Review : Acer Predator 17 โน้ตบุ๊กพันธุ์โหดเพื่อคอเกมและไฮเอนด์ยูสเซอร์

24632

IMG_5320

ขึ้นชื่อซับแบรนด์ “Predator” จากเอเซอร์ คอเกมคงทราบดีรู้แล้วว่าเน้นจับกลุ่ม ”เกมเมอร์” ที่ต้องการคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เล่นเกมประสิทธิภาพสูง โดยในวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิซได้รับโน้ตบุ๊กตัวท็อปสุดของซับแบรนด์นี้ (สำหรับตลาดประเทศไทย) มารีวิวกับ “Acer Predator 17”

การออกแบบ

IMG_5375

predator-sideall

เริ่มจากการออกแบบ Acer Predator 17 รุ่นท็อปสุดในบ้านเราจะเป็นโมเดล G9-791-72Q4 โดยตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ LED ขนาด 17.3 นิ้ว พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียดจอ 1,920×1,080 พิกเซล (รองรับ Output 4K) และมีกล้องเว็บแคมพร้อมไมโครโฟนติดตั้งเหนือจอภาพขึ้นไป

ขนาดตัวเครื่องถือว่าใหญ่และหนักถึง 3.95 กิโลกรัมเมื่อรวมอะแดปเตอร์จ่ายไฟแล้วน้ำหนักจะเขยิบไปที่ประมาณเกือบ 5 กิโลกรัมเลยทีเดียว

IMG_5350

มาดูส่วนคีย์บอร์ด Predator ProZone จะเป็นแป้นแบบ Full Keyboard พร้อมแป้นตัวเลขครบถ้วน นอกจากนั้นเพื่อความเป็นเกมเมอร์เอเซอร์ยังได้เพิ่มสีแดงเข้าไปที่คีย์ WASD และปุ่มทิศทางเพื่อให้ผู้ใช้ เวลาเล่นเกมจะสามารถสังเกตเห็นปุ่มเหล่านี้ได้ง่าย

ถัดมาซ้ายมือสุดจะเป็นปุ่มโปรไฟล์พิเศษที่ผู้ใช้สามารถตั้งเป็นคีย์ลัดหรือมาโครปุ่มร่วมกับเกมที่เล่นได้ตามต้องการ

ด้านล่างสุด – จะเป็นทัชแพดขนาดใหญ่พร้อมปุ่มแทนการคลิกเมาส์ซ้ายและขวาและปุ่มเปิดปิดใช้งานทัชแพด

IMG_5341

นอกจากนั้นใต้แป้นพิมพ์ทางเอเซอร์ยังได้ติดตั้งไฟ LED ส่องสว่างไว้ด้วย โดยรุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบไฟจะเปลี่ยนสีไม่ได้ (ยกเว้นบริเวณปุ่มโปรไฟล์พิเศษ)

IMG_5346

ถัดขึ้นมาบนขวามือจะเป็นไฟแสดงสถานะเปิดเครื่อง ไฟแสดงสถานะการทำงานของฮาร์ดไดร์ฟและไฟแสดงการชาร์จไฟ (ถ้าเป็นสีส้มแสดงว่ากำลังชาร์จไฟเข้าอยู่ ถ้าเป็นสีแดงแสดงว่าใช้ไฟตรงจากอะแดปเตอร์ไฟบ้าน)

IMG_5329

สำหรับด้านหลังเครื่อง เริ่มจากบริเวณหน้าจอ (ฝาปิด) จะมีโลโก้ Predator อยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยเส้นสีแดงสองเส้น (เมื่อเปิดเครื่องจะมีไฟสีแดงเรืองแสงดูน่าเกรงขามดี)

cooling-pre17

ส่วนด้านหลังเครื่องตรงที่ล้อมด้วยกรอบสีแดง บริเวณนั้นจะเป็นช่องระบายความร้อน โดยภายในจะมีพัดลม 2 ตัวช่วยกันระบายความร้อนบนเทคโนโลยี Predator FrostCore ซึ่งทางเอเซอร์ได้เขียนคำเตือนไว้ในคู่มือว่า ระหว่างเล่นเกมบริเวณด้านหลังนี้จะมีความร้อนสูง (สูงกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปหลายเท่าตัว) เพราะฉะนั้นการวาง Acer Predator 17 ระหว่างเล่นเกม ควรวางให้ด้านหลังตัวเครื่องออกห่างจากกำแพงหรือสิ่งของที่ไม่สามารถทนความร้อนได้

