Sony Mobile – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Fri, 19 Feb 2016 10:30:14 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : Sony Xperia Z5 เด่นที่กล้อง 23 ล้านพิกเซล https://cyberbiz.mgronline.com/review-sony-xperia-z5/ Tue, 24 Nov 2015 00:50:36 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=19584

head-start

หลังจากปล่อยให้แฟนๆและสาวกโซนี่ต้องนั่งร้องเพลงรอการกลับมาของ Xperia Z-Serie มานาน (เนื่องจากตอน Xperia Z4 โซนี่เลือกทำตลาดเฉพาะประเทศญี่ปุ่น) วันนี้โซนี่พร้อมแล้วที่จะนำสมาร์ทโฟนแฟลกชิปกลับมาทำตลาดทั่วโลกอีกครั้งกับ “Sony Xperia Z5” ที่เปิดตัวพร้อมกันถึง 3 รุ่นได้แก่ Xperia Z5 รุ่นมาตรฐาน (รุ่นที่เรานำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้) Xperia Z5 Compact และรุ่นใหญ่สุด Xperia Z5 Premium

การออกแบบและสเปก

DSC01277DSC01300

โซนี่ยังคงใช้แนวทางการออกแบบ Xperia Z5 แบบ OmniBalance หรือการออกแบบให้สมดุลทุกส่วน พร้อมปรับปรุงวัสดุตรงกรอบโลหะและกระจกด้านหลังใหม่ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเวลาจับถือมากขึ้น อีกทั้งโซนี่ยังได้เพิ่มสีทองเข้ามาทำตลาดใหม่และตัวเครื่องป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP65 และ IP68

water-resis-z5

ด้านขนาดตัวเครื่องกว้าง 72 มิลลิเมตร ยาว 146 มิลลิเมตร หนา 7.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 154 กรัม หน้าจอเป็น Triluminos พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Contrast Enhancer ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1,920×1,080 พิกเซล มาพร้อมกล้องหน้าเลนส์มุมกว้างพิเศษ (25 มิลลิเมตร) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ FullHD และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วย

DSC01303

นอกจากนั้นถ้าสังเกตบริเวณขอบหน้าจอทั้งบนและล่าง จะเห็นช่องลำโพงกระจายเสียงแบบสเตอริโอติดตั้งอยู่อย่างแนบเนียนทั้ง 2 ข้าง

DSC01278

มาดูบริเวณด้านหลังของ Xperia Z5 จุดเด่นหลักอยู่ที่กล้องหลัง Sony Exmor RS ขนาด 1/2.3 นิ้วที่โซนี่ปรับปรุงใหม่ในชื่อรหัส IMX300 ประกบเลนส์ G มุมกว้าง 24 มิลลิเมตรและไฟแฟลช LED

โดย Xperia Z5 รองรับความละเอียดภาพสูงสุด 23 ล้านพิกเซล (Clear Zoom 5 เท่า) รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วย ISO ที่สามารถเพิ่มระดับได้ถึง 12,800 สำหรับภาพนิ่ง และ ISO 3,200 สำหรับงานวิดีโอ พร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบไฮบริด สามารถจับโฟกัสด้วยความเร็ว 0.03 วินาที

ส่วนระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot ใน Xperia Z5 โซนี่ได้ปรับปรุงใหม่โดยใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำงานช่วยเหลือกันในชื่อ Intelligent Active SteadyShot ระบบเดียวกับที่อยู่ในกล้องดิจิตอลของโซนี่

DSC01283DSC01308

มาถึงปุ่มกดและพอร์ตเชื่อมต่อรอบตัวเครื่อง จากด้านซ้ายจะเป็นช่องใส่ซิม (รองรับ Nano SIM) และการ์ด MicroSD เพิ่มความจุเครื่องได้สูงสุด 200GB โดยทั้งสองช่องติดตั้งอยู่ในส่วนเดียวกัน พร้อมฝาปิดป้องกันน้ำเข้าตามแบบฉบับของโซนี่ ถัดลงมาด้านล่างเป็นโลโก้ Xperia

DSC01285fingerscan-z5

อีกด้านหนึ่ง จะเป็นที่อยู่ของปุ่มกดสั่งงานต่างๆ เริ่มจากซ้ายมือของภาพจะเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องถ่ายภาพ (กดครึ่งหนึ่งเพื่อล็อคโฟกัส กดเต็มแรงเพื่อถ่ายภาพ หรือถ้าหน้าจอปิดอยู่ กดปุ่มนี้ค้างไว้จะเป็นการเรียกแอปฯกล้องขึ้นมา) ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง และตรงกลางจะเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง ซึ่งในครั้งนี้โซนี่แอบใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้ปุ่มดังกล่าวด้วย

DSC01294DSC01295

มาดูส่วนด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง ด้านบนจะเป็นช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและไมโครโฟนรับเสียงตัวที่สอง ด้านล่าง ตรงกลางเป็นพอร์ต MicroUSB ด้านซ้ายเป็นช่องคล้องสายรัดข้อมือ

spec-z5

ด้านสเปกหน่วยประมวลผล ครั้งนี้โซนี่มาแปลกเพราะเลือกใช้ซีพียูเจ้าปัญหา Qualcomm Snapdragon 810 Octa-core 64 บิต ความเร็ว 1.56GHz (ใช้กราฟิก Adreno 430 GPU) ที่มีปัญหาเรื่องความร้อนสะสมภายในและผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเกือบทุกเจ้าต่างหลีกเลี่ยงชิปตัวนี้ทั้งนั้น

โดยโซนี่มั่นใจว่าตนจะสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยวิธีเพิ่มท่อระบายความร้อนแบบคู่ (Dual Heat pipes) ประกบเข้ากับ Heat sink บนซีพียูและระบายออกทางฝาหลังตัวเครื่อง ซึ่งผลลัพท์จะเป็นอย่างไรติดตามในส่วนทดสอบประสิทธิภาพต่อไป

กลับมาดูเรื่องสเปกแรมกันต่อ โซนี่ใส่แรมมาให้ 3GB รอมภายใน 32GB เหลือใช้งานจริงประมาณ 21.78GB แบตเตอรีใส่มา 2,900mAh และโซนี่เครมว่าแบตเตอรีสามารถใช้งานได้ยาวนาน 2 วัน

มาถึงเรื่องระบบเชื่อมต่อต่างๆ Sony Xperia Z5 รองรับ 3G/4G LTE ทุกเครือข่ายในไทย ส่วน WiFi เลือกใช้ MiMo เข้ามาเสริม มี NFC, Bluetooth 4.1 อีกทั้งพอร์ต MicroUSB ยังรองรับการเชื่อมต่อสาย MHL รุ่น 3.0 ด้วย

ยูสเซอร์อินเตอร์เฟสและฟีเจอร์เด่น

apps-z5-1apps-z5-2homescreen-z5

ระบบปฏิบัติการที่ใช้ขับเคลื่อน Xperia Z5 คือ Android 5.1.1 Lollipop ซึ่งมีหน้าตาการทำงานและแอปฯหลายตัวคล้ายกับ Xperia M5 ที่ทีมงานได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ ทีมงานจะเน้นอธิบายฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่เพียงอย่างเดียว ส่วนฟีเจอร์เดิมผู้อ่านสามารถย้อนกลับไปอ่านได้จากลิงค์ด้านล่างนี้

streaming-video-z5

Screenshot Live Streaming – เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน Xperia Z3 เดิมแต่ถูกพัฒนาปรับปรุงใหม่ใน Xperia Z5 กับความสามารถในการถ่ายทอดสดจากหน้าจอสมาร์ทโฟนของคุณไปสู่บริการ YouTube Live ได้ รวมถึงระหว่างถ่ายทำคุณยังสามารถเปิดกล้องหน้าได้ด้วย เหมาะแก่ผู้ใช้ที่อยากทำคลิปวิดีโอสอนการใช้แอปฯต่างๆได้อย่างดี

hires-option-z5

Hi-Res Audio – ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธง เพราะฉะนั้นโซนี่ต้องจัดเต็มเรื่องคุณภาพเสียงเช่นเดิม โดย Xperia Z5 มาพร้อมชิปประมวลผลเสียง Hi-Res Audio 24bit/96KHz รองรับการเล่นไฟล์ FLAC ที่เข้ารหัส Hi-Res Audio ได้ รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธ Hi-Res และหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบดิจิตอล Digital Noise Canceling

นอกจากนั้นตัวระบบยังสามารถเปิด S-Force Front Surround ใช้งานร่วมกับลำโพงคู่หน้าบนสมาร์ทโฟนตัวนี้ได้ ซึ่งจะช่วยให้เสียงมีมิติมากขึ้น เหมาะแก่การเปิดระหว่างรับชมภาพยนตร์

party-share-z5

PartyShare – เป็นแอปฯสร้างสรรค์ตัวใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ Xperia Z5 กับเพื่อนที่มีสมาร์ทโฟนโซนี่และรองรับ PartyShare สามารถแชร์คอนเทนต์ เช่น ภาพถ่ายหรือรายการเพลงกับเพื่อนๆแบบเรียลไทม์ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

xperia-transfer-mobile

Xperia Transfer Mobile เป็นอีกหนึ่งบริการอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่กำลังคิดเปลี่ยนจากสมาร์ทโฟนรุ่นเก่ามายัง Xperia Z5 โดย Xperia Transfer Mobile จะช่วยให้คุณย้ายข้อความ สมุดโทรศัพท์และอื่นๆได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งคัดลอกด้วยตัวเองเหมือนสมัยก่อน

camera1-z5camera2-z5

มาถึงกล้องถ่ายภาพ สำหรับซอฟต์แวร์กล้องยุคใหม่ของโซนี่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุด 23 ล้านพิกเซลในโหมดอัตโนมัติพิเศษได้ ส่วนโหมด Manual ปรับแต่งค่ากล้องเอง จะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถตั้งชดเชยแสง White Balance และเปิดปิด HDR หรือเลือกซีนโหมดได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ยังไม่เห็นฟีเจอร์ปรับความเร็วชัตเตอร์ ถ่าย RAW ได้เหมือนคู่แข่ง (แม้ตัวฮาร์ดแวร์จะรองรับก็ตาม)

camera3-video-z5

สุดท้ายโหมดวิดีโอ 4K มีสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ การรองรับไฟล์รูปแบบใหม่ H.265 ที่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลน้อยกว่ารูปแบบ H.264 อีกทั้งวิดีโอ 4K ยังรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot เป็นครั้งแรกของโซนี่ด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพ

benchmark2-z5benchmark-z5

ไม่เสียแรงที่ใช้ซีพียูแฟลกชิป Qualcomm Snapdragon 810 ที่ถึงแม้หลายเจ้าจะเมินหน้าหนีเพราะปัญหามากมาย แต่โซนี่กลับเลือกใช้และทำให้ผลคะแนนทดสอบออกมาดีมากจนสูสีกับแชมป์เก่า Samsung Galaxy S6 edge ที่เคยทำคะแนน AnTuTu ไว้สูงสุดของตาราง (68,296 คะแนน)

