gaming – CBIZ Reviews – MGR Online https://cyberbiz.mgronline.com เว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ ไอที ไฮเทค เป็นส่วนหนึ่งของผู้จัดการออนไลน์ Wed, 21 Jul 2021 09:04:54 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.0 Review : ROG Phone 5 มือถือเกมมิ่งตัวแรง อุปกรณ์เสริมครบ https://cyberbiz.mgronline.com/review-rog-phone-5/ Wed, 21 Jul 2021 09:02:50 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=35645

ในบรรดาอุปกรณ์เกมมิ่งชื่อของ ROG ถือว่าเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงคู่กับผู้บริโภคมาตั้งแต่ในยุคของคอมพิวเตอร์ ต่อเนื่องมายังบนสมาร์ทโฟนที่ออก ROG Phone ออกมาต่อเนื่อง จนถึงรุ่นล่าสุดคือ ROG Phone 5 ที่ยังคงความโดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพได้อย่างน่าสนใจ

จุดเด่นหลักของ ROG Phone 5 คือมากับชิปเซ็ต Snapdragon 888 5G จอที่ใส่อัตราการแสดงผลมาถึง 144 Hz แบตเตอรี 6,000 mAh พร้อมระบบควบคุมแบบ AirTrigger มาช่วยให้การเล่นเกมทำได้สนุกขึ้น และเอกลักษณ์ที่พลาดไม่ได้อย่าง Aura RGB โลโก้ที่สามารถปรับแต่งสีไฟได้ตามต้องการ

ROG Phone 5 วางจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น โดยยังคงใช้ชิปเซ็ตหลักเหมือนกันคือ Snapdragon 888 5G แตกต่างตรงที่รุ่นเริ่มต้น RAM 8 GB ROM 128 GB ในราคา 22,990 บาท และรุ่น RAM 16 GB ROM 256 GB ในราคา 29,990 บาท

ข้อดี

  • สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง พร้อมระบบควมคุม AirTrigger
  • ประสิทธิภาพสูง รองรับการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี
  • มีอุปกรณ์เสริมให้ใช้งานควบคู่ไปด้วย
  • จอแสดงผล Super AMOLED 144 Hz ที่ลื่นไหล
  • รองรับชาร์จเร็ว 65W

ข้อสังเกต

  • แบตเตอรีที่ให้มา 6,000 mAh ถ้าปรับเกมใช้สเปกสูงสุดใช้งานต่อเนื่องได้ไม่กี่ชั่วโมง
  • ตัวเครื่องค่อนข้างร้อนเวลาเล่นเกมในสภาพอากาศประเทศไทย
  • ไม่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น ไม่สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้
  • กล้องยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ทั่วไป เมื่อเทียบกับมือถือไฮเอนด์รุ่นอื่น

เน้นความบันเทิง โดยเฉพาะเล่นเกม

 

ด้วยการที่ ROG Phone 5 ออกแบบมาให้เป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟน ด้วยรูปลักษณ์ของตัวเครื่อง และการออกแบบอินเตอร์เฟสต่างๆ จึงสื่อถึงความล้ำสมัย ให้ความรู้สึกเป็นเกมเมอร์ขึ้นมาตามสไตล์ของ ROG ด้วยเส้นสาย และสีสันที่เป็นเอกลักษณ์

ดังนั้น ถ้าใครที่ชื่นชอบลักษณะดีไซน์เกมเมอร์ แข็งๆ แรงๆ ROG Phone 5 ถือว่าตอบโจทย์อย่างแน่นอน แต่ถ้าต้องการความเรียบหรู พรีเมียม หรือดีไซน์สมัยใหม่ อาจจะต้องมองข้ามรุ่นนี้ไป

จุดเด่นหลักของเครื่องรุ่นนี้ แน่นอนว่าอยู่ที่การเล่นเกม โดยเฉพาะเกมประสิทธิภาพสูง เพราะตัว ROG Phone 5 สามารถรีดประสิทธิภาพของกราฟิกเกมได้ออกมาสูงสุด และที่สำคัญคือเล่นได้อย่างลื่นไหลด้วย

