VivoBook 14 – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Wed, 15 Jul 2020 07:26:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : Asus VivoBook 14 โน้ตบุ๊กราคาดีขุมพลัง AMD https://cyberbiz.mgronline.com/review-asus-vivobook-14/ Wed, 15 Jul 2020 07:22:56 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=33278

เมื่อตลาดซีพียูมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้นในแง่ของประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้บรรดาผู้ผลิตพีซี ก็ได้รับประโยชน์จากการแข่งขันนี้ด้วย เพราะสามารถผลิตโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง ราคาดีออกมาทำตลาดได้หลากหลายมากขึ้น เมื่อเทียบกับตอนที่ตลาดซีพียูมีการผูกขาด

ในช่วงนี้จะเห็นได้ว่า เริ่มมีโน้ตบุ๊กที่ใช้หน่วยประมวลผล AMD Ryzen 4000 ซีรีส์ ออกสู่ตลาดค่อนข้างเยอะ และแต่ละรุ่นก็สามารถทำระดับราคาได้น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ Asus Vivobook 14 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมของ Asus ที่เจาะตลาดในกลุ่มคอนซูเมอร์ได้อย่างน่าสนใจ

Asus Vivobook 14 เป็นโน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ที่นำนวัตกรรมหลายๆ อย่างที่น่าสนใจมาให้ใช้งาน ทั้งเรื่องของการออกแบบให้ขอบจอบางลง มีสีสันให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ และที่สำคัญคือมากับหน่วยประมวลผล AMD Ryzen 4000 ซึ่งมีจุดเด่นที่การประมวลผลแบบมัลติทาสก์ที่ดีขึ้น ในราคา เริ่มต้น 19,990 บาท

ข้อดี

  • โน้ตบุ๊กสำหรับการใช้งานทั่วไป
  • ราคาเริ่มต้น 19,990 บาท
  • มีให้เลือกทั้งรุ่น 14 นิ้ว และ 15 นิ้ว

ข้อสังเกต

  • รุ่นนี้ไม่มี ErgoLift มาข่วยยกแป้นพิมพ์ให้รับกับการพิมพ์งาน
  • น้ำหนักเริ่มต้น 1.4 กิโลกรัม
  • USB-C ใช้ได้แค่เชื่อมต่อข้อมูล ไม่สามารถต่อจอ หรือชาร์จไฟได้

ตัวเครื่องหลากสีสัน พกพาพร้อมใช้งาน

เดิมที Asus VivoBook จะเน้นนำเสนอในเรื่องของการมีสีตัวเครื่องให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของเครื่องรุ่นนี้ คือกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยเริ่มทำงาน ที่ต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง ในระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้

ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้มีความโดดเด่น และจับกลุ่มวัยรุ่น VivoBook 14 ถึงมีให้เลือก 6 สี โดยแบ่งเป็น VivoBook 14 3 สี คือ ทอง Hearty Gold เงิน Transparent Silver และดำ Indie Black ตามเ่วย VivoBook S14/S15 อีก 3 สี คือ ขาว Dreamy White แดง Resolute Red และเขียว Gaia Green

อย่างรุ่นที่นำมารีวิวจะเป็นสี Resolute Red ที่ให้สีสันสดใส ชัดเจน และที่น่าสนใจคือการนำดีไซน์แบบ Diamond Cut มาใช้ ทำให้บริเวณขอบมุมสะท้อนแสงเพิ่มความหรูหราให้กับตัวเครื่อง สำหรับขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 324 x 213 x 15.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม

บริเวณฝาเครื่องนอกจากโลโก้ Asus VivoBook ที่เป็นสีเงินสะท้อนแสงอยู่ที่หน้าจอแล้ว ยังมีการเล่นลายเส้นที่ขอบบนของเครื่อง ภายในกล่องยังมีสติกเกอร์ลวดลายต่างๆ มาให้แปะเพิ่มเติมเพื่อแสดงของถึงตัวตนของผู้ใช้

เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมา จะพบกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD โดยมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอแสดงผล และตัวเครื่องอยู่ที่ 84% ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่ขอบจอบางเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในช่วงระดับราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งที่ขอบบนจะมีกล้องเว็บแคมความละเอียด HD ติดตั้งอยู่ ส่วนล่างหน้าจอก็จะมีสัญลักษณ์ Asus VivoBook อีกจุด

