Review : Huawei P9 เด่นที่กล้องหลังคู่ LEICA

126620

IMG_4535

เป็นอีกหนึ่งปีทองของหัวเว่ยหลังจากการเข้าจับมือเปิดดีลกับแบรนด์ผู้ผลิตกล้องสัญชาติเยอรมันนามว่า “ไลก้า (LEICA)” เพื่อผลิตกล้องถ่ายภาพสำหรับสมาร์ทโฟนตัวใหม่ของตนจนเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก วันนี้การร่วมมือพัฒนากล้องระหว่างหัวเว่ยและไลก้าเป็นผลสำเร็จและถูกนำมาติดตั้งอยู่ในสมาร์ทโฟนท็อปฟอร์มรุ่นใหม่ปี 2016 ของหัวเว่ยแล้วกับ P9 และ P9 Plus เพื่อหวังนำมาต่อกรกับคู่แข่งในตลาดที่ในตอนนี้ก็มีกล้องหลังที่โดดเด่นไม่แพ้กัน

สำหรับรุ่นที่เรานำมาทดสอบในบทความนี้จะเป็น Huawei P9 รุ่นหน้าจอ 5.2 นิ้ว โมเดล EVA-L09

โดยสาเหตุที่ดีลระหว่างหัวเว่ยและไลก้าเป็นที่จับตามองจากสื่อทั่วโลก เพราะว่าส่วนหนึ่งมาจากชื่อเสียงและภาพลักษณ์แบรนด์ไลก้า (Leica Camera Ag) ที่จะเลือกอยู่เฉพาะตลาดกล้องระดับบนเป็นหลัก (ไม่เน้นจับกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปหรือตลาดแมส) รวมถึงรูปแบบภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โด่งดังมานานโดยเฉพาะภาพขาวดำ ซึ่งดีลในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่เราจะได้เห็นความเป็นไลก้าเข้ามาโลดแล่นในสมาร์ทโฟน

การออกแบบ

IMG_4537IMG_4544

Huawei P9 รุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบจะมีขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้ว IPS (P9 Plus จะเปลี่ยนจอเป็น SuperAMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว) ความละเอียด Full HD 1080p วัสดุผลิตหน้าจอเป็นกระจกขอบโค้ง (2.5D Glass) ประกบกระจก Corning Gorilla Glass 4 ช่วยให้การจับถือกระชับมือขึ้น (ถ้าเป็น P9 Plus หน้าจอจะมาสามารถรับรู้แรงกดหนักเบาได้ด้วย)

ในส่วนวัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะ (Unibody aluminum) ขนาดเครื่องกว้าง 70.9 มิลลิเมตร ยาว 145 มิลลิเมตร หนา 6.95 มิลลิเมตร (กล้องหลังไม่นูนออกมาเหมือนคู่แข่ง) พร้อมน้ำหนัก 144 กรัม

กล้องหน้าสำหรับรุ่น P9 จะเป็นกล้องจากหัวเว่ยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบบฟิกซ์โฟกัส รูรับแสง f2.4 ส่วนถ้าเป็นรุ่น P9 Plus กล้องหน้าจะมาพร้อมออโต้โฟกัสด้วย

IMG_4549IMG_4560

ด้านหลัง – ส่วนหลักจะเป็นกล้องถ่ายภาพ (รายละเอียดขอยกไปอธิบายในส่วนถัดไป) พร้อมไฟแฟลชคู่ ถัดลงมาจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint sensor) สามารถใช้เป็นปุ่มสัมผัสเพื่อลั่นชัตเตอร์กล้องได้ด้วย และด้านล่างสุดจะเป็นโลโก้หัวเว่ยพร้อมรายละเอียดต่างๆ

IMG_4565IMG_4582IMG_4563

ด้านข้าง – เริ่มจากขวามือจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเปิดปิดเครื่องและปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง อีกด้านจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบ Nano Sim และการ์ดความจำ MicroSD (สำหรับรุ่นที่ขายในไทยต้องติดตามต่อไปครับว่าจะนำเครื่องโมเดล Dual Sim หรือ Single Sim เข้ามาขาย เพราะรุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบจะเป็นซิมเดียว)

IMG_4562IMG_4564

ด้านล่าง – จากซ้ายเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาเป็นช่องรับเสียงไมโครโฟนหลัก > พอร์ต USB-C > ลำโพง (สำหรับรุ่น P9 Plus จะเป็นลำโพงสเตอริโอเวลาใช้เครื่องในแนวนอน)

