Surface – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Fri, 02 Jul 2021 03:12:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : Microsoft Surface Laptop 4 คีย์บอร์ดพิมพ์สนุก เพิ่มตัวเลือกซีพียู https://cyberbiz.mgronline.com/review-microsoft-surface-laptop-4/ Wed, 30 Jun 2021 08:06:53 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=35468

ไมโครซอฟท์ ยังคงรักษามาตรฐานของการออกผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ปรับแต่งให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ที่ต้องการใช้งานโน้ตบุ๊กเพื่อทำงาน พกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย และที่สำคัญคือประสิทธิภาพในการประมวลผลต้องสูงด้วย

Surface Laptop 4 ถือเป็นโน้ตบุ๊กในฟอร์มเฟคเตอร์ปกติรุ่นล่าสุดของ ไมโครซอฟท์ ที่นำเสนอมาในปีนี้ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งการเปลี่ยนแปลงคีย์บอร์ดให้พิมพ์ได้สนุกขึ้น เปิดทางเลือกรุ่นซีพียูให้มีทั้ง Intel และ AMD บนขนาดหน้าจอทั้ง 13.5 นิ้ว และ 15 นิ้ว ให้เลือก

แน่นอนว่า ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ติดตั้งมาให้บน Surface Laptop 4 นั้น เพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบันแล้ว แต่เมื่อ Windows 11 เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปใช้งาน Surface Laptop 4 จะรองรับการอัปเกรด และเพิ่มประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ใช้ด้วย

ข้อดี

  • จอ PixelSense 13.5 นิ้ว สัดส่วน 3:2 รองรับการสัมผัส และใช้งานปากกาได้
  • ตัวเครื่องบาง 14.5 มม. น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม
  • คีย์บอร์ดที่มาพร้อมที่รองฝ่ามือหุ้ม Alcantara ช่วยให้พิมพ์ได้สนุกขึ้น
  • แบตเตอรี ใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวัน

ข้อสังเกต

  • อะเดปเตอร์ชาร์จยังเป็นพอร์ตเฉพาะของ Surface เช่นเดิม (แม้จะชาร์จจาก USB-C ได้แล้วก็ตาม
  • พอร์ตเชื่อมต่อไม่ครบ มีเพียง USB-C USB Type-A และ 3.5 มม. เท่านั้น
  • กล้องเว็บแคมความละเอียด 720p

ราคาเริ่มต้น เข้าถึงง่ายขึ้น

หนึ่งในความน่าสนใจของ Surface Laptop 4 คือการเพิ่มทางเลือกซีพียูมาให้ผู้ใช้งานอย่าง AMD Ryzen จากเดิมที่จะมีให้เลือกเฉพาะซีพียูจาก Intel เท่านั้น และนั่นทำให้ราคาเริ่มต้นของ Surface Laptop โน้ตบุ๊กที่ดีที่สุดของไมโครซอฟท์ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย

สำหรับรุ่นเริ่มต้นของ Surface Laptop 4 ขนาดจอ 13.5” มากับชิปเซ็ต AMD Ryzen 5 4680U RAM 8 GB SSD 256 GB ในราคา 35,999 บาท หรือจะเพิ่ม RAM เป็น 16 GB SSD 256 GB จะอยู่ที่ 42,999 บาท

ส่วนชิปเซ็ต 11 Gen Intel Core i5 1145G7 RAM 8 GB SSD 512 GB จะเริ่มต้นที่ 44,999 บาท โดยสามารถปรับสเปกไปได้ถึง Intel Core i7 1185G& RAM 16 GB SSD 512 GB ในราคา 57,999 บาท

จะเห็นได้ว่าจากราคาเริ่มต้นของ Surface Laptop 4 ในช่วง 35,999 บาท แต่ได้โน้ตบุ๊กหน้าจอสัมผัส ที่รองรับการพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ถือเป็นตัวเริ่มต้นที่น่าสนใจ แต่ถ้าใครที่ต้องการใช้งานยาวๆ อาจจะต้องมองตัวเลือกเป็นรุ่นที่มี SSD 512 GB แทน เพราะ 256 GB อาจจะไม่เพียงพอกับการเก็บข้อมูลในระยะยาว

ดีไซน์เดิม ปรับปรุงภายในให้ดีขึ้น

Surface Laptop 4 ยังคงลักษณะการออกแบบไม่แตกต่างจาก Surface Laptop 3 จนเรียกว่าเป็นไมเนอร์เชนจ์ของรุ่นก็ว่าได้ เพราะตัวเครื่องจะเน้นที่การอัปเดตสเปกภายในเป็นหลัก โดยขนาดของเครื่องจะอยู่ที่ 308 x 223 x 14.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.26 กิโลกรัม