แต่ทั้งนี้สำหรับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องมีการประมวลผลกราฟิกหรือใช้ซีพียูสูง บริเวณด้านหลังจะมีความร้อนออกมาเหมือนโน้ตบุ๊กทั่วไป

IMG_5368

มาถึงเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆรอบตัวเครื่อง เริ่มจากขวามือ ช่องสีแดงเป็นช่องเชื่อมต่ออะแดปเตอร์ไฟบ้าน ถัดมาเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ช่องเชื่อมต่อไมโครโฟนและหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร (ออกแบบมาให้รองรับหูฟังเกมเมอร์) ถัดมาเป็นช่องอ่าน SD Card

IMG_5402

IMG_5401

ส่วนบริเวณขวาสุด ปกติแกะเครื่องออกจากกล่องครั้งแรกจะเป็นไดร์ฟ Blu ray + DVD แต่ในแพกเกจจะมีการแถมพัดลมช่วยระบายความร้อนตัวที่สองมาให้จาก Cooler Master โดยผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยการพลิกใต้เครื่องขึ้นแล้วดันสวิตซ์ตามรูปประกอบ

IMG_5372

อีกด้าน เริ่มจากขวามือสุดจะเป็นช่องใส่สายล็อกกันขโมยเครื่อง ถัดมาเป็นพอร์ตแลน RJ45, Display Port, HDMI, USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต โดยพอร์ตที่สองสามารถใช้ชาร์จสมาร์ทดีไวซ์ได้ และสุดท้าย USB-C/Thunderbolt 3

IMG_5371

IMG_5395

ด้านหน้าและใต้เครื่อง – เริ่มจากด้านหน้าจะเป็นช่องลำโพงซ้ายขวาแบ่งเป็นด้านละ 2 ตัวรวม 4 ตัวเพื่อช่วยกระจายเสียงรอบทิศทางตามหลัก Dolby Audio โดยเมื่อผู้ใช้พลิกดูใต้เครื่องจะเห็นว่าลำโพงถูกติดตั้งให้เสียงสามารถยิงสะท้อนกับโต๊ะเพื่อสร้างเสียงรอบทิศทางได้ ในขณะเดียวกันเสียงก็ถูกยิงออกจากช่องลำโพงที่ติดตั้งไว้บริเวณด้านหน้าเครื่องด้วย

แต่แค่เสียงรอบทิศทางอย่างเดียวคงไม่เพียงพอต่อเกมเมอร์ ใต้เครื่องบริเวณแผ่นเหล็กสีแดง เอเซอร์ยังได้ติดตั้ง Subwoofer ช่วยกระจายเสียงเบสออกมาด้วย ซึ่งเมื่อรวมการทำงานของลำโพงทั้งหมดก็เท่ากับว่า Predator 17 เป็นระบบ 4.2 Channel หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ Predator SoundPound 4.2

สเปก

cpupre17-spec

สเปกซีพียู Acer Predator 17 ใช้ Intel Core i7 6700HQ 4-cores 8-Threads ความเร็ว 2.6GHz สามารถ Turbo Boost ได้สูงสุดถึง 3.5GHz แรม DDR4 32GB กราฟิก NVIDIA GeForce GTX 980M พร้อมแรม 4GB ส่วนระบบปฏิบัติการติดตั้งมากับตัวเครื่องเป็น Windows 10 Home

hdd-spec-pre17

ในส่วนฮาร์ดไดร์ฟเก็บข้อมูลมี 2 ชุดรวม 2TB กว่าๆ แบ่งเป็นชุดแรกไดร์ฟ C เป็น Intel SSD 2 ตัว ความจุตัวละประมาณ 238GB เชื่อมต่อการทำงานกันบน RAID 0 ส่วนชุดที่ 2 เป็นฮาร์ดดิสก์จานหมุนจาก Seagate ขนาดประมาณ 2TB เชื่อมต่อผ่านพอร์ต SATA600

ด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย แลนรองรับความเร็วสูงสุดระดับกิกะบิต ส่วน Wireless LAN รองรับมาตรฐานสูงสุด 802.11ac

แบตเตอรีภายในเป็น Lithium Ion ขนาด 6,000mAh (8 เซลล์) และตัวเครื่องบริโภคพลังงานประมาณ​ 180W

