“Wiko (วีโก)” ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหน้าใหม่ของตลาดที่สร้างชื่อเสียงและเติบโตได้รวดเร็วจากสเปกและราคาที่ออกมาได้สอดคล้องและโดนใจผู้ใช้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตระกูล Highway ที่ถือว่าเป็นพระเอกขายดีสุดของวีโก
โดยในวันนี้เพื่อต่อยอดความสำเร็จและทำให้สมาร์ทโฟนในกลุ่ม Highway ครอบคลุมผู้ใช้ทุกระดับ ทางวีโกก็ได้คลอดรุ่นกลางในชื่อ Highway Pure 4G ขึ้นมาแทรกกลางระหว่างรุ่นพี่ใหญ่ Highway Star และน้องเล็กสุด Highway Signs ด้วยจุดเด่นเน้นเรื่องความบาง น้ำหนักเบาและหน้าจอสีสวยในราคาไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาทเช่นเดิม
การออกแบบ
Wiko Highway Pure 4G มีจุดเด่นหลักในเรื่องการออกแบบตัวเครื่องที่ขึ้นรูปจากเฟรมอลูมิเนียม ขนาดตัวเครื่องกว้างxยาว อยู่ที่ 68.1×141.9 มิลลิเมตรพร้อมความบางเพียง 5.1 มิลลิเมตรและน้ำหนักแค่ 98 กรัมสมกับสโลแกน Slimmer than ever เสียจริงๆ
ด้านหน้าจอ วีโกเลือกใช้ขนาดจอเพียง 4.8 นิ้วแบบ AMOLED ที่ให้สีสันสดใส ความละเอียด 1,280×720 พิกเซล 306ppi ครอบทับด้วยกระจกกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 3 พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและไฟ LED แสดงแจ้งเตือนอยู่ส่วนบน
ด้านหลังของตัวเครื่องเท่าที่สัมผัสวัสดุจะเหมือนเป็นพลาสติก (ฝาหลังไม่สามารถเปิดออกเปลี่ยนแบตเตอรีได้) แต่เท่าที่ทีมงานสืบค้นและทดลองใช้งานแบบไม่ติดฟิล์มป้องกันรอยขีดข่วนเป็นเวลาร่วมอาทิตย์ คาดว่าฝาหลังน่าจะผลิตจากกระจกเนื่องจากเป็นรอยค่อนข้างยาก และความใสการสะท้อนแสงมองแล้วเหมือนเป็นกระจกมากกว่าพลาสติก
สำหรับสเปกกล้องถ่ายภาพด้านหลังจะมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีไฟแฟลช LED ส่วนด้านล่างใต้ข้อความ“Designed by Wiko in France Assembled in China” จะเป็นช่องลำโพง
มาดูรอบตัวเครื่องกับพอร์ตเชื่อมต่อและปุ่มกดต่างๆ เริ่มจากข้างซ้าย จะมีเฉพาะปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงเท่านั้น ส่วนข้างขวาจะเป็นที่อยู่ของปุ่มปิดเปิดเครื่องและช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบ Nano Sim
ส่วนด้านล่างจะเป็นที่อยู่ของช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แถบเสาสัญญาณโทรศัพท์ (มีทั้งบนและล่าง) ไมโครโฟนและช่อง Micro USB
สเปก
สำหรับสเปก Wiko Highway Pure 4G ชื่อต่อท้ายก็บอกว่า 4G อยู่แล้วเพราะฉะนั้นจุดเด่นด้านสเปกหลักๆนอกจากราคาแล้วก็คือตัวเครื่องสามารถรองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 3G และ 4G LTE ทุกเครือข่ายในประเทศไทย โดยความเร็ว 4G LTE ที่รองรับสูงสุด ขาดาวน์โหลดจะอยู่ที่ 150Mbps อัปโหลด 50Mbps
ด้านซีพียูประมวลผลเลือกใช้ Qualcomm Snapdragon 410 Quad Core ความเร็ว 1.2GHz แรมให้มา 2GB รอมหรือความจุเครื่องให้มาขนาดเดียวคือ 16GB เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 11.72GB ไม่สามารถเพิ่มการ์ดความจำ MicroSD ได้ แต่รองรับการเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟแบบ USB (OTG) แบตเตอรีให้มา 2,000mAh แบบ Li-Po และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat แบบยึดหน้าตาใช้งานและระบบจัดการแบบ Pure Google โดยวีโกจะเลือกปรับเปลี่ยนหน้าตาเฉพาะไอคอน การจัดวางเมนูและแอปฯบางตัวเพียงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้กระทบกับประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ
ในส่วนสเปกเครื่องปลีกย่อยอื่นๆ ระบบนำทางรองรับ GPS, AGPS และ GLONASS, WiFi รองรับมาตรฐาน 802.11 b/g/n, บลูทูธรองรับเวอร์ชัน 4.0 และภายในตัวเครื่องมาพร้อมเซนเซอร์ Accelerometer, Magnetic Sensor และ Proximity Sensor
ฟีเจอร์เด่น
ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของวีโกกับยูสเซอร์อินเตอร์เฟสเน้นความเป็น Pure Google ที่วีโกทำได้ดีตลอดมาตั้งแต่ความลื่นไหลและไม่บริโภคทรัพยากรเครื่องมากจนเกินไป ซึ่งสำหรับ Highway Pure 4G ข้อดีเหล่านั้นยังมีให้พบเห็นเช่นเดิม
ในส่วนแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ได้แก่ LINE, Facebook, Instagram, เครื่องบันทึกเสียงและวิทยุ
ในส่วนคีย์บอร์ดวีโกเลือกใช้บริการจาก TouchPal X ที่ตัวแอปฯเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งธีมคีย์บอร์ดได้ตามต้องการ หรือถ้าผู้ใช้ไม่พอใจกับคีย์บอร์ดที่วีโกใส่มาให้ก็สามารถเลือกติดตั้งเองได้จาก Google PlayStore
Clean Master เป็นแอปฯที่วีโกเลือกใช้บริการมาตลอดและมีข้อดีในเรื่องการช่วยจัดการไฟล์ขยะ ตรวจจับสแปมจากแอปฯต่างๆ และช่วยเคลียร์แรม รวมถึงปิดแอปฯที่รันอยู่พื้นหลังโดยไม่จำเป็นได้
อีกจุดเด่นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือระบบ Magic Unlock ที่ผู้ใช้สามารถตั้ง Gestures ต่างๆเช่น วาดตัวอักษร p ลงบนหน้าจอที่ดับอยู่จะเป็นคีย์ลัดเรียกเมนูโทรศัพท์ขึ้นมา เป็นต้น
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือด้านระบบเสียงที่วีโกเลือกใส่ชิปประมวลผลเสียงแบบไฮไฟ Dirac HD Sound เข้ามาและผู้ใช้สามารถเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์ได้จากเมนู Sound ซึ่งจะช่วยให้เสียงคมชัดมากขึ้นและรองรับการรับฟังไฟล์เสียงคุณภาพสูงที่จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มาถึงส่วนสุดท้ายคือเรื่องแอปฯกล้องถ่ายภาพที่วีโกเลือกออกแบบเอง มาพร้อมฟีเจอร์เด่นอย่างความสามารถในการถ่าย HDR ได้ มีซีนโหมดให้เลือกใช้งาน อีกทั้งในโหมดเซลฟียังสามารถปรับแต่งความเนียนใสของใบหน้า ปรับตาโต ปรับคาง ได้ตามต้องการด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพ
ด้านการทดสอบประสิทธิภาพ ด้วยการที่วีโกเกือบทุกรุ่นพยายามคงความเป็น Pure Google มาจนถึงรุ่นล่าสุด Highway Pure 4G เรื่องของความลื่นไหลและการตอบสนองถือว่าทำได้ดีเช่นเดิม การใช้งานแอปฯทั่วไปถือว่าสอบผ่านไม่พบปัญหาเครื่องค้าง ช้าหรือหน่วงให้เห็นแต่อย่างใด ยกเว้นการเล่นเกม 3 มิติ ที่ดูจากสเปกเครื่องแล้วอาจไม่เหมาะสมเท่าใดนัก
มาถึงส่วนหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมคือ สีสันสดใส คอนทราสต์จัดจนหลายคนอาจไม่ชอบเพราะทำให้การรับชมภาพไม่เป็นธรรมชาติ ส่วนสีดำจะดำสนิทมาก หน้าจอสามารถสู้แสงอาทิตย์ได้ดีระดับหนึ่ง ส่วนกล้องถ่ายภาพให้ความคมชัดพอใช้เมื่อถ่ายในสภาพแสงปกติ ส่วนในที่แสงน้อย สีสันและสมดุลแสงสีขาวอาจมีเพี้ยนติดสีเขียว สีฟ้าบ้าง
สำหรับปัญหาจะอยู่ที่เรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลที่ไม่สามารถเพิ่มความจุด้วย MicroSD Card ได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาสำหรับผู้ใช้ที่ชอบเก็บไฟล์เพลง รูปภาพหรือคนที่ชอบดาวน์โหลดแอปฯ อาจต้องหันไปพึ่งพาคลาวด์สตอเรจหรือแฟลชไดร์ฟผ่านช่อง MicroUSB แทน
สุดท้ายกับเรื่องแบตเตอรี อาจเพราะขนาดตัวเครื่องที่บางและเล็กทำให้แบตเตอรีต้องถูกลดความจุลงมาเหลือเพียง 2,000mAh และมีผลให้ระยะเวลาในการทดสอบแบตเตอรีลดลงไปเหลือเพียง 4 ชั่วโมง 47 นาที 50 วินาที และเมื่อคำนวณหาเวลาใช้งานทั่วไปจะอยู่ในช่วง 9-11 ชั่วโมงเท่านั้น
สรุป
สำหรับราคาเปิดตัว Wiko Highway Pure 4G อยู่ที่ 7,990 บาท ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนคุ้มค่าคุ้มราคา วัสดุดี รับ 4G และที่สำคัญคือตัวเครื่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาสุดในตลาดตอนนี้ แต่จะมีข้อสังเกตที่ต้องทำใจเป็นอันดับแรกก็คือเรื่องแบตเตอรีที่หมดเร็วมาก ไม่เหมาะแก่คนใช้สมาร์ทโฟนแบบหนักหน่วง เช่น แชททั้งวัน เล่นเกมตลอดเวลา และอีกข้อคือ Highway Pure 4G เพิ่มเมมไม่ได้
[usrlist “การออกแบบ:8” “สเปก/ฟีเจอร์เด่น:8.5” “ความสามารถโดยรวม:9” “ความคุ้มค่า:9″ avg=”true”]>หลักเกณฑ์การให้คะแนนรีวิว<