ตัวเครื่องมีให้เลือกด้วยกัน 2 สีคือ สีเงินแพลตตินัม ที่จะมากับวัสดุหุ้ม Alcantara และสีดำด้านที่เป็นโลหะตามปกติ ซึ่งในรุ่นสีดำจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 1.28 กิโลกรัม ซึ่งจะให้โทนสี และภาพลักษณ์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป

การออกแบบของ Surface Laptop 4 ยังคงเน้นที่ความเป็นมินิมอลเช่นเดิม โดยมีสัญลักษณ์ของ Windows สะท้อนแสงติดอยู่ตรงกึ่งกลางด้านนอกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เมื่อเปิดตัวเครื่องขึ้นมาจะพบกับจอสัมผัส PixelSense ขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 2256 x 1504 พิกเซล 201 ppi ในสัดส่วน 3:2 ซึ่งช่วยให้แสดงผลคอนเทนต์สำหรับการท่องเว็บ หรือทำงานเอกสารได้ดีขึ้น แต่จะไม่เหมาะกับการรับชมภาพยนต์เท่าไหร่ เนื่องจากจะเหลือขอบสีดำด้านบนและล่างเพิ่มขึ้นด้วย

ที่น่าเสียดายอีกอย่างก็คือเรื่องของขอบจอที่ Surface Laptop 4 ยังมีขอบจอที่ค่อนข้างหนา เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาดอย่างเอซุส เดลล์ หรือเอชพี ที่นำเสนอตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว ในฟอร์มเฟคเตอร์ขนาด 13 นิ้ว ได้อย่างน่าสนใจ

บริเวณขอบบนยังคงเป็นที่อยู่ของกล้องเว็บแคมความละเอียด 720p ซึ่งถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับยุคปัจจุบันที่การใช้งานวิดีโอคอลล์มีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น ที่ดีก็คือยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IR ที่ทำงานร่วมกับ Windows Hello ในการปลดล็อกด้วยใบหน้าได้อยู่

จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ Surface Laptop 4 เท่าที่ทดสอบใช้งานมาคือ ความนิ่มของคีย์บอร์ด ทั้งในแง่ของแป้นคีย์บอร์ดที่รับสัมผัส ทำให้พิมพ์ได้สนุก มีปุ่มลัดสำหรับการสั่งงานต่างๆ ครบถ้วน จะมีจุดที่น่าเสียดายคือย้ายปุ่มลัดอย่าง Home End PageUp PageDown ไปไว้บริเวณแถบบนแทน ทำให้เวลาใช้งานอาจจะต้องปรับตัวเล็กน้อย

ส่วนปุ่มเปิดเครื่องก็ถูกขยับเข้ามาไม่ได้อยู่ที่มุมขวาบน แต่เป็นที่อยู่ของปุ่ม Delete แทน ช่วยให้เวลากดใช้งานทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะไปสัมผัสโดนปุ่มปิดเครื่องแทน แทร็กแพดของ Surface Laptop 4 ที่ให้มาใหญ่สะใจ รองรับการใช้งานได้ลื่นไหล

อีกจุดที่นุ่มก็คือการที่ Surface Laptop 4 มีการหุ้มหนังสังเคราะห์อย่าง Alcantara มาให้บริเวณตัวเครื่องด้านใน ทำให้สัมผัสของข้อมือระหว่างการพิมพ์นุ่มสบายกว่าโน้ตบุ๊กที่ใช้โลหะ หรือพลาสติกอื่นๆ แต่ก็แลกมากับการดูแลรักษาที่เพิ่มขึ้น โดยทางไมโครซอฟท์ แนะนำให้สามารถนำผ้าชุบสบู่เหลวอ่อนๆ มาถูกทำความสะอาดได้

ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อ Surface Laptop 4 ถือว่าให้มาค่อนข้างจำกัด โดยทางฝั่งซ้ายจะมีเพียงช่องเสียบ USB Type A และ USB-C พร้อมกับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เท่านั้น ไม่รองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt ด้วย

ส่วนทางขวามีพอร์ต Surface Connect ไว้เสียบชาร์จตัวเครื่อง โดยที่บริเวณอะเดปเตอร์จะมีพอร์ต USB Type A เพิ่มมาให้ใช้งานอีก 1 ช่อง ความจุของแบตเตอรีจะอยู่ที่ 47.4 Whr ที่ไมโครซอฟท์ระบุว่าใช้งานได้ต่อเนื่อง 17-19 ชั่วโมง

