Apple “AirPods (แอร์พอดส์)” เป็นหูฟังไร้สายจากแอปเปิลที่มาพร้อมกระแสร้อนแรงตั้งแต่ช่วงเปิดตัว ตั้งแต่เรื่องดีไซน์ ไปถึงราคาที่สูง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา แต่สิบปากว่าจะเท่าตาเห็นและสัมผัสด้วยตัวเราเอง เพราะฉะนั้นในวันนี้เพื่อตอบข้อสังสัยที่หลายคนมีกับ AirPods ทีมงานไซเบอร์บิซจึงได้จัดหาหูฟังกระแสร้อนมาทดสอบกันอย่างละเอียดตั้งแต่การใช้งานไปถึงการทดสอบประสิทธิภาพเสียงว่าจะคุ้มค่าค่าตัวแสนแพงหรือไม่
การออกแบบและใช้งาน
แรกแกะกล่อง ตัวหูฟัง AirPods จะถูกบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกสีขาว ซึ่งกล่องนี้จะเปรียบเป็นที่ชาร์จไฟให้กับหูฟัง ทำให้เราสามารถใช้หูฟังได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง
โดยด้านหลังจะมีปุ่มวงกลมเล็กๆ ไว้กดเพื่อกระตุ้นสัญญาณบลูทูธเมื่อต้องการใช้ AirPods ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆที่ไม่ใช่ของแอปเปิล เช่น สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ พีซี โน้ตบุ๊ก เป็นต้น
ส่วนด้านล่างจะเป็นพอร์ต Lightning สำหรับเชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์ไอโฟน พาวเวอร์แบงค์หรือพอร์ต USB เพื่อชาร์จไฟเข้าตัวกล่อง
จากนั้นเมื่อเราเปิดฝากล่องขึ้นมา เราจะพบตัวหูฟัง AirPods ซ้ายและขวาเก็บอยู่ในกล่อง และตรงกลางเป็นไฟแสดงสถานะ สีเขียว (ไฟเต็ม) สีส้ม (ชาร์จไฟ) สีขาว (กำลังตรวจจับสัญญาณบลูทูธ)
โดยการเชื่อมต่อครั้งแรก วิธีง่ายสุดแค่นำกล่องไปอยู่ใกล้ iPhone (รองรับ iPhone 5 เป็นต้นไปและต้องติดตั้ง iOS 10) หรือ iPad จากนั้นเปิดบลูทูธที่ตัวเครื่องก่อน และเมื่อเปิดฝาขึ้นระบบจะค้นหากันและกันอัตโนมัติพร้อมปรากฏ Pop up “AirPods” และมีสถานะแบตเตอรีแสดงให้ผู้ใช้ทราบทั้งในส่วนของหูฟังสองข้างและกล่องเก็บหูฟัง เพียงเท่านี้ AirPods ก็พร้อมใช้งานแล้ว
*ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรีได้จากทั้งส่วนแจ้งเตือนบน iOS, ส่วนเมนูบลูทูธใน Mac หรือฟังเสียงเตือนในหูฟังเมื่อแบตเตอรีใกล้หมด*
ส่วนรูปแบบการเชื่อมต่อสัญญาณ สำหรับผู้ใช้ Apple Family จะมีความพิเศษอย่างมาก เช่น ที่บ้านมี iPhone iPad MacBook iMac และใช้บัญชี iCloud เดียวกันทั้งหมด เมื่อเราเชื่อมต่อ AirPods กับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งใน Apple Family อุปกรณ์อื่นๆจะรู้จักและพร้อมใช้งาน AirPods ด้วยเช่นกัน
โดยเวลาต้องการเลือกใช้งานก็เพียงเปิดอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับ AirPods ให้จอติดไว้ (ต้องเปิดบลูทูธทิ้งไว้ด้วย) เมื่อเปิดกล่องเก็บหูฟังขึ้น ระบบจะเชื่อมต่อกันทันที
ด้านการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มีเดียอื่นที่ไม่ใช่ของแอปเปิล ก็เหมือนการเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธทั่วไป (เปิดฝากล่องและกดปุ่มวงกลมสีขาวหลังกล่องข้างไว้จนไฟสีขาวปรากฏ) โดยเมื่อเชื่อมต่อครั้งแรกเสร็จสิ้น ครั้งต่อไปเมื่อเปิดกล่องแล้วดึงหูฟังขึ้นมา ระบบจะเชื่อมต่อกันอัตโนมัติ
