จากแนวคิดใหม่ของ Moto ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมของสมาร์ทโฟน ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อเสริมอื่นๆได้ภายใต้แนวคิด Moto Mods ที่ใช้งานร่วมกับ Moto Z ซึ่ง 1 ในอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น Hasselblad True Zoom ที่ร่วมมือกับเจ้าพ่อแบรนด์กล้องมีเดียมฟอร์แมตระดับโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างจุดต่างให้กับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ
ความง่ายในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม ถือเป็นจุดเด่นของ Moto Mods เพียงแค่นำอุปกร์มาเชื่อมต่อกัน แม่เหล็กที่ตัวอุปกรณ์เสริมจะทำการดูดติดกับด้านหลังของสมาร์ทโฟนในทันที ที่สำคัญคือแข็งแรงไม่ลื่นหลุดง่ายๆ นอกจากงัดบริเวณขอบล่างของเครื่อง เพื่อให้เกิดช่องว่างก่อนถอดออก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นวิธีการหลักในการเชื่อมต่อ Moto Mods อื่นๆด้วย
เมื่อเชื่อมต่อกับ Hasselblad True Zoom เข้าไป กล้องหลักที่ใช้งานก็จะเปลี่ยนจากกล้องด้านหลังเครื่อง เป็นกล้องของ Hasselblad ที่จะมีอินเตอร์เฟสใกล้เคียงกัน เพียงแต่จะมีโหมดให้ปรับใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยในโหมดอัตโนมัติจะมีให้เลือกถ่ายภาพแบบสีปกติ ภาพขาวดำ และภาพสีแบบไฟล์ RAW เพื่อให้มาปรับแต่งเพิ่มเติมได้ กับเลือกรูปแบบการถ่ายภาพอย่างอัตโนมัติ กีฬา ภาพบุคคล ย้อนแสง ภาพทิวทัศน์ หรือจะเลือกโหมดพาโนราม่า และถ่ายวิดีโอในการใช้งานก็ได้
ถัดมาถ้าเป็นช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการปรับแต่งมากยิ่งขึ้น Hasselblad จะมีโหมดถ่ายภาพแบบ Pro ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ทั้งความเร็วชัตเตอร์ ความไวแสง (ISO) ไวท์บาลานซ์ ปรับโฟกัส ไม่นับรวมกับการซูมภาพที่สามารถปรับซูมได้จากบริเวณปุ่มชัตเตอร์ ทำให้สามารถซูมภาพได้ 10 เท่าแบบออปติคัลซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่สมาร์ทโฟนทั่วไปไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการนำปุ่มชัตเตอร์บนหน้าจอออก เหลือเพียงการถ่ายภาพจากปุ่มชัตเตอร์ที่ตัว Hasselblad ซึ่งสามารถกดครึ่งปุ่มเพื่อล็อกโฟกัสได้เหมือนกล้องถ่ายภาพทั่วไป ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของการออกแบบ ตัว Hasselblad ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้จับถือกล้องเพื่อถ่ายภาพได้สะดวกขึ้น
สำหรับสเปกคร่าวๆของ Hasselblad True Zoom จะมีขนาดอยู่ที่152.3 x 72.9 x 9 – 15.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 145 กรัม ตัวเลนส์ใช้เซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว 1.55 um f/3.5-6.5 ความละเอียดภาพที่ได้ 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p/30fps
ส่วนระยะการถ่ายภาพอยู่ที่ 25 – 250 มิลลิเมตร ระยะมาโครที่ 5 เซนติเมตร (1x) และ 1.5 เซนติเมตร (10x) นอกจากนี้ ยังมีการใส่ Xenon Flash มาให้ใช้งาน พร้อมระบบกันสั่น OIS สำหรับภาพนิ่ง และ EIS สำหรับภาพเคลื่อนไหว ปรับ ISO ได้ตั้งแต่ 100 – 3,200 และการบันทึกภาพจะมีการจัดเก็บไว้ภายในสมาร์ทโฟน พร้อมอัปโหลดขึ้นไปเก็บไว้บนคลาวด์แบบอัตโนมัติ
โดยรวมแล้ว ต้องยอมรับว่าการที่โมโต เลือกการเป็นพันธมิตรกับทาง Hasselblad ถือเป็นความแปลกใหม่ในวงการอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ที่แน่นอนว่าในไลน์การผลิตของโมโต ไม่ได้มีเพียงแค่ True Zoom เพียงอุปกรณ์เดียว เพราะจากการที่ได้พูดคุยกับทาง Hasselblad พบว่า การเป็นพันธมิตรดังกล่าว ถือเป็นความร่วมมือในระยะยาว ซึ่งในอนาคตอันใกล้ก็จะได้เห็นผลิตภัณฑ์อื่นๆตามออกมาในส่วนของการถ่ายภาพเช่นเดียวกัน
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว True Zoom จึงถือเป็นอุปกรณ์ที่จะมาบุกเบิกจากความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ ด้วยการตอบโจทย์ในการแปลงสมาร์ทโฟนเป็นกล้องถ่ายภาพที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับถือสมาร์ทโฟนถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น จากการกริปที่ยื่นออกมา ประกอบกับคุณภาพที่ได้ถือว่าอยู่ในระดับสูงของกล้องถ่ายภาพอยู่แล้ว
ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ช่างภาพหลายคนหันมาเลือกใช้ Moto Z / Moto Z Play เหมือนกับการที่ผู้ถ่ายภาพหลายรายเลือกซื้อ Huawei P9 ที่ได้ร่วมมือกับ Leica ในการนำเทคโนโลยีมาใส่ให้ใช้งาน อย่างไรก็ตามในตลาดแมส ชื่อชั้นของ Hasselblad อาจจะไม่คุ้นหูเท่า Leica เพราะด้วยแบรนด์ที่ทำแต่กล้องขนาดใหญ่ ทำให้ต้องจับตาดูเหมือนกันว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างไร เนื่องจากราคาเปิดตัวของ True Zoom อยู่ที่ 299 เหรียญ หรือราวๆหมื่นบาท
ด้านล่างจะเป็นตัวอย่างภาพที่ถ่ายจาก Hasselblad True Zoom ที่มีทั้งการถ่ายภาพสีปกติ ขาวดำ รวมถึงการซูมภาพเมื่อเทียบกับระยะที่ถ่ายแบบปกติ เพื่อให้เห็นถึงความละเอียดของภาพเมื่อทำการซูม 10x ถ้าต้องการรับชม ไฟล์ภาพ จริงสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้
ส่วนข่าวดีก็คือ เตรียมพบกับ Moto Z, Moto Z Play และ Moto Mods ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ที่งาน Thailand Mobile Expo 2016 จัดวันที่ 29 ก.ย. – 2 ต.ค. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์