แบรนด์ คะแนนทดสอบ ราคาเปิดตัว
Samsung Galaxy S6 edge (64 บิต) 68,296 27,900.-
Sony Xperia Z5 (64 บิต) 64,201 24,990.-
Apple iPhone 6s Plus 128GB 58,689 30,500.-
Apple iPhone 6s 128GB 58,615 26,500.-
Samsung Galaxy Note 5 61,835 25,900.-
HTC One M9+ 50,794 24,990.-
LG G4 (Korea Model) 50,610 21,990.-
Samsung Galaxy Note Edge 48,156 28,900.-
Sony Xperia Z3 45,039 23,990.-


เรื่องประสิทธิภาพหมดห่วงได้แต่เรื่องความร้อนของ Qualcomm Snapdragon 810 สรุปโซนี่จัดการได้ดีหรือไม่ คำตอบคือ “จัดการได้ดีระดับหนึ่ง”
เพราะทีมงานได้ทดลองตั้งแต่เล่นเกม 3 มิติ ถ่ายภาพต่อเนื่องและถ่ายวิดีโอ FullHD ต่อเนื่อง พบว่า ไม่เจอปัญหาแอปฯปิดตัวเพราะเครื่องค้างเหมือนกับที่หลายแบรนด์พบเจอ แต่จุดที่น่าเป็นห่วงก็คือฝาหลังเครื่อง (บริเวณโลโก้ SONY) จะมีความสะสมค่อนข้างมากและกลายเป็นเรื่องน่ากังวลของผู้ที่ได้ลองสัมผัส หลายคนจับแล้วต้องร้องตกใจกับความร้อนที่เกิดขึ้นพร้อมตั้งคำถามว่า

“ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรเพราะโซนี่ออกแบบการระบายความร้อนมาได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าใช้เป็นระยะเวลานาน (ในที่นี้หมายถึงใช้เครื่องนานกว่า 1-2 ปีขึ้นไป) ระบบระบายความร้อนจะมีปัญหาหรือไม่ ซิลิโคนและฮีตไปป์คู่จะยังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนช่วงซื้อเครื่องใหม่หรือไม่” คำถามเหล่านี้ทีมงานอยากฝากทีมโซนี่เข้ามาตอบจะเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง…

จบเรื่องทดสอบประสิทธิภาพ มาดูเรื่องงานวิดีโอกับการทดสอบจุดเด่นสำคัญก็คือ “ไมโครโฟนรับเสียงสเตอริโอกับระบบออโต้โฟกัสที่ทำงานร่วมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวตัวใหม่” จุดนี้จาก 2 คลิปวิดีโอด้านบน ถือว่าโซนี่ปรับปรุงงานวิดีโอมาได้ดีกว่าเดิมมาก และถือเป็นกล้องถ่ายวิดีโอบนสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงติดอันดับต้นๆของปีนี้ได้เลย

4k-prob

H.265 ถูกใช้ในการบีบอัดไฟล์ 4K รูปแบบใหม่ เพราะขนาดไฟล์ที่เล็กลงแต่คุณภาพเท่าต้นฉบับ แต่ปัจจุบันซอฟต์แวร์ที่จะใช้จัดการไฟล์ลักษณะนี้ยังมีน้อยมาก

ในส่วนวิดีโอ 4K จุดนี้ถือว่าให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าเดิม แต่ถามว่าดีที่สุดไหม ทีมงานขอตอบว่า “ไม่” ข้อสังเกตสำคัญของวิดีโอ 4K บน Xperia Z5 ก็เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าก็คือ ไฟล์คุณภาพสูงจริง แถมมีให้เลือก 2 รูปแบบทั้ง H.264 และ H.265 ใหม่ แต่เมื่อต้องการนำไฟล์ออกมาใช้งานจริง ความลำบากจะเกิดขึ้นทันทีเพราะในตัวสมาร์ทโฟนเองยังไม่มีซอฟต์แวร์เข้ามาจัดการไฟล์ 4K เหล่านี้ได้ โดยเฉพาะ H.265 (ขนาดซอฟต์แวร์ที่ติดมากับเครื่องยังฟ้องไม่รู้จักเลย) เพราะฉะนั้นถ้าใครถ่าย 4K มาแล้วอยากตัดต่อเรียบเรียงคลิปก็ต้องใช้วิธีเดียวคือดึงไฟล์มาจัดทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์สเปกสูงเท่านั้น

ภาพจากกล้องหน้า Sony Xperia Z5

มาถึงการทดสอบกล้องถ่ายภาพ 23 ล้านพิกเซล ถือเป็นจุดสูงสุดของ Xperia Z5 เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่โซนี่ปรับไปใช้เซ็นเซอร์รับภาพตัวใหม่ คุณภาพไฟล์ถือว่าทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการเลือกซีนโหมด การปรับสมดุลแสงและโทนภาพทำได้ฉลาดขึ้น ยิ่งเป็นภาพในที่แสงน้อยหรือภาพวิวช่วงกลางคืนด้วยแล้ว Xperia Z5 ให้ผลลัพท์ภาพที่ดีกว่ารุ่นที่แล้วแน่นอน

แต่ทั้งนี้ถ้าถามว่าคุณภาพไฟล์ภาพดีขึ้นมากจนน่าประทับใจไหม คำตอบของทีมงานก็คือ ดีกว่าเดิมครับ แต่ไม่ถึงกับดีจนน่าประทับใจ ไฟล์ภาพคุณภาพกลางๆ (รู้สึกเหมือนกล้องใน Xperia M5 จะทำได้น่าประทับใจกว่า) ทำให้จุดเด่นเรื่องกล้องทั้งหมดไปตกอยู่กับเรื่องระบบออโต้โฟกัสแบบไฮบริดที่ทำได้ดีมาก

ตารางผลทดสอบแบตเตอรีสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ประจำปี 2015 (กรกฏาคม-ธันวาคม)

*โมเดลขายในประเทศไทย / ชุดทดสอบ : Geekbench / ทดสอบจากสถานะแบตเตอรี 100% ถึง 0%
*EXTREMELY TEST เป็นการสอบแบบหนักหน่วง (เปิดหน้าจอตลอดเวลา) ไม่ใช่การทดสอบใช้งานทั่วไป

*คาดการณ์เวลาสำหรับใช้งานทั่วไปให้ +6 ชั่วโมงโดยประมาณ จากช่องเวลาที่ทำได้

แบรนด์ ความจุแบตเตอรี สเปก CPU/DISPLAY/OS Ver. เวลาที่ทำได้ คะแนน ราคาเปิดตัว
Samsung Galaxy Note 5 3,000 mAh Exynos 7420 Octa 1.5+2.1 / 5.7″ 2K / A5.1.1 8h39m50s 5,198 25,900.-
Sony Xperia M5 Dual 2,600 mAh MediaTek Helio X10 Octa 2.0 / 5″ 1080p / A5.0 7h18m30s 3,157 14,990.-
i-mobile IQ II Android One 2,500 mAh Snapdragon 410 Quad 1.2 / 5″ 720p / A5.1.1 7h10m00s 2,867 4,444.-
Lenovo Phab Plus 3,500 mAh Snapdragon 615 Octa 1.5 / 6.8″ 1080p / A5.0 6h6m50s 2,446 11,990.-
Samsung Galaxy Tab S2 4,000 mAh Exynos 5433 Octa 1.9+1.3 / 8″ 2K / A5.0.2 6h36m10s 3,945 15,900.-
LG G4 (Korea Model) 3,000 mAh Snapdragon 808 Hexa 1.44 / 5.5″ 2K / A5.1 5h47m20s 3,470 21,990.-
Sony Xperia Z5 2,900 mAh Snapdragon 810 Octa 1.56 / 5.2″ 1080p / A5.1.1 5h29m50s 3,298 24,990.-

สุดท้ายกับการทดสอบแบตเตอรี โซนี่เครมไว้ว่าสามารถใช้งานได้ 2 วัน แต่เอาเข้าจริงแล้ว ถ้าใช้งานทั่วไปแบตเตอรีจะอยู่ได้ประมาณ 11-13 ชั่วโมง ใช้งานสลับสแตนบายรอรับสายโทรเข้าจะอยู่ได้ 1 วัน (เปิดโหมด STAMINA) ส่วนถ้าใช้งานหนักหน่วง เช่น เล่นเกม 3 มิติ แบตเตอรีจะลดลงอย่างรวดเร็วเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น จุดนี้น่าจะมีผลมาจากชิป Snapdragon 810 ด้วย คะแนนแบตเตอรีถึงได้ตกไปอยู่ท้ายตารางเลย