ด้านบน – เป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงตัวที่สอง

Leica Main Camera

IMG_4558

มาดูรายละเอียดของกล้องหลักด้านหลัง เป็นเลนส์คู่ (Dual Lens) Summarit H (Huawei) – Aspherical lens รูรับแสง f2.2 ระยะเลนส์เทียบฟูลเฟรมอยู่ที่ 27 มิลลิเมตร โดยไลก้าเป็นคนออกแบบและให้บริษัท Sunny Optical Technology จากจีนเป็นผู้ผลิต (ไลก้าใหญ่เป็นคนคุมคุณภาพ)

ด้านเซ็นเซอร์รับภาพจะใช้บริการ Sony IMX286 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (ให้อัตราส่วนภาพ 4:3) ขนาดเซ็นเซอร์รับภาพ 1.25 ไมครอน แบบ BSI CMOS ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเซ็นเซอร์รับภาพบน Samsung Galaxy S7 ถึง 90% และ iPhone 6s ถึง 270% พร้อม Laser Auto Focus และเทคโนโลยีประมวลผลภาพ IMAGEsmart 5.0

IMG_4578

นอกจากนั้นหัวเว่ยยังนำความสามารถของกล้องคู่มาพัฒนาต่อยอดจากเดิมใช้ทำเฉพาะชัดลึกชัดตื้น ก็เพิ่มเซ็นเซอร์รับภาพเข้าไป 2 ตัว 2 รูปแบบการทำงาน

โดยเซ็นเซอร์ที่กล้องตัวแรกจะทำหน้าที่เก็บภาพสีเฉพาะ RGB ส่วนกล้องตัวที่สองจะเป็น Monochrome เก็บเฉพาะภาพขาวดำ มิติภาพ จากนั้นระบบจะรวมภาพที่ได้จากเซ็นเซอร์ทั้งสองตัว ทำให้เก็บรายละเอียดของภาพได้ดีขึ้นและช่วยให้กล้องรับแสงได้มากกว่าเดิม เนื่องจากเซ็นเซอร์ขาวดำจะรับแสงได้มากกว่าเซ็นเซอร์ RGB

อีกทั้งการติดตั้งเซ็นเซอร์ Monochrome ลงในกล้องตัวที่สองทำให้ P9 สามารถถ่ายภาพขาวดำ (ในโหมดถ่ายภาพพิเศษ Monochrome) ได้เอกลักษณ์ความเป็นไลก้าผสมผสานฟิล์มลุ๊ค โดยเฉพาะไดนามิกและมิติของภาพที่มากกว่าสมาร์ทโฟนปกติเปิดถ่ายขาวดำด้วย

camera1-p9

ในส่วนซอฟต์แวร์ควบคุมกล้องถ่ายภาพ ทางหัวเว่ยและไลก้าจะร่วมกันพัฒนา โดยอินเตอร์เฟสหลักจะยังคงเอกลักษณ์ของหัวเว่ยไว้ (เน้นเรียบและใช้งานง่าย) แต่จะมีการปรับฟอนต์และเสียงชัตเตอร์ให้เป็นแบบไลก้า อีกทั้งโหมดถ่ายภาพจะเพิ่ม Monochrome Mode เข้ามา (ส่วนโหมดถ่ายภาพพิเศษอย่าง Light Painting และ Night Shot, Timelapse จะมีให้เลือกใช้งานในแบบของหัวเว่ยเช่นเดิม) รวมถึงมี Manual Mode (รองรับเฉพาะโหมดถ่ายภาพ Photo และ Monochrome) ที่เปิดใช้งานง่ายเพียงจิ้มที่ขีดสีขาวเหนือปุ่มชัตเตอร์แล้วตวัดขึ้นเท่านั้นจะพบหน้าตาส่วนปรับตั้งค่ากล้องถ่ายภาพ

โดย Manual Mode จะเปิดโอกาสให้คุณสามารถเลือกตัววัดแสง ISO มีให้เลือกตั้งแต่ 50-3,200 ความเร็วชัตเตอร์มีให้เลือกตั้งแต่ช้าสุด 30 วินาที่ – 1/4,000 วินาที สามารถปรับชดเชยแสงได้ ไปถึงการล็อกโฟกัสที่ระยะต่างๆและปรับ White Balance แบบ Manual ได้ตามต้องการ

camera2-p9

มาถึงการตั้งค่ากล้องถ่ายภาพ คุณสามารถเลือกความละเอียดที่ต้องการได้ โดยความละเอียดสูงสุดจะอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซลบนอัตราส่วนภาพ 4:3 ส่วนเมื่ออยู่ในโหมดพิเศษอย่าง Light Painting และ Night Shot ความละเอียดภาพจะทำได้แค่ 8 ล้านพิกเซลเท่านั้น

