Xiaomi Redmi 5A เป็นสมาร์ทโฟนที่รวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ระดับ “เชื่อถือได้” ไว้ภายใต้งบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท ถือว่าสอบผ่านทั้งประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า การออกแบบเครื่อง และการเป็น IR Remote แอปพลิเคชันที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นรีโมทควบคุมของใช้ในบ้าน
แต่สิ่งที่ขาดหายไปใน Redmi 5A คือไม่มีเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือ ไม่มีไจโรสโคป (gyroscope) วัดการหมุนวนเครื่อง ซึ่งอาจกระทบกับการเล่นเกมและใช้แอปพลิเคชันบางประเภท
แม้เป็นโทรศัพท์ที่ดี แต่ 5A ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อหักลบพื้นที่ติดตั้งแอปพลิเคชันจากโรงงานและระบบประมวลผล จะเหลือพื้นที่หน่วยความจำที่ใช้ได้จริงเพียง 10.45GB ผิดจากที่ระบุไว้หน้ากล่องว่ามีหน่วยความจำ 16GB ซึ่งหากซื้อสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น พื้นที่เก็บข้อมูลจริงจะอยู่ที่ราว 12GB
Xiaomi เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเรื่องสมาร์ทโฟนราคาประหยัด เกือบทุกรุ่นของ Xiaomi ถูกยกย่องว่าจัดสเปกตรงใจลูกค้าในราคาสบายกระเป๋า โดยในประเทศไทย Redmi 5A เป็นข่าว “ขายเกลี้ยงในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง” หลังจากจับมือ Lazada จำหน่ายครั้งแรก 9 กุมภาพันธ์ 2561 ในราคา 2,790 บาท ทำยอดขายกว่า 2,000 เครื่องตั้งแต่ช่วง 15 นาทีแรก
สิ่งสำคัญที่ทำให้ Redmi 5A ได้รับความสนใจ เพราะความเชื่อว่าราคา 5A ถูกกำหนดไว้ประมาณครึ่งหนึ่งของราคาสมาร์ทโฟนอื่น ที่มักราคาเริ่มต้นเกือบ 5,000 บาทในคุณสมบัติใกล้เคียงกัน จุดขายหลักที่ Xiaomi ประกาศคือแรม 2GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 16GB
คนไทยไม่ใช่ชาติเดียวที่สนใจ 5A ในราคาโปรโมชัน เพราะที่อินเดีย 5A จำหน่ายในราคา Rs 4,999 สำหรับ 5 ล้านเครื่องแรก หลังจากนั้นราคาจะกลับไปเป็น Rs 5,999 โดยรุ่นแรม 3GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 32GB จะคงราคาขายปลีกที่ Rs 6,999
เครื่องสวยได้มาตรฐาน
ตามพิมพ์นิยมสมาร์ทโฟนทั่วไป ตัวเครื่องมีน้ำหนักให้ความรู้สึกแน่น ด้านหลังเครื่องโค้งเล็กน้อย ถือในมือข้างเดียวได้สบายตามฉบับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5 นิ้วทั่วไป
Redmi 5A ใช้วัสดุพลาสติกด้านหลังเครื่องซึ่งถือจับได้ไม่ลื่น น้ำหนัก 137 กรัม ขนาด 140.4 x 70.1 x 8.4 มม. รองรับหูฟัง ด้านหลังมีกล้องเดี่ยวพร้อมแฟลช LED และลำโพง
ส่วนบนสุดของเครื่องมีพอร์ตเสียงและ IR blaster สำหรับควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับ ด้านล่างเป็นพอร์ต USB สำหรับชาร์จ (ไม่ใช่พอร์ตที่รองรับการชาร์จเร็ว) ด้านขวาเรามีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ด้านซ้ายเป็นช่องใส่ 2 ซิมการ์ดและการ์ด microSD เพื่อขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูล
ทุกด้านของเครื่องไม่มีการติดตั้งเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือใด จุดนี้สำหรับคนที่ไม่คิดมาก ก็สามารถใช้งานได้ปกติเหมือนช่วงที่เทคโนโลยียังไม่โดดเด่น และเลือกปลดล็อกโทรศัพท์แบบวิธีดั้งเดิม เช่นการป้อนรหัสหรือเลื่อนมือลากเส้นตามรูปแบบเพื่อเปิดหน้าจอ
แรงพอเล่นเกม-ทำงาน
