Review : Xiaomi Mi 8 Lite จอใหญ่ สเปกดี กล้อง AI ในราคาต่ำหมื่น

14141

เสียวหมี่ (Xiaomi) ใช้สมาร์ทโฟนในตระกูล Mi 8 เป็นหนึ่งในซีรีส์สำคัญของการเจาะตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้ ด้วยการนำแฟลกชิปอย่าง Mi 8 เข้ามาจำหน่ายก่อนด้วยการชูเรื่องประสิทธิภาพตัวเครื่อง พร้อมกับการมาพร้อมกล้องคู่ AI

หลังจากนั้น จึงมีรุ่นย่อยอย่าง Mi 8 Lite และ Mi 8 Pro ตามออกมา เป็น 2 รุ่นย่อย เพื่อจับกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลายขึ้น โดย Mi 8 Lite จะเป็นแอนดรอยด์โฟนที่เข้ามาจับผู้ใช้ในระดับราคาต่ำกว่าหมื่นบาท กับสเปกที่เน้นในเรื่องของความคุ้มค่าตามสไตล์ของ ​Xiaomi

จุดเด่นหลักๆ ของ Mi 8 Lite คือเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่อง รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อความบันเทิง พร้อมไปกับดีไซน์ตัวเครื่องที่บาง เบา จับง่ายถนัดมือ กับสีของฝาหลังที่เป็นแบบไล่เฉดสีด้วย

ข้อดี

จอใหญ่ 6.29 นิ้ว ในขนาดตัวเครื่องที่จับถือง่าย

กล้องทั้งหน้าและหลังมีการนำ AI มาช่วยในการประมวลผล

ข้อสังเกต

ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. แต่มีอะเดปเตอร์แปลงมาให้

ตัวเครื่องรองรับการชาร์จเร็ว แต่ในอะเดปเตอร์ที่ให้มาไม่รองรับต้องซื้อเพิ่ม

จอใหญ่ ตัวเครื่องไล่เฉดสี

ความโดดเด่นของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่การเล่นสีหลังเครื่อง โดยเฉพาะในรุ่นสีน้ำเงิน (Aurora Blue) ที่เป็นการไล่เฉดสีตัวเครื่องในแนวตั้งให้ดูน่าสนใจ เมื่อมองจากมุมที่สะท้อนแสงต่างกัน ก็จะเห็นสีที่ต่างออกไปด้วย

โดยตัวเครื่อง Mi 8 Lite จะมีขนาดอยู่ที่ 156.4 x 75.8 x 7.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 169 กรัม ตัวเครื่องที่ให้มาถือว่าเล็กเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ 6.26 นิ้ว (ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล) ความละเอียดเม็ดสี 403ppi ในสัดส่วนจอขนาด 19:9

แน่นอนว่า Mi 8 Lite จะมากับรอยบาก (Notch) แต่ถือว่ามีขนาดเล็ก เนื่องจากใช้เป็นที่อยู่ของลำโพง เซ็นเซอร์ และกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดถึง 24 ล้านพิกเซล ดังนั้นใครที่ชื่นชอบการเซลฟี่ รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้แน่นอน

ส่วนด้านหลังเครื่องนอกจากเรื่องของเฉดสีที่บอกไป ใน Mi 8 Lite ยังมีการนำกล้องคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.9 สำหรับเลนส์ปกติ ที่ใช้เทคโนโลยี Dual Pixel AF มาช่วยในการโฟกัส ขนาดพิกเซลอยู่ที่ 1.4 um ส่วนเลนส์เทเลจะให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

ถัดลงมาตรงกลางเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่วางไว้ให้เวลาจับถือเครื่องสามารถใช้นิ้วชี้ในการปลดล็อกเครื่องได้ทันที หรือถ้าไม่ถนัดก็สามารถเลือกใช้การสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหลังๆ Xiaomi พัฒนาระบบสแกนได้รวดเร็ว และแม่นยำขึ้นมาก

รอบตัวเครื่องจะมีปุ่มเปิดปิดตัวเครื่องอยู่ทางขวา เช่นเดียวกับปุ่มเพิ่มลดเสียง ทางด้านซ้ายเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 และจุดรับสัญญาณการเชื่อมต่อ ด้านล่างเป็นพอร์ต USB-C และลำโพง

