ตั้งแต่เปลี่ยนมือจาก Google มาเป็น Lenovo สมาร์ทโฟน Moto ก็มีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเราก็ได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ซีรีส์ Moto M สมาร์ทโฟนดีไซน์ทันสมัย สไตล์โลหะ (Metal)
นอกจากเรื่องของดีไซน์ที่โดดเด่นแล้ว ในส่วนของสเปกภายในก็เด่นไม่แพ้กัน ด้วยซีพียูแบบ 8 คอร์ หน่วยความจำ 4GB หน้าจอแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว Full HD การเชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB-C รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมแบบ 4G/3G
การออกแบบ
Moto M มีการออกแบบที่ดูโฉบเฉี่ยวน่าสนใจ ตัวเครื่องทำจากโลหะซึ่งเป็นจุดขายของรุ่นนี้ มีขนาดโดยรอบ 151.35 x 75.35 x 7.85 มม. และมีน้ำหนัก 163 กรัม เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่บางและเบาตัวหนึ่ง แม้ว่าจะใส่เคสที่แถมมาให้ก็ดูไม่เทอะทะ และยิ่งทำให้จับถนัดมือมากขึ้น งานประกอบแน่นหนา มีสีให้เลือกซื้อสามสีคือ ทอง เทา และเงิน
หน้าจอเป็น IPS ขนาด 5.5 นิ้ว แบบ Full HD 1080p (1920×1080 พิกเซล) มีความละเอียดเม็ดสีที่ 401 ppi ทำให้การแสดงผลมีความชัดเจน คมชัด สีสันสดใส บริเวณด้านบนตรงกลางมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ ให้เสียงชัดเจน มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมซอฟต์แวร์แต่งภาพ
Moto M มีการออกแบบให้ไม่มีปุ่ม Home ที่ตัวเครื่องภายนอก มีเพียงแค่สัญลักษณ์ Moto แสดงไว้สวยๆ เท่านั้น แต่จะแสดงปุ่ม Home, Recent App และ Back เป็นแบบ Touch Screen ที่หน้าจอแทน
การเปิดปิดเครื่องจะทำได้ที่ปุ่มทางด้านขวาของตัวเครื่อง ซึ่งอยู่ใกล้กับปุ่มเพิ่ม–ลดเสียง ช่องใส่ซิมจะอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง โดยจะเป็นแบบ Dual Sim สามารถใส่ซิมได้สองเบอร์ และที่ช่องใส่ซิมสองสามารถเลือกที่จะใส่หน่วยความจำเพิ่มเติม MicroSD ได้ (รองรับได้สูงสุด 128 GB)
ด้านบนของตัวเครื่องเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 นิ้ว ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องเป็นช่องไมโครโฟน และพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ส่วนด้านหลังจะเป็นกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED คู่ แบบ CCT และมีที่สแกนลายนิ้วมืออยู่บริเวณด้านล่างของกล้อง
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มากับเครื่องจะมีสายชาร์จ USB-C พร้อมอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ หูฟัง เข็มจิ้มถาดซิม คู่มือ เคสใส และฟิล์มกันรอย
สเปก
สมาร์ทโฟน Moto M ใช้ขุมพลังของซีพียู ARM MediaTek P15 CPU Octa-Core แบบ 64-bit ความเร็ว 2.2GHz และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ARM Mali T860mp2 มีหน่วยความจำภายใน 4GB พื้นที่เก็บข้อมูล 32GB สามารถใส่ MicroSD เพิ่มได้ 128 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow)
หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้วที่ความละเอียด Full HD เสริมความทนทานด้วยจอแบบ Corning Gorilla Glass ทนแรงขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่อง Moto M มีเทคโนโลยีไล่น้ำ Nano Coating หมายถึงเมื่อมีน้ำ ฝน หรือฝุ่นกระเซ็นมาใส่เครื่อง สามารถทำความสะอาดได้ง่าย น้ำหรือฝุ่นซึมเข้าตัวเครื่องได้ยาก (ถ่ายใต้น้ำไม่ได้)
Moto M รองรับสัญญาณคลื่นความถี่ LTE (4G)/WCDMA (3G) ถือว่ารองรับการใช้งานคลื่นของทุกค่ายในบ้านเรา การเชื่อมต่อ Wi-Fi รองรับการเชื่อมต่อ Dual Band มาตรฐาน IEEE 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz และ 5GHz มาพร้อมเทคโนโลยี MIMO รองรับการทำงานร่วมกับเราท์เตอร์แบบ Dual Band ช่วยให้การรับส่งสัญญาณ Wi-Fi มีประสิทธิภาพมากขึ้น
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1 มีระบบตำแหน่ง GPS, GLONASS, A-GPS สำหรับการใช้พลังงาน Moto M ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 3050 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 5V/2A
ฟีเจอร์เด่น
Moto M ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow) แบบ Pure Android ไม่มีการเขียน UI เพิ่มลงไปในระบบ ข้อดีก็คือ มีความเร็วในการทำงาน ฟังก์ชันการทำงานแบบมาตรฐานจาก Google วิดเก็ตมาตรฐาน สามารถปรับแต่งได้ง่ายสำหรับคนที่ชอบโมฯ ระบบ หรือนักพัฒนาแอพฯ บนมือถือ แต่จะขาดความตื่นเต้น เพราะไม่มีวิดเก็ตหวือหวา หรือลูกเล่นแพรวพราวให้ได้ใช้กัน
