ปัจจุบันเทรนด์สมาร์ททีวีแอนดรอยด์ 4K กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จากการใช้งานที่มีความยืดหยุ่น พร้อมแอปพลิเคชันที่หลากหลายและมีความคล้ายคลึงกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตแอนดรอยด์อย่างมาก
โดยแบรนด์ TCL (ทีซีแอล) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการปรับตัวหันมาใช้แอนดรอยด์ทีวีเป็นส่วนขับเคลื่อนหลักได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะรุ่นใหม่ล่าสุดที่นำมารีวิวในวันนี้อย่าง Q7700 ที่นอกจากจะเป็นแอนดรอยด์ทีวีขนาด 55 นิ้วแล้ว เทคโนโลยีการแสดงผลภาพและฟีเจอร์เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวเพียง 34,990 บาทแล้ว ขอเรียนตามตรงเลยว่า “คุ้มค่าคุ้มราคามากสุดในตลาดตอนนี้แล้ว”
การออกแบบ
ขอเริ่มจากส่วนของจอภาพที่ทาง TCL เรียกว่า “QUHD” เพราะเป็นมาตรฐานหน้าจอมาตรฐานใหม่ที่นอกจากเรื่องความละเอียด Ultra High Definition 4K (3,840 x 2,160 หรือประมาณ 8.29 พิกเซล) และขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว แล้ว TCL ยังนำเทคโนโลยีหน้าจอระดับไฮเอนด์มาใช้งานร่วมกับ Q7700 ด้วย
เริ่มตั้งแต่พาเนลจอแบบ Black Crystal Panel ที่ช่วยลดแสงสะท้อนที่เข้ามารบกวนหน้าจอ ทำให้ภาพที่ได้จะคมชัดและมีคอนทราสต์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะสีดำจะดำสนิทและมีมิติมากขึ้น
นอกจากนั้น Q7700 ยังรองรับการแสดงเฉดสีแบบ Wide Color Gamut ที่ช่วยขยายขอบเขตการแสดงสีให้กว้างกว่า LED TV ทั่วไปถึง 30% ทำให้สีสันที่ได้จาก Q7700 จะสดใส สวยงามและมองเห็นสีสันได้มากกว่า LED TV ทั่วไป
มาดูเรื่องของงานออกแบบ โดดเด่นสุดคงเป็นเรื่องความหนาของตัวเครื่องที่บางเพียง 9.9 มิลลิเมตร (Ultra Slim) พร้อมน้ำหนักประมาณ 16 กิโลกรัม
ขาตั้งทีวีจะเป็นรูปกิ่งไม้ ผลิตจากเหล็กแข็งพิเศษ การเชื่อมต่อกับทีวีต้องใช้น็อตยึดข้างละ 2 ตัว
จุดที่น่าสังเกตบริเวณโลโก้ TCL เวลาปิดเครื่อง จะมีไฟ LED สีขาวติดขึ้น ซึ่งสร้างความหรูหราให้กับงานดีไซน์ได้อย่างดี
ส่วนวัสดุบอดี้ทั้งหมดของ Q7700 จะผลิตจากอลูมิเนียม ไทเทเนียม อัลลอยด์ ทั้งหมด ซึ่งมีความแข็งแรงมาก ยกเว้นขอบทีวีบนและล่างจะใช้เป็นพลาสติก แต่จะมีการอัดแกนกลางของขอบจอซ้ายขวาด้วยแท่งเหล็กอีกครั้งเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
ลำโพง – ติดตั้งอยู่ด้านหลังเป็นแบบสเตอริโอ กำลังขับ 8 วัตต์พร้อมวูฟเฟอร์ขับเสียงทุ้ม
ปุ่มเปิดปิดทีวี – ติดตั้งอยู่ด้านหลังพร้อม Jog สำหรับเลื่อนควบคุมเมนูในเครื่องได้
ด้านพอร์ตเชื่อมต่อ มีให้เลือกใช้หลากหลายตั้งแต่ USB2.0 1 พอร์ต/USB 3.0 1 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อคีย์บอร์ดและเมาส์, HDMI เวอร์ชัน 2.0 จำนวน 3 พอร์ต, AV/Component 1 ชุด, VGA IN (PC) 1 พอร์ต, LAN 1 พอร์ต และ SPDIF (Coaxial) Out อีก 1 ช่อง
ในส่วนรีโมทควบคุมมาพร้อมปุ่ม EPG สำหรับการใช้งานทีวีดิจิตอล และสามารถใช้ควบคุมเครื่องเล่นมีเดียต่างๆที่เชื่อมต่อผ่าน HDMI กับทีวีผ่านระบบ T-LINK ได้
สเปก
TCL QUHD TV 55Q7700 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล (ซีพียู) 64 บิต Quad-core ความเร็ว 1.5GHz ระบบปฏิบัติการเลือกใช้แอนดรอยด์ 5.1.1 Lollipop (มีแอปสโตร์) พร้อมหน่วยเก็บข้อมูลภายใน (สามารถใช้ได้) 5.3GB
