmi Note 5 Pro จุดนี้ Nokia 6.1 Plus ทำคะแนนทดสอบประสิทธิภาพเครื่องได้ไม่เป็นรองใคร ด้วยแรม 4GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในขนาด 64GB ซึ่งสามารถขยายได้ด้วยการ์ด microSD

Nokia 6.1 Plus ถือว่าใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน แม้ว่าจะมีอาการกระตุกเล็กน้อยหากสแกนลายนิ้วมือติดกันบ่อยมากเกินไป ตัวเครื่องรองรับการเล่นเกมส่วนใหญ่ แต่เกมแบบกราฟิกที่เข้มข้นเช่น PUBG Mobile จะทำงานโดยใช้ค่ากราฟิกต่ำที่สุด

การทดสอบบน AuTuTu Benchmark v7.1.0 พบว่า Nokia 6.1 Plus เครื่องที่ทีมงานได้รับมาทดสอบนั้นทำคะแนน 117,260 แต้ม โดยการทดสอบแบตเตอรี่ที่ HMD เคลมว่าสนทนาต่อเนื่องได้ 20.5 ชั่วโมง พบว่าหากเครื่องมีแบตเตอรี่เหลือ 40% ทำให้ยังใช้งานต่อได้มากกว่า 4 ชั่วโมง

 

นอกจากนี้ Nokia 6.1 Plus ยังรองรับ QuickCharge 3.0 ซึ่งช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 0 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ในเวลาประมาณ 80 นาทีเร็วทันใจ ใช้ USB Type-C สำหรับชาร์จ ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนได้ ขนาดความจุ 3,060 mAh

Nokia 6.1 Plus มาพร้อมกับถาดไฮบริดเพื่อให้สามารถใช้ซิมการ์ด 4G แบบนาโนซิม 2 ชิ้น หรือจะยอมเสียช่องหนึ่งสำหรับใส่การ์ด microSD แทน

กล้องหลัง 2 ตัวของ Nokia 6.1 Plus ใช้เซ็นเซอร์หลัก 16 MP f/2.0 พร้อม PDAF และเซ็นเซอร์วัดความลึก 5MP f/2.4 หากอยู่ในสภาพแสงกลางวัน รูปภาพจะสวยบนสีสมบูรณ์แบบ เรียกว่าภาพมีความคมชัดและมีรายละเอียดที่ดี สามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการถ่ายภาพบุคคล ซึ่งตรวจจับได้ดีบนโทนสีผิวที่สวยสมบูรณ์แบบ

แต่ในสภาพแสงน้อย Nokia 6.1 Plus มีอาการภาพเบลอ โดยเฉพาะการถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวในสภาพแสงน้อย

โดยรวมแล้ว Nokia 6.1 Plus ทำให้เรารู้สึกประทับใจกับกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพราะเมื่อใช้ถ่ายภาพในเวลากลางวัน การทำ bokeh เกิดขึ้นได้ง่ายดายและมีการจัดการเพื่อเบลอพื้นหลังโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดเลย

กล้องด้านหน้าของ Nokia 6.1 Plus ละเอียด 16MP f / 2.0 สามารถจับภาพ selfies หน้าเนียนได้แม้จะใช้งานในอาคาร ถึงจะเป็นเลนส์เดี่ยวก็ไม่มีปัญหาในการถ่ายภาพโหมด bokeh เช่นเดียวกับโหมดที่ Nokia พยายามขายอย่าง Dual-Sight Bothie การถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอด้วยกล้องหน้าและหลังพร้อมกันในโหมดนี้เป็นประโยชน์มากสำหรับการถ่ายวิดีโอเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ซึ่งสามารถทำ LIVE สดไปยัง Facebook และ YouTube ได้ด้วยคลิกเดียว

ใครชอบลูกเล่น 3D AR สติกเกอร์ไม่ผิดหวัง เช่นเดียวกับโหมดถ่ายภาพบุคคลที่ทำงานได้ไม่เลวเลย การซูมเข้าหรือออกในระหว่างการบันทึกวิดีโอพบอาการสะดุดเล็กน้อย

บทสรุปคือกล้องใน Nokia 6.1 Plus อยู่ในระดับใช้ได้ แต่หากเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นอื่น Nokia 6.1 Plus ถือว่ายังไม่ดีพอสำหรับความคาดหวังที่หลายคนตั้งไว้

*** ซอฟต์แวร์ไม่รก

เช่นเดียวกับโทรศัพท์รุ่นอื่นของ HMD Global สมาร์ทโฟน Nokia 6.1 Plus เป็นสมาร์ทโฟน Android One ที่จะจัดส่งด้วยระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ที่สามารถอัปเดทเป็น Android 9 Pie ได้แล้ว และคาดว่าจะได้เป็น Android Q เร็วกว่าสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น

ความเป็น Android One จะทำให้ Nokia 6.1 Plus ได้รับการอัปเกรดแน่นอนในระยะเวลา 2 ปีหลังจากซื้อเครื่อง ขณะเดียวกันก็ได้อัปเดทระบบรักษาความปลอดภัยรายเดือนต่อเนื่อง 3 ปี

แอปที่น่าสนใจใน Nokia 6.1 Plus คือ Nokia Camera ที่ถือว่ามีประโยชน์ สามารถตั้งค่าท่าทางเพื่อเปิดใช้งานกล้องได้รวดเร็วขึ้น ที่สำคัญคือชาว Nokia 6.1 Plus ควรอัปเกรด Android Pie จึงจะสามารถใช้งานระบบสั่งการด้วยท่าทางได้ดีขึ้น

*** ราคาเปิดตัว 8,990 บาท

Nokia 6.1 Plus มีราคา 8,990 บาท เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ต้องการเน้นเซลฟี่ ซีพียูไว้วางใจได้ บนหน้าจอใหญ่ไร้ขอบที่ขนาดเครื่องไม่ใหญ่โตเกินงาม

แม้ในเครื่องที่ทีมงานทดสอบจะพบข้อผิดพลาดที่ระบบอ่านลายนิ้วมือบ่อยครั้ง แต่ต้องยอมรับว่า Nokia 6.1 Plus ทำงานด้านอื่นได้เสถียรดี กลายเป็นอีกสมาร์ทโฟนไร้ขอบที่น่าสนใจในตลาดขณะนี้

สรุปคุณสมบัติเด่น Nokia 6.1 Plus:

หน่วยประมวลผล (CPU / GPU) Qualcomm SnapdragonTM 636 Octa-core 1.8 GHz Kryo 260 / Adreno 509
หน้าจอขนาด 5.86 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2280 พิกเซล, 19:9) ประมาณ 432 ppi
ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo อัปเดทเป็น Android 9 Pie
หน่วยความจำในตัว 64 GB eMMC 5.1 พร้อมรองรับ MicroSD Card สูงสุด 400 GB
รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, USB Type-C
รองรับเครือข่าย 2G/3G/4G
RAM 4GB
กล้องหลังคู่ความละเอียด 16MP + 5MP
กล้องหน้าความละเอียด 16MP
รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint Scan
มีฟีเจอร์สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง
แบตเตอรี่ 3,060 mAh ชาร์จแบบ 5V/2A 10 W
ราคา 8,990 บาท.

]]>