ถัดลงมาที่แป้นคีย์บอร์ดของรุ่นนี้จะมีเอกลักษณ์อยู่ตรงปุ่ม Enter ที่จะมีขอบสีเขียวสะท้อนแสงอยู่ ทำให้คีย์บอร์ดดูสดใสมากขึ้น และมีปุ่มตัวเลขมาให้ใช้งานด้วย โดยปุ่มคีย์บอร์ดจะมาในลักษณะของ Chiclet พร้อมไฟ LED ช่วยให้สามารถใช้งานในที่มืดได้

ทั้งนี้ คีย์บอร์ดของ Asus VivoBook 14 ในส่วนของปุ่มตัวอักษรต่างๆ ถือว่าออกแบบมาได้ดี พิมพ์ได้สนุก แต่จะมีในส่วนของปุ่มแถบควบคุมแถวบนที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ เช่นเดียวกับปุ่มลูกศร ที่มีขนาดเล็กเพียงครึ่งเดียวของปุ่มปกติ เช่นเดียวกับการผสมปุ่มคำสั่งเข้าไปกับ NumPad ทำให้ต้องใช้ความเคยชินพอสมควร ถัดลงมาก็จะเป็นแทร็กแพดขนาดมาตรฐาน

อีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องของลำโพงที่ติดตั้งมาใน VivoBook 14 นั้นจะใช้ลำโพงที่ผ่านการรับรองของ Harman Kardon ทำให้เสียงที่ได้ดัง และมีคุณภาพ เหมาะกับการใช้เพื่อความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ด้วย

ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น VivoBook 14 ถือว่าให้มาครบ ไล่จากทางฝั่งซ้าย นอกเหนือจากช่องเสียบสายชาร์จ แล้วก็จะมี HDMI ขนาดปกติ USB 3.2 Gen 1, USB C 3.2 และช่องเสียบหูฟัง อีกฝั่งจะมีพอร์ต USB 2.0 ให้อีก 2 พอร์ต พร้อมกับช่องอ่านไมโครเอสดีการ์ด

จุดที่น่าเสียดายคือ USB-C ที่ให้มานั้นไม่สามารถใช้งานเป็น Display Port หรือใช้ในการเสียบชาร์จเครื่องได้ ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมไปแล้ว ดังนั้นก็อาจจะต้องพกอะเดปเตอร์ของตัวเครื่องไปด้วย ซึ่งยังดีที่อะเดปเตอร์มีขนาดเล็ก ทำให้พกพาได้ง่าย

สเปกเครื่องทดสอบประสิทธิภาพ

Asus VivoBook 14 รุ่นเริ่มต้น D433 จะมากับหน่วยประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่ทำงานบนสถาปัตยกรรมแบบ 7 นาโนเมตร ความเร็ว 2.4 GHz ที่สามารถเร่งขึ้นไปได้ถึง 3.8 GHz มาพร้อมกับ AMD Radeon แบบออนบอร์ด RAM 8 GB พื้นที่เก็บข้อมูลเป็น SSD 512 GB

ด้านการเชื่อมต่อมากับ WiFi 6 (802.11ax) พร้อมบลูทูธ 5.0 แบตเตอรี 50Wh รองรับการชาร์จเร็ว 60% ใน 49 นาที ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home และแถม MS Office Home and Student 2019 มาให้ใช้งานด้วย ในราคา 19,990 บาท

กรณีที่ต้องการประสิทธิภาพที่แรงขึ้น จะมีตัวเลือกอย่างการปรับซีพียูเป็น Ryzen 7 4700U ความเร็วประมวลผลจะขึ้นไปอยู่ที่ 3.6 GHz เร่งขึ้นไปสูงสุดได้ที่ 4 GHz ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ต้องใช้งานหนักๆ อย่างการตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมที่ต้องใช้การประมวลผลสูงๆ ราคาจะขยับขึ้นไปที่ 22,990 บาท

ในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานนั้น ต้องยอมรับว่า Asus VivoBook 14 นั้นทำได้น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องการประมวลผลที่ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าซีพียูคู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียงกัน ส่วนปัญหาเรื่องความร้อนนั้นแทบไม่พบเจอจากการใช้งาน

อีกจุดที่น่าสนใจคือเรื่องการประหยัดพลังงาน เนื่องจากพอปรับมาใช้สถาปัตยกรรมแบบ 7 นาโนเมตร ทำให้ใช้พลังงานลดลง ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดวัน โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรีจะหมด

