Review : Jabra Eclipse หูฟังบลูทูธหรู มีระดับ

7520

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีหูฟังที่ไปไกลถึงการชาร์จไร้สายพร้อมการควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ทำให้หูฟังรุ่นใหม่ซึ่งมาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่นอย่าง Jabra Eclipse ที่ให้พลังเสียงสมจริง พร้อมการควบคุมและสั่งการขั้นสูงผ่านแอปพลิเคชั่นอย่างลงตัว ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

ความโดดเด่นของ Jabra Eclipse ที่นอกจากการออกแบบที่สวยหรูและแข็งแรงแล้ว ยังสามารถทำงานควบคู่กับแท่นชาร์จทรงกลมที่ฝังการเชื่อมต่อและควบคุมการเชื่อมต่อบางส่วนระหว่างเครื่องและสมาร์ทโฟนได้อย่างลงตัว และที่สำคัญคุณภาพของเสียงระดับ HD Voice ซึ่งให้ความคมชัดและมิติของเสียงจริงได้อย่างชัดเจน ช่วยตอบสนองการใช้งานในหลากหลายรูปแบบของชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี

การออกแบบ

001

Jabra Eclipse ออกแบบมาให้ไร้ปุ่มกดโดยการปรับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตัวเครื่องใช้การปัดนิ้วขึ้นลงแบบสัมผัส ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพ น้ำหนักเบาเพียง 5.5 กรัม สอดรับกับสรีระโครงสร้างหูหลายรูปแบบ อีกทั้งยางรอบลำโพงมีความนิ่มในระดับที่น่าพอใจ ช่วยให้สวมใส่สบาย ไม่เจ็บหู แม้จะฟังเพลงหรือสนทนาเป็นระยะเวลานาน

002

ขณะที่ตัวตลับ ออกแบบมาให้เป็นทรงกลม พร้อมแม่เหล็กในตำแหน่งการวางหูฟังเพื่อช่วยให้วางลงล็อกได้อย่างรวดเร็ว ตัวตลับทำจากยางทั้งชิ้น พร้อมปุ่มกดด้านล่างสำหรับกดเพื่อเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นกับหูฟังผ่านระบบบลูทูธ นอกจากนั้นยังมีช่องต่อ ไมโครยูเอสบี เพื่อเชื่อมต่อสายชาร์จไฟ

003

การทำงานของตัวเครื่องจะเปิดระบบเมื่อทำการดึงส่วนของหูฟังออกจากตลับ ไฟสีเขียวจะแสดงขึ้นเป็นอันว่าเครื่องได้เปิดขึ้นแล้ว ขณะที่การปิดก็สามารถทำสวนทางกันโดยวางกลับเข้าสู่ตลับระบบก็จะเข้าสู่โหมดสแตนบายเพื่อประหยัดพลังงานทันที

004

ตัวเครื่องมาพร้อมลำโพงคุณภาพสูง ที่ช่วยถ่ายทอดพลังเสียงระดับ HD Voice พร้อมผสานการตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Advanced Noise Blackout แบบ 2 ไมโครโฟน ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดสมจริงให้กับทั้งเสียงสนทนา เสียงดนตรี รวมทั้งเสียงเซอร์ราวด์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

005

Jabra Eclipse มีน้ำหนักของตัวหูฟังเพียง 5.5 กรัม ขณะที่ตลับชาร์จมีน้ำหนักเพียง 35 กรัม ช่วยให้สะดวกในการพกพาไปในทุกที่ที่ต้องเดินทาง สามารถสนทนาได้กว่า 3 ชั่วโมง ฟังเพลงได้กว่า 7 ชั่วโมง และสแตนบายได้นานกว่า 3 วัน รองรับการจับคู่เชื่อมต่อแบบ NFC ช่วยค้นหาแอปพลิเคชั่นด้วยการสัมผัส รองรับการเล่นเพลงผ่านเครื่องสมาร์ทโฟน พร้อมระบบการสั่งงานด้วยเสียง เช่นการตรวจสถานะแบตเตอรี่ การจับคู่อุปกรณ์หรือเชื่อมต่อ สามารถทำงานร่วมกับระบบบลูทูธในหลากหลายอุปกรณ์ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีดำ โดยวางจำหน่ายที่ราคา 4,490 บาท

สเปก

  • ระบบปรับเสียงอัตโนมัติ
  • ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น jabra assist
  • ระบบแจ้งเตือนชื่อหรือหมายเลขโทรเข้าด้วยเสียง
  • Noise blackout HD ลดเสียงรบกวนด้วยไมค์โครโฟน 2 ตัว
  • สั่งงานด้วยระบบสัมผัส ไม่มีปุ่มกด
  • น้ำหนักเบา 5.5 กรัม (เคสหนัก 35 กรัม)
  • bluetooth 4.1 ใช้งานได้ในระยะ 30 เมตร
  • รองรับ NFC
  • สนทนานาน 10 ชั่วโมง(Eclipse 3 ชั่วโมง + 7 ชั่วโมงด้วยเคส)
  • สแตนบายด์ได้ 10 วัน

