Review : LG 34UC98 มอนิเตอร์จอโค้งระดับ QHD

จอมอนิเตอร์เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับการมาของเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อจอ 4K เริ่มก้าวเข้าสู่ตลาดคอนเทนต์วิดีโอ ฝั่งของทางผู้ผลิตก็ต้องมีการนำไลน์ผลิตภัณฑ์ที่จะมาใช้งานเพื่อรองรับคอนเทนต์ความละเอียดสูงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

LG ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตจอมอนิเตอร์ที่นำความโดดเด่นในเรื่องของจอ 4K มาจำหน่ายร่วมกับจอโค้ง เพียงแต่ว่านอกไปจากเรื่องของความละเอียดแล้ว ยังเน้นไปที่จอในสัดส่วน 21 : 9 ที่เป็นสัดส่วนสำหรับรับชมภาพยตร์ หรือใช้ในการทำงานแบบมัลติเทสก์ ด้วยการแบ่งครึ่งหน้าจอเปิดโปรแกรมทำงานควบคู่กันไป รวมถึงการนำมาใช้ในงานตัดต่อที่ต้องการจอยาวๆในการดูไทม์ไลน์ และเล่นเกมให้สนุกสนาน

การออกแบบ

ด้วยการที่เป็นจอโค้งขนาด 34 นิ้ว ในสัดส่วน (Ratio) 21 : 9 ทำให้ตัวจอจะออกไปในแนวยาว เหมือนนำจอ Wide Screen 2 จอมาต่อกัน พร้อมกับความบางของตัวจอ กับการดีไซน์ที่เน้นความเป็นโมเดิร์น เพื่อให้สามารถวางไว้ในห้องทำงาน หรือห้องรับแขกเพื่อใช้งานได้แบบไม่ขัดกับชุดเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่

เมื่อแกะกล่องออกมา ผู้ใช้จำเป็นต้องประกอบฐานเครื่อง เข้ากับบริเวณขาตั้งก่อน ซึ่งการประกอบไม่ยาก และไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆเพิ่มเติม เพราะทางแอลจีออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วขันน็อต 2 ตัวเพื่อยึดขาตั้งกับฐานได้ทันที เมื่อประกอบเสร็จแล้วก็นำขาตั้งไปติดที่หลังมอนิเตอร์ ซึ่งจะมีข้อต่อล็อกอีกทีหนึ่ง

ถ้าสังเกตจะเห็นว่าบริเวณหลังขาตั้งจะมีส่วนที่เป็นพลาสติกยื่นออกมา ซึ่งอุปกรณ์นี้จะอยู่ภายในถุง มีไว้เพื่อใช้ในการเก็บสายบริเวณหลังเครื่อง ให้เรียบร้อย และไม่เกะกะสายตา เรื่องจากถ้าไม่ร้อยสายผ่านช่องดังกล่าว ก็จะเห็นสายห้อยๆอยู่ล่างหน้าจอขณะใช้งานตลอดเวลา

ตัดภาพมาที่หน้าจอขนาด 34 นิ้ว Curved UltraWide QHD (ความละเอียด 3440 x 1440 พิกเซล) พร้อมกับคงจุดเด่นของจอแอลจีที่เป็น IPS ทำให้มุมมองของภาพกว้างขึ้น กับขอบจอที่แคบมาก การแสดงผลของสีจะเป็นแบบ sRGB 99% ความโค้งของจอจะทำมุมเข้ากับสายตาผู้ใช้ ทำให้เมื่อใช้งานเป็นเวลานานสายตาจะไม่ล้ามาก ส่วนล่างของหน้าจอจะมีโลโก้ LG แปะอยู่ตรงกึ่งกลาง