เน้นความคุ้มค่าในราคา 19,990 บาท

รวมๆ แล้วความโดดเด่นหลักของ Asus Vivobook 14 กลายเป็นอยู่ที่สเปกเครื่องที่ให้มาเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไป ซึ่งในรุ่นเริ่มต้นนั้น ถือว่าเพียงพอกับการใช้สำหรับการเรียน และทำงานแล้ว ดังนั้นถ้ามองหาโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพดี ราคาคุ้มค่าซีรีส์นี่ ทำออกมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว

นอกจากเรื่องของหน่วยประมวลผลที่ใช้ Ryzen 4000 ซีรีส์ อย่างในรุ่นเริ่มต้นเป็น Ryzen 5 นั้น จะมีการผสมผสานหน่วยประมวลผลภาพ AMD Radeon มาให้ด้วย ทำให้สามารถประมวลผลกราฟิกได้ในตัว แถมยังประหยัดแบตเตอรีอีกด้วย

]]>
Review : Asus VivoBook 14 X412 โน้ตบุ๊กวินโดวส์ 10 แท้ในราคา 12,990 บาท https://cyberbiz.mgronline.com/review-asus-vivobook-14-x412/ Tue, 21 May 2019 04:38:52 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=30727

กลุ่มโน้ตบุ๊กระดับเริ่มต้น เริ่มกลับมาได้รับความนิยมในตลาดพีซีอีกครั้ง หลังจากที่ตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มถึงจุดอิ่มตัว ในขณะที่ความต้องการของโน้ตบุ๊กเครื่องแรก เพื่อนำมาใช้เรียน หรือทำงาน ยังกลายเป็นสิ่งจำเป็นในยุคสมัยนี้อยู่

Asus มองถึงโอกาสทางธุรกิจในฐานลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งแต่เดิมเอซุส แทบจะไม่มีส่วนแบ่งในกลุ่มนี้ เพราะทำราคาเครื่องกับสเปกที่เหมาะสมลงมาสู้กับคู่แข่งไม่ได้ แต่จากการมาของ VivoBook 14 X412 เชื่อว่าจะกลายเป็นไม้เด็ดของเอซุส ในตลาดนี้

จุดเด่นของ Asus VivoBook 14 X412 รุ่นนี้คือ การที่เอซุส เลือกนำ Intel Pentium Gold มาให้ใช้งานพร้อมกับ RAM 4 GB และพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ Dual Storage SSD 128 GB + HD 1 TB และมากับวินโดวส์ 10 แท้ ในราคาเริ่มต้นที่ 12,990 บาท

ข้อดี

  • โน้ตบุ๊กราคาประหยัดที่มากับขนาดตัวเครื่องเล็กสุดในตลาด
  • มาพร้อมวินโดวส์ 10 ลิขสิทธิ์แท้
  • รองรับการเพิ่ม RAM สูงสุด 20 GB

 

ข้อสังเกต

  • ตัวเครื่องค่อนข้างหนา (1.95 เซนติเมตร) แต่ก็ถือว่าบางลงเยอะแล้ว
  • น้ำหนักเครื่อง 1.5 กิโลกรัม
  • เหมาะกับการเป็นโน้ตบุ๊กเครื่องแรกเพื่อใช้งานทั่วไป

หน้าจอ 14 นิ้ว ในขนาดตัวเครื่องเทียบเท่า 13 นิ้ว

จุดแรกที่น่าสนใจของ Asus VivoBook 14 คือการออกแบบหน้าจอใหม่ โดยหันมาใช้เทคโนโลยี Four Side Nano EDGE Display ทำให้ขอบจอบางลง ดังนั้นจึงสามารถใส่จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด FullHD (1920 x 1080 พิกเซล) ลงมาให้ใช้งาน ในตัวเครื่องใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊กจอ 13 นิ้ว

โดยขนาดของ VivoBook 14 เล็กลง 6.8% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้ปัจจุบันมีขนาดอยู่ที่ 212.7 x 322.4 x 19.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม วางจำหน่ายด้วยกัน 3 สี คือ เงิน เทา และน้ำเงิน