ส่วนเมนูปรับแต่งอื่นๆที่น่าสนใจจะอยู่ที่ความสามารถในการเปิดใช้ RAW Format ได้เมื่ออยู่ใน Manual Mode สามารถเลือก Film mode สไตล์ไลก้า (มีให้เลือก Standard, Vivid และ Smooth) ได้ รวมถึงสามารถเปิดปิดตัววัดระดับความลาดเอียง GRID และตั้งเวลาถ่ายได้

camera3-p9

มาถึงวิดีโอจะสามารถถ่ายที่ความละเอียดสูงสุด FullHD 1080p ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาทีได้

camera-selfie-p9beauty-mode

ตัวอย่าง Beauty mode เมื่อปรับแต่งในระดับต่างๆ (ถ้าปรับดีๆ เลือกมุมถ่ายดีๆ จะได้ภาพใบหน้าที่สวยงามแน่นอน)

และสุดท้ายกับ Beauty mode สำหรับขาเซลฟี ที่ในครั้งนี้หัวเว่ยเพิ่มระบบจดจำและสร้างโปรไฟล์ใบหน้าของผู้ถ่ายที่ถูกปรับแต่งได้ทั้ง เพิ่มขนาดดวงตา ทำคางแหลม บีบหน้า หรือสิ่งใดก็แล้วแต่เก็บไว้ในระบบ จากนั้นเมื่อผู้ใช้เริ่มถ่ายเซลฟีในสถานการณ์ต่างๆ ระบบจะตรวจจับใบหน้าของคุณ ถ้าตรงกับใบหน้าที่อยู่ในฐานข้อมูล ระบบจะปรับแต่งหน้าคุณตามโปรไฟล์ที่ตั้งไว้ให้อัตโนมัติ

สเปก

spec-p9

หน่วยประมวลผลที่ใช้ขับเคลื่อน Huawei P9 และ P9 Plus คือ HiSilicon Kirin 955 Octa-core แบ่งความเร็วเป็น 4 คอร์แรก 2.5GHz, 4 คอร์หลัง 1.8GHz พร้อมกราฟิก Mali-T880

ในส่วนแรมสำหรับรุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบเป็นโมเดล EVA-L09 ความจุ 32GB จะให้แรมมา 3GB (เหลือใช้จริงประมาณ 1.5-2GB)

ด้านการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ P9 ทุกรุ่นจะมาพร้อมเสารับสัญญาณสามเสา (Triple Antenna) ประกบเทคโนโลยี Single+ 2.0 ออกแบบมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีรวมคลื่นความถี่ Carrier Aggregation โดย 2G/3G/4G จะรองรับทุกเครือข่ายที่มีในประเทศไทยทั้งหมด

ส่วน WiFi (802.11 a/b/g/n/ac แบบ Dual Band) รองรับระบบ WiFi+ หรือระบบจัดการ WiFi และ อินเตอร์เน็ตโมบายให้ใช้งานได้ลื่นไหล ลดปัญหาสัญญาณ WiFi อ่อนแล้วอินเตอร์เน็ตใช้ไม่ได้ (แนะนำให้ปิดถ้าไม่ใช้แพกเกจอินเตอร์เน็ตโมบายแบบ Unlimited), บลูทูธ 4.2 มี NFC (เฉพาะโมเดล EVA-L09 นอกนั้นไม่มี) แบตเตอรี 3,000mAh (P9 Plus 3,400mAh)

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์เด่น

appshome-p9home-p9

Huawei P9 ทุกรุ่นจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย EMUI 4.1 ตัวล่าสุด ที่ปรับเอ็ฟเฟ็กต์และหน้าตาการออกแบบให้สอดคล้องกับแอนดรอยด์ 6.0 มากขึ้น รวมถึงมาพร้อมฟีเจอร์เด่นจากระบบปฏิบัติการ Marshmallow อย่าง “Now on tap” ก็มีให้ใช้งาน

health-p9

ในส่วนแอปฯระบบที่เพิ่มเติมเข้ามาได้อย่างน่าสนใจได้แก่ แอปฯ Health (สุขภาพ) ที่จะช่วยตรวจวัดจำนวนก้าวเดินและคำนวณแคลอรี่ในแต่ละวัน พร้อมสรุปผลเป็น Timeline ว่าเวลาใดเราเคลื่อนไหวหรือเดินไปเท่าไร