ด้านภาครับสัญญาณไร้สายต่างๆ Q7700 รองรับการเชื่อมต่อ Wireless LAN (WiFi) ที่ย่านความถี่ 2.4GHz อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ (Bluetooth) ด้วย
ในส่วนภาครับสัญญาณทีวีรองรับ ดิจิตอลทีวีในบ้านเราได้สมบูรณ์แบบพร้อม Smart PVR สามารถนำแฟลชไดร์ฟมาเชื่อมต่อกับพอร์ต USB แล้วเลือกบันทึกรายการจากทีวีดิจิตอลได้ด้วย
มาถึงส่วนตั้งค่าภาพ ระบบยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพได้ตามต้องการ รวมถึงสามารถเปิดฟังก์ชัน Motion Enhancer เพิ่มการเคลื่อนไหวให้ลื่นไหลขึ้นได้ และสามารถปรับเพิ่มระดับสีรวมถึงปรับโปรไฟล์ภาพได้ตามต้องการ (โปรไฟล์ที่แนะนำคือ “ภาพยนตร์” เพราะให้เฉดสีที่กว้างตามรูปแบบ Wide Color Gamut)
หรือถ้าผู้ใช้ต้องการลบแอนดรอยด์แอปพลิเคชันก็สามารถทำได้จากส่วนตั้งค่านี้เช่นกัน
ฟีเจอร์เด่น
เพราะ Q7700 เป็นแอนดรอยด์ทีวี เมื่อเปิดเครื่องใช้งานครั้งแรก ระบบจะพาเข้าสู่หน้าโฮมสกรีนก่อน ผู้ใช้จำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อ WiFi หรือ LAN กับเราท์เตอร์อินเตอร์เน็ตให้เรียบร้อยถึงจะสามารถใช้งานระบบสมาร์ททีวีได้สมบูรณ์แบบ
จุดที่น่าสนใจที่สุดในระบบทีวีก็คือ หน้ารวมแอปพลิเคชัน โดยแอปฯส่วนใหญ่ที่ติดตั้งในทีวีจะมาจากส่วนของ AppStore ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเลือกติดตั้งได้เองตามต้องการแบบเดียวกับการใช้งานบนแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน
YouTube ได้รับการออกแบบมาเพื่อแอนดรอยด์ทีวีโดยเฉพาะ โดยผู้ใช้สามารถเลือกความละเอียดได้เหมือนกับการรับชมบนแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน
เกมบนแอนดรอยด์อย่าง Raging Thunder 2 สามารถเล่นบน Q7700 ได้ผ่านรีโมท คีย์บอร์ดและเมาส์ได้
โดย AppStore ในทีวีเครื่องนี้ TCL จะคัดกรองจาก Google PlayStore มาให้เฉพาะแอปฯที่สามารถใช้ร่วมกับ Q7700 ได้สมบูรณ์แบบ เช่น YouTube, Deezer, Facebook หรือเกม Angry Bird เป็นต้น
Go Live TV เป็นแอปฯและบริการจาก TCL ที่รวบรวมคอนเทนต์ออนไลน์จำพวกภาพยนตร์ ละครที่น่าสนใจ (ส่วนใหญ่จะเป็นหนังและละครจีน) มาให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อหรือเช่าพร้อมรับชมผ่านสมาร์ททีวีเครื่องนี้ได้
หรือถ้าต้องการชมวิดีโอ ทีวีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือท่องเว็บ เช็คข่าวสารต่างๆ เช่น จากเว็บ adintrend.com/hd หรือ www.manager.co.th ผู้ใช้สามารถเข้าผ่านเว็บบราวเซอร์บนทีวีได้เหมือนกับใช้งานบนคอมพิวเตอร์
สำหรับการใส่ข้อมูลที่ทีวี สามารถทำได้ 2 รูปแบบคือ 1.ใช้คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการ (ควบคุมด้วยปุ่มทิศทางที่รีโมททีวี) 2.ผู้ใช้นำเมาส์และคีย์บอร์ดมาเชื่อมต่อและใช้งานแบบเดียวกับคอมพิวเตอร์
รองรับการเล่นมีเดียไฟล์หลากหลายรูปแบบ – ข้อดีของแอนดรอยด์ทีวีที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ การรองรับการเล่นไฟล์มีเดียที่หลากหลายมาตั้งแต่ MP4, MP4 แบบเข้ารหัส HEVC, MKV, MKV พร้อมคำบรรยายภาษาไทย และรูปแบบไฟล์อื่นๆอีกมากมาย
ทดสอบเล่นมีเดียไฟล์แบบมีคำบรรยายภาษาไทยติดมาด้วย Q7700 สามารถถอดรหัสไฟล์คำบรรยายและแสดงผลออกมาได้คมชัดมาก
ฟีเจอร์เชื่อมต่อไร้สาย (แนะนำให้รับชมการใช้งานจากคลิปยูทูปด้านบนประกอบ)