สรุป

สำหรับราคาเปิดตัว Sony Xperia Z5 อยู่ที่ 24,990 บาท ถือเป็นการกลับมาของโซนี่โมบายที่ยังคงเน้นเรื่องกล้องถ่ายภาพเป็นจุดขายสำคัญ ส่วนเรื่องสเปกเครื่องถือเป็นการอัปเกรดตามกระแส ไม่มีสิ่งใดหวือหวา ยกเว้นในรุ่น Z5 Premium ที่มาพร้อมหน้าจอความละเอียด 4K 806ppi แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่เพิ่มเป็น 27,990 บาท

ข้อดี

– ออกแบบดี งานประกอบแน่นหนาเหมือนเดิม
– ระบบป้องกันภาพสั่นไหวตัวใหม่ยอดเยี่ยมขึ้นมาก
– ระบบออโต้โฟกัสแบบไฮบริดทำงานรวดเร็วและแม่นยำ
– รองรับ Hi-Res Audio
– Clear Zoom 5 เท่า ใช้งานได้จริง

ข้อสังเกต

– เวลาใช้งานหนัก ฝาหลังจะร้อนมากกว่าปกติและแบตเตอรีลดลงอย่างรวดเร็ว
– 4K H.265 ใช้งานจริงยากมาก เพราะตัวเครื่องไม่มีซอฟต์แวร์จัดการมาให้
– ซอฟต์แวร์กล้องยังดึงประสิทธิภาพกล้องออกมาไม่เต็มที่

Gallery

]]>
Review: Sony Xperia M5 ปรับใหม่ กล้องเยี่ยม เทียบไฮเอนด์ สเปกคุ้มราคา https://cyberbiz.mgronline.com/sony-xperia-m5/ Mon, 12 Oct 2015 07:57:47 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=17821

558000011834602

ก่อนที่สมาร์ทโฟนท็อปฟอร์มกระแสดีอย่าง Sony Xperia Z5 จะวางขายอย่างเป็นทางการ Sony Xperia M5 ก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่หลายคนให้ความสนใจไม่แพ้กัน เพราะในครั้งนี้โซนี่ตั้งใจลบเสียงวิจารณ์ด้านลบที่เคยเกิดขึ้นกับ M4 Aqua โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพที่โซนี่จัดเต็มทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไม่แพ้ Z5 จนได้ชื่อว่า “เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ระดับกลางที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงที่สุดในโลก” และถือเป็นครั้งแรกที่โซนี่ปรับปรุงกล้องถ่ายภาพใหม่หมดโดยนำฟีเจอร์จากกล้องดิจิตอลตระกูลอัลฟ่ามาบรรจุลงใน Xperia M5 พร้อมด้วยราคาที่ยังจัดว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอีกด้วย

การออกแบบ

558000011834603558000011834604

แต่ก่อนจะไปรับชมรีวิวจุดเด่นต่างๆ เรามาดูเรื่องการออกแบบกันก่อน สำหรับ Xperia M5 รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยจะเป็นรุ่นซิมเดียว (แต่เครื่องรีวิวเป็น Dual Sim) และมีสีให้เลือก 3 สีได้แก่ ดำ ขาวและทอง

ภาพรวมด้านการออกแบบ การวางปุ่มต่างๆ โซนี่ยึดตามหลัก OmniBalance เช่นเดิม ด้านหน้าของตัวเครื่อง โซนี่เลือกใช้วัสดุเป็นกระจกป้องกันรอยขีดข่วน ด้านบนเหนือโลโก้ Sony เป็นช่องลำโพงฟังเสียงสนทนา ด้านล่างเป็นช่องไมโครโฟนตัวที่ 1

หน้าจอเป็น IPS LCD ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1,920×1,080 พิกเซล ประกบหน่วยประมวลผล BRAVIA Engine 2 ตัวเครื่องหนา 7.6 มิลลิเมตร ขอบเครื่องจากสเปกชีทระบุว่าเป็นอลูมิเนียม น้ำหนักตัวเครื่องรวม 142.5 กรัม

และที่สำคัญโซนี่ยังคงรักษาจุดขายของตนในเรื่องการป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/68

558000011834605

มาดูกล้องหน้า ถือเป็นครั้งแรกที่โซนี่ปรับให้เข้ากับยุคแห่งการเซลฟีมากขึ้น โดย Xperia M5 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ประกบเซนเซอร์รับภาพ Exmor RS รองรับ HDR และสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1,920×1,080 พิกเซล ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที

558000011834606

ด้านหลังของตัวเครื่อง ใช้วัสดุเป็นกระจกเช่นเดียวกับด้านหน้า จุดเด่นอยู่ที่กล้องถ่ายภาพด้านหลัง 21.5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.2 ประกบเซนเซอร์รับภาพ Exmor RS รองรับความไวแสงสูงสุด ISO 3,200 และรองรับระบบซูมภาพแบบไม่สูญเสียความคมชัดที่ 5 เท่า พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ Hybrid Auto focus (Phase + Contrast Detection จากเทคโนโลยีโฟกัสของกล้องตระกูลอัลฟ่า) ที่ช่วยให้โฟกัสเร็วถึง 0.25 วินาทีและโฟกัสในที่แสงน้อยทำได้แม่นยำขึ้น ถัดมาเป็นไฟแฟลช LED 1 ดวง

ตรงกลางเป็นส่วนของภาครับสัญญาณ NFC และโลโก้ Sony ถัดลงไปด้านล่างเป็นชื่อรุ่น Xperia

558000011834607

ในส่วนปุ่มกดและช่องเชื่อมต่อต่างๆรอบตัวเครื่อง เริ่มจากด้านซ้ายของเครื่อง จะเป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบ Nano Sim และช่องใส่การ์ดเพิ่มความจุตัวเครื่อง MicroSD รองรับความจุสูงสุด 200GB Class 10 หรือ UHS Class 1

558000011834608

โดยหลังใส่ซิมหรือการ์ด MicroSD แล้วควรปิดช่องดังกล่าวให้สนิทเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองผ่านเข้าไปภายในตัวเครื่อง เวลาเราต้องนำเครื่องไปลุยฝนหรือลุยน้ำในรูปแบบต่างๆ

558000011834609

ด้านขวาของเครื่อง จากซ้ายของภาพเป็นปุ่มชัตเตอร์ โดยเมื่อหน้าปิดอยู่สามารถกดค้างเพื่อเรียกกล้องถ่ายภาพได้ทันที ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง และสุดท้ายปุ่มวงกลมคือปุ่มเปิดปิดเครื่อง

558000011834610558000011834611

ด้านบนเครื่อง เป็นที่อยู่ของช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรและไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างเครื่องตรงกลางเป็นช่อง MicroUSB สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ถัดไปด้านซ้ายเป็นช่องลำโพง (Internal Speaker)

สเปก

558000011834612

มาถึงด้านสเปกเครื่อง Sony Xperia M5 ขับเคลื่อนด้วยซีพียู 64 บิตตัวฮิตของปีนี้ในชื่อ MediaTek Helio X10 Octa-core (8 คอร์) ความเร็ว 2.0GHz กราฟิกเป็นของ PowerVR รุ่น Rogue G6200 แรมให้มา 3GB ความจุภายในตัวเครื่อง 16GB เหลือใช้งานจริงประมาณ 9.05GB ส่วนระบบปฏิบัติการเลือกใช้ แอนดรอยด์ 5.0 Lollipop แบบ 64 บิตเต็มรูปแบบ

ในส่วนการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ Xperia M5 รองรับ 3G และ 4G LTE ทุกเครือข่ายในประเทศไทย WiFi รองรับมาตรฐาน 802.11 a/b/g/n Dual band ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz นอกจากนั้นยังรองรับ DLNA และ Wi-Fi Direct ส่วน GPS รองรับทั้ง aGPS และ GLONASS พร้อมบลูทูธ 4.1 รองรับการเชื่อมต่อ aptX แต่ไม่รองรับ Hi-Res Audio เหมือนรุ่นพี่ใหญ่ Xperia Z5

สำหรับแบตเตอรี ให้มา 2,600mAh ตามสเปกชีทระบุว่าสามารถสนทนาได้ต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง 49 นาที ส่วนเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง 2 นาที

ฟีเจอร์เด่น

558000011834613

ภาพรวมของยูสเซอร์อินเตอร์เฟสของโซนี่บนแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop ไม่ค่อยแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก จุดที่เปลี่ยนแปลงไปส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนไอคอนและหน้าตาแอปฯบางตัวมีการปรับให้เรียบง่ายขึ้นตามรูปแบบของ Material Design

558000011834614

โดยเฉพาะส่วนของแถบแจ้งเตือน (Notification) ที่ดึงหน้าตาแถบแจ้งเตือนบนแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop ออกมาใช้ได้อย่างลงตัวพร้อมเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถเลือกเพิ่มเมนูตั้งค่าด่วนได้ตามต้องการ

558000011834615

ในส่วนแอปฯจากโรงงานที่น่าสนใจ นอกจากแอปฯเดิมอย่าง Sketch, What’s New และแอปฯอื่นๆ จะได้รับอัปเดตให้รองรับแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop รวมถึงปรับดีไซน์ใหม่แล้ว ทางโซนี่ยังได้เพิ่มแอปฯในกลุ่ม Play Station Network สำหรับผู้ใช้ที่มีเครื่องเล่นเกมคอนโซล PlayStation 4 อยู่ สามารถเชื่อมต่อเครื่องเล่นเกมดังกล่าวเข้ากับสมาร์ทโฟนกลุ่ม Xperia และแชร์เกมมาเล่นบนสมาร์ทโฟนได้ด้วยฟีเจอร์ Remote Play ที่ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม

