วันนี้เป็นวันแรกที่สมาร์ทโฟนกระแสแรง iPhone (ไอโฟน) 6s และ 6s Plus ออกวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทีมงานไซเบอร์บิซจึงไม่รอช้ารีบจัดหาเครื่องมารีวิวตามคำเรียกร้องของแฟนๆผู้อ่านครบทั้งสองรุ่น
iPhone 6s Plus สีโรสโกลด์ ของหายากในชั่วโมงนี้
แต่ก่อนจะไปรับชมรีวิวฉบับเต็ม วันนี้เรามาชมพรีวิวเรียกน้ำย่อยทั้ง iPhone 6s และ 6s Plus สีโรสโกลด์ที่ปัจจุบันเป็นของหายากในตลาดเพราะเป็นสีใหม่ที่บ่งบอกการเป็น iPhone 6s ได้ดีที่สุด
การออกแบบและสเปก
ตามธรรมเนียมของแอปเปิล ไอโฟนรุ่นที่ลงท้ายด้วย S จะเป็นรุ่นที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ ซึ่ง iPhone 6s และ 6s Plus จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับ iPhone 6 และ 6 Plus เดิม แต่เพิ่มขนาดและน้ำหนักตัวเครื่องเล็กน้อย โดยเฉพาะความหนาที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 0.2 มิลลิเมตรทั้ง iPhone 6s และ iPhone 6s Plus
ในส่วนน้ำหนักมีการปรับเพิ่มจากเดิม โดย iPhone 6s มีน้ำหนักอยู่ที่ 143 กรัมจากรุ่นเดิมอยู่ที่ 129 กรัม ส่วน iPhone 6s Plus มีน้ำหนักอยู่ที่ 192 กรัมจากรุ่นเดิมอยู่ที่ 172 กรัม
สาเหตที่ทำให้น้ำหนักตัวเครื่องเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการปรับเพิ่มคุณสมบัติหน้าจอ Retina HD (ความละเอียดเท่าเดิมทั้งสองรุ่น) ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ถอดด้าม 3D Touch โดยภายใต้จอภาพจะมีการเพิ่ม Taptic Engine เข้าไปเพื่อตรวจจับน้ำหนักกดของนิ้วเราได้
ในส่วนวัสดุอลูมิเนียมด้านหลังเป็นอีกจุดเปลี่ยนหลังจากมีข่าวฝาหลัง iPhone 6 Plus สามารถงอได้ แอปเปิลจึงได้ปรับปรุงวัสดุฝาหลังใหม่ด้วย อลูมิเนียมซีรีย์ 7,000 แบบเดียวกับนาฬิกา Apple Watch Sport ทำให้ฝาหลังของ iPhone ใหม่นี้มีความแข็งแรงมากขึ้น
มาดูสเปกของ iPhone 6s และ 6s Plus กันบ้าง เริ่มจากซีพียูแอปเปิลเปลี่ยนไปใช้ Apple A9 Dual-Core ความเร็ว 1.84GHz พร้อมชิปประมวลผลการเคลื่อนไหว M9 กราฟิกชิป PowerVR GT7600 (6-core graphics) แรมให้มา 2GB ระบบปฏิบัติการเริ่มต้นที่เครื่องรองรับ iOS 9.0, ชิปเครือข่าย 4G เปลี่ยนไปใช้ LTE Advanced 300Mbps และรองรับ LTE 23 ย่านความถี่, WiFi เพิ่ม MIMO รับสัญญาณได้ดีขึ้น (ความเร็วในการรับส่งข้อมูล 866Mbps) พร้อม Bluetooth 4.2
ในส่วนปุ่มโฮมพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ TouchID ถูกอัปเกรดเป็นรุ่นที่ 2 ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
ด้านกล้องถ่ายภาพเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่แอปเปิลตั้งใจอัปเกรดสเปกกล้องหลังให้ชัดเจนขึ้น เพราะจากเดิมกล้องหลัง iSight จะมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (1.5µ) f2.2 แต่ใน iPhone 6s และ 6s Plus จะถูกอัปเกรดเพิ่มความละเอียดภาพเป็น 12 ล้านพิกเซล (1.22µ) f2.2 พร้อมปรับปรุง Local Tone Mapping ระบบลดสัญญาณรบกวน และออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขนาดไฟล์ภาพเทียบระหว่าง iPhone 6 (1.6MB) และ iPhone 6s (2.1MB)
