Apple Watch Series 3 GPS Cellular – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Mon, 11 Jun 2018 02:44:37 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : Apple Watch 3 GPS+Cellular ลืมโทรศัพท์ก็ไม่พลาดการสื่อสาร https://cyberbiz.mgronline.com/review-apple-watch-3-cellular/ Thu, 05 Apr 2018 00:30:08 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=28322

รอมานานหลังจากที่ Apple เปิดตัว Apple Watch Series 3 ออกมาในช่วงเดือนกันยายน และนำรุ่น Apple Watch Series 3 GPS เข้ามาทำตลาดก่อน เพื่อรอให้โอเปอเรเตอร์ในไทยรองรับการให้บริการ eSIM จนเมื่อถึงเวลาที่ทรูมูฟ เอช พร้อมให้บริการ Apple Watch 3 GPS + Cellular ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ ทีมงานเคยรีวิว Apple Watch Series 3 ไปแล้ว สามารถกดย้อนกลับไปอ่านได้ที่ https://cyberbiz.mgronline.com/review-apple-watch3/ ดังนั้น ในรีวิวคราวนี้ จึงเน้นไปที่ความแตกต่างระหว่างรุ่น GPS และรุ่น Apple Watch Series 3  GPS+Cellular แทน

โดยเมื่อมองรวมๆ แล้ว Apple Watch Series 3  GPS+Cellular จะเหมาะกับผู้ใช้งานที่การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญกับการใช้ชีวิต เมื่อใช้งานรุ่นนี้ก็จะไม่พลาดการสื่อสารสำคัญๆ อย่างโทรศัพท์ หรือการแจ้งเตือนต่างๆ แม้อยู่ในช่วงที่ไม่ได้พกไอโฟนติดตัว

ดังนั้น ถ้าจะให้เจาะจงลงไป ก็อาจจะเน้นกลุ่มผู้ใช้งานที่ชอบออกกำลังกาย และไม่ต้องการพกสมาร์ทโฟนติดตัวไปด้วย หรือมองว่าบางทีควรใช้ชีวิตให้ห่างจากโทรศัพท์เสียบ้าง แต่ก็ยังไม่พลาดการติดต่อสื่อสารในเหตุการณ์สำคัญๆ

ข้อดี

สามารถใช้โทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา iPhone

ใช้ Apple Music และวิทยุได้ ขณะออกกำลังกาย

รองรับระบบนำทาง แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับ iPhone

ข้อสังเกต

แบตเตอรีใช้งานได้สั้นลงเมื่อเทียบกับรุ่น GPS ปกติ

– แอปค่ายอื่นที่รองรับยังจำกัดอยู่

– ค่าบริการ 4G eSIM เริ่มที่เดือนละ 199 บาท (หลังหมดโปรโมชัน)

จุดต่างของ Apple Watch Series 3 GPS+Cellular

ในแง่ของความต่างด้านการออกแบบ Watch 3 GPS+Cellular จะมีจุดสังเกตหลักๆ เลยคือบริเวณปุ่มเม็ดมะยมจะเป็นสีแดง เหมือนกับในรุ่นพิเศษ ในขณะที่การควบคุม และการใช้งานต่างๆแทบเหมือนกันทั้งหมด

แต่ถ้ามาดูที่หน้าจอแสดงผล Apple Watch 3 GPS+Cellular เมื่อไม่ได้ทำการเชื่อมต่อกับ iPhone ตัวหน้าปัดจะมีการแสดงผลสัญญาณโทรศัพท์ขึ้นอยู่ (ขึ้นอยู่กับหน้าปัดที่เลือกใช้) รวมถึงในแถบควบคุมจะมีปุ่ม Cellular เพิ่มเข้ามา

โดยเมื่ออยู่ในโหมดที่เชื่อมต่อ Cellular (ไม่ได้อยู่ใกล้เคียง iPhone และไม่ได้เชื่อมต่อ WiFi) คุณสมบัติต่างๆของ Apple Watch ก็ยังทำงานได้ปกติ ไม่ว่าจะเป็นการรับการแจ้งเตือนเช่นเดียวกับบน iPhone เครื่องที่ทำการเชื่อมต่อไว้

นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งงานด้วย Siri เพื่อเล่นเพลง หรือเพลยลิสต์ใน Apple Music หรือเลือกเปิดวิทยุฟังได้ทันที ย้ำว่าโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เพียงแต่ต้องเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธ หรือลำโพงบลูทูธแทน

ดังนั้น ถ้าคิดภาพตามว่าจากเดิมเวลาไปออกกำลังกาย อย่างการวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเล่นฟิตเนส จากเดิมที่ต้องพก iPhone ติดตัวไปด้วย คราวนี้ก็สามารถวาง iPhone ไว้ในล็อกเกอร์ หรือเก็บไว้ในรถ แต่ก็ยังสามารถฟังเพลง พร้อมเก็บข้อมูลการออกกำลังไปได้

เช่นเดียวกับในแง่ของการใช้เป็นโทรศัพท์ จากเดิมที่ผู้ใช้จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อให้สามารถโทรออก หรือรับสายได้ แต่พอมาเป็นรุ่น GPS+Cellular ผู้ใช้ก็สามารถสั่ง Siri ให้โทรออก หรือจะกดเลือกจากรายชื่อได้ทันที ช่วยให้ไม่พลาดการติดต่อสื่อสารสำคัญๆ

รวมถึงการใช้ Apple Maps นำทาง ที่ตัวเรือนจะดึงความสามารถของทั้งระบบ GPS ที่ติดตั้งมา เชื่อมเข้ากับการดึงข้อมูลของ Apple Maps จากอินเทอร์เน็ต ทำให้แม้ไม่มีโทรศัพท์ติดตัวก็สามารถใช้นำทางได้

ทั้งนี้ เมื่อเข้าไปดูภายในแอป Watch ก็จะเห็นหัวข้อ Cellular เพิ่มเข้ามา เพื่อแสดงรายละเอียดการใช้งานอินเทอร์เน็ต ว่าแอปใดใช้งานอินเทอร์เน็ตไปปริมาณเท่าใด และยังสามารถเข้าไปบริหารจัดการการเชื่อมต่อ และยกเลิกซิมเสริมได้ด้วย

Gallery

การตั้งค่าใช้งาน 4G eSIM

หัวใจสำคัญของการที่ทำให้ Apple Watch 3 GPS+Cellular ทำงานได้เหมือนใส่มัลติซิมการ์ดเข้าไปในตัวเรือน เพื่อให้ใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้เลยก็คือเทคโนโลยี 4G eSIM ที่จะทำการผูกเลขหมายโทรศัพท์ที่ใช้งาน เข้ากับ Apple Watch

วิธีการตั้งค่าให้ Apple Watch รองรับการใช้งาน Cellular ก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยเริ่มจากการเปิดแอปพลิเคชัน Watch บน iPhone ขึ้นมา เพื่อทำการ Sync ข้อมูลนาฬิกาเครื่องใหม่ และทำตามขั้นตอนต่างๆตามปกติ

จนไปถึงหน้าที่ให้เลือกตั้งค่า Cellular บนหน้าจอจะทำการสลับไปยังหน้าลงทะเบียนให้อัตโนมัติ โดยเริ่มจากกรอกเลขบัตรประชาชน ยืนยันความเป็นเจ้าของเบอร์ หลังจากนั้น ก็จะปรากฏรายละเอียดเบอร์ แพกเกจที่ใช้งาน และค่าบริการ (ของทรูมูฟ เอช ช่วงแรกใช้บริการฟรี)

ต่อจากนั้นก็ทำการตั้งชื่อซิมการ์ด ตั้งชื่อซิมสำหรับ Apple Watch เมื่อตั้งค่าเสร็จ ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน ตัว Apple Watch ก็จะทำการลงทะเบียนกับเครือข่ายและจับสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เหมือนเป็นโทรศัพท์เครื่องหนึ่ง เพียงแต่ว่าในจุดนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับโอเปอเรเตอร์ที่จะนำมาให้บริการ