558000011834616558000011834617

ด้านฟีเจอร์จับภาพหน้าจอในรูปแบบวิดีโอที่ผู้ใช้หลายคนชื่นชอบก็ยังคงมีให้เลือกใช้งานเหมือนเดิม หรือแม้แต่ระบบตั้งค่าเสียง ClearAudio+ ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของโซนี่ก็ยังคงมีให้เลือกปรับแต่งได้เหมือนรุ่นก่อนหน้าทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่ Xperia M5 ไม่มีชิปประมวลผลเสียงคุณภาพสูงติดตั้งมาให้ ทำให้เมนูปรับเสียงบางฟังก์ชัน เช่น Clear Phase, HiRes Audio, xLOUD ถูกตัดออกไปทั้งหมด

558000011834618

STAMINA กลายเป็นจุดเด่นสำคัญของสมาร์ทโฟนโซนี่ทุกรุ่น เพราะฟังก์ชันนี้ช่วยในการจัดการพลังงานและประหยัดแบตเตอรีได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะโหมด Ultra STAMINA ที่ช่วยชีวิตเวลาสมาร์ทโฟนแบตเตอรีใกล้หมด โดยโหมดดังกล่าวจะปิดการดึงข้อมูลเบื้องหลังทั้งหมด รวมถึงปิดอินเตอร์เน็ทให้เหลือไว้เพียงความสามารถในการโทรออกรับสาย ถ่ายรูปและส่งข้อความ

558000011834619

Movie Creator มาถึงแอปฯที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ กับความสามารถในการช่วยลำดับภาพวิดีโอและภาพนิ่งแบบง่ายในสไตล์จับใส่ๆแล้วแอปฯจะประมวลผลให้อัตโนมัติ รวมถึงผู้ใช้สามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์หรือใส่ดนตรีประกอบ (คล้ายกับ Google Photos) ได้แบบฟรีๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำพรีเซนต์รวมภาพหรือวิดีโอประจำสัปดาห์ ไว้เปิดดูเล่นกับครอบครัว

กล้องถ่ายภาพ


 

558000011834620

มาโฟกัสเรื่องกล้องกันบ้าง ซอฟต์แวร์ควบคุมกล้องใน Xperia M5 มีหน้าตาไม่แตกต่างจากซอฟต์แวร์กล้องของ Xperia รุ่นก่อนหน้า โดยโซนี่ได้ปรับปรุงเรื่องความเสถียรและความรวดเร็วในการประมวลผลภาพให้ดีขึ้น รวมถึงโหมดอัตโนมัติพิเศษ (Superior Auto) กับการเลือกซีนโหมดไปถึงการปรับแสงสีที่ทำได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิมด้วยฮาร์ดแวร์กล้องชุดใหม่

ในส่วนวิดีโอมีการเพิ่มความละเอียด FullHD 1080p ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาทีเข้ามา รวมถึงโหมดสโลโมชันที่คมชัดขึ้น

558000011834621

สำหรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ที่มีมาตั้งแต่รุ่นที่แล้ว ใน Xperia M5 โซนี่ได้ปรับปรุงเรื่องคุณภาพไฟล์ภาพโดยเฉพาะความคมชัดที่ทำได้ดีขึ้นมาก แต่ทั้งนี้การถ่ายวิดีโอ 4K จะไม่สามารถเปิดโหมดกันภาพสั่นไหว SteadyShot ได้

558000011834622

สุดท้ายสำหรับสิ่งที่เพิ่มเติมมาจากรุ่นก่อนหน้า จะอยู่ที๋โหมดถ่ายภาพใหม่ “หน้ากาก AR โดยระบบจะใช้ระบบตรวจจับใบหน้าวิเคราะห์หน้าของเรา จากนั้นผู้ใช้สามารถเลือกใส่หน้ากากลวดลายต่างๆทับใบหน้าเดิมได้ตามต้องการ ถือเป็นโหมดภาพที่สร้างเสียงหัวเราะอย่างมาก

ในส่วนโหมดถ่ายภาพนิ่งและเคลื่อนไหวอื่นๆจะเหมือนกับ Xperia รุ่นก่อนหน้า และสามารถดาวน์โหลดโหมดถ่ายภาพใหม่ๆเพิ่มเติมได้จาก PlayStore

ทดสอบประสิทธิภาพ

558000011834624558000011834623

ปัจจุบันด้วยสเปกเครื่องและซอฟต์แวร์รุ่นใหม่แบบ 64 บิต ทำให้แอนดรอยด์สมัยใหม่มีความลื่นไหล รวดเร็วและน่าใช้มากขึ้น โดย Xperia M5 ก็ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนระดับกลางยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพดี ตั้งแต่ใช้งานทั่วไปถึงเล่นเกม โดยเฉพาะความลื่นไหลของ OS และ UI ถือว่าโซนี่จัดการได้ดีขึ้นมาก

โดยทั้งหมดนี้ถ้าถามถึงจุดคุ้มค่าที่จะทำให้คนยอมจ่ายเงินซื้อ Xperia M5 เรื่องประสิทธิภาพด้านการประมวลผลคงไม่ใช่คำตอบเพราะมองในภาพรวมก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน 64 บิตในช่วงราคาระดับเดียวกันในยุคนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องคุณภาพกล้องถ่ายภาพ สิ่งนี้คือจุดคุ้มค่าที่หลายคนเห็นแล้วอาจเกิดอาการอยากเสียเงินให้สมาร์ทโฟนโซนี่รุ่นนี้ได้ไม่ยาก

>ชมรูปตัวอย่างเต็มความละเอียด กรุณาคลิก<

ลองมานั่งนึกดูว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนในช่วงราคาไม่เกิน 15,000 บาทที่ส่วนใหญ่จะมีสเปกใกล้เคียงกัน มีรุ่นใดเน้นกล้องเป็นจุดขายและให้ผลลัพท์ที่โดดเด่นบ้าง นึกดูแล้วในปีนี้ก็ยังไม่เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใดมีกล้องที่โดดเด่นเท่า Sony Xperia M5 ได้เลย

เพราะในสเปกกล้องของ Xperia M5 ถือว่าครั้งนี้โซนี่จัดเต็มฮาร์ดแวร์มาใกล้เคียงกับไฮเอนด์ Z5 ตั้งแต่ความละเอียดภาพ 21.5 ล้านพิกเซล (ทั้งในโหมด Manual และ Superior Auto) พร้องระบบ Clear Zoom 5 เท่า ที่อัตราส่วน 4:3, กล้องหน้า 13 ล้่านพิกเซล หน่วยประมวลผลภาพตัวใหม่รองรับความไวแสงสูงถึง ISO 3,200 ที่ใช้งานได้จริงและให้ผลลัพท์ภาพถ่ายในที่แสงน้อยที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะโฟกัสแบบไฮบริด อีกทั้งระบบกล้องยังค่อนข้างฉลาดในการปรับใช้ HDR ควบคู่ซีนโหมดได้ดีเมื่ออยู่ในโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติพิเศษ

558000011834625

ในส่วนระบบซูมภาพแบบไม่เสียความละเอียด (ClearZoom) ที่มีตั้งแต่รุ่นก่อนหน้า โซนี่ได้ปรับใหม่อีกครั้งใน Xperia M5 ซึ่งผลลัพท์ภาพที่ออกมาถือว่าทำได้น่าพอใจและกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มี Digital Zoom ดีที่สุดในตอนนี้

ด้านงานวิดีโอ ใน Xperia M5 โซนี่ได้ปรับปรุงคุณภาพวิดีโอใหม่ให้มีความคมชัดมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของสีสันและการเก็บรายละเอียดแสงสีที่อิ่มตัวขึ้น แต่น่าเสียดายในเรื่องระบบกันภาพสั่นไหวที่ใน M5 จะมีให้เลือกเพียง SteadyShot แบบซอฟต์แวร์เท่านั้น ต่างจากใน Xperia Z5 ที่เป็นระบบซอฟต์แวร์ผสมฮาร์ดแวร์ในชื่อ SteadyShot with Intelligent Active Mode

558000011834626

มาถึงการทดสอบสุดท้ายกับแบตเตอรีด้วยชุดทดสอบเดิม Geekbench ผลคะแนนถือว่าทำได้น่าพอใจ เพราะสามารถทำเวลาใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมง 18 นาที 50 วินาที ส่วนเมื่อใช้งานทั่วไปแบตเตอรีความจุ 2,600mAh สามารถใช้งานได้นานกว่า 13-14 ชั่วโมงแน่นอน

สรุป

558000011834635

สำหรับราคาเปิดตัว Sony Xperia M5 อยู่ที่ 14,990 บาท เทียบกับคุณภาพ สเปกและประสิทธิภาพที่ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เมื่อเทียบราคาแล้วมีความคุ้มค่าจนไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นจากแบรนด์โซนี่ จุดขายที่น่าสนใจสุดของ Xperia M5 คือคุณภาพกล้องที่เทียบกับไฮเอนด์หลายเจ้าและดีกว่ากล้องบนสมาร์ทโฟนราคาระดับเดียวกันเกือบทุกตัว โดยเฉพาะกล้องหน้าที่คาดว่าจะถูกใจสาวๆอย่างยิ่ง

ถือเป็นน้องกลางที่มีพลังในตัวสูงใกล้เคียงพี่ใหญ่ Xperia Z5 ถ้าผู้อ่านที่กำลังสนใจ ชอบถ่ายภาพแบบง่ายๆแต่ให้คุณภาพสูงและเน้นการใช้งานทั่วไปมากกว่าเน้นระบบมัลติมีเดียและใช้เล่นเกมกราฟิกสูงๆเป็นงานหลัก Sony Xperia M5 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามในชั่วโมงนี้

ข้อดี

– สเปกดี มีอนาคต อัปเดตได้ไกลเพราะเป็น 64 บิตแท้ๆ
– แบตเตอรีและระบบจัดการพลังงานได้ดี
– กล้องปรับใหม่ให้คุณภาพที่ดีกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะกล้องหน้า 13 ล้่านพิกเซล
– งานประกอบดี วัสดุหน้าหลังเป็นกระจก
– รับ 4G LTE เพิ่มความจุได้ด้วย MicroSD Card
– กันน้ำ กันฝุ่น

