Samsung Galaxy Note 8 – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Wed, 20 Dec 2017 09:55:52 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 เทียบภาพถ่ายจาก 3 สมาร์ทโฟนเด่นช่วงปลายปี 2017 Note 8 – Mate 10 Pro – iPhone X https://cyberbiz.mgronline.com/compare-flagship-smartphone-camera-2h2017/ Tue, 19 Dec 2017 08:39:01 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=27837

กับคำถามที่ว่าช่วงปลายปีเลือกซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใดดี กล้องจากเครื่องระดับไฮเอนด์รุ่นไหนดีที่สุด ทีมงาน Cyberbiz เลยนำ 3 รุ่นเด่นในช่วงปลายปี 2017 ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy Note 8 Huawei Mate 10 Pro และ Apple iPhone X มาเทียบกันให้หายสงสัย

(รูปถ่ายไม่ได้เรียงตามรุ่นที่กล่าวไป เฉลยอยู่ด้านล่าง)

สภาพแสงปกติ

ซูม 2X


แสงน้อย

อาหาร

หน้าชัดหลังเบลอ

สำหรับลำดับในการเรียงภาพ รูปแรกจะมาจาก Apple iPhone X ตามด้วย Huawei Mate 10 Pro และ Samsung Galaxy Note 8

เมื่อลองเทียบกันในแง่ของคุณภาพรูปที่แตกเชื่อว่าไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก แต่ละแบรนด์ก็จะมีเอกลักษณ์ในแง่ของสีที่ได้แตกต่างกัน แต่ถ้าถามว่าสีจากเครื่องรุ่นใดที่ให้ตรงตามความเป็นจริงมากที่สุด ก็จะเป็น iPhone X แต่ถ้ามองในแง่ของความสด การชดเชยแสงที่ทำให้สีอิ่มมากขึ้น Note 8 ก็ให้แสงดีที่สุด

ส่วน Mate 10 Pro จะดีโดดเด่นในเรื่องของการทำหน้าชัดหลังเบลอมากกว่า เนื่องจากเลนส์คู่ที่ใช้ไม่ได้เป็นเลนส์เทเลเหมือนอีก 2 รุ่น แต่ใช้เลนส์ขาว-ดำ ในมีความฉลาดในแง่การเก็บมิติของภาพมาช่วยแยกวัตถุออกมา ดังนั้นดูแล้วชอบสี ชอบโทนรูปแบบไหน ก็เลือกใช้งานกันได้

ทั้งนี้ผู้ที่อยากเข้าไปชมภาพจากไฟล์จริง สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ Google Drive นี้เลย

]]>
รวบความสามารถ Samsung Galaxy Note 8 จบในที่เดียว https://cyberbiz.mgronline.com/preview-samsung-galaxy-note8-feature/ Wed, 23 Aug 2017 16:02:30 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=26896

Dual Camera และฟีเจอร์เพิ่มเติมใน S Pen กลายเป็น 2 สิ่งใหม่บน Sansung Galaxy Note 8 ที่แสดงให้เห็นว่าซัมซุงยังเป็นผู้นำนวัตกรรมของตลาดสมาร์ทโฟนได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ใช้งานสินค้า Galaxy Note ที่รอคอยกันมาตั้งแต่สมัย Note 5 หรือเกือบ 2 ปีที่แล้ว

Dual Camera

เริ่มกันที่ความสามารถของ Dual Camera ซัมซุง เลือกที่จะใช้กล้องคู่เป็นครั้งแรกใน Note 8 บนแนวคิดที่ว่าการเพิ่มเลนส์กล้องมาอีกหนึ่งเลนส์ จะช่วยให้ได้ภาพที่มีคุณภาพดีขึ้น และเป็นมุมมองใหม่ให้แก่การใช้งาน

ดังนั้นการจับคู่กล้องของซัมซุง จะเป็นการใช้เลนส์กล้องมุมกว้างปกติ มาจับคู่กับเลนส์ซูม จึงทำให้ Note 8 สามารถซูมภาพแบบออปติคัลได้ 2 เท่า และดิจิตอลซูมเข้าไปอีก 10 เท่า โดยยังคงใช้เลนส์หลักเป็น 12 ล้านพิกเซล ในแบบ Dual Pixel เหมือนใน Galaxy S8 เสริมด้วยเลนส์ซูม 12 ล้านพิกเซล

โดยตัวกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล จะมากับรูรับแสง f/1.7 เพื่อให้เก็บรายละเอียดภาพในที่แสงน้อยได้ดี ส่วนเลนส์เสริมจะมากับรูรับแสง f/2.4 เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Apple Iphone 7 Plus ที่ใช้เลนส์ในลักษณะเดียวกันที่ให้รูรับแสง f/1.8 และ f/2.8 ก็จะทำให้ภาพใน Note 8 เก็บแสงได้ดีกว่า

ในส่วนของโหมดการใช้งานกล้องถ่ายภาพ ถ้ามองว่าใน S8 สมบูรณ์แล้วจากทั้งโหมดอัตโนมัติ และโหมดมืออาชีพ ใน Note 8 จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ที่มากับ Dual Camera เพิ่มเติมคือ โหมด Live Focus ที่ผู้ใช้สามารถปรับความเบลอของฉากหลังเพื่อสร้างโบเก้ได้ตามความต้องการ