ทีมงานทดสอบกับ Genshin Impact ที่ปรับการแสดงผลสูงสุด ปรับเฟรมเรทเป็น 60 fps ตัวเครื่องก็ยังรองรับได้อย่างสบายๆ เล่นได้ลื่นไหลมากๆ เมื่อเทียบกับแฟลกชิปหลายๆ รุ่น

แต่ที่ต้องแลกมาก็คือความร้อนสะสมของตัวเครื่องที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยถ้าเล่นในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิของตัวเครื่องจะขึ้นไปอยู่ที่ราว 40-50 องศาเซลเซียส แต่ถ้าในอุณหภูมิปกติของประเทศไทย มีโอกาสที่ตัวเครื่องจะร้อนไปถึง 60 องศาเซลเซียส

แน่นอนว่า เมื่อขึ้นไประดับ 60 องศาฯ การถือจับเพื่อเล่นเกมอาจจะไม่สะดวกแล้ว เพราะตัวเครื่องสะสมความร้อนมากเกินไป ดังนั้นแนะนำให้ใช้งานคู่กับอุปกรณ์เสริมอย่างพัดลมระบายอากาศ (AeroActive Cooler )

เมื่อลองใช้งานเล่นเกมคู่กับ AeroActive Cooler พบว่าตัวพัดลมช่วยลดความร้อนสะสมลงไปได้ประมาณ 10 องศา และในขณะเดียวกัน ก็ยังใช้จับถือเครื่องได้เข้ากับมือมากขึ้นด้วย

ไม่นับรวมถึงการควบคุมเกมที่เพิ่มขึ้น จากเดิมที่มี AirTrigger บริเวณขอบบนซ้ายขวาเครื่อง ก็จะเพิ่มปุ่มควบคุมให้อีก 2 ปุ่มที่ปริเวณปีกของพัดลมระบายอากาศ ช่วยให้กดคำสั่งสำหรับการเล่นเกมต่างๆ ได้สะดวกขึ้น

การเพิ่ม AeroActive Cooler 5 ที่เชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตพิเศษบริเวณข้างเครื่อง ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อสาย USB-C สำหรับชาร์จ และหูฟัง 3.5 มม. ขณะเล่นเกมไปได้ด้วย

จากเดิมที่พอร์ตเหล่านี้อยู่ด้านล่างของเครื่อง ทำให้เวลาถือเล่นเกมในแนวนอน มือขวาจะไปบังพอร์ตเชื่อมต่อเหล่านั้น ทำให้ถ้าเสียบใช้งานไปด้วยก็จะไม่สะดวกกับการเล่นเกม

ความสามารถของ AeroActive Cooler 5 อีกอย่างก็คือการเป็นขาตั้งสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดดู YouTube หรือ Netflix เพื่อความบันเทิงได้อย่างสบายๆ โดยวางตั้งไว้บนพื้นโต๊ะ หรือพื้นผิวเรียบๆ ได้ทันที

เพราะในเรื่องของพลังเสียงใส่ลำโพงคู่หน้ามาให้ใช้งาน พร้อมรองรับ Hi-Res Audio ภายในใส่ชิป ESS DAC มาช่วยขับเสียงให้กับหูฟังผ่านพอร์ต 3.5 มม. ด้วย

เอกลักษณ์ที่ไปกับ Aura RGB

กลับมาที่ดีไซน์ของ ROG Phone 5 ตัวเครื่องยังมากับการออกแบบที่สื่อถึงความแข็งแกร่งของตัวเครื่อง ด้วยการนำวัสดุอย่างอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง มาตัดกับสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของ ROG อยู่แล้ว

ขนาดตัวเครื่องของ ROG Phone 5 จะอยู่ที่ 173 x 77 x 8.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 239 กรัม ซึ่งถือว่าตัวเครื่องค่อนข้างหนัก แต่เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความแข็งแรง และงานประกอบที่แน่นหนาชัดเจน

หน้าจอแสดงผลที่เลือกใช้จะเป็น Super AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว (2448 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR 10+ ที่ให้ Refresh Rate สูงถึง 144 Hz รองรับการสัมผัสที่ 300 Hz ให้ความหน่วงต่ำถึง 24.3 มิลลิวินาที พร้อมกระจก Gorilla Glass Victus เพิ่มความแข็งแกร่งให้หน้าจอ