ข้อสังเกต

– งานออกแบบ ขอบจอและตัวเครื่องค่อนข้างหนา
– หน้าจอไม่ค่อยคมชัดแม้จะทำงานบนความละเอียด 1080p ก็ตาม
– ลำโพงในตัวเครื่องให้เสียงที่ไม่ดีนัก และไม่รองรับ Hi-Res Audio

Gallery

]]>
Review: Sony Xperia Z3 Tablet Compact แท็บเล็ตพกง่าย ความสามารถสูง https://cyberbiz.mgronline.com/sony-xperia-z3-tablet-compact/ Wed, 28 Jan 2015 07:52:51 +0000 http://www.cyberbiz.in.th/?p=17266

558000001022119

มองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้โซนี่ เคยออกแท็บเล็ตขนาด 10.1 นิ้ว ในรุ่น Z3 Tablet มาทำตลาด โดยชูจุดเด่นในเรื่องของกันน้ำ และความบาง ผสานกับเทคโนโลยีต่างๆของโซนี่ ทั้งการแสดงผล เสียง และฟีเจอร์ต่างๆของกล้อง

พอมาถึงในซีรีส์ของ Z3 โซนี่เลือกที่จะนำแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้วเข้ามาทำตลาดแทน ในชื่อ Z3 Tablet Compact ซึ่งพ้องไปกับการตั้งชื่อเครื่องรุ่นรองของสมาร์ทโฟนอย่าง Z3 ก็จะมีรุ่นรองอย่าง Z3 Compact เข้ามาทำตลาดด้วยนั่นเอง

จุดเด่นของ Z3 Tablet Compact นอกจากเรื่องของความบาง กันน้ำ และเทคโนโลยีต่างๆของโซนี่แล้ว ก็จะเพิ่มในเรื่องของความสะดวกในการพกพาเข้าไปด้วย และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม Z3 Tablet Compact ยังเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกที่นำ Remote Play จากเครื่อง PS4 มาเล่นได้ทันที

การออกแบบ


558000001022121

การออกแบบของ Xperia Z3 Tablet Compact ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนมากนัก เปรียบเหมือนเป็นไมเนอร์เชนจ์มากกว่า เพราะยังคงจุดเด่นในเรื่องของ “Omnibalance” ที่เน้นความเรียบง่ายรอบตัวเครื่อง มีจุดโดดเด่นเพียงอย่างเดียวคือปุ่มเปิด-ปิดสีเงิน

ขนาดของ Xperia Z3 Tablet Compact จะอยู่ที่ 213 x 124 x 6.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 270 กรัม มีวางจำหน่ายด้วยกัน 2 สี คือ สีดำ และสีขาว ทำให้เมื่อเทียบขนาดกับ iPad Mini แล้วจะพบว่าตัวเครื่องจะถือได้ง่ายกว่าจากสัดส่วนของหน้าจอที่เป็นแบบ 16 : 9 ทำให้เครื่องดูไม่อ้วนเหมือน iPad Mini ที่เป็น 4 : 3

558000001022104

ด้านหน้า – สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือจอ IPS ขนาด 8 นิ้ว ที่ใช้เทคโนโลยีการแสดงผลแบบ Triluminos ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล ประกอบกับการประมวลผลภาพแบบ X-Reality ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัด โดยมีโลโก้โซนี่สกรีนอยู่ส่วนบน ใกล้ๆกันมีกล้องหน้าความละเอียด 2.2 ล้านพิกเซล และลำโพงที่อยู่บริเวณขอบบนและล่าง

558000001022105

ด้านหลัง – แม้ว่าจะไม่ได้เป็นกระจกเคลือบเหมือนใน Xperia Z3 แต่เลือกใช้เป็นพลาสติกผิวออกด้านๆเล็กน้อย ทำให้ช่วยในการจับถือได้ถนัดมือมากขึ้น ซึ่งในส่วนฝาหลังจะมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สัญลักษณ์โซนี่ตรงกลาง สัญลักษณ์ NFC และชื่อซีรีส์ Xperia อยู่ส่วนล่าง

558000001022117558000001022118

ด้านซ้าย – ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะมีพอร์ตไว้เชื่อมต่อกับ Docking หรือไว้เสียบกับสายชาร์จภายนอกตัวเครื่อง และช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด และนาโนซิมการ์ด ด้านขวา – จะมีช่องเสียบสายหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง

558000001022116558000001022115

ด้านบน – ถูกปล่อยว่างไว้ ด้านล่าง – เป็นช่องสำหรับเสียบสายไมโครยูเอสบี

558000001022120

อุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาจะมีเพียงตัวเครื่อง อะแดปเตอร์ และ สายชาร์จยูเอสบีเท่านั้น ไม่มีหูฟังมาให้ด้วย และจากการที่ตัวเครื่องสามารถป้องกันน้ำและกันฝุ่นได้ในระดับมาตรฐาน IP65/68 ทำให้สามารถถ่ายภาพในน้ำจืดที่ระดับ 1.5 เมตร ไม่เกิน 30 นาทีได้ เพียงแต่ผู้ใช้ต้องแน่ใจว่าปิดฝาบริเวณพอร์ตไมโครยูเอสบี และช่องในการ์ดแน่นสนิทแล้ว

สเปกและฮาร์ดแวร์เด่น


558000001022132

สำหรับสเปกภายในของ Xperia Z3 Tablet Compact เลือกใช้ใกล้เคียงกับ Xperia Z3 แทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 801 Quad Core ความเร็ว 2.5GHz กราฟิกใช้ Adreno 330 RAM 3 GB ROM 16 GB สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้สูงสุด 128 GB

ด้านการเชื่อมต่อรองรับ 3G/4G ทุกเครือข่ายในประเทศไทย พร้อมการเชื่อมต่อ ไวไฟ บลูทูธ NFC GPS วิทยุFM รองรับสาย MHL สำหรับต่อจอภาพ ที่สำคัญคือเรื่องของระบบเสียง Hi-Res ก็มีใส่มาให้ได้ใช้งานกันด้วย ตัวเครื่องทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.4.4 รองรับการอัปเกรดเป็น 5.0 ในอนาคต

User Interface และซอฟต์แวร์เด่น


558000001022125558000001022124

จุดที่โดดนเด่นที่สุดของ Xperia Z3 Tablet Compact ในเรื่องของการใช้งานคือเรื่องของการแสดงผลจากหน้าจอมากกว่าสิ่งอื่นใด ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานในด้านมัลติมีเดียต่างๆได้อย่างครบครันตามสไตล์ของโซนี่ ที่เน้นในแง่ของความบันเทิงเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์ ฟังเพลง (ถ้าเชื่อมต่อกับหูฟังระดับ Hi-Res ก็จะได้ประสบการณ์ที่มากขึ้น)

นอกจากนี้คือเรื่องของการที่รองรับการใช้งาน PS4 Remote Play ทำให้สามารถนำแท็บเล็ตไปใช้แทนจอภาพในการเล่นเกม ได้ทุกที่ภายในบ้านไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้จอโทรทัศน์อีกต่อไป ถือเป็นการอำนวยความสะดวกในการเล่นเกมที่ติดพัน

 

558000001022131

ที่น่าเสียดายเล็กน้อยก็คือในส่วนของกล้องที่ให้ความละเอียดมา 8 ล้านพิกเซล แต่ยังคงยึดคอนเซปต์การถ่ายภาพแบบเดียวกับในสมาร์ทโฟนมา คือสามารถใช้ปุ่มเพิ่มลดเสียงในการถ่ายภาพใต้น้ำได้ มีปุ่มชัตเตอร์ และปุ่มบันทึกวิดีโอให้เลือกใช้งานได้ทันที

558000001022130

ฟีเจอร์พิเศษอย่างการนำลูกเล่นพิเศษของแอปกล้องมาใช้งานก็มีมาให้เลือกใช้ และสามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ไม่ว่าจะเป็น การนำ AR มาใช้ในรูปภาพเพิ่มความสนุกสนาน การถ่ายถอดสดไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ การบันทึกภาพแบบ TimeShift พาโนราม่า รวมถึงการถ่ายภาพจาก 2 กล้อง (ใช้การเชื่อมต่อกับกล้องผ่านไวไฟ) มาให้เลือกใช้งาน แต่แน่นอนว่าไม่สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้จากความละเอียดกล้องที่ไม่ถึงระดับที่กำหนดไว้

558000001022126

ในส่วนอื่นๆอย่างแอปแสดงข้อมูลข่าวสารอย่าง What’s News ก็ยังทำได้ดี เพราะสามารถเลือกหัวข้อที่สนใจาแสดงผลได้ Sony Select ก็มีแอปพลิเคชันแนะนำให้เข้าไปเลือกใช้งาน การเชื่อมต่อกับ PSN เพื่อดูข้อมูลต่างๆก็ทำให้สะดวกในการใช้งาน

558000001022127

การเล่นเกมภายในตัวเครื่องต้องยอมรับว่าทำได้ดี จากหน่วยประมวลผลที่เป็นระดับไฮเอนด์อยู่แล้ว กับหน้าจอระดับ Full HD ยิ่งทำให้ภาพที่ได้สมจริง และสนุกไปกับการใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ

558000001022129

ในแง่ของการท่องเว็บไซต์ยังต้องยอมรับว่ามีการโหลดเล็กน้อย เนื่องจากใช้ผ่าน Chrome เบราว์เซอร์เท่านั้น เพราะโซนี่ตัดเบราว์เซอร์ของแอนดรอยด์ทิ้งไป อย่างไรก็ตามด้วยหน้าจอขนาดกำลังพอดี ก็ช่วยให้สามารถเสพย์ข้อมูลได้อย่างราบรื่น