มาดูตัวหูฟัง AirPods กันบ้าง มาพร้อมน้ำหนักข้างละ 4 กรัม ด้านการออกแบบจะเหมือนกับหูฟัง EarPods ที่แถมมากับ iPhone แต่วัสดุงานประกอบจะพรีเมียมกว่า และที่สำคัญเมื่อสวมใส่แล้วตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีกว่า
ส่วนสเปก AirPods ภายในจะมาพร้อมชิปประมวลผล W1 พร้อมเซ็นเซอร์ออปติคอลและอุปกรณ์จับการเคลื่อนไหว ทำให้ตัวหูฟังทั้งสองข้างสามารถรู้ได้ว่าตอนนี้เราถอดหรือใส่หูฟังอยู่ โดยระหว่างฟังเพลงเมื่อคุณถอดหูฟังออก เพลงจะหยุดเล่นทันทีและจะเล่นอีกครั้งเมื่อคุณใส่หูฟัง
นอกจากนั้นชิป W1 ยังรู้ได้ด้วยว่าเมื่อคุณอยากฟังเพลงด้วยลำโพงจากตัวเครื่อง คุณสามารถถอดหูฟังออกแล้วกดเล่นเพลงที่เครื่องต่อ ระบบจะสลับสัญญาณบลูทูธมาเป็นตัว iDevice ของเราอัตโนมัติ และระหว่างนั้นเมื่อเราอยากฟังจาก AirPods ก็เพียงหยิบใส่หูอีกครั้งระบบจะตัดการทำงานมาที่หูฟังโดยที่เราไม่ต้องกดสั่งงานใดๆ หรือแม้แต่การเปลี่ยนอุปกรณ์เชื่อมต่อ เช่น iPhone ไปเป็น MacBook ก็เพียงหยุดเล่นเพลงจาก iPhone จากนั้นก็ไปกดเชื่อมต่อที่ MacBook ระบบจะเชื่อมต่อกันทันทีโดยไม่เกิดปัญหาสัญญาณชนกัน
ในส่วนฟีเจอร์อื่นๆ AirPods ยังมาพร้อมไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่งที่สามารถกรองเสียงรบกวนรอบข้างได้ รวมถึงใช้สนทนาโทรศัพท์ได้ โดยเมื่อมีสายโทรเข้าให้เคาะที่หูฟังสองครั้งก็จะเท่ากับรับสาย หรือถ้าใส่หูฟังสองข้างและคุยโทรศัพท์ไม่ถนัดก็สามารถถอดออกเหลือข้างเดียว ระบบจะรู้และสลับไมโครโฟนให้เอง
ด้านการสั่งงาน เพิ่มลดเสียง เปลี่ยนเพลง สามารถทำได้ผ่านสิริเท่านั้น โดยวิธีการเรียกสามารถเคาะที่หูฟัง 2 ครั้งหรือถ้าใช้ iPhone 6s ขึ้นไปสามารถพูด “หวัดดีสิริ” ก็ได้ จากนั้นผู้ใช้สามารถสั่งงานทั้ง ปรับเพิ่ม/ลด ระดับเสียง, เล่นเพลงถัดไป หรือถามสิริว่า “AirPods เหลือแบตเตอรี่เท่าไหร่”
สุดท้ายสำหรับแบตเตอรีส่วนหูฟังจะสามารถใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (สนทนาโทรศัพท์ต่อเนื่องได้ 2 ชั่วโมง) และเมื่อไฟหมดสามารถนำมาชาร์จที่กล่องเก็บหูฟัง 15 นาทีจะใช้งานได้ 3 ชั่วโมง เรียกได้ว่าถ้าต้องการใช้งานตลอดทั้งวัน กล่องเก็บหูฟังต้องชาร์จไฟไว้เต็มก็จะสามารถใช้งานหูฟัง AirPods ได้นานกว่า 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป
ด้านการเชื่อมต่อสำหรับคนใช้ Apple Family หูฟัง AirPods ให้การเชื่อมต่อที่ง่ายเหมือนกับการใช้ Apple Watch ระบบเชื่อมต่อของแอปเปิลเรียกได้ว่าอัจฉริยะและไม่พบเจอปัญหาระหว่างใช้งานแต่อย่างใด โดยระยะทำงานของบลูทูธก็เป็นไปตามมาตรฐานประมาณ 10 เมตร