บริเวณขอบบนของหน้าจอเยื้องไปทางขวา จะมีกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซลซ่อนอยู่ ไม่ได้เป็นกล้องแบบเจาะรู หรือทำเป็นติ่งลงมาเฉพาะกล้องหน้าแต่อย่างใด

บริเวณขอบข้างขวาเครื่องนอกจากเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่มเปิดเครื่องแล้ว ตรงสัญลักษณ์ ROG ยังทำหน้าที่เป็น AirTrigger ให้เป็นพื้นที่สัมผัสเพื่อสั่งงานหน้าจอระหว่างเล่นเกมเพิ่มเติมได้ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นหลักของ ROG Phone ก็ว่าได้

ถัดมาทางซ้าย ตามปกติจะมีจุกยางปิดพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และขั้วเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอยู่ ถัดมาก็คือช่องใส่ถาดซิมสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของ ROG ส่วนขอบด้านบนจะปล่อยไว้โล่งๆ

ด้านล่างจะมีทั้งพอร์ต USB-C และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ ตัวเครื่องรองรับการชาร์จเร็วที่ 65W โดยภายในเป็นแบตเตอรีแบบคู่รวมกันแล้วอยู่ที่ 6000 mAh

ด้านหลังเครื่องเป็นที่อยู่ของกล้อง 3 เลนส์ ประกอบด้วยเลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 13 ล้านพิกเซล และมาโคร มาช่วยในการวัดระยะเพิ่มเติม โดยสามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 8K/30fps ได้ รองรับกันสั่นแบบ 3 แกน

ถัดลงมาคือแผงไฟ Aura RGB ที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งสีได้เพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของ ROG Phone ทุกๆ รุ่นก็ว่าได้ ทำให้เครื่องรุ่นนี้เวลาเปิดเล่นเกม หรือใช้งานจะมีไฟส่องสว่างออกมาจากหลังเครื่องตลอดเวลา

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องนอกจากตัวเครื่องแล้ว ก็จะมีเคสที่ออกแบบเฉพาะเว้นพื้นที่ Aura RGB ไว้ให้แสดงผลได้ชัดเจน สายชาร์จ USB-C และอะเดปเตอร์ 65W มาให้ด้วย โดยไม่มีหูฟัง 3.5 มม. มาให้

โหมดใช้งาน และฟีเจอร์น่าสนใจ

สำหรับการใช้งาน ROG Phone 5 จะมีความน่าสนใจคือผู้ใช้สามารถเลือกสลับระหว่างโหมดประสิทธิภาพสูง (X Mode+) และโหมดใช้งานปกติได้ ซึ่งจะแสดงผลให้เห็นบนอินเตอร์เฟสของหน้าจอเลย ด้วยการเปลี่ยนภาพพื้นหลังจากสีดำปกติ มาเป็นสีแดงที่สื่อถึงความแรง

ถัดมาคือผู้ใช้สามารถเข้าไปปรับแต่งเพิ่มเติมของ X Mode ได้ในส่วนของคอนโซล เพื่อเลือกปรับแต่งการทำงานต่างๆ ของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรีดประสิทธิภาพให้มากที่สุด โหมด Dynamic เพื่อปรับการใช้งานตามรูปแบบการใช้ และโหมดประหยัดพลังงาน ที่จะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานบนแบตเตอรี

นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปปรับแต่งเอฟเฟกต์แวงเพิ่มเติม กรณีที่เชื่อมต่อกับ Aero Cooling 5 ก็สามารถปรับความเร็วของพัดลมได้ ตั้งระบบ AirTriggers ต่างๆ ได้จากในคอนโซลควบคุมนี้

ในขณะเล่นเกม ผู้ใช้ยังสามารถลากบริเวณขอบซ้ายของหน้าจอเข้ามา เพื่อแสดงแผงควบคุม Game Genie เพื่อตั้งค่าเกี่ยวกับเกมเพิ่มเติมได้ ในจุดนี้จะมีการแสดงผลการทำงานของตัวเครื่อง รวมถึงเฟรมเรทการแสดงผล และอุณหภูมิตัวเครื่องด้วย