558000001022128

ฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการโทรศัพท์ใน Xperia Z3 Tablet Compact ก็สามารถใช้งานได้ เพียงแต่ในขณะสนทนาไม่จำเป็นต้องนำแท็บเล็ตมาแนบหู เพราะเสียงจะดังออกจากลำโพงเพียงอย่างเดียว ดังนั้นถ้าต้องการคุยธุระก็ควรใช้หูฟังหรือต่อบลูทูธใช้งานแทน ส่วนอินเตอร์เฟสการใช้งานโทรศัพท์เป็นลักษณะเดียวกับบนสมาร์ทโฟน หน้าจอขณะสนทนามีให้เลือกใช้ปุ่มกด ปิดไมค์ พักสาย และดูรายชื่อ

558000001022122

ย้อนกลับมาดูที่อินเตอร์เฟสหลักของ Xperia Z3 Tablet Compact ก็ยังคงเป็น Xperia UI ที่คุ้นชินสำหรับเหล่าสาวก โดยจะมีไอค่อนหลักคือปุ่มโทรศัพท์ ข้อความ อีเมล กล้อง เพลยสโตร์ และรวมแอปของกูเกิล มาเป็นพื้นฐาน แต่ผู้ใช้สามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เช่นเดียวกับหน้าจอที่สามารถปรับแต่งวิตเจ็ตได้ตามที่ใช้

558000001022123

สำหรับแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องนอกจากแอปพื้นฐานของแท็บเล็ต และบริการต่างๆของกูเกิลแล้ว ก็จะมีอย่าง What’s New Sony Selecy Lifelof (แทร็กพฤติกรรมการใช้งาน) พวกโซเชียลมีเดียต่างๆ แล้วก็จะมี Sketch แอปสำหรับวาดภาพ Xperia Link ใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของโซนี่ ระบบสำรองข้อมูล ตัวจัดการไฟล์ ระบบนำทางการ์มิน และเกม Blocky Roads

ทดสอบประสิทธิภาพ


558000001022133

ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 19,816 คะแนน และ 42,658 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน

ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo จากโครมเบราว์เซอร์ 2,999 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ (Metal) 1,518 คะแนน Multicore 1,751 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 59.1 fps และ Nenamark2 58.8 fps An3dBench 7,773 คะแนน และ An3dBenchXL 43,686 คะแนน

558000001022136

ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark PerformanceTest Mobile ได้คะแนน System 4,441 คะแนน CPU 18,023 คะแนน Disk 19,705 คะแนน Memory 4,339 คะแนน 2D Graphics 3,331 คะแนน และ 3D Graphics 1,296 คะแนน

558000001022139558000001022134

ส่วนการทดสอบ 3D Mark ตัว Ice Storm Unlimited ได้ 17,629 คะแนน ส่วน Ice Storm Extream และ Ice Storm คะแนนทะลุเกินไป เมื่อทดสอบ PC Mark ได้คะแนน 3,819 คะแนน ขณะที่ CF-Bench ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง

558000001022135

สรุป


คู่แข่งสำคัญของ Z3 Tablet Compact เลยจริงๆคงหนีไม่พ้นแท็บเล็ต 8 นิ้วที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เหมือนกันอย่าง Galaxy Tab S 8” ที่อัดจอภาพมาให้ถึง 2K ในขณะที่โซนี่ก็จะมีจุดเด่นในเรื่องของการกันน้ำแลกมา แต่ด้วยระดับราคาของเครื่องที่ขึ้นไปอยู่ 20,990 บาท อาจทำให้กลายเป็นจุดสำคัญที่ผู้บริโภคจะมองว่าราคาสูงเกินไป

แต่ทั้งนี้ ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ได้ ก็ถือว่าค่อนข้างครบในการใช้งานแท็บเล็ต สามารถใช้โทรศัพท์ได้ ระบบภาพ เสียงดีหมด จะขาดก็เพียงแฟลชกล้องหลังเท่านั้นที่ขาดหายไป ดังนั้นถ้างบถึงและต้องการแท็บเล็ตที่ครบแบบนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ข้อดี

– แท็บเล็ตขนาด 8 นิ้ว บาง 6.4 มม. น้ำหนัก 270 กรัม กันน้ำ ถือใช้มือเดียว พกพาง่าย
– หน้าจอแสดงผล Full HD ที่เป็น IPS
– ระบบการทำงาน Remote Play ร่วมกับ PS4
– การเชื่อมต่อครบ 3G/4G ไวไฟ NFC
– ตัวเครื่องประสิทธิภาพสูง RAM 3 GB

ข้อสังเกต

– กล้องหลักให้ความละเอียดมาแค่ 8 ล้านพิกเซล และไม่มีแฟลช
– ระดับราคาค่อนข้างสูง

Gallery

]]>
Review: Sony Xperia Z3 + SmartBand Talk SWR30 เติมเต็มอารยธรรมโซนี่ให้สมบูรณ์ขึ้น https://cyberbiz.mgronline.com/review-sony-xperia-z3-smartband-talk-swr30/ Thu, 08 Jan 2015 00:26:38 +0000 http://cbiz.imprezzer.com/?p=17077

ต้อนรับปีใหม่แบบร้อนแรงด้วยบทความรีวิวคู่หูสมาร์ทโฟนและสายรัดข้อมือสมาร์ทแบนด์ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้กับ Sony Xperia Z3 และ Sony SmartBand Talk SWR30 โดยทั้งสองยังคงเดินตามแนวทางของโซนี่ยุคใหม่อย่างมั่นคง แม้หลายคนจะตั้งข้อสังเกตทั้ง Xperia Z3 และ SmartBand Talk SWR30 ว่าเหมือนเป็นการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้าที่ไม่มีสิ่งใดแปลกใหม่ก็ตาม

การออกแบบ Sony Xperia Z3


558000000245103

เริ่มจากพี่ใหญ่สมาร์ทโฟน Sony Xperia Z3 ที่โซนี่ยังคงยึดแนวทางการออกแบบเหมือนรุ่นก่อนหน้าคือ “Omni balance design” บอดี้เครื่องเป็น Bar type สัดส่วนความหนาตัวเครื่องเท่ากันทุกส่วน

ส่วนขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 146×72 มิลลิเมตร หนา 7.4 มิลลิเมตร น้ำหนักถูกปรับใหม่ให้เบาเพียง 153 กรัมจากเดิมอยู่ที่ 163 กรัม

หน้าจอแสดงผลเป็นมัลติทัช ขนาด 5.2 นิ้วความละเอียด 1,920×1,080 พิกเซล (FullHD) TRILUMINOS พร้อมชิปประมวลผลภาพ X-Reality

ในส่วนกล้องหน้าความละเอียด 2.2 ล้านพิกเซลรองรับการถ่ายวิดีโอ FullHD 1080p พร้อมลำโพงแบบสเตอริโอที่โซนี่ติดตั้งใหม่อยู่บริเวณด้านหน้าจอภาพซึ่งให้เสียงที่ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้ามาก

558000000245104

ด้านหลังไม่มีความแตกต่างจาก Xperia Z2 แต่อย่างใด ส่วนของกล้องถ่ายภาพด้านหลังยังคงรองรับความละเอียดภาพสูงสุด 20.7 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลชแบบ LED ตรงกลางเป็นส่วนสัมผัส NFC โลโก้ SONY และ Xperia

สำหรับสีตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สีคือ ขาว ดำ ทองแดงและสีเงินออกเขียว (Silver Green)

558000000245105

มาดูสันเครื่องด้านซ้ายจะเป็นช่อง MicroUSB 2.0 (มีฝาปิดป้องกันน้ำเข้า), ส่วนสัมผัสกับ Docking และช่องร้อยสายคล้องข้อมือ

558000000245106

558000000245107

ส่วนสันเครื่องด้านขวาจากซ้ายมือของภาพจะเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้อง, ปุ่มเพิ่มลดเสียง, ปุ่มเปิดปิดเครื่องและช่องใส่นาโนซิม (NanoSIM) และการ์ด MicroSD เพิ่มความจุรองรับพื้นที่สูงสุด 128GB (ทุกช่องมีฝาปิดป้องกันน้ำเข้า)

558000000245108

สุดท้ายสันเครื่องด้านบนจะเป็นที่อยู่ของช่องเชื่อมต่อหูฟัง/Smalltalk ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และรองรับหูฟังที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบดิจิตอลด้วย

 การออกแบบ Sony SmartBand Talk SWR30


558000000245109

ต่อด้วยคู่หู SmartBand Talk SWR30 ที่โซนี่พัฒนาต่อยอดจาก SmartBand SWR10 โดยการปรับเปลี่ยนที่เห็นชัดสุดก็คือ มาพร้อมหน้าจอ E Ink ขาวดำขนาด 1.4 นิ้ว ไม่มี Backlight ความละเอียด 296×128 พิกเซล 192dpi มีให้เลือก 2 สีคือ ขาวและดำ

558000000245110

ในส่วนสายรัดข้อมือจะเป็นยางมีให้เลือก 2 ขนาดคือ S ความยาว 52 มิลลิเมตรและ L ความยาว 68 มิลลิเมตร อีกทั้งส่วนของสายรัดข้อมือสามารถถอดเปลี่ยนได้

558000000245111

มาดูที่ปุ่มกดสั่งงาน SWR30 สีเงินจะติดตั้งอยู่ด้านข้างนาฬิกา โดยปุ่มกดแถบสั้นจะทำหน้าที่รับคำสั่ง ส่วนแถบยาวจะใช้เลื่อนเมนู ส่วนรูสีดำที่อยู่ระหว่างปุ่มคำสั่งทั้งสองด้านหนึ่งจะเป็นลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนาโทรศัพท์ส่วนอีกด้านจะเป็นไมโครโฟน