ฟีเจอร์เด่น

006

Jabra Eclipseมาพร้อมระบบลดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี 2 ไมค์โครโฟน Noise blackout HD ช่วยให้เสียงสนทนาสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งผสานเข้ากับลำโพงเสียงระดับพรีเมี่ยมที่ทำให้ได้รับเสียงสนทนาที่คมชัด รวมถึงการฟังเพลง อ่านข้อความ เมื่อใช้งานโหมดแฮนด์ฟรีก็สามารถให้คุณภาพเสียงที่ดี

007

การทำงานควบคู่กับแอปพลิเคชั่น Jabra Assist ช่วยให้สามารถปรับแต่งการทำงานขั้นสูงทั้งการตั้งค่ารับสายเรียกเข้าด้วยเสียง เปิดปิดเสียงแนะนำการใช้งาน ได้ตรงความต้องการมากขึ้น และนอกจากนี้ยังสามารถอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านแอปพลิเคชั่นได้อย่างสะดวก โดยจะสามารถตั้งค่าในการอัปเดตเฟิร์มแวร์อัตโนมัติหรือจะเลือกการอัปเดตเมื่อเชื่อมต่อไวไฟก็สามารถตั้งค่าได้ตามชอบ

008

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญคือ Find my jabra / car ฟังก์ชั่นเสริมที่ช่วยจดจำสถานที่วางหูฟังในตำแหน่งสุดท้าย ซึ่งแม้ว่าฟังก์ชั่นนี้จะต้องเปิดการใช้งานระบบระบุพิกัด GPSที่อาจจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่ไปบ้าง แต่กระนั้นประโยชน์ที่มากกว่าการค้นหาหูฟังนั่นก็คือการค้นหาตำแหน่งรถยนต์ที่วางหูฟังไว้นั่นเอง นับเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อาจจะมีประโยชน์แฝงที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก

009

ปรับเสียงอัตโนมัติช่วยลดอาการช็อกของเสียงเมื่อไฟล์เสียงมีบิทเรตหรือคุณภาพของเสียงไม่เท่ากัน ทำให้ความดังของเสียงแตกต่างกันจนเกินไป หรือการสนทนาของคู่สายที่มีระดับของเสียงที่แตกต่างกันระบบจะช่วยปรับเสียงให้อัตโนมัติ เพื่อการฟังเสียงที่สมจริง

010

ใช้งานควบคู่กับตลับทรงกลม โดยการเชื่อมต่อครั้งแรกจะมีปุ่มกดอยู่ด้านล่างของตลับ นอกจากนี้ตลับยังเป็นเสมือนแท่นชาร์จในตัว เนื่องจากมีช่องเสียบสายชาร์จไมโครยูเอสบีและหลุมวางที่มีแม่เหล็กดูดอยู่ข้างในช่วยให้ง่ายและสะดวกในการวางหูฟัวให้ลงบล็อกพอดี

011

การใช้งานคำสั่งเสียงเพื่อสั่งการ เนื่องจากขนาดที่เล็กและไม่มีปุ่มให้ ซึ่งแม้ว่าจะสามารถแตะเบาๆเพื่อตอบรับสายเรียกเข้า หรือวางสายได้ แต่กระนั้นฟีเจอร์การรับสายด้วยการพูด “Answer” เพื่อรับสาย หรือ “Ignore” เพื่อปฏิเสธการรับสายเรียกเข้าก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ช่วยเพื่อความสะดวกเมื่อต้องตกอยู่ในสถานะแฮนด์ฟรี(มือไม่ว่าง) นั่นเอง แน่นอนว่าคำสั่งเสียงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่การใช้งานรับสายเรียกเข้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเรียกคำสั่งเสียงอันเนื่องมาจากความสามารถของตัวเครื่อง เช่นเครื่องซัมซุงก็สามารถเรียกความสามารถของ S voice ขึ้นมาใช้งาน หรือจะเป็น Google Now ที่สามารถเปล่งเสียงเรียก ‘OK Google’ เพื่อเปิดหน้าจอการค้นหาด้วยเสียงของกูเกิลขุ้นมาได้อย่างง่ายดาย โดยคำสั่งเพิ่มเติมก็สามารถดูได้จากคู่มือภายในแอปพลิเคชั่นได้อย่างครบถ้วน