ทรูมูฟ เอช พร้อมให้บริการรายแรก เอไอเอส ตามมาแล้ว

เบื้องต้น ทางทรูมูฟ เอช ถือเป็นโอเปอเรเตอร์รายแรกที่นำบริการดังกล่าวมาให้ใช้งานกันในประเทศไทย โดยเริ่มเปิดให้ลูกค้าทั่วไปสามารถซื้อ Apple Watch 3 GPS+Cellular ได้ตั้งแต่วันนี้ (5 เมษายน) ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ และลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม

สำหรับโปรโมชัน Apple Watch ของทางทรูมูฟ เอช จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ใช้งานแพกเกจ 499 บาทขึ้นไป รับสิทธิใช้งานฟรี 6 เดือน หรือถ้าใช้งานแพกเกจ 1,099 บาทขึ้นไป จะได้รับสิทธิใช้งานฟรี 12 เดือน ส่วนลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมที่สมัครแพกเกจ 1,099 บาทขึ้นไปจะใช้งานฟรี 24 เดือน

หลังจากหมดระยะเวลาโปรโมชันค่าบริการ 4G eSIM จะอยู่ที่เดือนละ 199 บาท โดยปริมาณการใช้งานจะคิดรวมกับแพกเกจหลักที่ใช้งาน และจำกัดต่อ 1 เบอร์สามารถผูกกับ Apple Watch ได้ไม่เกิน 5 เรือน

ส่วนค่ายอื่นๆ ทางแอปเปิลระบุว่า กำลังอยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อมของเครือข่ายให้รองรับการใช้งาน 4G eSIM ตามมาตรฐานที่แอปเปิลกำหนดไว้ ซึ่งทางทรูมูฟ เอช เตรียมระบบได้เสร็จก่อน ก็เลยได้เป็นโอเปอเรเตอร์รายแรกที่วางจำหน่าย

ล่าสุดทาง เอไอเอส ก็ได้ประกาศวางจำหน่าย Apple Watch 3 Cellular ในวันที่ 10 พ.ค.นี้ โดยจะให้สิทธิลูกค้าเดิมใช้งานได้ฟรี 6 เดือน รวมถึงลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม และใช้ฟรี 12 เดือนเมื่อใช้งานแพกเกจขั้นต่ำ 1,099 บาทขึ้นไป สำหรับลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ และลูกค้าเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน

ส่วนลูกค้าเดิม หรือย้ายค่ายเบอร์เดิมมาใช้งานแพกเกจ 1,099 บาทขึ้นไป จะได้รับสิทธิใช้งานฟรี 24 เดือน จากปกติที่มีค่าเปิดใช้งาน 299 บาท และค่าบริการรายเดือนอีก 199 บาท รวมถึงสิทธิส่วนลดเพิ่มเติมเมื่อซื้อนาฬิกาอีก 1,000 บาท

ราคา Apple Watch Series 3 GPS+Cellular

ในส่วนของราคาจำหน่าย จะมีด้วยกัน 2 รูปแบบคือราคาที่ทาง Apple Store เป็นผู้จำหน่าย จะเริ่มต้นที่ 14,900 บาท สำหรับรุ่น 38 มม. และ 15,900 บาท สำหรับรุ่น 42 มม. ไปจนถึง 49,900 บาทสำหรับรุ่นตัวเรือนเซรามิก

ส่วนราคาที่ทางทรูมูฟ เอช จำหน่ายจะเริ่มต้นที่ 15,500 บาท สำหรับรุ่น 38 มม. และ 16,500 บาท สำหรับรุ่น 42 มม. ไปจนถึงตัวเรือนสแตนเลสสตีลสูงสุดที่ 29,900 บาท และไม่มีรุ่นตัวเรือเซรามิกจำหน่าย

]]>