จะเห็นได้ว่าฟีเจอร์ต่างๆ ของ ROG Phone 5 ถือว่าออกมาเพื่อรับกับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งแน่นอนว่าต้องถูกใจผู้ที่ชื่นชอบเล่นเกมอย่างแน่นอน

จุดที่น่าเสียดายอย่างหนึ่งของ ROG Phone 5 คือเรื่องของกล้องที่แม้จะให้ความละเอียดมาถึง 64 ล้านพิกเซล แต่ด้วยระบบการประมวลผลภาพต่างๆ ภาพที่ได้ออกมาอยู่ในระดับทั่วไป ไม่ได้ให้ความรู้สึกว้าวเหมือนในไฮเอนด์สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ แต่อย่างใด

สเปก

สำหรับสเปกของ ROG Phone 5 จะมากับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 5G มีตัวเลือก RAM 8/12 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 128 / 256 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 11

การเชื่อมต่อรองรับ 5G สามารถใส่ใช้งานได้ 2 ซิมพร้อมกัน WiFi 6 บลูทูธ 5.2 รองรับ NFC และมีฟีเจอร์พิเศษอย่าง AirTriggers ให้สัมผัสข้างเครื่องในการสั่งงาน รวมถึงใส่ลำโพงคู่หน้ามาให้ด้วย

สรุป

ROG Phone 5 ถือว่าออกแบบมาได้ตอบโจทย์การเล่นเกมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเล่นเกมในห้องแอร์ เพราะกลายเป็นว่าถ้าใช้งานในสภาพอุณหภูมิปกติ ตัวเครื่องจะค่อนข้างร้อนเมื่อเล่นเกมหนักๆ ทำให้ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่างพัดลมมาช่วย

แน่นอนว่า ถ้าเป็นเกมเมอร์ ที่มีความเชี่ยวชาญสามารถเลือกปรับระดับการแสดงผลของเกมให้เหมาะสมได้ ตัวเครื่องจะไม่ประมวลผลจนร้อนขนาดนั้น และเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลแน่นอน

Gallery

]]>
Review : Lenovo Ideapad Gaming 3i เกมมิ่งโน้ตบุ๊กรุ่นเริ่มต้น https://cyberbiz.mgronline.com/review-lenovo-ideapad-gaming-3i/ Wed, 05 Aug 2020 02:57:06 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=33400

โน้ตบุ๊กเกมมิ่งราคาเข้าถึงได้ ยังคงตลาดที่หลายแบรนด์ให้ความสนใจ โดยเฉพาะ Lenovo ที่ตามปกติแล้วจะมีการแยกแบรนด์ Legion ออกมาทำตลาดเกมมิ่งโดยเฉพาะ แต่เพื่อทำให้ระดับราคาสามารถเข้าถึงได้ จึงได้เสริมสินค้าในกลุ่มนี้ด้วย Lenovo Ideapad Gaming มาให้เป็นตัวเลือก

จุดเด่นของ Lenovo Ideapad Gaming 3i คือการเป็นโน้ตบุ๊กที่มากับหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง Intel Core i Gen 10 เสริมด้วยการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 ทำราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,990 บาท และสามารถปรับแต่งได้จนถึง 32,990 บาท

พร้อมกับพัฒนาฟีเจอร์มาเสริมสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการยกระดับ ด้วยปุ่มควบคุมโหมดการทำงานอย่าง Lenovo Q Control ในการสลับโหมดใช้งานระหว่างโหมดประสิทธิภาพสูง ทำงาน และโหมดเงียบ ที่จะลดการทำงานของซีพียู และพัดลมลงให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งาน

ข้อดี

  • เกมมิ่งโน้ตบุ๊กจอ 15.9 นิ้ว
  • ราคาเริ่มต้น 25,990 บาท
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบ
  • รองรับ WiFi 6 / USB-C

ข้อสังเกต

  • ตัวเครื่องหนาตามสไตล์โน้ตบุ๊กเกมเมอร์
  • อะเดปเตอร์ 135W ขนาดใหญ่
  • ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี ในโหมดประสิทธิภาพสูงได้ราว 1 ชั่วโมง