T-cast 2.0 เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยนำคอนเทนต์จากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตมาแสดงผลบนหน้าจอทีวีทั้งแบบไร้สายและมีสาย โดย T-cast จะลดขั้นตอนการตั้งค่าต่างๆให้น้อยลง ผู้ใช้มีหน้าที่แค่เลือกรูปแบบการใช้งานเท่านั้น ส่วนอื่นระบบจะจัดการทุกอย่างให้อัตโนมัติ
สำหรับฟีเจอร์ T-cast 2.0 จะมี 3 รูปแบบใช้งานให้เลือกใช้
เริ่มจาก Wireless Mirroring ผ่านเทคโนโลยี Miracast โดยผู้ใช้สามารถโคลนหน้าจอสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ให้มาปรากฏบนหน้าจอทีวีผ่านระบบไร้สายได้ (ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดในวงแลนเดียวกัน)
MHL เป็นการเชื่อมต่อสัญญาภาพและเสียงจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์สู่ทีวีผ่าน HDMI
WiFi Direct เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อและแชร์ไฟล์จากสมาร์ทดีไวซ์กับทีวีโดยตรง คุณสามารถแชร์ไฟล์จากสมาร์ทโฟนแล้วให้ทีวีรับไฟล์พร้อมบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในทีวีได้
nScreen เป็นฟีเจอร์ต่อยอดจาก T-cast รวมกับ WiFi Direct (DLNA) ควบคุมผ่านแอปฯ nScreen จากสมาร์ทดีไวซ์ (มีให้ใช้งานบน iOS และแอนดรอยด์)
ทำให้ nScreen สามารถใช้ฟังก์ชันรีโมทควบคุมทีวีผ่าน WiFi ได้ รวมถึงสามารถใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดจากหน้าจอสมาร์ทดีไวซ์พิมพ์ข้อความและควบคุม Pointer ที่ทีวีแทนการใช้เมาส์และคีย์บอร์ดได้ด้วย
และที่เด่นสุดก็คงเป็นการทำ Media Sharing ดึงไฟล์จากสมาร์ทดีไวซ์ไปเล่นบนทีวีได้โดยตรง ซึ่งจะให้ภาพที่ชัดและเต็มความละเอียดกว่าการทำ Wireless Mirroring
ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป
เรื่องคุณภาพของภาพที่แสดงผ่าน TCL QUHD TV 55Q7700 ต้องยอมรับอย่างแรกว่าให้สีสันที่สดใสและคมชัดสูงมาก จุดเด่นของหน้าจอคงอยู่ในเรื่องขอบเขตสีที่กว้างกว่าทีวีทั่วไป รวมถึงพาเนลจอที่ดำสนิทและแทบไม่มีแสงสะท้อน ทำให้เราสามารถมองเห็นเฉดสีที่เราไม่เคยเห็นในทีวีทั่วไปได้
ส่วนในเรื่องไดนามิกภาพที่ได้ ก็ถือถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก การเล่นภาพยนตร์ที่มีฉากแสงทึมๆ หรือมีการดำเนินเรื่องเน้นช่วงกลางคืนเป็นหลัก เช่น The Revenant หรือ The Dark Knight การเล่นผ่านแอนดรอยด์ทีวีรุ่นนี้จะให้ภาพที่สบายตาและมองเห็นรายละเอียดในที่มืดชัดเจน น้ำหนักของแสงกำลังดี
ด้านความเป็นสมาร์ททีวีสายแอนดรอยด์ ส่วนนี้ถือว่า TCL ทำได้ดีพอตัว การที่ TCL ให้ AppStore มาก็ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานแอปพลิเคชันได้หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ใช้ที่มีมีเดียไฟล์ดิจิตอลจำนวนมากและต้องการเล่นผ่านสมาร์ททีวี Q7700 สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ทั้งหมด
อีกจุดที่น่าชื่นชม TCL ก็คือฟีเจอร์ T-cast และ nScreen ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเมื่อกลับมาดูราคาค่าตัวที่ TCL ตั้งไว้เพียง 34,990 บาทด้วยแล้ว TCL QUHD TV 55Q7700 น่าจะเป็นแอนดรอยด์ทีวีไม่กี่รุ่นในตอนนี้ ที่จัดอยู่ในเกณฑ์คุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด โดยเฉพาะเทคโนโลยีหน้าจอและฟังก์ชันใช้งานที่ไม่ต่างจากรุ่นไฮเอนด์ราคาแพงเลย