558000000245112

สำหรับการชาร์จพลังงานจะทำผ่านช่อง MicroUSB ที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างเครื่องฝั่งตรงข้ามกับปุ่มคำสั่ง โดยผู้ใช้สามารถชาร์จไฟจากแหล่งพลังงานทั้ง USB จากคอมพิวเตอร์หรืออะแดปเตอร์ชาร์จไฟจากสมาร์ทโฟนก็ได้

สเปกและฮาร์ดแวร์เด่น


558000000245113

เริ่มจาก Sony Xperia Z3 โซนี่ปรับไปใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 801 Quad Core ความเร็ว 2.5GHz กราฟิกใช้ Adreno 330 แรมให้มา 3GB รอม 16GB เหลือใช้งานจริง 11.57GB รองรับ 3G/4G ที่มีในบ้านเราทุกคลื่นความถี่

ในส่วนระบบปฏิบัติการเลือกใช้แอนดรอยด์ 4.4.4 KitKat จากโรงงานครอบด้วยอินเตอร์เฟสจากโซนี่อีกครั้ง

ด้านสเปกส่วนอื่นตัวเครื่องรองรับการเล่น Hi-Res Audio ควบคู่กับอุปกรณ์ DAC จากโซนี่ผ่านพอร์ต USB ได้ รองรับการเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงด้วย Clear Audio+ และ Sony VPT ระบบเสียง 3 มิติ รวมถึงรองรับระบบเพิ่มคุณภาพเสียง (“up-scaling” technology) DSEE HX

ในส่วนกล้องถ่ายภาพด้านหลังโซนี่ปรับให้รองรับค่าความไวแสงสูงสุด ISO 12,800 และปรับปรุงคุณภาพการถ่ายวิดีโอ 4K ให้ดีขึ้น

สำหรับสเปกการเชื่อมต่อเครือข่าย ตัวเครื่องรองรับ aGPS/GLONASS, ANT+, บลูทูธ 4.0, DLNA, NFC, WiFi Hotspot/WiFi ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ PlayStation 4 Remote Play ด้วย

558000000245114

มาถึงสายรัดข้อมือ SmartBand Talk SWR30 สเปกจอ E Ink มีความสามารถพิเศษคือสามารถเปิดหน้าจอแสดงผลตลอดเวลาได้โดยไม่บริโภคแบตเตอรีเหมือนจอสมาร์ทวอตซ์ทั่วไป โดยภายในยังมาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซนเซอร์วัดความสูง อีกทั้ง SWR30 ยังรองรับระบบสั่งงานด้วยเสียง รวมถึงมีไมโครโฟนและลำโพงสำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนพร้อมแบตเตอรีภายในขนาด 70 mAh สามารถใช้งานได้นาน 3 วัน

558000000245115

ในส่วนความสามารถของสายรัดข้อมือ SmartBand Talk SWR30 หลักๆ จะสามารถใช้เป็นนาฬิกาข้อมือบอกเวลา ตรวจนับก้าวเดินและตรวจจับวิเคราะห์การนอนหลับในแต่ละคืนได้

นอกจากนั้นทางโซนี่ยังเพิ่มความสามารถให้ SWR30 สามารถซิงค์กับสมาร์ทโฟนที่รองรับเพื่อรับสายและสนทนาโทรศัพท์ได้ที่ข้อมือ รวมถึงสามารถดูการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนได้ (รองรับภาษาไทยสมบูรณ์แบบ)

558000000245116

ด้านการควบคุม SmartBand Talk SWR30 ต้องทำผ่านแอปฯ SmartBand Talk SWR30 และ Lifelog รองรับเฉพาะ Android 4.4 ขึ้นไป

558000000245117

มาถึงไม้ตายเด่นด้านสเปกของทั้งสองคือ “ความสามารถในการป้องกันน้ำและฝุ่น” ที่ในครั้งนี้โซนี่อัปเกรด Sony Xperia Z3 และ SmartBand Talk SWR30 ให้สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดียิ่งขึ้นด้วยมาตรฐาน IP65/68 พร้อมรองรับการใช้งานใต้น้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที

User Interface และซอฟต์แวร์เด่น


558000000245118

เริ่มจาก Sony Xperia Z3 โซนี่เลือกใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์คิทแคทครอบด้วย UI ของโซนี่ที่ยังคงหน้าตาเหมือนเดิมแต่ปรับเรื่องความเสถียรใหม่ให้ลื่นไหลขึ้น โดยแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องยังคงเน้นเรื่องบริการของโซนี่เป็นหลักไม่ว่าจะเป็น Walkman, Lifelog, Sociallife พร้อมความพิเศษในส่วนของแอปฯ PlayStation ที่สามารถ Remote ผ่าน WiFi จากเครื่องคอนโซล PlayStation 4 มาเล่นบน Z3 ได้

558000000245119

ในส่วนฟีเจอร์ที่โซนี่เพิ่มเข้ามาใหม่และสามารถใช้งานได้โดดเด่นได้แก่ Ultra STAMINA ที่พัฒนาจากโหมด STAMINA เดิมโดยโหมดแบบ Ultra จะช่วยยืดอายุแบตเตอรีให้ใช้งานในหนึ่งวันได้ยาวนานเป็นวันหลังจากสถานะแบตเตอรีฟ้องใกล้จะหมด ระบบ Ultra STAMINA จะเริ่มทำงานด้วยหน้า UI แบบพิเศษรวมถึงปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและปิดการทำงานของ Background Apps ทั้งหมดเหลือให้ผู้ใช้เลือกใช้งานได้เฉพาะโทรศัพท์ ถ่ายภาพและฟังวิทยุหรือตรวจเช็คข้อความเท่านั้น
558000000245120

Screenshots Video Record จากเดิมผู้ใช้ทำได้แค่จับภาพหน้าจอแบบภาพนิ่งเท่านั้น แต่ใน Xperia Z3 ผู้ใช้จะสามารถบันทึกวิดีโอสกรีนซ็อตพร้อมลูกเล่นพิเศษคือเปิดกล้องหน้าบันทึกในรูปแบบวิดีโอพร้อมกันได้ด้วย

558000000245121558000000245122

กล้องถ่ายภาพ มาถึงเรื่องกล้องถ่ายในครั้งนี้โซนี่ปรับซอฟต์แวร์กล้องถ่ายภาพใหม่ โดยเฉพาะโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติที่ปรับเปลี่ยนใหม่เกือบทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น

ตัวอย่างภาพที่ได้จากโหมด AR Fun

AR Fun ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้างเอฟเฟ็กต์แบบ 3 มิติบนภาพถ่ายแบบ Realtime ได้ด้วยตัวเอง
กล้องมัลติ ผู้ใช้สามารถนำกล้องถ่ายภาพโซนี่ที่รองรับ NFC มาเปิดใช้งานร่วมกับกล้องหลังของ Z3 และถ่ายภาพสองมุมมองจากกล้องสองตัวได้

Face in เป็นการเปิดใช้กล้องหน้าและกล้องหลังถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองร่วมกับภาพวิวทิวทัศน์

Live on YouTube เป็นโหมดถ่ายทอดสด (On-air) ผ่านบริการของ YouTube

558000000245124

ส่วนใครที่ชอบการถ่ายภาพแบบปรับแต่งด้วยตัวเองเพื่อรีดประสิทธิภาพกล้องหลังได้สูงสุด โซนี่ก็ยังให้โหมด Manual มาเหมือนเดิม โดยสามารถตั้งความละเอียดภาพสูงสุด 20.7 ล้านพิกเซลได้

วิดีโอตัวอย่าง SteadyShot ใหม่

โหมดป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot ใหม่ ทุกท่านคงทราบดีว่าระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot มีในอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพของโซนี่ทุกรุ่น แต่สำหรับตลาดสมาร์ทโฟน เดิมที SteadyShot จะเป็นแค่ซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่สำหรับ Xperia Z3 โซนี่เพิ่มความสามารถของ SteadyShot ให้สามารถทำงานแบบ Active ในชื่อ SteadyShot with Intelligent Active Mode ได้ ทำให้การถือสมาร์ทโฟนถ่ายวิดีโอทำได้นิ่งขึ้น

558000000245125

มาที่ฟีเจอร์และการใช้งาน SmartBand Talk SWR30 อย่างแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า SWR30 ใช้งานได้เฉพาะแอนดรอยด์ 4.4 ขึ้นไปเท่านั้น และตัวสายรัดข้อมือไม่จำเป็นต้องใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนโซนี่อย่างเดียว สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์บางรุ่น เช่น Nexus 5 ก็สามารถทำงานร่วมกับ SWR30 ได้

โดยแอปฯควบคุมการทำงานของ SWR30 จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการทำงานได้ตั้งแต่เรื่องการแจ้งเตือน สีของหน้าจอและเป็นศูนย์กลางในการติดตั้งแอปพลิเคชันลงในสายรัดข้อมือ

558000000245127

ส่วนแอปฯ Lifelog จะใช้เก็บสถิติที่สายรัดข้อมือตรวจจับได้ เช่น จำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน การนอนหลับที่สามารถดูได้ว่าช่วงเวลานี้เราหลับลึกหรือนอนครึ่งหลับครึ่งตื่นกี่ชั่วโมงรวมถึงความสามารถในการตรวจจับการใช้สมาร์ทโฟน เช่น เล่นโซเชียล ชมภาพยนตร์ ถ่ายภาพกี่ชั่วโมงรวมถึงสามารถตรวจจับการเดินทางในแต่ละช่วงเวลาได้ค่อนข้างละเอียด

ทดสอบประสิทธิภาพ


558000000245128

มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพเริ่มจากตัวสมาร์ทโฟน Sony Xperia Z3 ผลคะแนนที่ได้ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปของไฮเอนด์สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ส่วนการใช้งานจริงถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะความลื่นไหลที่ทำได้ยอดเยี่ยมและโซนี่ปรับความเข้ากันได้ระหว่างระบบการทำงานของตนกับแอนดรอยด์ 4.4 ได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าจนกลายเป็น Xperia Z ที่ลงตัวสุดในปัจจุบัน