อัปเกรดรุ่นใหม่ เสริมประสิทธิภาพ

Lenovo Ideapad Gaming 3i

ในช่วงปลายปีที่แล้วเลอโนโว มีการแนะนำไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มเกมมิ่งอย่าง Lenovo Ideapad L340 Gaming ออกสู่ตลาดมาเพื่อจับกลุ่มเกมเมอร์ที่มีงบประมาณจำกัด ซึ่ง Ideapad Gaming 3i รุ่นใหม่นี้ ถือว่าเป็นรุ่นที่เลอโนโว เลือกนำมาอัปเกรดให้ดี และคุ้มค่ากับราคามากยิ่งขึ้น

Lenovo Ideapad Gaming 3i

โดยในรุ่น Ideapad Gmaing 3i นั้นได้มีการปรับปรุงในเรื่องการระบายความร้อน ที่นำระบบ Heat Pipe มาช่วยระบายความร้อนของ GPU โดยเฉพาะ ช่วยให้ในเวลานี้เล่นเกมประมวลผลหนักๆ ความร้อนที่สะสมในตัวเครื่องจะไม่สูงมาก

ที่เหลือจะเป็นการอัปเกรดสเปกภายในอย่างการนำซีพียู Intel Core i Gen 10 H ซีรีส์มาให้เลือกใช้ โดยในรุ่นเริ่มต้นจะมากับ Intel Core i5 10300H และสามารถปรับแต่งเพิ่มเป็น Intel Core i7 10750H ได้ ตามด้วยการ์ดจอที่มีตัวเลือกให้ระหว่าง NVIDIA Geforce GTX 1650 และ GTX 1650Ti ส่วนการอัปเกรด RAM รองรับได้สูงสุดที่ 16 GB

สำหรับรุ่นที่นำมาทดสอบกันในคราวนี้ จะเป็นรุ่นที่ใช้งาน Core i7 + GTX 1650i RAM 8 GB SSD 1 TB มากับตัวเครื่องสีดำ Onyx Black ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 359 x 249.6 x 24.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม

ทั้งนี้ มีอีกจุดที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความแม่นยำในการแสดงผล Lenovo Ideapad Gaming 3i ที่มากับหน้าจอ Full HD (1920×1080 พิกเซล) นั้น ยังสามารถเลือกหน้าจอแสดงผลที่ให้ Refresh Rate 60 Hz และ 120 Hz ได้ด้วย

เน้นจอใหญ่ คีย์บอร์ดใหญ่ ใช้งานสะดวก

Lenovo Ideapad Gaming 3i

ด้วยการที่เป็นโน้ตบุ๊กสำหรับเล่นเกม การที่เลอโนโวเลือกหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว มาให้ใช้งานนั้น ถือว่าเป็นขนาดที่ตอบโจทย์ในเบื้องต้นอยู่แล้ว แต่ก็มาพร้อมกับน้ำหนักของตัวเครื่องที่หนักเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

เพียงแต่ว่าในส่วนของหน้าจอนั้น ยังมากับความละเอียดสูงสุดแค่ Full HD เท่านั้น ถ้าต้องการจอที่มีความละเอียดสูงๆ ระดับ 2K หรือมากกว่าเพื่อมาใช้ในการทำงานรุ่นนี้อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ในส่วนนั้น

Lenovo Ideapad Gaming 3i

ถัดมาในส่วนของคีย์บอร์ดถือว่า Lenovo Ideapad Gaming 3i ทำการบ้านมาได้ค่อนข้างดีว่าเกมเมอร์ต้องการไฟสีๆ ที่คีย์บอร์ด ทำให้เครื่องรุ่นนี้มากับ Blue backlit ให้ไฟสีฟ้าจากคีย์บอร์ด มาช่วยเสริมคีย์บอร์ดที่มีปุ่มกดลูกศรแยกออกมาชัดเจน

Lenovo Ideapad Gaming 3i

อีกความโดดเด่นก็คือการให้ปุ่มกดตัวเลขแยกออกมา ทำให้กลายเป็นคีย์บอร์ดแบบเต็มรูปแบบ แต่ละปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือ ทำให้เวลาพิมพ์สัมผัสทำได้แม่นยำมากขึ้นด้วย ส่งผลให้การใช้งานคีย์บอร์ดถือว่าทำมาได้ดี การพิมพ์ หรือการควบคุมในการเล่นเกมทำได้ลื่นไหลดี