ภายในใส่แบตเตอรีขนาด 3,350 mAh มาให้ใช้งาน ซึ่งถ้าใช้งานทั่วๆไป 1 วันอยู่ได้สบายๆ แต่ถ้าใช้งานหนักๆ อย่างนำมาเล่นเกม หรือเปิดหนังดูต่อเนื่องจะใช้งานได้ราวๆ 11-12 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าระบบการจัดการแบตเตอรีทำได้ดี

ตัวเครื่องรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะใส่นาโนซิมการ์ดคู่กับนาโนซิมการ์ด เป็น 2 ซิม หรือเลือกใช้นาโนซิมการ์ด คู่กับไมโครเอสดีการ์ดเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่องได้ ส่วนการเชื่อมต่อไวไฟ รองรับ 802.11ac บลูทูธ 5.0 มี GPS ให้ตามมาตรฐาน

สำหรับสเปกภายในของ Mi 8 Lite จะใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 ที่ให้ความเร็ว 2.2 GHz มีกราฟิก Adreno 512 มาคู่กัน ส่วน RAM จะอยู่ที่ 4/6 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64/128 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 8.1 (Oreo) และจะได้รับการอัปเดตเป็น 9.0 Pie ในอนาคต

เครื่องต่ำหมื่นสเปกดี

ในส่วนของการใช้งาน ด้วยการที่ Mi 8 Lite ให้ขนาดจอมาถึง 6.29 นิ้ว ถ้านำมาใช้ในแง่ของความบันเทิง หรือใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ด้วยประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ให้มารองรับการใช้งานได้สบายๆอยู่แล้ว

แต่ก็จะมีจุดที่ผู้ใช้งานต้องปรับตัวเล็กน้อยคือเรื่องของการที่ Mi 8 Lite ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วย ทำให้ต้องใช้ตัวแปลงหูฟังใช้งานร่วมกับพอร์ต USB-C ซึ่งในขณะที่ใช้ก็จะไม่สามารถเสียบชาร์จเครื่องได้ หรืออีกทางเลือกคือหันมาใช้งานหูฟังบลูทูธแทน

ถัดมาในส่วนของการเล่นเกม ที่ถือเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เพราะจากหน่วยประมวลผล Snapdragon 660 ที่ให้มา ทีมงานทดลองเล่นเกมฮิตในเวลานี้อย่าง Ragnarok Mobile ก็ไม่มีอาการกระตุกหรือค้างให้เห็น แม้จะปรับเลือกความละเอียดในการแสดงผลสูงสุดแล้ว หรือเกมอื่นๆที่ใช้สเปกสูงๆ ก็เล่นได้ลื่นๆสบายๆ

กล้องถ่ายรูปเป็นอีกส่วนที่ Mi 8 Lite ทำได้ดีเกิดคาด เพราะมีการนำ AI เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ ทั้งการเลือกโหมดในการถ่ายภาพตามสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการปรับภาพให้มีความคมชัดขึ้น ซึ่งถือว่าคุณภาพที่ได้เกินระดับราคาเครื่องที่จ่ายไปไม่เกินหมื่นบาทแน่นอน

Gallery

ทดสอบประสิทธิภาพ

สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพต่างๆ สามารถดูได้จากภาพด้านล่าง

สรุป

ในภาพรวมแล้ว Mi 8 Lite ถือเป็นการขยายตลาดมาจับกลุ่มผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่าหมื่นบาทได้น่าสนใจ ด้วยการนำฟีเจอร์สำคัญๆ ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการมาให้ใช้งานทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ แบตอึด ที่สำคัญคือการไล่เฉดสีหลังเครื่องที่ทำให้ตัวเครื่องสวยงามขึ้นด้วย

ทั้งนี้ Xiaomi Mi 8 Lite วางจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นคือ รุ่นที่มากับ RAM 4 GB ROM 64 GB วางจำหน่ายในราคา 7,990 บาท (รุ่นที่นำมาทดสอบ) ส่วนรุ่น RAM 6 GB ROM 128 GB วางจำหน่ายในราคา 9,990 บาท

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น