ส่วนการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มีเดียอื่นๆก็สามารถทำได้เหมือนหูฟังบลูทูธทั่วไป แถมยังสามารถใช้วิธีเคาะที่หูฟัง 2 ครั้งเพื่อหยุดเพลงและเล่นเพลงได้ด้วย แต่การปรับเสียงและสั่งงานอื่นๆจะไม่สามารถใช้งานได้ ต้องปรับจากดีไวซ์เอาเอง
สำหรับการสวมใส่ ส่วนนี้ทำได้ประทับใจ ดีกว่าที่คิดไว้ ด้วยความเบาของ AirPods ทำให้การสวมใส่ทำได้สบายหูมากๆ ความรู้สึกเมื่อเราสวมใส่เป็นเวลานานจะเหมือนเราไม่ได้ใส่หูฟังไว้ แถมการออกแบบที่ใช้ลักษณะเกี่ยวรูหูไว้และดูว่าเหมือนจะหลุดง่าย แต่เมื่อทดลองใช้งานจริงพบว่า ไม่ว่าจะเดินหรือวิ่ง AirPods ทั้งสองข้างหลุดจากหูยากมาก แต่อาจจะมีคลายจากรูหูเล็กน้อยเวลาเราเอี้ยวตัวหรือใส่เป็นเวลานานมาก
Update – เรื่องความทนทาน ส่วนนี้ทำได้ดีเกินคาด ไม่ว่าจะทำตก ใส่ขณะฝนตก ทุกเหตุการณ์ที่ทีมงานได้ทดสอบ ไม่ทำให้หูฟังและกล่องชาร์จไฟมีปัญหาใดๆ คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากงานประกอบที่แน่นหนาและชิ้นส่วนภายในส่วนใหญ่ถูกยึดติดกับบอร์ดอย่างดีหนา ถึงขนาดตัวหูฟังไม่สามารถแกะซ่อมได้เลย เสียก็คือซื้อใหม่อย่างเดียว
ในส่วนคุณภาพเสียง ลักษณะของตัวหูฟังจะอยู่กึ่งกลางระหว่างหูฟังอินเอียร์กับหูฟังปกติ ทำให้เรื่องตัดเสียงรบกวนทำได้ดีพอประมาณ ส่วนเนื้อเสียงก็จะออกโทนกลางๆ ทั้งหมด ไม่เด่นไปทางใดทางหนึ่ง เบสไม่ลึก สัญญาณบลูทูธเชื่อมต่อได้เสถียรไม่แกว่งแม้อุปกรณ์และตัวหูฟังจะอยู่ห่างกันแค่ไหนก็ตาม (อย่างมากก็เสียงสะดุดเมื่อสัญญาณบลูทูธเริ่มอ่อนลง แต่ไม่พบอาการสัญญาณหลุดหาย) โดยรวมด้านคุณภาพเสียงถือว่าใช้ได้ ไม่ถึงกับโดดเด่นเป็นพิเศษ
สุดท้ายเรื่องแบตเตอรี ส่วนนี้ถือว่าทำได้น่าประทับใจเช่นกัน การใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงแล้วชาร์จครั้งหนึ่งถือว่าเพียงพอต่อการฟังเพลงช่วงเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งการชาร์จไฟทั้งส่วนหูฟังและกล่องเก็บหูฟังเองก็ไม่ได้นานเวอร์
ด้านปัญหาเรื่องแบตเตอรีรั่วที่มีคนพบเจอ สำหรับตัวที่ทีมงานทดสอบไม่พบเจออาการแต่อย่างใด
กับราคาค่าตัว 6,900 บาท เรียกได้ว่าสูงพอตัว แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและถ้าคุณเองเป็นคนใช้ Apple Family ที่ชอบใช้หูฟังฟังเพลงด้วยแล้ว AirPods ถือเป็นอีกหนึ่งหูฟังไร้สายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากความง่ายในการใช้งานแล้ว เรื่องความเสถียรถือว่าแอปเปิลทำได้ดีอย่างยิ่ง แม้เรื่องคุณภาพเสียงอาจจัดอยู่ในเกณฑ์ธรรมดาเมื่อเทียบกับหูฟังราคาระดับเดียวกัน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า AirPods ถูกออกแบบมาเพื่อ Apple Family โดยเฉพาะ ซึ่งต่างจากหูฟังบลูทูธอื่นๆที่จะใข้งานฟีเจอร์ของแอปเปิลได้ไม่ครบเท่า AirPods
แต่ทั้งนี้สำหรับคนที่เน้นเรื่องคุณภาพเสียงมากกว่าฟังก์ชันใช้งาน AirPods อาจไม่ใช่คำตอบ เพราะราคา 6,900 บาทก็มีหูฟังที่ให้เสียงคุณภาพดีกว่า AirPods อยู่มากในท้องตลาด ต้องลองเลือกดูด้วยตัวเราเองครับ