แต่ในส่วนของแทร็กแพดนั้น แม้ว่าจะมีความแม่นยำสูง แต่ด้วยระบบปฏิบัติการทำให้การควบคุมยังติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง ซึ่งคิดว่าน่าจะปรับแต่งมาให้ควบคุมได้ลื่นไหลมากกว่านี้ โดยเฉพาะการทำงานแบบมัลติทัช

Lenovo Ideapad Gaming 3i

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของ Lenovo Ideapad Gaming 3i คือการที่ให้พอร์ตมาค่อนข้างครบ โดยไล่จากทางฝั่งซ้ายจะมีช่องเสียบอะเดปเตอร์ชาร์จไฟ LAN HDMI USB 3.1 USB-C ช่องเสียบหูฟัง

Lenovo Ideapad Gaming 3i

ส่วนทางฝั่งขวาจะมีช่องล็อก Kensington มาให้ กับ USB อีกหนึ่งพอร์ตไว้เชื่อมต่อกับเมาส์เพิ่มเติม ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายจะนั้นให้มาทั้ง WiFi 6 และบลูทูธ 5.0 ดังนั้นถือว่าให้มาครบถ้วนตามยุคสมัย

ปุ่มลัดสลับโหมดประหยัดพลังงาน

ด้วยการที่เป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก ทำให้เมื่อเปิดโหมด Performance นั้นจะทำให้ใช้พลังงานของแบตเตอรีนั้นหมดเร็วกว่าปกติ ทำให้ Lenovo มีการพัฒนา Lenovo Q Control ขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้สามารถกดปุ่ม Fn+Q เพื่อสลับระหว่างโหมดใช้งานทั้ง Performance Work และ Quiet Mode ใช้งานได้ทันที

หรือในกรณีที่ไม่อยากกดปุ่มสลับใช้งานก็สามารถกดที่ไอค่อนแบตเตอรีบนหน้าจอเพื่อเข้าสู่ Lenovo Vantage เพื่อปรับโหมดใช้งานได้เช่นเดียวกัน เท่าที่ทีมงานทดสอบใช้งานดู เมื่อเข้าสู่โหมดประสิทธิภาพสูง เปิดเล่นเกมหนักๆ แบตเตอรีจะใช้งานได้ต่อเนื่องราว 1 ชั่วโมงเท่านั้น

ในกรณีกลับกันถ้าเป็นเป็นโหมดใช้งานทั่วไป แล้วใช้ในการทำงาน หรือเล่นเน็ต ตัวเครื่องจะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องราว 5-6 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่าขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานด้วย แต่ด้วยการที่ออกแบบมาให้เป็นเกมเมอร์ แนะนำให้พกอะเดปเตอร์ไปใช้งานด้วยจะดีที่สุด

เมื่อพูดถึงอะเดปเตอร์ที่ให้มากับ Ideapad Gaming 3i นั้น รองรับการชาร์จได้ถึง 135W ทำให้ชาร์จแบตเตอรีได้เร็ว แต่ก็แลกมากับขนาดของอะเดปเตอร์ที่ค่อนข้างใหญ่ ยิ่งเมื่อพกพาร่วมกับตัวเครื่องแล้ว จะทำให้พกพาค่อนข้างยาก

ในส่วนของการตั้งค่าลัดนั้น Lenovo ยังเปิดให้สามารถเลือกปิดกล้อง ปิดไมค์ ปิดเสียง และปิดไฟคีย์บอร์ดได้จากปุ่มลัดบนหน้าจอด้วย และถ้าต้องการดูรายละเอียดของเครื่องเพิ่มเติม ก็สามารถกดเข้าไปในโปรแกรมต่อได้ทันที

เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมา จะมีกราฟิดแสดงผลการทำงานของ CPU RAM พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง จนถึงการเลือกปรับระบบระบายความร้อน ปิดทัชแพด เปิดฟีเจอร์ชาร์จเร็ว เข้ารหัสการใช้งาน WiFi เพื่อให้เชื่อมต่อได้อย่างปลอดภัยเป็นต้น

