ลองจริง ‘dtac WiFi Calling’ เปลี่ยนไวไฟเป็นสัญญาณมือถือ

24083

DSC01881

WiFi Calling หรือ VoWiFi (Voice over Wi-Fi) ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เพิ่งเปิดใช้งานในประเทศไทยผ่านผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่างดีแทคภายใต้ชื่อว่า WiFi Calling ซึ่งเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของการใช้งานโทรศัพท์ทางด้านเสียง (วอยซ์) ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายไวไฟ ทำให้ลูกค้าที่เปิดใช้งานระบบดังกล่าวสามารถ นำเลขหมายในไทย ไปใช้งานที่ใดในโลกก็ได้ที่มีสัญญาณเชื่อมต่อไวไฟ

จุดเด่นหลักที่ดีแทค พยามชูขึ้นมาคือในเรื่องของการเปลี่ยนสัญญาณไวไฟทั่วโลกให้เป็นสัญญาณดีแทคในจุดนี้ ถือว่าดีแทค ทำการบ้านมาได้ค่อนข้างดี ด้วยการนำข้อจำกัดที่สำคัญของลูกค้าที่นำสมาร์ทโฟนไปใช้งานในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้การเช่า Pocket WiFi มาใช้งาน แทนการเปิดดาต้า โรมมิ่ง ให้สามารถติดต่อสื่อสารผ่านแชท แอปพลิเคชันต่างๆได้

แต่เมื่อลูกค้า ได้ใช้งาน WiFi Calling ข้อจำกัดการสื่อสารเวลาเดินทางไปต่างประเทศก็จะถูกทำให้ลดน้อยลง เพราะเมื่อมีการเชื่อมต่อไวไฟ เมื่อตัวเครื่องปรากฏสัญลักษณ์เชื่อมต่อ ก็สามาถใช้งานโทรศัพท์ (วอยซ์) ได้เหมือนอยู่ในประเทศไทย แน่นอนว่า ไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายในการโทรผ่านโรมมิ่งให้เกิดกรณีบิลช็อกตามมาด้วยเช่นเดียวกัน

ในอีกมุมหนึ่ง กรณีที่ลูกค้าดีแทค ใช้งานเครือข่ายในประเทศไทย แล้วอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณโทรศัพท์ หรือในจุดที่สัญญาณอ่อน ถ้าต้องการใช้งาน วอยซ์ ให้ได้คุณภาพ การใช้งาน WiFi Calling ก็จะเข้ามาช่วยเสริมการใช้งานในจุดนี้เช่นเดียวกัน แต่แน่นอนว่าก็จะมีข้อจำกัดบางประการณ์อย่าง เมื่อออกจากจุดที่มีสัญญาณไวไฟ ไปเชื่อมต่อสัญญาณ 3G หรือ 4G สายที่โทรอยู่ก็จะหลุดโดยอัตโนมัติ

เริ่มใช้งาน

s03

กรณีที่ต้องการใช้งาน WiFi Calling ตอนนี้จะมีสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับอยู่คือ Samsung Galaxy S6 S6edge S6edge+ Note 5 แน่นอนว่าถ้าใครที่มีเครื่อง 4 รุ่นดังกล่าว สามารถกด *444*51# แล้วโทรออก เพื่อเปิดระบบการใช้งาน WiFi Calling ได้ทันที

01

ขณะที่การอัปเดต iOS 9.3.2 เวอร์ชันล่าสุด พร้อม Carrier Update 24.1 ของลูกค้าที่ใช้งาน iPhone ก็จะทำให้สามารถใช้งานได้แล้วเช่นเดียวกัน หรือส่วนแอนดรอยด์โฟนรุ่นอื่นๆที่รองรับระบบ WiFi Calling ก็จะทยอยใช้งานได้ต่อใปในระยะเวลาอันใกล้นี้

เมื่อกดคำสั่งเปิดใช้บริการ WiFi Calling แล้ว และตัวแอนดรอยด์โฟนมีการอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่รองรับเรียบร้อย ภายในส่วนของการตั้งค่าจะมีตัวเลือก “WiFi Calling” เข้ามาให้เลือกใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าเบื้องต้นได้ว่าจะให้จับสัญญาณใดก่อนระหว่างไวไฟ หรือสัญญาณมือถือ

s02

ค่าเบื้องต้นที่ทางดีแทคกำหนดมาให้ใช้งานคือ Mobile Network Preferred เพื่อป้องกันการใช้งานในบางพื้นที่แล้วเกิดอาการสายหลุด กรณีที่มีการใช้งานขณะเคลื่อนที่ ถ้าไวไฟหลุดหรือการเชื่อมต่อไม่เสถียรสายก็จะหลุดตามไปด้วย ดังนั้นถ้าไม่ได้อยู่ในที่พักอาศัย หรือแน่ใจว่าการเชื่อมต่อไวไฟสเถียรตลอดเวลาก็ให้ตั้งตามค่ากล่าวไว้จะปลอดภัยมากที่สุด

s05

แน่นอนว่า หลังจากกดเปิดใช้งาน (On) บางเครื่องอาจจะยังไม่ทำการเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi Calling ให้ทันที จำเป็นต้องมีการรีสตาตเครื่องก่อน เพื่อให้ระบบเข้าที่ เมื่อเรียบร้อยก็จะปรากฏสัญลักษณ์ WiFi Calling ขึ้นแสดงที่แถบบนหน้าจอทันที เพื่อให้มั่นใจว่าได้ทำการเชื่อมต่อกับ WiFi Calling อยู่

