ถ้ามองตามความเป็นจริง Mi Mix 2S ถือเป็นรุ่นที่อัปเกรดในแง่ของสเปกภายในเป็นหลัก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mi Mix 2 ที่เข้ามาทำตลาดในไทยช่วงปลายปีที่ผ่านมา และทีมงานไซเบอร์บิสเคยรีวิวมาก่อนแล้ว

ดังนั้น ในรีวิวนี้ จึงเน้นพูดถึงประสิทธิภาพในการใช้งานโดยรวมมากกว่า เพราะว่าด้วยการที่หลักๆแล้ว ทั้งในแง่ของดีไซน์ และฟีเจอร์ที่ให้มาภายในจะใกล้เคียงเดิม เพิ่มเติมด้วยกล้องคู่ที่ฉลาดขึ้น หน่วยประมวลผลที่เร็วขึ้น และแบตเตอรีที่อึดขึ้น

ตัวเครื่องเซรามิคสวยงาม

รูปร่างโดยรวมของ Mi Mix 2S ยังมาถกับสมาร์ทโฟนที่มีจอแสดงผลเต็มพื้นที่ (ไม่มีรอยบาก) ที่ขอบบน แต่ใช้วิธีการเว้นขอบล่างของหน้าจอ เพื่อเป็นที่อยู่ของกล้องหน้าแทน ขนาดของ Mi Mix 2S จะอยู่ที่ 150.9 x 74.9 x 8.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 191 กรัม ซึ่งถือว่าตัวเครื่องจะแคบกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย แต่ก็หนาขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน

สำหรับขนาดหน้าจอยังอยู่ที่ 5.99 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1080 พิกเซล ให้ความละเอียดเม็ดสีที่ 403 ppi โดยขนาดจอคิดเป็นสัดส่วน 81.9% ของตัวเครื่อง เทียบกับรุ่นก่อนหน้าออยู่ที่ 80.8% ส่วนล่างหน้าจอที่มีขอบจะเป็นที่อยู่ของกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

หลังเครื่องจะเป็นจุดที่มีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ด้วยการหันมาใช้งานกล้องคู่ ที่วางในแนวตั้งเหมือนกับบน iPhone X โดยมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ตรงกึ่งกลางเหมือนเดิม ตามด้วยตัวอักษรระบุชื่อแบรนด์ ที่จะคอยสะท้อนกับเงาแสงออกมาให้เห็น

ส่วนรอบๆตัวเครื่องเริ่มจากทางซ้ายจะมีที่ใส่ถาดซิม รองรับ 2 นาโนซิมการ์ด ไม่สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้ ทางขวาเป็นปุ่มเปิด–ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง ด้านบนจะมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 ส่วนด้านล่างจะมีหลักๆเป็นพอร์ต USB-C ลำโพง และไมโครโฟนสนทนา

สำหรับสเปกภายในของ Mi Mix 2S จะมากับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 RAM 6GB และ ROM เริ่มที่ 64 GB ที่น่าเสียดายคือไม่สามารถเพิ่มไมโครเอสดีการ์ดได้ ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 8.0 ที่ครอบอินเตอร์เฟส MIUI 9.5

แบตเตอรีที่ให้มาอยู่ที่ 3,040 mAh รองรับระบบ QuickCharge 3.0 และรองรับ Qi Wireless Charge ซึ่งเป็นจุดที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้า ด้านการเชื่อมต่อรองรับ 3G/4G LTE Cat 18 ที่รองรับได้สูงสุดถึง 3CA 1.2 Gbps / 100 Mbps

กล้องคู่พร้อม AI

กล้องหลักคู่ที่ Xiaomi เลือกนำมาใช้ในเครื่องรุ่นนี้ เลนส์ไวด์หลักจะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8 ที่เป็น Sony IMX 363 คู่กับเลนส์เทเล 12 ล้านพิกเซล f/2.4 ของ Samsung S5K3M3 ใช้ระบบโฟกัสแบบ PDAF มาช่วย รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K 30fps

แน่นอนว่า Xiaomi เป็นอีกแบรนด์ที่นำ AI มาช่วยในการประมวลผลภาพ และเลือกโหมดในการถ่ายภาพให้อัตโนมัติ ดังนั้น ในการใช้ Mi Mix 2S ถ่ายภาพ ทำให้ได้รูปที่มีมิติเพิ่มมากขึ้น เมื่อใช้ถ่ายภาพในโหมดบุคคล (Portrait) ก็ทำการเบลอหลังได้เนียนขึ้นด้วย

ขณะเดียวกัน ด้วยการที่เพิ่มเลนส์เทเล มาให้ด้วยทำให้เวลาถ่ายภาพในระยะไกล (สภาพแสงปกติ) ทำได้ชัดเจนขึ้น โดยระยะที่ซูมเข้าไปก็จะประมาณในภาพตัวอย่างที่เห็น ยังไม่นับรวมกับโหมดโปรที่ทำให้มาใช้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ Xiaomi เพิ่งนำ AI มาใช้งานในการประมวลผลภาพทำให้ภาพที่ออกมายังไม่ค่อยสุดเท่าไหร่แต่ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีและมีโอกาสที่จะพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