กับอีกโหมดที่ซ้อนอยู่ใน Live Focus คือ Dual Capture ที่ตัว Note 8 จะทำการบันทึกทั้งภาพเบลอหลังที่เป็นในโหมดซูม และภาพในมุมมองปกติ ทำให้เมื่อกดดูภาพหลังจากถ่ายจะเห็นทั้งภาพในมุมเต็ม และภาพที่ถ่ายแบบ Live Focus

เมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้ว สามารถเข้าไปเลือกปรับความเบลอของฉากหลังได้เอง หรือถ้าต้องการภาพในมุมกว้าง ก็สามารถเลือกดูได้ ทำให้ไม่พลาดทุกมุมสำคัญที่ถ่ายภาพไป

S Pen

ถัดมาในส่วนของปากกา S Pen ขนาดของปากกาถูกทำให้เพรียวบาง และจับง่ายขึ้น น้ำหนักปากกาลดลงเหลือ 3 กรัม บริเวณท้ายปากกายังสามารถกดเพื่อใช้ในการถอดปากกาจากตัวเครื่อง และถูกทำให้สัมผัสเหมือนการกดปากกาจริงๆ

นอกจากนี้ ยังเพิ่มระดับของแรงกดปากกาขึ้นไปเป็น 4,096 ระดับ จากเดิมใน Note 5 ที่อยู่ 2,048 ระดับ พร้อมกับลดขนาดหัวปากกาเหลือ 0.7 มิลลิเมตร เพื่อให้สามารถเขียนได้ทั้งเส้นขนาดเล็ก และออกแรงกดเพิ่มให้เส้นใหญ่ขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม

ขณะเดียวกันตัวปากกาก็ยังมากับการกันน้ำ IP68 ทำให้สามารถนำ Note 8ไปใช้งานได้โดยไม่ต้องกลัวเปียก และที่สำคัญคือแม้หน้าจอจะเปียกอยู่ ก็สามารถใช้ปากกาเขียนลงไปได้ โดยไม่ต้องเช็ดให้แห้ง เหมือนกับการใช้นิ้วสัมผัสที่บางทีจะแตะไม่ติดถ้าจอเปียกน้ำ

ในส่วนของซอฟต์แวร์ที่ใช้กับปากกา S Pen ใน Note 8 มีการเพิ่มความสามารถอย่าง Live Message ให้สามารถบันทึกการเขียนได้ราว 10 วินาที และแปลงรูปดังกล่าวเป็นไฟล์ภาพเคลื่อนไหว (GIF) เพื่อส่งต่อให้เพื่อน และประยุกต์ใช้กับงานอื่นๆได้

via GIPHY

ประกอบกับซัมซุง ยังมีการสำรวจพฤติกรรมการใช้งานโหมดจดบันทึกขณะหน้าจอปิด (Screen Off Memo) พบว่าผู้บริโภคถึง 64% เริ่มต้นการจดบันทึกจากโหมดดังกล่าว เลยเพิ่มความสามารถในการเพิ่มหน้าได้สูงสุด 100 หน้า รวมถึงการปักหมุดหน้าสำคัญไว้ก่อนเซฟข้อมูลก็ได้

Design

ที่เหลือก็จะเป็นในภาพรวมของ Note 8 ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เพียงแต่ Note 8 ขอบเครื่องจะไม่โค้งเท่ากับใน S8 เนื่องจากต้องการเพิ่มพื้นที่ในการจดบันทึกให้ง่ายที่สุด ซึ่งถ้าเทียบกับ Note 5 จะมีพื้นที่ในการจดบันทึกเพิ่มขึ้น 15.6%

ตัวเครื่องโดยรวมยังเน้นความสมมาตรหน้าหลังที่มีความโค้งเท่าๆกัน โดยใช้กระจก Gorilla Glass 5 ทั้งหน้าและหลัง พร้อมกรอบโลหะ มีขนาดรอบเครื่องที่ 162.5 x 74.8 x 8.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 195 กรัม หน้าจอเป็น Infinite Displayด้วย SuperAMOLED ขนาด 6.3 นิ้ว ในสัดส่วน 18.5:9 ให้ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล

ประสิทธิภาพ

แบตเตอรีที่ให้มาอยู่ที่ 3,300 mAh ทำงานบนหน่วยประมวลผล Exynos 8895เหมือนใน Galaxy S8 โดยรุ่นที่จำหน่ายในไทยจะให้ RAM 6 GB พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่อง 64 GB ใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้ 256 GB (หรือเลือกใส่ซิมที่ 2 แทน)

ด้านการเชื่อมต่อตัวเครื่องจะรองรับ 4G LTE Cat 16 หรือรองรับ 4.5G ในประเทศไทย โดยตามสเปกแล้วสามารถทำความเร็วในการเชื่อมต่อดาวน์โหลดได้สูงสุด 1 Gbps อัปโหลด 150 Mbps เพียงแต่เน็ตเวิร์กในบ้านเรายังรองรับไม่ถึง

Gallery

ตัวอย่างภาพจากกล้อง Note 8

เมื่อถ่าย Live Focus สามารถปรับความเบลอของพื้นหลังได้

ภาพมุมปกติ เทียบกับซูม Live Focus

ซูมดิจิตอล 10 เท่า

สามารถเข้าไปโหลดไฟล์รูปเต็มได้ที่นี่

]]>