02

สำหรับลูกค้าที่ใช้ iOS จะต้องทำการเปิดใช้งาน Wi-Fi Calling หลังจากอัปเดต Carrier โดยไปที่ Setting > Phone ก็จะมีคำสั่ง Wi-Fi Calling เพิ่มขึ้นมา เมื่อเข้าไปกด On จะมีการลิงก์ไปยังหน้าเว็บให้กดยืนยันสมัครใช้บริการ หลังจากนั้นจะมี SMS ส่งมาที่ตัวเครื่อง หลังจากนั้นทำการรีสตาร์ทเครื่อง ต่อไวไฟก็สามารถใช้งาน Wi-Fi Calling ได้ทันที

กรณีที่ไปใช้งานต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน เมื่อไปถึงแล้วลองทำการเชื่อมต่อกับสัญญาณไวไฟ (ในโหมดเครื่องบิน) ครั้งแรกระบบอาจจะยังไม่ทำงาน ต้องทำการรีสตาตเครื่องก่อนเพื่อให้ระบบกลับมาใช้งานได้ปกติ หลังจากขึ้นสัญลักษณ์ดังกล่าวแล้วก็สามารถใช้งานได้ทันที

เริ่มใช้งานผ่าน dtac wifi calling app

ก่อนหน้านี้ ดีแทค เปิดบริการ WiFi Calling ผ่านระบบของเครื่องที่สามารถใช้งานได้บน iPhone 6 ขึ้นไป และ Samsung รุ่นที่เป็นไฮเอนด์ แต่ล่าสุด ขยายมาให้บริการบนแอปพลิเคชัน dtac wifi calling app เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้งานดีแทคบน iOS และ แอนดรอยด์ทุกคนสามารถใช้งานได้

เบื้องต้น หลังจากติดตั้งแอปพลิเคชันเรียบร้อย ผู้ใช้จำเป็นต้องลงทะเบียนด้วยการกรอกหมายเลขโทรศัพท์ ดีแทค 10 หลัก พร้อมตั้งรหัสผ่านยืนยันผสมระหว่างตัวเลข และตัวอักษร 8 ตัว ก่อนรับรหัสยืนยันผ่าน SMS

เมื่อสมัครเสร็จจะมี SMS ยืนยันการใช้บริการอีกครั้งหนึ่ง พร้อมคำแนะนำว่า กรณีที่ต้องการรับสายผ่าน dtac wifi calling app ต้องกดรหัสเพื่อล้างค่าการโอนสายก่อน (กด ##002# แล้วโทรออก) ตัวเครื่องจะทำการล้างค่าการโอนสายต่างๆ เพื่อให้สามารถรับสายได้

หลังจากนั้น เข้าแอป dtac wifi calling ล็อกอินด้วยเบอร์ และรหัสที่ตั้งไว้ ก็จะสามารถใช้แอปดังกล่าวในการโทรออกได้ รับสาย รับข้อความได้ เหมือนใช้งานอยู่ในประเทศ โดยเบื้องต้นทีมงานได้ทดลองด้วยการเปิด Airplane Mode เชื่อมต่อเฉพาะ WiFi ก็สามารถใช้งานได้ทันที

ลองใช้จริง

s01

ทีมงานแบ่งการทดสอบใช้งานออกเป็น 2 ช่วงคือการใช้งานในประเทศไทย เพื่อทดลองใช้งานร่วมกับสัญญาณไวไฟในที่พักอาศัย และไวไฟสาธารณะ โดยมีการเปิดสัญญาณโทรศัพท์มือถือไว้ตลอดเวลา ไม่ได้มีการเปิด Airplain Mode แต่อย่างใด

พบว่า WiFi Calling สามารถเข้ามาช่วยในเรื่องความคมชัดของเสียงที่สนทนาได้ดีมากขึ้น รวมถึงในบางพื้นที่ที่สัญญาณ 4G มาไม่เต็ม (1-2 ขีด) ระบบ WiFi Calling ก็จะเข้ามาช่วยให้สามารถใช้งานในสถานที่ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่การรับข้อความสั้น (SMS) ก็ยังใช้งานได้ตามปกติไม่มีปัญหาใด