จอแสดงผลของ Redmi 5A ไม่ทำให้ผิดหวัง Redmi 5A มีหน้าจอ HD IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด 720×1280 พิกเซล สีสันดูสดใสและคมชัด ขณะที่โปรเซสเซอร์ Snapdragon 425 ถือว่าคุ้มสำหรับโทรศัพท์ที่ราคาไม่สูง
เมื่อใช้งานหลายแอปพลิเคชัน-ท่องเว็บ-ดูวิดีโอพร้อมกันพบว่าไม่ดุด แต่การที่ระบบปฏิบัติการปิดแอปฯแบคกราวด์เป็นประจำเพื่อให้มีที่ว่าง การสลับจากแอปหนึ่งไปยังอีกแอปพลิเคชันหนึ่งจึงล่าช้าเล็กน้อย
เกมเช่น Castle Crush และ Asphalt Xtreme ทำงานได้ดี แต่มีรายงานว่าเกมอย่าง Final Fantasy XV: Pocket Edition ติดขัดแม้จะตั้งค่ากราฟิกต่ำสุด โดยลำโพงที่อยู่ด้านหลังเครื่องเป็นเรื่องดีเพราะนิ้วผู้ใช้ไม่บดบังเมื่อเล่นเกมแนวนอน
กล้องดีแต่มือต้องนิ่ง
ด้วยกล้องถ่ายรูปหลัก 13 ล้านพิกเซล f / 2.2 และกล้องหน้าเพื่อการ selfe f / 2 ขนาด 5 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพจาก 5A อยู่ในระดับมาตรฐาน แต่ผู้ที่มีปัญหามือสั่นเมื่อถ่ายภาพ อาจเซ็งกับ 5A ได้เพราะภาพที่ถ่ายจะเบลอชัดเจน
ข้อดึของ 5A คือมีโหมด HDR ที่เป็นตัวเลือกให้สามารถปรับปรุงคุณภาพภาพได้อีกนิด และแอปกล้องถ่ายรูปใน 5A มีคุณสมบัติเหมาะสม และมีตัวเลือกเพียงพอที่จะทำให้การถ่ายภาพทำได้ง่าย มีโหมดแต่งสวยเพื่อขจัดสิวและทำให้ผิวนางแบบในภาพเรียบเนียนขึ้น
แบตเตอรี่ใช้ได้นานข้ามวัน
แม้ว่าความจุแบตเตอรี่จะไม่ใช่จุดตัดสินว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นแบตอึดหรือหมดเร็ว เพราะวิธีการบริหารแบตเตอรี่ในเครื่องต่างหากที่สำคัญกว่า แต่แบตเตอรี่ 3000mAh ใน 5A ถือว่าทำให้อุ่นใจได้ เพราะรองรับการใช้งานปกติได้ข้ามวัน ซึ่งหากเล่นวิดีโอต่อเนื่อง เราพบว่า 5A เล่นได้นานเกิน 5 ชั่วโมงเมื่อชาร์จเต็มที่
ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีให้ประสิทธิภาพของ MIUI 9.2 ซึ่งเป็นส่วนติดต่อผู้ใช้ที่มีใน 5A จากโรงงาน มีการปรับแต่งค่าต่างๆสำหรับการแจ้งเตือน และการตั้งค่าแอปที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบให้ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
จุดอ่อนที่พบใน 5A คือการชาร์จไฟ เพราะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะชาร์จเต็ม ดังนั้น Redmi 5A จะแบตเตอรี่เต็มได้เมื่อชาร์จนาน 2.5 ชั่วโมง ถือเป็นอีกจุดที่ต้องทำใจเพราะ 5A มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แต่ไม่มีเทคโนโลยีชาร์จไวหรือ fast-charging
เมื่อเปิดเว็บบน Wi-Fi นาน 25 นาทีจะเสียแบตเตอรี่ราว 4% ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงในการชาร์จจาก 0-90%
ฟันธงควรซื้อไหม?
Redmi 5A คือคำตอบที่ใช่สำหรับคนที่อยากได้สมาร์ทดฟนราคาไม่เกิน 3,000 บาท ราคาไม่แพง-เครื่องรับประกัน 1 ปี-ชิปเซ็ต Snapdragon และถาดใส่ซิมรวมถึง MicroSD 3 ช่อง ถือว่า 5A คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
แต่ทั้งหมดนี้ต้องทำใจเรื่องการชาร์จที่ช้า และปลดล็อกแบบดั้งเดิมซึ่งไม่สะดวกเหมือนการใช้เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ ประเด็นนี้ทำให้ 5A ถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนครั้งแรก เช่นกลุ่มเด็ก หรือผู้ที่ต้องการมือถือสำรองที่ใช้งานง่าย
สุดท้าย หากงบประมาณพอ การจ่ายเงินที่มากขึ้นเพื่อซื้อสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 5A ก็เป็นทางเลือกที่น่าพิจารณา เพราะจะทำให้ได้มือถือที่มีกล้องดีขึ้น และมีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือที่สะดวกกว่าเมื่อใช้งานจริง.