ปุ่มควบคุมจะอยู่บริเวณใต้หน้าจอบริเวณโลโก้นั่นเอง โดยจะเป็นปุ่มคล้ายๆกับจอยสติกแบบ 5 ทิศทาง ที่สามารถกดลงไปเพื่อเข้าเมนูหลัก โยกซ้าย ขวา หน้า หลัง เพื่อเลือกใช้งานฟังก์ชัน และปรับตั้งค่าต่างๆได้ทันที โดยบริเวณปุ่มจะมีไฟสว่างขึ้นมาเวลาใช้งานด้วย นอกจากนี้ภายในยังมีการใส่ลำโพงมาให้ด้วย ทำให้ไม่จำเป็นต้องต่อลำโพงภายนอกเพื่อใช้งาน

บริเวณหลังเครื่องจะมีบริเวณที่รวมพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต Thunder Bolt 2 พอร์ต USB 3.0 2 พอร์ต Display Port 1.2 ช่องต่อหูฟัง HDMI 2 พอร์ต และช่องเสียบอะเดปเตอร์ไฟ ซึ่งตัวพอร์ต USB 3.0 จะรองรับการใช้งานแบบ Quick Charge ด้วยกรณีที่ใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

ในส่วนของขนาด เมื่อใส่รวมกับขาตั้งและยืดขึ้นสุดจะอยู่ที่ 81.76 x 23.04 x 56.14 เซนติเมตร เมื่อลดระดับขาลงมาต่ำสุดความสูงจะอยู่ที่ 45.14 เซนติเมตร น้ำหนักพร้อมขาตั้งอยู่ที่ 7.8 กิโลกรัม ถ้าเฉพาะตัวจออย่างเดียวจะอยู่ที่ 6.2 กิโลกรัม ดังนั้นในการตั้งใช้งานควรหาโต๊ะ หรือบริเวณที่มีความแข็งแรง และมั่นคงด้วย

ฟีเจอร์เด่น

ความน่าสนใจมากที่สุดของ LG 34UC98 21:9 Curved UltraWide QHD IPS Monitor คงหนีไม่พ้นจอกว้างแบบ 21:9 ที่ทำให้เวลาใช้งานทั่วไป ผู้ใช้สามารถแบ่งหน้าจอออกเป็น 2 ฝั่งเพื่อใช้งานโปรแกรมต่างๆพร้อมกันได้ หรือกรณีที่ใช้สำหรับการตัดต่อภาพยนตร์ผู้ใช้ก็จะสามารถเห็นไทม์ไลน์ที่ยาวขึ้นได้ อีกจุดที่แอลจี พยายามนำเสนอคือจอเรื่องของสีที่ให้ความแม่นยำ และสมจริง สำหรับผู้ที่มีอาชีพในการปรับแต่งภาพ

ขณะเดียวกันสัดส่วนแบบ 21:9 ยังถือเป็นสัดส่วนสำหรับการรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงยุคใหม่ที่เป็นแบบ 4K ด้วยทำให้เพื่อใช้เพื่อความบันเทิง ตัวจอจะสามารถแสดงภาพยนตร์ได้อย่างเต็มจอ ไม่นับกับลำโพงภายในตัวที่ให้เสียงเพียงพอกับการใช้งานในห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นขนาดไม่กว้างมากนัก

อีกหนึ่งความน่าสนใจคือระบบ PIP ที่สามารถแสดงผลภาพจากหลายแหล่งที่มา (HDMI + Thunder Bolt) ที่สามารถเลือกการแสดงผลได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นการแบ่งครึ่งจอ แบ่ง 3 ส่วน 4 ส่วน ซ้อนภาพที่มุม ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะเลือกปรับใช้งาน โดยสามารถกดเข้าโหมดนี้ได้จากเมนูการตั้งค่า เพื่อเรียกใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ ก็จะมีในส่วนของโหมดแสดงผลภาพ ที่มีตั้งมาให้เลือกใช้ทั้ง Custom, Reader, Photo, Cinema, Dark Room 1, Dark Room 2, Color Weakness, FPS Game 1, FPS Game 2, RTS Game, Custom (Game) ซึ่งแต่ละประเภทก็จะเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ขึ้นกับจะเลือกใช้

