หนึ่งในบริการดิจิทัลที่กสทโทรคมนาคมผลักดันขึ้นมาให้แก่บรรดาสตาร์ทอัปหรือกลุ่มผู้ประกอบการยุคใหม่องค์กรธุรกิจขนาดเล็กที่มีความต้องการใช้งานระบบคลาวด์สามารถสมัครใช้บริการได้ง่ายในรูปแบบของจ่ายตามที่ใช้จริงคือบริการในชื่อ IRIS Startup
IRIS Startup ถือเป็นหนึ่งในบริการคลาวด์ที่ถูกพัฒนามาในรูปแบบของ Cloud Server แบบเติมเงิน (Pre-Paid) ที่ผู้ใช้งานสามารถสมัครติดตั้งให้พร้อมใช้งานได้ภายในไม่กี่วินาทีบนจุดเด่นหลักคือจ่ายตามจริงเป็นรายชั่วโมง
กลุ่มเป้าหมายของ IRIS Startup แน่นอนว่าต้องเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาบริการคลาวด์เซิร์ฟเวอร์เพื่อติดตั้งระบบมารองรับการใช้งานที่สามารถบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ได้ผ่านหน้าเว็บไซต์พร้อมระบบสำรองข้อมูลต่างๆ
***ขั้นตอนการสมัครใช้งาน IRIS Startup
จุดสำคัญที่ IRIS Startup ชูขึ้นมาว่าเหมาะสมกับสตาร์ทอัปคือความสะดวกในการสมัครใช้งานที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปสมัครผ่านหน้าเว็บไซต์ https://www.iris.cloud/startup/ ได้ง่ายๆไปจนถึงขั้นตอนการติดตั้งเวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ได้ทันทีภายในเวลาไม่กี่นาที
ขั้นตอนจะเริ่มจากสมัครใช้งานอ่านข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการกรอกอีเมลรหัสผ่านและเบอร์โทรศัพท์หลังจากนั้นก็จะให้กรอกข้อมูลอย่างชื่อนามสกุลชื่อบริษัทเลขเสียภาษี (ไว้ใช้กรณีออกใบกำกับภาษี) ที่อยู่เสร็จแล้วก็สามารถล็อกอินใช้งานได้ทันที
เมื่อเสร็จแล้วก็จะเข้ามาสู่หน้า Dash Board ของ IRIS Startup ที่จะมีเมนูหลักๆอย่างการจัดการเซิร์ฟเวอร์ตั้งค่า SSH Key เลือกดูรายละเอียดค่าใช้จ่ายติดต่อบริการหลังการขายต่างๆที่ทุกอย่างสามารถทำได้ออนไลน์หมดเลย
***เลือก OS ปรับสเปกคุมค่าใช้จ่าย
หลังจากที่สมัครใช้บริการเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปคือขั้นตอนการสร้างเซิร์ฟเวอร์ขึ้นมาเพื่อใช้งานโดยผู้ประกอบการสามารถเลือกระบบปฏิบัติการได้ทั้ง Windows Server ที่เลือกได้ทั้ง 2008 R2 2012 R2 และ 2016 หรือระบบลินุกซ์อย่าง CentOS Debian และUbunto
จากนั้นก็เลือกสเปกของเซิร์ฟเวอร์ที่มีให้เลือกตั้งแต่ 1 vCPU 1 GB Memory ไปจนถึง 16 vCPU 32 GB Memory โดยเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 50 สตางค์ไปจนถึง 12.50 บาทต่อชั่วโมง ส่วนสตอเรจจะเริ่มที่ 30 GB และเลือกเพิ่มได้ไปจนถึง 1 TB
ในจุดนี้เวลาเลือกตั้งเซิร์ฟเวอร์ในระบบจะต้องมีการเติบเติมเงินเข้ามาก่อนโดยผู้สมัครใช้สามารถเติมเงินผ่านระบบภายในเว็บไซต์ได้ทันทีโดยจะมีให้เลือกเติมเงินผ่านทั้งบัตรเครดิตและชำระผ่านบัญชีธนาคารให้เลือก (ตอนนี้มีโปรโมชันรับเครดิตเงินเพิ่มอีก 1 เท่าต่อ 1 บัญชี เครดิตเงินเพิ่มสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท)
กรณีที่มีเงินอยู่ในระบบแล้วเมื่อกดสร้างเซิร์ฟเวอร์ก็จะใช้เวลาไม่นานในการติดตั้งระบบเข้าไปเมื่อติดตั้งระบบเสร็จเรียบร้อยก็ใช้ล็อกอินที่ตั้งไว้เพื่อ Remote เข้าไปตั้งค่าใช้งานได้ทันทีผ่านปุ่ม Console
นอกจากนี้ที่หน้าเว็บไซต์ยังสามารถบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ทั้งการเปลี่ยนสเปกเครื่อง (ต้องทำการชัตดาวน์ระบบก่อน) ตั้งค่าสำรองข้อมูลหรือเรียกคืนข้อมูลรวมถึงการแสดงรายละเอียดการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ
โดยในการ Remote เข้าไปควบคุมในกรณีที่ติดตั้ง Windows ก็สามารถล็อกอินเข้าไปตั้งค่าได้เลยหรือถ้าใช้เป็นลินุกซ์ก็จะขึ้นหน้าคอลโซนมาให้ล็อกอินใช้งานตามปกติในจุดนี้ถ้าเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เชี่ยวชาญอยู่แล้วไม่น่าจะมีปัญหา
สุดท้ายในส่วนของบริการหลังการขายกรณีที่ใช้แล้วงานมีปัญหาผู้ใช้สามารถเข้าไปแจ้งปัญหาให้ทางทีมงานของ IRIS Startup ติดต่อกลับมาได้ผ่านช่อง Support Tickets โดยจะมีทีมงานคอยดูแลและช่วยแก้ไขปัญหาอยู่
เรียกได้ว่าบริการ IRIS Startup ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการตั้งค่าใช้งานเซิร์ฟเวอร์ยุคใหม่ที่ผู้ใช้สามารถบริหารและควบคุมผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ทันทีในรูปแบบของเวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถกำหนดค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์ได้