ทดสอบประสิทธิภาพ

ในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพ ทั้ง PCMark10 และ 3DMark10 สามารถดได้จากภาพด้านล่างนี้

สรุป

Lenovo IdeaPad Gaming 3i ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นเริ่มต้นสำหรับเกมเมอร์ที่มีงบประมาณจำกัดได้อย่างน่าสนใจ เพราะราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 25,990 บาท เท่านั้น แต่สเปกที่ให้มาถือว่าเล่นเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างสบายๆ

อีกกลุ่มผู้ใช้งานที่เหมาะกับเครื่องรุ่นนี้ก็คือผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง ในระดับราคาที่เหมาะสม มีระบบระบายความร้อนที่ดี ดีไซน์เรียบๆ แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนัก และตัวเครื่องขนาดใหญ่ด้วย

]]>
Review : Lenovo IdeaPad L340 Gaming 15 โน้ตบุ๊กเกมเมอร์ราคาประหยัด https://cyberbiz.mgronline.com/review-lenovo-ideapad-l340-gaming-15/ Wed, 13 Nov 2019 03:52:27 +0000 https://cyberbiz.mgronline.com/?p=31626

การจะเลือกซื้อโน้ตบุ๊กสำหรับเกมมิ่งในปัจจุบัน เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น และระดับราคาเครื่องก็ถูกปรับให้ต่ำลง จากสมัยก่อนที่ต้องมีประมาณ 3 หมื่นบาทขึ้นไป แต่ปัจจุบัน 2 หมื่นกลางๆ ก็สามารถหาซื้อโน้ตบุ๊กเกมมิ่งมาใช้งานได้แล้ว

โน้ตบุ๊กรุ่นที่ว่าก็คือ Lenovo IdeaPad L340 ที่ทางเลอโนโว วางไว้ให้เป็นรุ่นเริ่มต้นของผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงสำหรับเล่นเกมได้ลื่นไหล จากทั้งหน่วยประมวลผลระดับ Core i5 คู่กับการ์ดจอ GTX1050

ข้อดี

เกมมิ่งโน้ตบุ๊กราคาเริ่มต้น 2 หมื่นกลางๆ

จอใหญ่ 15”

พอร์ตเชื่อมต่อครบ

มี TrueBlock Privacy Shutter มาให้ปิดกล้องหน้า

ข้อสังเกต

อะเดปเตอร์ชาร์จขนาดใหญ่ทำให้พกพายาก

รุ่นเริ่มต้น สเปกยังไม่สูงขนาดเล่นเกมปรับสุดได้ลื่นๆ

ภาพรวมเครื่อง

ตามปกติแล้วโน้ตบุ๊กเกมเมอร์ส่วนใหญ่จะมีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อแสดงถึงความแรงของตัวเครื่อง แต่ไม่ใช่กับ Lenovo IdeaPad L340 Gaming 15 รุ่นนี้ เพราะเลอโนโว ยังเน้นถึงความเรียบง่ายในการออกแบบ ให้เป็นเหมือนโน้ตบุ๊กสำหรับการทำงานทั่วไป

ตัวเครื่อง IdeaPad L340 มากับสีดำกราไนต์แบล็ก โดยมีสัญลักษณ์ของ Lenovo สีน้ำเงินอยู่ที่ขอบเครื่องเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเป็นลูกเล่นการออกแบบบริเวณฐานเครื่องที่มีการตัดมุมบริเวณของลำโพง เพื่อให้ตัวเครื่องดูบางลง ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 363 x 254.6 x 23.9 มม. น้ำหนัก 2.2  กิโลกรัม

ส่วนเมื่อกางหน้าจอขึ้นมาแล้วจะพบกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD IPS โดยผู้ใช้สามารถกางจอได้ถึง 180 องศา ด้านบนหน้าจอมีกิมมิคเล็กๆ ที่เลอโนโวใส่มาให้ใช้งานกับกล้องเว็บแคมคือ TrueBlock Privacy Shutter ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนแถบมาปิดกล้องหน้าเมื่อไม่ใช้งานได้ทันที