558000000245129

นอกจากนั้นด้วยอานิสงส์ของแอนดรอยด์คิทแคทและการปรับแต่งระบบใหม่ ถึงแม้โซนี่จะให้แบตเตอรีความจุไม่ต่างจากเดิมคือ 3,100mAh แต่เมื่อใช้งานจริงแบบหนักหน่วงตั้งแต่เปิด 3G/WiFi ตลอดวัน เล่นเว็บบราวเซอร์ เกม 3 มิติและพยายามเปิดหน้าจอใช้งานทุกชั่วโมง แบตเตอรีสามารถอยู่ได้นานถึง 12 ชั่วโมงแบบสบายๆ ส่วนถ้าใช้งานปกติทั่วไป (เปิด 3G มีสแตนบายหน้าจอบ้าง เช็คเมล์ แชทไลน์บ้างตลอดทั้งวัน) แบตเตอรีสามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 14-18 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใช้งานทั้งวันได้สบายหายห่วง

558000000245130

สุดท้ายกับการทดสอบเล่นเกม 3 มิติ ส่วนนี้ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนไฮเอนด์คือเล่นได้ทุกเกม ส่วนเรื่องความละเอียดหน้าจอที่โซนี่ยังไม่เลือกใช้แบบ 2K Quad HD เหมือนคู่แข่งก็ถือว่าไม่ได้เป็นข้อด้อยแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันทั้งเกม 3 มิติและแอปพลิเคชันหลายตัวก็ยังรองรับความละเอียดหน้าจอ 2K ได้ไม่ดีนัก

Sony Xperia Z3

ทดสอบเรื่องกล้องถ่ายภาพกันบ้าง ทีมงานมองว่า Xperia Z3 ให้ผลลัพท์ภาพไม่ต่างจาก Xperia Z2 แต่อย่างใด เพราะจากการทดสอบด้วยโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ Superior Auto ซึ่งเป็นโหมดเริ่มต้นและเป็นโหมดถ่ายภาพที่คนทั่วไปใช้มากที่สุดจะเห็นว่าภาพที่ได้ด้านความคมชัดเหมือนถูกซอฟต์แวร์ดึงขึ้นให้ภาพคมกว่าปกติเล็กน้อย เนื้อไฟล์เมื่อซูม 100% ค่อนข้างแตก สีและคอนทราสต์ค่อนข้างจัดไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร

ส่วนเรื่องระบบวัดแสงแบบเฉลี่ยทั้งภาพจะพยายามดึงส่วนมืดขึ้นจนส่วนสว่างติดโอเวอร์ในบางสถานการณ์ ส่วนภาพกลางคืนแม้สัญญาณรบกวนจะต่ำแต่สีที่ได้จะออกตุ่นๆ

แต่ทั้งนี้จุดเด่นของกล้อง Xperia Z3 ที่ให้ความละเอียดมากถึง 20.7 ล้านพิกเซลจะมีข้อดีในเรื่องการทำ Digital Zoom แบบ Clear Zoom ที่ให้คุณภาพดีกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปพอสมควร ส่วน Manual Mode ถ่ายที่ 20.7 ล้านพิกเซลก็ถือว่าทำได้ดี คุณภาพไฟล์นำไปใช้งานต่อยอดได้จริงๆ

558000000245131

มาถึงการทดสอบสุดท้ายกับสายรัดข้อมือ SmartBand Talk SWR30 ต้องถือว่าการมาของ SWR30 ช่วยลดช่องว่างของ SWR รุ่นเก่าได้ดีมาก การที่โซนี่เลือกใช้หน้าจอเป็น E Ink นอกจากช่วยเรื่องประหยัดพลังงานแล้ว หน้าจอยังสามารถเปิดตลอดเวลาและแสดงผลได้เหมือนนาฬิกาข้อมือจริงๆ แถมแบตเตอรีก็ใช้ได้นาน 3 วันต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งด้วย

นอกจากนั้นฟีเจอร์ภายในที่ให้มา เช่น กดรับสายสนทนาผ่านตัวสายรัดข้อมือได้หรือการแสดงแจ้งเตือนเป็นภาษาไทยได้ก็ถือว่าตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ยุคใหม่ที่ถวิลหาสมาร์ทวอตซ์ได้ดีมาก

ในส่วนแอปฯ Lifelog ที่ปรับปรุงใหม่จากรุ่นเดิมซึ่งค่อนข้างบริโภคแบตเตอรีสมาร์ทโฟนมาก ในรุ่นใหม่นี้ แอปฯดังกล่าวทำงานได้คล่องตัวขึ้น การตรวจจับและแสดงผลทำได้แม่นยำขึ้น (แม้จะไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนของโซนี่ก็ตาม) จุดที่น่าสนใจของ Lifelog ตัวใหม่คือการบอกพิกัดเดินทางของเราตลอดทั้งวันด้วยการใช้ Location History จากแอนดรอยด์คิทแคทในการระบุพิกัดจึงช่วยลดการใช้งาน GPS และแบตเตอรีสมาร์ทโฟนลงอย่างมาก

558000000245132

สำหรับราคาเปิดตัว Sony Xperia Z3 อยู่ที่ 23,990 บาท Sony SmartBand Talk SWR30 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,700 บาท ถือเป็นราคาเปิดตัวที่สูงและจับตลาดไฮเอนด์โดยเฉพาะ โดยถ้ามองถึงสเปกเทียบราคาแล้วต้องเรียนตามตรงว่า ถ้าปัจจุบันคุณมี Xperia Z2 อยู่แล้วและกำลังคาดหวังว่า Xperia Z3 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในทุกด้าน ต้องขอให้คิดใหม่ครับ เพราะ Z3 ก็เหมือนเป็นสมาร์ทโฟน Xperia Z รุ่นก่อนหน้าที่ถูกเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปจากรุ่นที่แล้วเพื่อให้ตลาด Xperia Z ไม่ล้มหายตายจากผู้ใช้ไปในยุคที่สมาร์ทโฟนแข่งขันกันดุเดือด ซึ่งในอนาคตโซนี่ก็มีแผนปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ให้กับตระกูล Xperia Z แน่นอน

แต่ทั้งนี้ถ้าผู้อ่านเป็นคนที่ไม่เคยสัมผัส Sony Xperia มาก่อน การหา Xperia Z3 มาไว้ครอบครองก็ถือเป็นสิ่งที่ดีเพราะคุณจะได้รับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนตระกูล Xperia ได้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบที่สุดจาก Z3 เครื่องนี้จนอาจติดใจและกลายเป็นสาวกโซนี่ได้อย่างง่ายดาย

ส่วน Sony SmartBand Talk SWR30 ถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ตระกูล SmartBand ได้อย่างน่าสนใจและเป็นการเปิดตลาดสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพที่มีความชัดเจนในตัวเองสูงกว่าทุกรุ่นในตระกูล SmartBand โดยเฉพาะแอปฯติดตามชีวิต Lifelog ที่ปรับเปลี่ยนใหม่ได้น่าสนใจและรูปแบบหน้าจอแบบ E Ink ที่ทำให้สายรัดข้อมือกลายเป็นนาฬิกา (หน้าจอสามารถติดตลอดเวลา) ที่ดีเรือนหนึ่งได้ แถมประหยัดพลังงานด้วย

ผู้อ่านท่านใดกำลังมองหาสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพที่สามารถเก็บข้อมูลการใช้ชีวิตประจำวันได้หลากหลายและสร้างสรรค์ SmartBand Talk SWR30 ให้สิ่งเหล่านั้นได้อย่างยอดเยี่ยมถ้าสู้ราคาระดับ 6 พันบาทปลายๆ ได้

ข้อดี Sony Xperia Z3
– ลำโพงสเตอริโอแบบใหม่ได้เสียงที่ใสและมีมิติขึ้น
– งานประกอบดี พรีเมี่ยมขึ้นโดยเฉพาะขอบเครื่องแบบอลูมิเนียมค่อนข้างแข็งแรง ปุ่มกดต่างๆ แน่นหนา
– หน้าจอถึงแม้ไม่ใช่ 2K แต่ให้ภาพที่สวย สดใส เอนจิ้นจอภาพทำงานได้ดีโดยเฉพาะการรับชมวิดีโอ
– ซอฟต์แวร์กล้องมีลูกเล่นมากขึ้น
– กันน้ำ กันฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น

ข้อสังเกต Sony Xperia Z3
– กล้องหลังคุณภาพไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า
– ซิมการ์ดโทรศัพท์ที่รองรับเป็น NanoSIM

ข้อดี Sony SmartBand Talk SWR30
– หน้าจอ E Ink ประหยัดพลังงานและไม่ต้องปิดหน้าจอ
– สามารถดึงระบบแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนมาแสดงผลที่นาฬิกาได้พร้อมสั่นเตือน
– รองรับการติดตั้งแอปฯเพิ่มเติมได้
– สามารถเปลี่ยนสายรัดข้อมือได้
– Lifelog รุ่นใหม่ทำงานได้ดีขึ้น

ข้อสังเกต Sony SmartBand Talk SWR30
– หน้าจอไม่มีไฟส่องสว่าง เวลาใช้ในที่มืดทำได้ลำบาก
– หน้าจอ E Ink บางครั้งเวลาเปลี่ยนหน้าเมนูจะเกิดภาพซ้อนกัน

คะแนน Sony Xperia Z3

[usrlist “การออกแบบ:9” “สเปก/ฟีเจอร์เด่น:9” “ความสามารถโดยรวม:8.5” “ความคุ้มค่า:9″ avg=”true”]

คะแนน Sony SmartBand Talk SWR30

[usrlist “การออกแบบ:7” “สเปก/ฟีเจอร์เด่น:8” “ความสามารถโดยรวม:9” “ความคุ้มค่า:7.5″ avg=”true”]

Gallery

]]>