ทดสอบประสิทธิภาพ

012

กลับมามองเรื่องราคาจำหน่ายที่วางไว้ที่ 4,490 บาทนั้น นับว่าเป็นหูฟังบลูทูธที่มีราคาสูงอยู่พอสมควร ซึ่งเมื่อเทียบกับความสามารถและความจำเป็นของการใช้หูฟังบลูทูธในการใช้งาน แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่า Jabra Eclipse เป็นหูฟังพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับสูงได้อย่างสมบูรณ์พร้อม ด้วยฟีเจอร์ ความสามารถ วัสดุที่เลือกใช้ ตลอดจนระดับราคาที่ตั้งขาย สะท้อนให้เห็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้สนใจเรื่องราคา แต่ต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระมือที่อยู่ในสภาวะวุ่นอยู่ตลอดนั่นเอง แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้จะต้องสร้างรายได้จากการใช้งานอุปกรณ์เช่นนี้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง

013

การทดสอบฟังเสียงสนทนาเมื่อใช้งานผ่านการโทร เสียงที่ได้มีความชัดเจน และไม่พบการตัดเสียงแวดล้อมของคู่สนทนาออกแบบผิดปกติ เสียงที่ได้มีความใสของเสียงสมจริงดี ขณะที่การฟังเพลงแม้ว่าจะมีเพียงหูฟังด้านเดียว กระนั้นเสียงที่ได้รับก็สามารถแยกแยะมิติของเสียงได้ในระดับที่น่าพอใจ มีซาวน์ของเครื่องดนตรีครบถ้วน เสียงร้องฟังชัดสมบูรณ์ นอกจากนี้การจับเสียงเมื่อเปล่งออกไปเพื่อใช้งานคำสั่งเสียง ก็สามารถจับใจความและทำงานได้ตรงตามที่สั่ง แม้ว่าจะต้องออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็ตาม

สรุป

สิ่งที่น่าสนใจใน Jabra Eclipse ก็คือการออกแบบและการใช้งานผ่านคำสั่งเสียงที่เพิ่มความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าคุณประโยชน์ของการใช้หูฟังบลูทูธหลักก็คือการลดใช้มือ ซึ่ง Jabra Eclipse สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดี เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่ไม่มีปุ่มกด การทำเครื่องแบบใช้งานในหู ขนาดเล็ก เบา เพื่อลดการแตะต้องเครื่องโดยไม่จำเป็น ขณะที่คุณภาพของเสียงมีคุณภาพที่ดีในหลากหลายแง่มุมการใช้งาน

หากนับโดยรวมเมื่อเทียบกับราคายังไม่หวือหวาที่จะจองมาเป็นเจ้าของเนื่องจากราคาที่สูงอยู่พอสมควร แต่หากใครกำลังต้องการหูฟังบลูทูธที่มีคุณภาพโดยไม่คำนึงด้านราคา Jabra Eclipse รุนนี้ก็เหมาะด้วยรูปลักษณ์การออกแบบและฟังก์ชั่นของลูกเล่นในการใช้งานเช่นการรับสายหรือปฏิเสธด้วยเสียง ควบคุมการเล่นเพลงด้วยคำสั่งเสียง ตลอดจนตลับทรงกลมที่แม้ว่าจะเปื้อนฝุ่นได้ง่ายสักหน่อยเนื่องมีลักษณะเป็นยาง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยเก็บรักษาหูฟังที่มีขนาดเล็กไม่ให้หายได้ง่ายๆได้เป็นอย่างดี

ข้อดี

  • ดีไซน์ขนาดเล็ก เบา ช่วยให้สวมใส่ได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน
  • แบตเตอรี่ที่สามารถสนทนาได้นานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง
  • มาพร้อมตลับชาร์จที่ช่วยทั้งการจัดเก็บและการเชื่อมต่อให้ง่ายขึ้น
  • สามารถทำงานควบคู่กับแอปพลิเคชั่นได้อย่างดีเยี่ยม
  • มียางสวมให้ 3 ขนาดตรงตามขนาดหูเพื่อความกระชับ

ข้อสังเกต

  • เหมาะกับการใส่กับหูขวา เพียงด้านเดียว ไม่สามารถปรับแต่งได้
  • เสียงแวดล้อมของหูที่ใส่จะถูกบล็อก เนื่องจากยางที่ช่วยให้อุปกรณ์ไม่หลุดจากหู จะต้องอุดพอดีหู
  • คู่สนทนายังได้ยินเสียงแวดล้อมอยู่ ทำให้ความคมชัดลดน้อยลงระหว่างโทร
  • ยังไม่สามารถอ่านข้อความเข้าเป็นภาษาไทยได้

Gallery

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

REVIEW OVERVIEW
การออกแบบ
8.5
สเปก/ฟีเจอร์เด่น
7.5
ความสามารถโดยรวม
7.5
ความคุ้มค่า
7
SHARE