จากหน้าจอลงมาเป็นคีย์บอร์ดแบบ Full Size ที่มีปุ่มตัวเลขมาให้กดใช้งานด้วย แต่ก็แลกมากับปุ่มลูกศรขึ้นลงที่มีขนาดเล็กลง และปุ่ม Enter ที่มีลักษณะเหมือนหัวคว่ำลงแทนรูปแบบเดิม ตามลงมาด้วยทัชแพด ที่อยู่เฉียงมาทางซ้ายเล็กน้อย

คีย์บอร์ดของ IdeaPad L340 Gaming 15 มีการเพิ่มความพิเศษเข้ามาด้วยไฟ LED Backlit ที่สามารถปรับความสว่างได้ โดยแสงที่ออกมาจะเป็นโทนสีฟ้า เดียวกับตัวเครื่อง รวมถึงบริเวณช่องพัดลมระบายอากาศ ก็มีการนำสีฟ้ามาใช้ด้วย

สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ จะอยู่ทางฝั่งซ้ายของเครื่องทั้งหมด เริ่มจากช่องเสียบสายชาร์จ พอร์ต LAN HDMI USB 3.1 2 พอร์ต ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และ USB-C ส่วนทางขวาเป็นช่องล็อก Kensington

Gallery

เพื่อเกมเมอร์ราคาประหยัด

ด้วยการที่เลอโนโว ต้องการเพิ่มไลน์สินค้ามาจับกลุ่มลูกค้าเกมเมอร์ จากเดิมที่นำ Region มาเป็นแบรนด์หลักในการทำตลาดเกม แต่ด้วยระดับราคาของ Region ที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้มีการปรับไลน์ของ IdeaPad บางรุ่นให้รองรับเกมเมอร์ด้วย

Lenovo IdeaPad L340 Gaming 15 จึงกลายเป็นคำตอบของเลอโนโว ในการเข้ามาเจาะผู้ใช้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กระดับราคาเริ่มต้นที่ 2 หมื่นต้นๆ แต่ได้โน้ตบุ๊กที่มีการ์ดจอแยก

แต่ด้วยระดับราคาเริ่มต้นที่ 2 หมื่นบาท ทำให้รุ่นที่ได้จะใช้หน่วยประมวลผลอย่าง Intel Core i5 คู่กับการ์ดจอ GTX 1050 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้เป็นรุ่นที่สเปกแรงมากๆ จนเหมาะกับการเล่นเกมฮาร์ดคอร์ทุกประเภท

ดังนั้น L340 Gaming จึงกลายเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเล่นเกมออนไลน์ หรือต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงมาใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า เพราะราคาเครื่องสามารถเข้าถึงได้

สเปกเครื่อง และทดสอบประสิทธิภาพ

Lenovo IdeaPad L340 Gaming 15 จะมากับซีพียู Intel Core i5 9300H ที่เป็น Gen 9 RAM 12 GB โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้คู่กับฮาร์ดดิสก์แบบปกติ สูงสุด 2 TB หรือ HDD 1 TB คู่กับ SSD ซึ่งระดับราคาก็จะแตกต่างกันไป

ส่วนของระบบปฏิบัติการทำงานบน Windows 10 Home รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi 802.11ac และบลูทูธ 4.2

ในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพ สามารถดูได้จากภาพด้านล่าง

สรุป

หากใครกำลังมองหาโน้ตบุ๊กสำหรับเล่นเกม ที่ไม่ได้เน้นคุณภาพที่สูงมากๆ Lenovo IdeaPad L340 Gaming น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากด้วยระดับราคาเริ่มต้นที่ 24,990 จะได้ทั้ง Core i5 และ GTX 1050 และสามารถเลือกเพิ่มเป็น Core i7 คู่กับ GTX 1650 ได้ในราคา 29,990 บาท

ดังนั้นถ้างบประมาณอยู่ในช่วงไม่เกิน 3 หมื่นบาท แนะนำให้ลองปรับซีพียู และการ์ดจอขึ้นไปเป็นคู่หลังแทน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และรองรับการเล่นเกมได้อย่างสบายใจมากขึ้นด้วย

]]>