สเปก และทดสอบประสิทธิภาพ

ในส่วนของสเปก Surface Laptop ที่ได้รับมาทดสอบจะเป็นรุ่น 11 Gen Intel Core i5 RAM 8 GB SSD 256 GB มาพร้อมกราฟิก Intel IrisXe ส่วนถ้าเป็นรุ่น AMD Ryzen ก็จะมาพร้อมกับ AMD Radeon แบบออนบอร์ดให้ใช้งาน

โดยเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ AMD Ryzen สามารถใช้งานบนแบตเตอรีได้ยาวนานกว่ารุ่นของ Intel คือการที่ปัจจุบัน AMD พัฒนาชิปเซ็ตบนสถาปัตยกรรมแบบ 7 นาโนเมตร ที่ประหยัดพลังงานมากกว่า ในขณะที่ Intel ยังอยู่บนสถาปัตยกรรมแบบ 10 นาโนเมตร

สำหรับการใช้งาน Surface Laptop 4 ต้องยอมรับว่า ถือเป็นแล็ปท็อปเพื่อการทำงาน และความบันเทิงที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการใช้งานทั่วๆ ไป ทำงานเอกสาร ทำรูปภาพบ้าง แต่จะไม่หนักไปจนถึงการตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมความละเอียดสูงๆ เนื่องจากไม่มีการ์ดจอแยกมาช่วยประมวลผล

ส่วนในแง่ของความบันเทิง เรียกได้ว่าให้มาครบถ้วนจากหน้าจอขนาดใหญ่ 13.5 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดสูง สีสันสมจริง แบตเตอรีที่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน ทีมงานลองใช้งานทั่วๆ ไปอยู่ที่ราว 11 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานหนักๆ อย่างเล่นเกม จะเหลือประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

สรุป

Microsoft Surface Laptop 4 ยังคงรักษาการเป็นโน้ตบุ๊กที่ดีที่สุดของไมโครซอฟท์ได้อย่างน่าสนใจ และนำเสนอเทคโนโลยีต่างๆ ของ Windows 10 ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของ Windows Hello ควบคู่กับชิปความปลอดภัย TPM2.0 ที่มาช่วยเข้ารหัสข้อมูล

ทำให้ Surface Laptop 4 เหมาะที่จะเป็นทั้งโน้ตบุ๊กสำหรับคอนซูเมอร์ และใช้งานในองค์กรธุรกิจ จะติดก็เรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาค่อนข้างจำกัด อาจจะต้องพกอะเดปเตอร์เพิ่มเติมในการใช้งาน

ที่น่าสนใจคือ Surface Laptop 4 รองรับการอัปเกรดเป็น Windows 11 ใช้งานในอนาคตอย่างแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของ Windows ใหม่ให้ใช้งานสัมผัสจากหน้าจอได้สะดวกขึ้น Surface Laptop 4 จะเพิ่มความน่าใช้งานเข้าไปอีก

Gallery

]]>
Review : Microsoft Surface Pro X โน้ตบุ๊ก 2-1 พร้อมใช้ LTE บน TrueMove H https://cyberbiz.mgronline.com/review-microsoft-surface-pro-x/ Tue, 10 Nov 2020 07:01:48 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=34118

ในช่วงที่องค์กรธุรกิจกำลังมองหาโน้ตบุ๊กพกพาง่าย เหมาะกับการใช้ทำงาน เพราะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ทำให้ทรูบิสสิเนส เข้าไปร่วมกับทาง Microsoft เป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนามรายแรกในไทย เริ่มนำ Microsoft Surface สำหรับลูกค้าธุรกิจเข้ามาเริ่มทำตลาด

จุดต่างของ Surface สำหรับลูกค้าธุรกิจคือมากับ Windows 10 Pro ทำให้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า Windows 10 Home ของผู้ใช้งานทั่วไป และมีบริการเสริมสำหรับการใช้งานธุรกิจเพิ่มเติมอย่างประกันตัวเครื่อง บริการซ่อม และให้คำปรึกษาในการใช้งานต่างๆ

ประกอบกับ Microsoft Surface Pro X ถือเป็น Surface สำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพที่หันมาใช้หน่วยประมวลผล Microsoft SQ1 / SQ2 บนสถาปัตยกรรมแบบ ARM ที่ไมโครซอฟท์ เข้าไปร่วมพัฒนากับ Qualcomm มาพร้อมโมเด็มทำให้สามารถเชื่อมต่อ LTE ได้ทันที