นอกจากนั้นกล้องหน้ายังมีการปรับความละเอียดเพิ่มเป็น 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลชผ่านจอ Retina และวิดีโอสามารถบันทึกที่ความละเอียดสูงสุด 4K ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนวิดีโอสโลโมชันยังคงความสามารถเดิมแต่ที่ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาทีสามารถบันทึกที่ความละเอียดวิดีโอ 1080p ได้
ภาพจาก iPhone 6s
ภาพจาก iPhone 6
ภาพจาก iPhone 6s
ภาพจาก iPhone 6
มาถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ในพรีวิวนี้ขอกล่าวถึง 2 ฟีเจอร์เด่นเรียกน้ำย่อยกันก่อน
3D Touch ด้วยหน้าจอที่มาพร้อมความสามารถในการรับรู้แรงกดได้ 3D Touch จึงถูกใช้ในการเปิดเมนูลัดต่างๆ ด้วยการกดที่ไอคอนหรือส่วนที่รองรับด้วยแรงที่มากกว่าปกติเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนั้น 3D Touch ยังสามารถใช้ในแอปฯ Gallery, Mail, แผนที่, Apple Music เป็นต้น โดยเมื่อคุณต้องการพรีวิวภาพหรือคอนเทนต์ภายในแบบเร่งด่วย คุณสามารถกดสิ่งที่ต้องการรับชมด้วยน้ำหนักที่มากกว่าปกติ เมนูพิเศษหรือภาพพรีวิวต่างๆจะปรากฏขึ้น
อีกทั้งในอนาคต 3D Touch จะถูกนำมาใช้สร้างสีสันและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไอโฟนมากขึ้น เช่น เป็นที่ช่างน้ำหนักสร้อย ผลไม้หรือใช้สร้างสีสันในการเล่นเกมและแอปฯเรียนรู้สำหรับเด็กได้
Live Photos เป็นฟีเจอร์ที่สร้างสีสัน แปลกแหวกแนวเหมือนอย่างกับภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยระหว่างที่คุณกดถ่ายภาพนิ่ง ระบบกล้องจะแอบบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงขนาดสั้นไว้เพื่อให้คุณสามารถเห็นบรรยากาศแบบภาพเคลื่อนไหวในระหว่างเปิดรับชม Gallery
โดยการถ่ายภาพ Live Photos สามารถรับชมได้จากภายใน Gallery หรือจะตั้ง Live Photos เป็นภาพพื้นหลังในหน้า Lock Screen ก็สามารถทำได้ ส่วนวิธีการเล่นภาพก็เพียงกดภาพนิ่งที่ต้องการเล่นค้างไว้ภาพจะเคลื่อนไหวสั้นๆก่อนจะกลับเป็นภาพนิ่งอีกครั้ง
สุดท้ายสำหรับความแตกต่าง iPhone 6s & 6s Plus ยังคงเหมือนรุ่นที่แล้วคือ นอกจากขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน ใน iPhone 6s Plus กล้องหลังจะมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล แต่ iPhone 6s จะไม่มี
ส่วนประสิทธิภาพและฮาร์ดแวร์อื่นๆจะเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงผลคะแนนทดสอบ ความลื่นไหลที่ไม่แตกต่างกันแต่อย่างใด
สำหรับราคาทีมงานขอยึดตาม Apple Store (ออนไลน์) ประเทศไทย
iPhone 6s 16GB ราคา 26,500 บาท
iPhone 6s 64GB ราคา 30,500 บาท
iPhone 6s 128GB ราคา 34,500 บาท
iPhone 6s Plus 16GB ราคา 30,500 บาท
iPhone 6s Plus 64GB ราคา 34,500 บาท
iPhone 6s Plus 128GB ราคา 38,500 บาท