เล่นเกม ดูหนัง จอใหญ่เต็มตา

ถัดมาเมื่อลองใช้งานในแง่ของความบันเทิง ต้องยอมรับว่า Mi Mix 2S ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี จากการที่จอใหญ่ขนาด 5.99 นิ้ว และเป็นแบบเต็มจอ ทำให้เมื่อนำมาใช้ในการเล่นเกมอย่าง PUBG ก็ทำได้ลื่นไหล แม้ปรับสุด

ลองดูภาพยนต์ผ่านบริการสตรีมมิ่งไม่ว่าจะเป็น Netflix iFlix หรือเอามาใช้ดูฟุตบอลโลก ผ่าน True ID ก็ตอบโจทย์ได้ดี จะมีก็เพียงบางแอปที่ยังไม่ได้อัปเดตให้รองรับการแสดงผลแบบ 18:9 เลยทำให้ตรงขอบมีแถบดำๆอยู่นิดหน่อย

เมื่อลองทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่องต่างๆ ผลเทสที่ออกมาอยู่ในเกณฑ์สูงจากหน่วยประมวลผลที่ใช้ แบตเตอรีที่ถือว่าปรับแต่งมาเป็นอย่างดีบน MIUI 9.5 ก็ข่วยให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมงแน่นอน

อินเตอร์เฟส MIUI 9.5 ใช้งานง่าย

มองย้อนกลับมาในแง่ของการใช้งานเบื้องต้น MIUI 9.5 ของ Mi Mix 2S ถือว่าเป็นหนึ่งในอินเตอร์เฟสการใข้งานบนแอนดรอยด์ ที่มีความง่ายต่อผู้ใช้อันหนึ่ง ด้วยการปรับให้เหลือแค่หน้าจอหลักที่ใช้ในการแสดงผล ไม่มีหน้ารวมแอป ทำให้เวลาดาวน์โหลดแอปมาเพิ่มเติมก็จะเพิ่มหน้าจอไปเรื่อยๆ

แถบการแจ้งเตือน และปรับตั้งค่าด่วนที่ให้มา สื่อสารได้เข้าใจง่าย ผู้ใช้สามารถเข้าไปปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งผ่านดาต้ามือถือ ไวไฟ เปิดไฟฉาย ปิดเสียง จับภาพหน้าจอ เชื่อมต่อบลูทูธ ปรับความสว่าง เปิดโหมดใช้งานบนเครื่องบิน ล็อกหน้าจอ ล็อกการหมุนหน้าจอได้จากแถบนี้ทันที

ยังมีในส่วนของการใช้ท่าทางอย่างการปัด 3 นิ้ว เพื่อจับภาพหน้าจอ กดปุ่มโฮมค้างเรียกใช้ Google Assistant ที่มาให้ใช้งานกัน แถมส่วนของปุ่มควบคุมล่างหน้าจอยังเพิ่มปุ่มลัดอย่างการล็อกหน้าจอ และจับภาพหน้าจอเข้าไปเพิ่มได้ด้วย

นอกจากนี้ เมื่อใช้งานจากหน้าหลังถ้าปาดไปทางขวา จะเข้าสู่หน้าพิเศษ ที่จะมีทั้งปุ่มค้นหา มีแถบการ์ดแสดงแอปที่ใช้งานบ่อยๆ เลือกสร้างบันทึก สร้างตารางนัดหมายต่างๆได้จากหน้านี้ด้วย

ส่วนแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้ในเครื่อง นอกจากกูเกิล เซอร์วิส และแอปพื้นฐานทั่วไปแล้ว ก็จะมีตัวจัดการไฟล์ Mi Drop ไว้คอยรับส่งไฟล์ระหว่างเครื่อง มีตัวทำความสะอาด ไว้ล้างแคช / RAM ภายในเครื่องเพื่อให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้นมาให้ด้วย

ราคาเท่าไหร่–เหมาะกับใคร

เบื้องต้น Xiaomi Mi MIX 2S จะวางจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่น 6GB 64GB ในราคา 17,990 บาท และรุ่น 6GB 128GB ในราคา 19,990 บาท โดยมีให้เลือกซื้อผ่านทั้งช่องทางออนไลน์ และตามหน้าร้านขายโทรศัพท์ทั่วไปแล้ว

ทำให้รุ่นนี้กลายเป็นทางเลือกที่เหมะกับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกสูง ในระดับราคาไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยมีจุดเด่นหลักอยู่ที่การประมวลผลที่รวดเร็ว แบตเตอรีสามารถใช้งานได้ทั้งวันสบายๆ หน้าจอแสดงผลแบบเต็มพื้นที่

แต่ก็มีข้อที่ต้องระวังคือเรื่องของการใช้งานกล้องหน้า ที่ถ้าจับ Mi Mix 2S ขึ้นมาสลับมาใช้งานกล้องหน้าทันที ภาพที่ถ่ายได้จะเป็นมุมเงย ทำให้เวลาใช้งานจริงต้องหมุนเครื่องให้กล้องขึ้นมาอยู่ด้านบนก่อน รวมถึงการที่ตัวเครื่องไม่ได้ทำมารองรับการกันน้ำ และไม่มีช่องเสียบหูฟังมาให้ด้วย