อีกทั้งในส่วนสรุปผลแคลอรี่ที่เผาผลาญยังมีระบบเปรียบเทียบกับอาหารที่เราทานเข้าไป เช่น วันนี้เดินไป 122.7 kcal เท่ากับเราเผาพลาญไข่ไป 2.5 ฟอง เป็นต้น

screenshot-p9

มาถึงฟีเจอร์จับภาพหน้าจอ Screenshot มีการเพิ่มระบบตกแต่งภาพหน้าจอ สามารถใส่ตัวหนังสือ ขีดเขียน และเซนเซอร์ข้อความหรือครอปภาพได้ อีกทั้งยังสามารถจับภาพหน้าจอเว็บไซต์ได้ทั้งหน้าเว็บเพจด้วย

gesture-p9

ในส่วนการปรับแต่งเปิดปิด Gestures และการเคลื่อนไหวต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ยก็มีให้เลือกเปิดปิดใช้งานได้ตามต้องการเช่นเดิม เช่น แตะเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อลั่นชัตเตอร์กล้อง หรือเมื่อหน้าจอปิดอยู่ คุณสามารถวาดตัวอักษรที่คุณกำหนดเพื่อเปิดแอปฯที่ตั้งไว้ได้ เป็นต้น

powermanage-p9

มาถึงระบบจัดการพลังงาน Battery manager ฟีเจอร์หลักอย่าง Power plan ปรับเลือกการทำงานของซีพียูตามการใช้งานเพื่อประหยัดแบตเตอรี หรือจะเลือกเปิดปิดการเรียกข้อมูลของแอปฯที่ทำงานเบื้องหลังก็มีมาให้ผู้ใช้ได้ปรับแต่งเช่นเดิม และส่วนที่โดดเด่นก็คือโหมด ROG power saving mode ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานระบบจะปรับความละเอียดหน้าจอเหลือ 720p เพื่อประหยัดพลังงาน

others-apps-p9

ในส่วนแอปฯอื่นๆที่ติดตั้งมาจากโรงงานจะเหมือนสมาร์ทโฟนหัวเว่ยทุกรุ่น แต่จะมีแอปฯพิเศษอย่าง EyeEm เครือข่ายสังคมสำหรับคนถ่ายภาพติดตั้งมาให้กับ P9 ทุกรุ่นเลย

gallery-p9

ส่วน Galley ก็มาพร้อมระบบตกแต่งภาพ ใส่ฟิลเตอร์สีต่างๆหรือจะใช้เช็คขนาดไฟล์ ค่ากล้องต่างๆได้เพียงกดไอคอนรูปตัว i เท่านั้น

ทดสอบประสิทธิภาพ

bench-p9

AnTuTu Benchmark – ทำคะแนนรวมได้ 97,725 คะแนน

3D Mark – ชุดทดสอบ Sling Shot ES 3.1 = 902 คะแนน, Ice Storm Extreme = 9,236 คะแนน, Ice Storm Unlimited = 16,091 คะแนน

PC Mark – คะแนนรวม 6,240 คะแนน

Quadrant Standard – คะแนนรวม 37,596 คะแนน

Multi-Touch – 10 จุด

PassMark PerformanceTest Mobile – System = 6,124 คะแนน, CPU Tests = 210,469 คะแนน, Disk Tests = 23,495 คะแนน, Memory Tests = 5,541 คะแนน, 2D Graphics Tests = 5,152 คะแนน, 3D Graphics Test = 1,518 คะแนน

ภาพรวมในส่วนทดสอบประสิทธิภาพ ถ้ามองในแง่ตัวเลขคะแนน Huawei P9 อาจไม่โดดเด่นเทียบเท่าคู่แข่ง แต่เรื่องความลื่นไหล การเข้ากันได้ระหว่างระบบปฏิบัติการกับ EMUI รวมถึงฟีเจอร์เด่นต่างๆที่ใส่เข้ามา ถือว่าหัวเว่ยปรับแต่งมาได้ลงตัวมาก แรม 3GB ถือว่าพอเพียงและไม่พบอาการแรมหมดเกิดขึ้นแต่อย่างใด

batt-test-p9

ในส่วนการทดสอบแบตเตอรีด้วย Geekbench อยู่ที่ 7 ชั่วโมง 50 นาที 30 วินาที คิดเป็นคะแนนอยู่ที่ 4,616 คะแนน ถือว่าอยู่ระดับปานกลาง ใช้งานตลอดทั้งวัน ถ้าเป็นคนชอบถ่ายภาพอาจไม่เพียงพอ ต้องหา Power Bank ติดตัวไปด้วย ส่วนถ้าใช้งานทั่วไป เน้นสแตนบาย สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