ทั้งนี้ ในส่วนของการตั้งค่าหน้าจอต่างๆ จะทำได้ด้วยการกดปุ่มจอยสติกขึ้นมา โดยจะมี 4 หัวข้อให้เลือกคือ กดขึ้นเปลี่ยนโหมดแสงดผล กดซ้ายเพื่อเข้าเมนูหลัก กดขวาเพื่อเลือกแหล่งที่มาของภาพ และกดลงเพื่อปิดหน้าจอ และกดตรงกลางเพื่อปิดเมนูตั้งค่า

เมื่อเข้าสู่ส่วนของเมนูตั้งค่า ก็จะมีแถบให้เลือกตั้งอย่างการตั้งค่าด่วน ที่เป็นการปรับแสง คอนทราสต์ เสียง แหล่งที่มาของภาพ และสัดส่วนของจอ ถัดมาก็จะเป็นโหมด PIP การตั้งค่าโหมดแสดงผลที่มีให้เลือกตามที่กล่าวไปตั้งค่าเสียงและตั้งค่าทั่วไป

ทดสอบประสิทธิภาพ

ทีมงานได้มีโอกาสนำจอ LG 34UC98 มาใช้งานร่วมกับทั้งเครื่อง Macbook และโน้ตบุ๊กที่เป็นวินโดวส์ ผ่านสาย HDMI การแสดงผลจอภาพถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน อาจจะมาจากด้วยสเปกเครื่องของทั้ง 2 รองรับการแสดงผลระดับ 4K อยู่แล้ว แต่ถ้านำเครื่องที่สเปกไม่สูงมากมาเชื่อมต่อก็อาจจะเกิดความกระตุกในการใช้งานได้ จากความละเอียดของหน้าจอระดับ 4K

การใช้งานในด้านของมัลติมีเดียถือว่าทำได้สมประสิทธิภาพ เพราะเมื่อใช้รับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ 4K ภาพที่ได้ถือว่าคมชัด และสมจริง ระบบเสียงที่ให้มากับเครื่องอยู่ในระดับมาตรฐาน เมื่อหันกลับมาใช้งานทั่วๆไปอย่างการใช้เล่นอินเทอร์เน็ต ทำงานทั่วไปก็ช่วยอำนวยความสะดวกจากพื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน

ส่วนในแง่ของการเล่นเกมนั้น ต้องยอมรับว่าความลื่นไหลนั้นจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของพีซีเป็นหลัก ดังนั้นถ้าสเปกไม่ถึงก็ไม่ควรนำมาใช้งานกับจอใหญ่ขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนว่าข้อดีของจอเหล่านี้ในการนำมาเล่นเกมคือได้มุมมองที่กว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันด้วยเทคโนโลยีในการแสดงผลก็ทำให้เล่นเกมแนว FPS ได้สนุกยิ่งขึ้นด้วย

สรุป

ด้วยราคาจำหน่ายที่ 29,900 บาท อาจจะถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับจอมอนิเตอร์ที่นำมาใช้ในการต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งาน แต่ด้วยไลฟ์สไตลยุคใหม่ของผู้บริโภค ที่ไม่เน้นการรับชมทีวี การเลือกจอดังกล่าวมาใช้งานแทนทีวีในห้อง หรือในคอนโด ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถนำโน้ตบุ๊ก หรือพีซีที่มีอยู่มาเชื่อมต่อเพื่อใช้งานได้ทันที ที่สำคัญคือด้วยสัดส่วน 21:9 ยิ่งทำให้การรับชมภาพยนตร์ได้เต็มจอขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม จอนี้จะไม่ค่อยเหมาะกับการนำไปใช้งานแบบทั่วๆไปสักเท่าไหร่ เพราะด้วยความกว้างของจอ ถ้านำมาใช้กับงานทั่วไปในระยะใกล้ๆ อาจจะทำให้เมื่อยตาเวลาใช้งานในระยะที่ใกล้เกินไป จากพื้นที่จำกัด ดังนั้นในการเลือกหามาใช้งานควรคำนึงถึงระยะที่ถูกนำไปใช้งานให้เหมาะสมด้วย