ในส่วนของจอไม่ใช่แค่ขอบจอเล็กลง เพราะเอซุส ใส่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยปรับสีในการแสดงผล ไม่ว่าจะเป็น ASUS Tru2Life ที่เข้ามาช่วยเพิ่มรายละเอียดของเม็ดพิกเซลในการรับชมวิดีโอให้คมชัดมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังใส่ฟีเจอร์ Blue Light Reduction ที่เมื่อเปิดใช้งานจะลดแสงสีฟ้าลด 30%  และที่สำคัญคือถึงจะเปิดโหมด EyeCare ใช้งานแล้วก็จะไม่ทำให้การแสดงผลสีผิดเพี้ยนไป

ถัดมาในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่อง VivoBook 14 ถือว่าให้ความสำคัญกับการออกแบบเครื่องให้เหมาะกับสรีระในการใช้งานของผู้ใช้ เนื่องจากเมื่อกางจอออกมาสุดที่ 135 องศา ตัวจอจะช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นประมาณ 2 องศา เพื่อให้เหมาะกับการเป็น ErgoLift ในการพิมพ์คีย์บอร์ดใช้งาน

ส่วนของปุ่มคีย์บอร์ด ถือว่ามากับขนาดมาตรฐาน ที่ช่วยให้การพิมพ์ทำได้ถนัดเหมือนพิมพ์คีย์บอร์ดปกติ ด้วยระยะแป้นพิมพ์ที่ 1.3 มิลลิเมตร ทำให้ความรู้สึกในการกดแป้นตัวอักษรทำออกมาได้ดี

สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อรอบๆตัวเครื่อง VivoBook 14 ถือว่าให้มาครบทั้งพอร์ตยุคใหม่อย่าง USB 3.1 ทั้งแบบ Type A และ Type C และยังมี USB 2.0 มาเผื่อให้ใช้งานด้วย รวมถึงพอร์ต HDMI ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ช่องอ่านไมโครเอสดีการ์ด และพอร์ตล็อกเครื่อง

สเปกเหมาะกับการใช้งานแบบเริ่มต้น

ด้วยการที่ VivoBook 14 เลือกใช้งาน Intel Pentium Gold 4417U ที่เป็น Dual Core ให้ความเร็ว 2.3 GHz RAM 4 GB กราฟิกออนบอร์ด Intel HD 610 ดังนั้น จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วๆไป อย่างใช้เล่นเน็ต ดูหนัง ทำงานเอกสารต่างๆ

ส่วนการที่ให้พื้นที่เก็บข้อมูลแบบ Dual Storage อย่าง SSD 128 GB มาพร้อมกับ HD 1 TB ก็จะช่วยเพิ่มความเร็วในการใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ให้รวดเร็วมากขึ้น และถ้าต้องการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ก็สามารถเลือกเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ได้ด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพ

สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่อง Asus VivoBook 14 จะทดสอบได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น เพราะด้วยสเปกที่ให้มา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากกว่า ไม่ได้เน้นการประมวลผลกราฟิกสูงๆ

โดยผลที่ออกมาก็ถือว่าอยู่ในระดับที่คาดหมายไว้ ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป ทำงาน เล่นเน็ต ใช้เพื่อความบันเทิง ถือว่าตอบโจทย์ได้ค่อนข้างครบถ้วนอยู่แล้ว ส่วนแบตเตอรี ก็จะขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้าประมวลผลหนักๆ เวลาใช้งานก็จะลดลงแต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้

สรุป

ถ้าใครกำลังมองหาโน้ตบุ๊กมาใช้งานทั่วๆไป ไม่ได้เน้นพกพาไปไหน เน้นใช้งานอยู่ภายในบ้าน หรือสถานที่ทำงาน และต้องการเครื่องที่ปลอดภัยจากการที่ตัวเครื่องทำงานบนวินโดวส์ 10 แท้ VivoBook 14 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในเวลานี้

เพราะด้วยระดับราคาที่ 12,990 บาท นอกจากได้โน้ตบุ๊กมาใช้งานแล้ว ด้วยการที่มี HD มาให้ถึง 1TB เพิ่มเติมจาก SSD ไว้ใช้งานปกติ ก็สามารถนำมาเก็บข้อมูลจากสมาร์ทโฟนทั้งพวกรูปภาพ และวิดีโอได้ด้วย หรือถ้าต้องการใช้งานเพื่อความบันเทิงก็นำไปต่อกับจอทีวีดูซีรีส์ออนไลน์ได้อีกต่างหาก

Gallery

]]>