ทดสอบกล้องหลัง LEICA

ถ่ายภาพทั้งหมดโดย พศวัต ศิริจันทร์ > https://www.eyeem.com/u/potsawatsirichan

**ภาพทั้งหมดเป็น JPEG ปรับตั้งค่าแบบ Manual ไฟล์ภาพทั้งหมดไม่ผ่านการตกแต่งด้วยซอฟต์แวร์ใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นบางภาพมีการครอปในอัตราส่วนต่างๆ

เริ่มจากภาพขาว-ดำ ผลผลิตจากเซ็นเซอร์ Monochrome

mon

mon

Processed with VSCO with b1 preset

mon

mon

mon

mon

mon

mon

จะเห็นว่าภาพขาวดำจาก P9 มีความแตกต่างจากการสมาร์ทโฟนทั่วไปที่เปิดใช้ฟิลเตอร์ภาพขาวดำ ในเรื่องมิติ ความกว้างของภาพที่มากกว่า และที่สำคัญอารมณ์และโทนภาพแบบฟิล์มที่โดดเด่นชัดเจนมาก อีกทั้งในโหมด Monochrome ยังถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีกว่าภาพสีด้วย

มาต่อที่โหมดถ่ายภาพสีปกติ

cof

cof

cof

cof

cof

bsh

cof

cof

cof

cof

ชมภาพตัวอย่างทั้งหมดแบบเต็มความละเอียด >คลิกที่นี่<

โดยภาพรวมกล้องไลก้าใน Huawei P9 จะมีจุดเด่นในเรื่องคอนทราสต์ที่จัดจ้านและโทนภาพติดฟิล์มเล็กน้อย ส่วนสีที่ให้ก็เป็นไปตามธรรมชาติ (ทีมงานมองว่าโทนคล้ายกับ iPhone 6s) จุดเด่นที่อยากให้ทุกคนได้ลองคือการถ่ายภาพย้อนแสง P9 ทำได้ดีมากทั้งเรื่องแฟร์ที่เลนส์ควบคุมได้ยอดเยี่ยม ความคมชัด มิติภาพ และรายละเอียดภาพทั้งหมดถือว่าอยู่ครบถ้วนไม่เสียชื่อไลก้า

edf

ฟีเจอร์ Wide Aperture ถ่ายภาพก่อนแล้วค่อยเลือกโฟกัสและรูรับแสงละลายฉากหลังได้ภายหลังก็มีให้เลือกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพเหมือน Honor 6 Plus

ในส่วนไฟล์ภาพ ในที่นี้ขอพูดถึง JPEG File ที่ทำได้โดดเด่นมากที่สุด ชนะ Galaxy S7 ได้เลยในความเห็นของทีมงาน เพราะเนื้อไฟล์ JPEG ทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะไดนามิกที่ดีจนผู้ใช้สามารถตกแต่งภาพเพิ่มเติมจาก JPEG ได้เหมือนกับ RAW เลย

แต่ทั้งนี้ถ้ามองถึงความสวยในแบบสำเร็จรูป เน้นโดนใจวัยรุ่น (ประมาณถ่ายทุกสภาพแสงยังไงก็ได้ภาพสดใส คมชัดตลอด) ส่วนนี้คู่แข่งอย่าง Galaxy S7 จะทำได้ดีกว่ามาก Huawei P9 จะได้ไฟล์ที่มีความดิบกว่า

ส่วนระบบออโต้โฟกัส ส่วนนี้คงให้คะแนนแค่ปานกลาง ความไวและความแม่นยำยังไม่สามารถสู้ Dual Pixel ได้ อีกทั้งทีมงานยังพบอาการโฟกัสวืดวาดในที่แสงน้อยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะชัตเตอร์ที่บางครั้งเกิดอาการลั่นช้าบ้าง