จุดเด่นอีกอย่างที่น่าสนใจของ Moto M ก็คือ ระบบเสียง Dolby Atmos ระบบเสียงสามทิศทางที่ให้ความสมจริงไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลง
ทดสอบประสิทธิภาพ
สำหรับการใช้งานทั่วไป Moto M สามารถทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และความบันเทิงต่างๆ การใช้งานโทรศัพท์สามารถจับสัญญาณ 4G และ 3G ได้ (เมื่อใช้ 2 ซิม) โดยผู้ใช้สามารถเลือกว่าจะใช้ซิมไหนเป็นซิมหลัก และสามารถสลับการใช้งานได้ ตามต้องการ แต่หากต้องการเลือกเพิ่มพื้นหน่วยความจำ คุณจะเสียความสามารถในการใช้สล็อตซิม 2 ไป
คุณภาพเสียงของการรับสายโทรเข้าออกทำได้ชัดเจนดี แม้ในที่ที่มีเสียงรบกวนค่อนข้างเยอะ เช่น ริมถนน ก็ยังสามารถพูดคุยได้โดยไม่ต้องตะโกนเร่งเสียง ด้านการพกพา ด้วยรูปทรงที่ออกแบบมาตัวโทรศัพท์สามารถถือได้ถนัดมือ แต่การออกแบบที่ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมด ทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างลื่นหลุดมือได้ง่าย แต่ถ้าใส่เคสเข้าไปก็จะช่วยลดความลื่นได้พอสมควร
การใช้งานกล้อง กล้องหลังมากับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F2.0 ขนาดเม็ดพิกเซล 1.0um ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น แฟลชแบบ Color Correlated Temperature ช่วยให้ค่าอุณหภูมิสีที่แม่นยำมากขึ้น ภาพที่ใช้แฟลชจะไม่ขาวเวอร์เกินไป โดยเมื่อทดสอบถ่ายภาพโดยใช้แฟลชอัตโนมัติ ระบบจะทำการยิงแฟลชครั้งแรก (Pre Flash) เพื่อวัดแสงและค่าต่างๆ เพื่อคำนวณกำลังแฟลช ก่อนที่ยิงแฟลชจริงพร้อมบันทึกภาพ
นอกจากนี้ยังมีโหมดการใช้งานอาทิ Pro ที่ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าการใช้งานเอง เช่น ระยะโฟกัส ค่าชดเชยแสง ความเร็วชัตเตอร์ ค่า White Balance และค่า ISO นอกจากนี้ยังมีโหมด Panorama โหมดถ่ายทิวทัศน์ในเวลากลางคืน และเอฟเฟกต์ต่างๆ ให้ใช้ด้วย
จากการใช้งานถ่ายภาพในโหมด Auto และ โหมด Panorama คุณภาพของภาพที่ได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งคุณภาพของภาพ สีสัน ด้วยขนาดรูรับแสง F2.0 ทำให้สามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี และยังคมชัดอยู่ สำหรับโหมดถ่ายทิวทัศน์ในเวลากลางคืนหากจะใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพดี อาจจะต้องมีขาตั้งหรือวางมือถือไว้กับพื้นที่มั่นคง ไม่สั่นไหวง่าย
โหมดถ่ายภาพวิดีโอสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด 4K 30 fps และ FullHD 1080p 60 fps จากการทดสอบถ่ายวิดีโอในตอนกลางคืน คุณภาพที่ได้อยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าในการทดสอบเป็นการเดินถ่ายโดยไม่มีขาตั้ง ภาพที่ได้เลยอาจจะสั่นไหวไปบ้าง
หลังจากการใช้งานทั่วไปทั้งวันพบว่า แบตเตอรี่ความจุ 3050 mAh มีความอึดอยู่พอสมควร หากใช้งานหนักๆ จะใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง แต่หากใช้งานพื้นฐานก็อาจจะยืดไปได้ถึง 8 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้น
ผลการทดสอบ
AnTuTu Benchmark = 49,233 คะแนน
Multi-Touch = 10 จุด
Vellamo
Multicore = 2,439 คะแนน
Metal = 1,267 คะแนน
Chrome Browser = 3,238 คะแนน
Android WebView = 2,898 คะแนน
PCMark
Work 2.0 = 3,209 คะแนน
Computer Vision = 2,976 คะแนน
Storage = 7,479 คะแนน
Battery Life
3DMark
Sling Shot using ES 3.1 = 461 คะแนน
Sling Shot using ES 3.0 = 595 คะแนน
Ice Storm Unlimited = 8,583 คะแนน
Ice Storm Extreme = 5,645 คะแนน
Ice Storm = 9,037 คะแนน
PassMark PerformanceTest Mobile
System = 4,955 คะแนน
CPU Tests = 121,267 คะแนน
Disk Tests = 33,797 คะแนน
Memory Tests = 4,876 คะแนน
2D Graphics Test = 3,394 คะแนน
3D Graphics Tests = 1,259 คะแนน
สรุป
Moto M คือสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่อง คุ้มค่า รองรับการใช้งานตามที่ต้องการได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะโทรศัพท์ เล่นเกมที่ไม่เน้นกราฟิกหนักๆ ดูหนัง ฟังเพลง ในราคาที่ไม่เกินเอื้อม ประมาณ 9,900 บาท รองรับทั้งระบบ 4G มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบสแกนลายนิ้วมือ มีเทคโนโลยีป้องกันละอองน้ำ มีระบบเสียงที่ดี อีกทั้งยังมีพอร์ตแบบ USB-C ที่จะสามารถรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้ในอนาคต