ถัดมาคือการทดสอบใช้งานแบบเปิดวอยซ์ โรมมิ่ง ไปใข้งานในต่างประเทศ เมื่อไปถึงตัวสมาร์ทโฟนก็จะทำการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายตามปกติ หลังจากนั้นเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายไวไฟ ทดลองรีสตาตเครื่อง 1 ที ตัวเครื่องก็พร้อมให้ใช้งาน WiFi Calling ได้ทันที ด้วยการแสดงสัญลักษณ์ขึ้นมาให้สบายใจว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินจาก วอยซ์ โรมมิ่ง แน่นอน แต่ที่เปิดไว้ก็เผื่อกรณีฉุกเฉิน ให้สามารถรับ SMS ได้

อีกรูปแบบหนึ่งคือการเปิด Airplain Mode ไปใช้งานในต่างประเทศ เมื่อเดินทางไปถึงต่างประเทศ ตัวเครื่องทำการเชื่อมต่อกับไวไฟเรียบร้อย ทำการรีสตาตเครื่องสักเล็กน้อย สัญลักษณ์ WiFi Calling ก็มาปรากฏให้เห็นเช่นเดียวกัน แต่การใช้งานในรูปแบบนี้ จะไม่สามารถรับข้อความ SMS ได้ จะรองรับแค่การโทรเท่านั้น

ในส่วนของคุณภาพในการใช้งาน เมื่อใช้งานผ่าน WiFi Calling เสียงที่ได้จะเป็นระดับ HD Voice ดังนั้นจึงมีความคมชัดค่อนข้างสูง และกรณีที่ปลายสายใช้งาน WiFi Calling เช่นเดียวกัน ก็สามารถใช้งานเป็นระบบวิดีโอคอลได้ทันทีถ้าต้องการ ดังนั้นในอนาคตจึงเมื่อมีเครื่องที่รองรับมากขึ้น การใช้งานผ่าน WiFi Calling ก็จะสะดวกขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของเครื่องข่ายไวไฟ ที่ใช้งานก็ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด เพราะถ้าการเชื่อมต่อมีปัญหาความเร็วได้ไม่คงที่ เสียงที่ได้ยินจะมีอาการดีเลย์ หรือบางครั้งปลายสายไม่ได้ยิน ทำให้ต้องระวังเวลาใช้งานว่าสัญญาณไวไฟที่ปล่อยมาแรงพอที่จะใช้งานได้หรือไม่

DSC01879

ทั้งนี้ ทีมงานได้ทดลองใช้งานอีกวิธีคือการใช้สมาร์ทโฟนอีกเครื่องปล่อยสัญญาณไวไฟ (Personal Hotspot) หรือในรูปแบบของการใช้งาน Pocket WiFi เมื่อตัวสมาร์ทโฟนเชื่อมต่อเข้ามา ก็สามารถใช้งาน WiFi Calling ได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ ดังนั้นกรณีเดินทางไปเที่ยวแล้วเช่า Pocket WiFi ไปใช้งานก็ยังใช้งานวอยซ์ได้ตามปกติเหมือนอยู่เมืองไทย

ค่าบริการ

s04

ในกรณีที่ใช้งาน WiFi Calling โทรหาเบอร์ในเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในไทย หรือ ต่างประเทศ จะคิดค่าบริการตามแพกเกจที่ใช้งาน กรณีที่ใช้โทรไปยังเบอร์ต่างประเทศ จะคิดค่าบริการเหมือนโทรจากไทยไปยังประเทศนั้นๆ ส่วนกรณีรับสายขณะอยู่ต่างประเทศ จะไม่เสียค่าบริการแต่อย่างใด

แน่นอนว่า ผู้ใช้สามารถเข้าไปตรวจสอบการใช้งานย้อนหลังได้จากภายในเว็บไซต์ ก็จะมีระบุว่าใช้การโทรผ่าน WiFi Calling ให้เห็นชัดๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับแพกเกจที่ใช้งานจริง

สรุป

WiFi Calling จึงเหมือนเป็นบริการที่จะเข้ามาเสริมให้การใช้งานเครือข่ายได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แถมมาด้วยกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศถ้าเชื่อมต่อกับสัญญาณไวไฟก็จะสามารถใช้งานวอยซ์ได้ตามปกติ ดังนั้นกรณีที่ใช้เครื่องที่รองรับอยู่แล้ว เปิดใช้บริการไว้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย

เพียงแต่ถ้านำไปใช้ต่างประเทศ แล้วเปิดโรมมิ่งไปด้วยก็ควรระวังในเรื่องของการเชื่อมต่อ ก่อนโทรว่าได้เชื่อมต่อเข้ากับ WiFi Calling แน่นอนแล้ว ไม่งั้นก็จะโดนคิดค่าบริการเหมือนโทรจากต่างประเทศเหมือนปกติแทน

ข้อดี

เปลี่ยนสัญญาณไวไฟ ให้กลายเป็นเครือข่ายดีแทค

แม้ใช้งานผ่าน Pocket WiFi ก็สามารถใช้งานได้

ข้อสังเกต

เมื่อใช้งาน WiFi Calling เพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถรับ SMS  ได้

ปริมาณรุ่นที่รองรับการใช้งานยังน้อยอยู่

คุณภาพขึ้นอยู่กับความสเถียรของไวไฟ

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

SHARE