ข้อดี

  • ดีไซน์เรียบหรู เหมาะกับพกพาใช้งาน
  • รองรับการเชื่อมต่อ LTE
  • คีย์บอร์ดพิมพ์สนุกมือ ใช้งานง่าย

ข้อสังเกต

  • ข้อจำกัดในการใช้งานบางโปรแกรม
  • แบตเตอรี เวลาประมวลผลหนักๆ จะหมดค่อนข้างเร็ว
  • พอร์ตเชื่อมต่อค่อนข้างจำกัด (USB-C 2 พอร์ต)

เน้นพกพาใช้งานได้ทุกที่

Microsoft Surface Pro X ถือเป็นซีรีส์ใหม่ในตระกูล Surface ของไมโครซอฟท์ ที่ต้องการควบคุมประสบการณ์ใช้งานแก่ผู้ใช้ให้ดีที่สุด ด้วยการเข้าไปร่วมกับทางผู้ผลิตชิปเซ็ตอย่าง Qualcomm ร่วมกันผลิตชิปเซ็ต Microsoft SQ1 ขึ้นมาใช้งาน

โดย Microsoft SQ1 เป็นหน่วยประมวลผลที่พัฒนาขึ้นบนสถาปัตยกรรมแบบ ARM ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น และสามารถฝังโมเด็มเข้าไปเพื่อให้ตัวเครื่องสามารถใส่ซิมการ์ดเข้าไป ใช้งาน 4G LTE ได้ทันที ไม่ต้องพึ่งพาเครือข่าย Wi-Fi เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระบบปฏิบัติการ Windows นั้นแรกเริ่มเดิมทีพัฒนาขึ้นมาใช้งานกับหน่วยประมวลผลบนสถาปัตยกรรมแบบ x86 (32 บิต) และ x64 (64 บิต) ทำให้เมื่อเปลี่ยนมาใช้งาน ARM โปรแกรมหลายๆ อย่างที่พัฒนาขึ้นบน สถาปัตยกรรมแบบเดิม จะยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์

ยกเว้นโปรแกรมหลักๆ จาก Microsoft ที่มีการพัฒนาเพิ่มเติมให้สามารถทำงานบน ARM ได้สมบูรณ์แบบแล้ว โดยเฉพาะ Microsoft Office ที่มีความโดดเด่นในแง่ของการทำงานทั้ง Microsoft Word PowerPoint Excel รวมถึง OneNote ด้วย

รวมถึงอีกหลายๆ โปรแกรมที่โหลดใช้งานได้จาก Microsoft Store ทำให้โดยรวมแล้วสามารถใช้งานได้ไม่แตกต่างจากโน้ตบุ๊กทั่วไป แต่ถ้ามีการใช้งานโปรแกรมเฉพาะทางอาจจะต้องลองทดสอบใช้งานดูก่อนว่า สามารถรันใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หรือในกรณีที่ใช้งานผ่านระบบคลาวด์ ผ่านหน้าเว็บไซต์ เบราว์เซอร์อย่าง Microsoft EDGE ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่นี้ มีความรวดเร็วในการใช้งานดีขึ้นอย่างชัดเจน ก็จะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดในการใช้งานหลายๆ อย่างได้ด้วย

แบตเตอรีกลายเป็นอีกจุดที่ทำให้ Surface Pro X น่าสนใจ เพราะในการใช้งานบนหน่วยประมวลผล Microsoft SQ1 นั้นจะช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม ทำให้แม้จะมีการเชื่อมต่อกับ 4G LTE ใช้งานไปด้วย ก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 11 ชั่วโมง

เหมาะกับองค์ธุรกิจที่หาดีไวซ์ตอบโจทย์

กลับมาที่การทำตลาดของ Microsoft Surface ซึ่งไมโครซอฟท์ เข้าไปร่วมกับทางทรู บิสสิเนส เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจ ดังนั้นองค์กรธุรกิจที่สนใจ สามารถเข้าไปปรึกษากับทางทรู บิสสิเนส ได้ว่า ในแต่ละองค์กรเหมาะกับการนำ Microsoft Surface รุ่นไหนไปใช้งาน

หนึ่งในนั้นก็คือ Microsoft Surface Pro X รุ่นนี้ ที่จะแตกต่างจากโมเดลที่ขายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไปตรงที่ ตามปกติจะมากับ Windows 10 Home แต่สำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจจะเป็น Windows 10 Pro แทน ซึ่งจะได้ในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานที่มากขึ้น