มาถึงสิ่งประทับใจสุดท้ายคือเรื่องยูสเซอร์อินเตอร์เฟสกล้องที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อต้องการตั้งชัตเตอร์ช้ามากๆ โดยเมื่อเรากดปุ่มชัตเตอร์ลงไป จะมีแถบสถานะเวลาเปิดหน้ากล้องนับถอยหลังให้เราทราบด้วย หรือแม้แต่โหมดพิเศษอย่าง Light Trails ระหว่างที่กล้องบันทึกภาพเส้นแสง หน้าจอจะแสดงผลภาพเส้นแสงที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ด้วย

สุดท้ายในส่วนงานวิดีโอ เรื่องภาพถือว่าคมชัด แต่การบันทึกเสียงและระบบป้องกันภาพสั่นไหวถือว่ายังทำได้แค่ระบบพอใช้เท่านั้น ไม่ได้น่าประทับใจเหมือนส่วนกล้องถ่ายภาพนิ่ง

สรุป

IMG_4532

Huawei P9 เป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์จากหัวเว่ยที่มีความโดดเด่นในเรื่องกล้องถ่ายภาพหลังไลก้าที่สุด และดูเหมือนหัวเว่ยจะเน้นจุดขายนี้เป็นพิเศษกว่าเรื่องสเปกที่ปัจจุบันจะคล้ายกันจนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แน่นอนว่าหัวเว่ยทำได้ดีมากจนกลายเป็นการแจ้งเกิดแบรนด์ตำนานอย่างไลก้าในตลาดสมาร์ทโฟนได้อย่างยอดเยี่ยม กล้องคู่ที่มีอยู่แล้วในตลาดก็ถูกพัฒนาให้มาเพิ่มประสิทธิกล้อง ซึ่งถือเป็นความคิดที่ดี จน P9 น่าจะถูกใจผู้ใช้ที่ชอบถ่ายภาพไปถึงช่างภาพมืออาชีพที่กำลังมองหามือถือกล้องสวย Huawei P9 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ทีมงานแนะนำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกไฮเอนด์สมาร์ทโฟนของปีนี้

โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบภาพ Monochrome Huawei P9 น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนตัวเดียวที่มีจิตวิญญาณของภาพ Monochrome ขาวดำที่สวยสุดในตลาดตอนนี้แล้ว

ในส่วนโมเดลที่จะเข้ามาขาย ราคา วันวางจำหน่ายและคะแนนภาพภาพรวมทั้งหมด ทีมงานขอติดผู้อ่านไว้ก่อน รอให้หัวเว่ยประเทศไทยประกาศอย่างเป็นทางการก่อน แล้วทีมงานจะกลับมาให้ในส่วนคะแนนภาพรวมเพิ่มเติมภายหลัง

อัปเดต : เปิดราคา Huawei P9 ในบ้านเราจะเป็นรุ่นความจุ 32GB แรม 3GB พร้อมรองรับซิมโทรศัพท์ Dual Sim โดยในส่วนราคาอยู่ที่ 16,990 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีทอง สีเงิน และสีเทา เริ่มเปิดให้จองวันนี้ (มีค่า Pre Booking 2,000 บาท) พร้อมรับของแถม ได้แก่ Leica Case มูลค่า 1,900 บาท และ MicroSD Card 128GB Class 10 มูลค่า 2,190 บาท

ข้อดี

– กล้องหลังไลก้าคู่คุณภาพสูง ไฟล์ภาพถ่ายคุณภาพดีมาก
– สแกนลายนิ้วมือแม่นยำ
– งานประกอบ การออกแบบแข็งแรง บาง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
– ซอฟต์แวร์ภายในปรับแต่งมาดี โดยเฉพาะซอฟต์แวร์กล้องถ่ายภาพให้อารมณ์ไลก้าผสมการใช้ควบคุมแบบหัวเว่ยใช้งานง่าย

ข้อสังเกต

– สเปกเครื่องส่วนประมวลผลไม่โดดเด่นเหมือนคู่แข่งระดับไฮเอนด์ในปีนี้
– ระหว่างใช้งานกล้องถ่ายภาพ ด้านหลังจะร้อนมาก
– พอร์ต USB-C (สำคัญเวลาไปชาร์จไฟนอกสถานที่ในตอนนี้ อาจต้องพกสายชาร์จไปเอง)
– แบตเตอรีไม่อึด

Gallery

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

REVIEW OVERVIEW
การออกแบบ
9
สเปก/ฟีเจอร์เด่น
9
ความสามารถโดยรวม
9
ความคุ้มค่า
9.5
SHARE