เนื่องจากองค์กรธุรกิจนั้นต้องระมัดระวังในแง่ของการเก็บช้อมูล ให้ปลอดภัยมากที่สุด เมื่อใช้งานร่วมกับ Windows 10 Pro ก็จะได้ระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง Windows Hello ที่สามารถทำงานร่วมกับกล้องวิดีโอคอลล์ เพื่อใช้ปลดล็อกเครื่องด้วยใบหน้าได้ด้วย

ปัจจุบัน Microsoft Surface Pro X วางจำหน่ายด้วยกัน 4 รุ่นหลักด้วยกัน คือ รุ่นที่มากับชิปเซ็ต Microsoft SQ1 RAM 8 GB SSD 128 GB / 8 GB SSD 256 GB / Microsoft SQ2 RAM 16 GB SSD 256 GB และ RAM 16 GB SSD 512 GB ในราคาเริ่มต้นเดือนละ 2,799 บาท

สำหรับลูกค้าทรูบิสิเนส จะได้รับบริการอย่างให้คำปรึกษาในการเลือกซื้อรุ่นที่เหมาะสม พร้อมแพ็กเกจใช้งานได้ทันที และรับประกันเครื่องนาน 3 ปี และบริการหลังการขายจากทรูบิสสิเนสเพิ่มเติม

การออกแบบ

Microsoft Surface Pro X ออกแบบมาเป็นโน้ตบุ๊กในลักษณะของแท็บเล็ต 2-1 ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Signature Keyboard ที่มีช่องลสำหรับเก็บปากกา Surface Slim Pen เพื่อให้พกพาใช้งานได้สะดวกขึ้น

หน้าจอ Surface Pro X มากับจอ PixelSense ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2880 x 1920 พิกเซล ความละเอียดเม็ดสีอยู่ที่ 267 ppi อัตราส่วนหน้าจอแบบ 3:2 รองรับการสัมผัส 10 จุด โดยมีดีไซน์ขอบจอบาง

ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียม มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำด้าน และสีเงินแพลตินัม ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 287 x 208 x 7.3 มิลลิเมตร นำ้หนัก เฉพาะหน้าจออยู่ที่ราว 774 กรัม เมื่อร่วมกับคีย์บอร์ด และปากา ก็จะอยู่ที่ราว 1 กิโลกรัม

รอบตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิด/ปิดเครื่องอยู่ด้านบน ด้านซ้าย มีพอร์ต USB-C 2 ช่อง เท่านั้น ส่วนทางขวาเป็น Surface Connect สำหรับเสียบสายชาร์จ

ด้านหลังตัวเครื่อง ถือเป็นจุดเด่นของ Surface Pro X ก็คือขาตั้ง Kickstand ที่สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองในการใช้งานได้หลากหลาย เหมาะกับทั้งใช้เป็นโน้ตบุ๊ก หรือเป็นแท็บเล็ตเพื่อจดบันทึกข้อมูลก็ได้

ใต้ขาตั้ง Kickstand บริเวณมุมเครื่อง จะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบนาโนซิมอยู่ ในกรณีที่ซื้อเครื่องใช้งานกับทางทรูบิสสิเนส ก็จะมีซิม 4G LTE ของ TruemoveH มาให้ใช้งานพร้อมแพ็กเกจด้วย

 

อีกความพิเศษที่จะเปลี่ยนให้ Surface Pro X ทำงานได้ไม่ต่างจากโน้ตบุ๊กทั่วไปก็คือ Signature Keyboard ที่มีความพิเศษตรงสามารถปรับองศาการพิมพ์ได้ คือการยกองศาขึ้นมาเล็กน้อย หรือวางให้แบนราบไปกับพื้นก็ได้

ในช่วงที่ใช้งาน Signature Keyboard แบบยกองศาขึ้นมานั้น จะเป็นการซ่อนช่องเก็บปากกา Surface Slim Pen ไปด้วย ถ้าต้องการใช้งานปากกาก็แค่ปรับมุมคีย์บอร์ดออกมาเป็นแนวราบนั่นเอง

สรุป

องค์กรธุรกิจที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กให้พนักงาน หรือผู้บริหารใช้งาน โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ Microsoft Surface Pro X พร้อมกับบริการให้คำปรึกษาจาก TrueMove H น่าจะเข้ามาช่วยหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Surface Pro X เป็นการนำซีพียูรุ่นใหม่ที่ทาง Microsoft ผลิตขึ้นมาบนสถาปัตยกรรมแบบใหม่ อาจทำให้โปรแกรมเดิมที่เคยใช้งานบน Windows 10 ได้ อาจจะไม่สามารถใช้งานบน Pro X ได้ ซึ่งแนะนำให้ตรวจสอบให้ดีก่อนเลือกซื้อมาใช้งาน

Gallery

]]>