ฟีเจอร์เด่น

win10-home-pre17

ขอกล่าวถึงตัว Windows 10 ที่ติดตั้งมากับ Predator 17 ก่อน ก็คือตัววินโดวส์ที่ให้มาในครั้งนี้ทางเอเซอร์จะเน้นความเพียวของระบบปฏิบัติการให้มากที่สุด เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการประมวลผล เพราะฉะนั้นพวกซอฟต์แวร์ช่วยเหลือต่างๆ เอเซอร์จะเลือกติดตั้งมาให้เฉพาะที่จำเป็นต่อการควบคุมระบบเท่านั้น

dust-defend-pre17

เริ่มจากซอฟต์แวร์ควบคุมซึ่งเป็นจุดขายหลักก่อนเลยกับ Predator DustDefender ย้อนกลับไปตรงการออกแบบพัดลมระบายความร้อนกันก่อน อย่างที่ทราบดีว่าโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจะมีความร้อนระหว่างประมวลผลที่สูงกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไป เพราะฉะนั้นนอกจากการออกแบบพัดลมระบายความให้สามารถดึงอากาศภายนอกมาช่วยถ่ายเทภายในตัวเครื่องได้ดีแล้ว เอเซอร์มองว่าเรื่องของฝุ่นก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาช่วยลดประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ เพราะฉะนั้นเอเซอร์จึงได้คิดค้นชุดพัดลมระบายความให้สามารถหมุนย้อนกลับเพื่อระบายฝุ่นออกจากตัวเครื่องผ่านช่องทางพิเศษที่ติดตั้งไว้ใต้เครื่อง

โดยปกติระบบไล่ฝุ่นจะทำงานอัตโนมัติทุก 3 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถสั่งงานแบบแมนวลได้ผ่านซอฟต์แวร์ Acer DustDefender

acercare-pre17

Acer Care Center เป็นซอฟต์แวร์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแบตเตอรี สำรองข้อมูลระบบ รวมถึงสั่งอัปเดตเฟริมแวร์และซอฟต์แวร์ควบคุมระบบได้

killer-network-pre17

Killer DoubleShot Pro เป็นฟีเจอร์และซอฟต์แวร์ควบคุมระบบเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คทั้งหมดที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ โดยระบบจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถจัดการแบนด์วิดธ์แบ่งระหว่างสัญญาณอินเตอร์เน็ตและระบบแลนได้ตามต้องการ เพื่อช่วยลดอัตราการดีเลย์ในการรับส่งข้อมูลระหว่างเล่นเกมออนไลน์ได้

predator-sense-17

predator-sense-17-2

Predator Sense ส่วนนี้คือส่วนควบคุมกลางของตัวเครื่องทั้งหมด ตั้งแต่การปรับตั้งคีย์โปรไฟล์พิเศษที่คีย์บอร์ด สร้างปุ่มมาโคร ปิดเปิดไฟส่องสว่างต่างๆ ไปถึงการตั้งค่าเลือกใช้การฟิก ปรับสีจอภาพ และสามารถเช็คอุณหภูมิเครื่อง เมนบอร์ด และดูรอบพัดลมได้จากส่วนนี้ทั้งหมด

xsplit-games-pre17

Split Gamecaster (ลูกค้า Predator ใช้งานฟรี 6 เดือน) เป็นซอฟต์แวร์พิเศษสำหรับนักเล่นเกมที่ชอบทำ Gamecast แอปฯตัวนี้จะช่วยในการบันทึกวิดีโอระหว่างเล่นเกมและสามารถถ่ายทอดสดผ่าน twitch.tv ได้ด้วย

dolby-pre17

Dolby Audio สุดท้ายกับส่วนปรับแต่งระบบเสียงจาก Dolby ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเลือกโปรไฟล์เสียงได้ตามการใช้งานหรือจะปรับแต่งเองก็สามารถทำได้จากแท็บ Personalize

ทดสอบประสิทธิภาพ

3dbench-pre17

pcmark-pre17

เริ่มจากทดสอบกราฟิกสไตล์เกมเมอร์กับ 3D Mark และ PC Mark กันก่อนเลย จะเห็นว่าทำคะแนนทดสอบได้สมกับเป็นโน้ตบุ๊กเกมเมอร์เสียจริงๆ คะแนนอยู่ระดับเดียวกับ PC Gamer ระดับกลางเลย (ยังไม่ถึงระดับ Notebook Gamer 4K เพราะต้องเป็น Predator รุ่นพิเศษที่ใช้การ์ดจอ GTX 980 ตัวใหญ่) ยิ่งได้ฮาร์ดไดร์ฟ SSD ต่อ RAID 0 มาช่วยเรื่องการโหลดระบบต่างๆยิ่งทำให้คะแนนหลายส่วนเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ

คะแนน Geekbench 32 บิต
คะแนน Geekbench 32 บิต

คะแนน Geekbench 64 บิต
คะแนน Geekbench 64 บิต


hddtest-pre17

ทดสอบอ่านเขียนข้อมูลฮาร์ดดิสก์ SSD ต่อ RAID 0 คะแนนพุ่งสูงมาก (เวลาทำงานตัดต่อวิดีโอหรือตกแต่งภาพความละเอียดสูงมากแนะนำให้ทำงานจากไดร์ฟ C เป็นหลัก จะได้ประสิทธิภาพสูงสุด) ส่วนไดร์ฟ D เป็นจานหมุนถือว่าทำคะแนนอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลย

4ktest-pre7

มาถึงการใช้งานด้านตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งภาพ ส่วนนี้สามารถใช้งานได้ลื่นไหล หายห่วง เพราะทีมงานได้ลองนำไปตัดไฟล์วิดีโอ 4K จากกล้อง Nikon D500 ผ่านซอฟต์แวร์ Adobe Premiere CC 2015 ทุกอย่างทำงานได้ลื่นไหลเนื่องจากระบบสามารถนำ CUDA จากการ์ดจอ NVIDIA มาใช้งานร่วมได้ ทำให้การเรนเดอร์และ Export ไฟล์ทำได้รวดเร็วมากขึ้น

ทดสอบเกม Final Fantasy X
ทดสอบเกม Final Fantasy X

ทดสอบกับชุดวัดประสิทธิภาพ Unreal 4 (DirectX 12)
ทดสอบกับชุดวัดประสิทธิภาพ Unreal 4 (DirectX 12)

ทดสอบกับชุดวัดประสิทธิภาพ Catzilla ที่ความละเอียด 720p (DirectX 11)
ทดสอบกับชุดวัดประสิทธิภาพ Catzilla ที่ความละเอียด 720p (DirectX 11)


มาดูเรื่องการเล่นเกมกันบ้าง ทีมงานเน้นทดสอบไปที่เกม DOOM 2016 ตั้งค่ากราฟิกสูงสุดทั้งหมด พบว่าทุกอย่างทำงานได้ลื่นไหล เฟรมเรตเฉลี่ยที่ทำได้ (ความละเอียด 1080p) อยู่ที่ประมาณ 50 เฟรมต่อวินาที ส่วนการทดสอบเกมอื่นๆที่ความละเอียด 1080p ส่วนใหญ่จะสามารถเล่นแบบเปิดค่ากราฟิกสูงสุดทั้งหมดได้ไม่มีปัญหา ยกเว้นเมื่อลองทดสอบกับจอภาพ 4K และเปิดเต็มความละเอียดอาจพบอาการกระตุกให้เห็นบ้าง

แต่โดยภาพรวมก็ถือว่า Acer Predator 17 สามารถรันเกมที่วางขายในปัจจุบันได้ทั้งหมด รวมถึงเมื่อใช้งานกราฟิกตัดต่อวิดีโอหรือรูปภาพ ไม่ว่าจะความละเอียดสูงถึง 4K หรือภาพระดับ 40 ไปถึง 100 ล้านพิกเซล Predator 17 จัดการทุกอย่างได้อยู่หมัดแน่นอน

batt-test-pre17

การทดสอบสุดท้ายกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี 6,000mAh ถือว่าทำได้ดีเกินคาดหมายพอสมควร เวลาใช้งานต่อเนื่องทำเวลาได้ถึง 4 ชั่วโมง 16 นาที พอๆกับอัลตร้าบุ๊กเลยทีเดียว

สรุป

prelogo-acer

ราคาค่าตัว Acer Predator 17 รุ่นท็อปสุดในบ้านเราอยู่ที่ 89,900 บาท (ความจริงในต่างประเทศจะมีรุ่นปรับแต่งพิเศษให้เป็น 4K Gaming Notebook กับ Predator 17x แต่บ้านเราไม่แน่ใจว่าเอเซอร์ประเทศไทยจะมีให้สั่งซื้อในอนาคตหรือไม่) ซึ่งถ้ามองว่าราคาสูงเกินไป เอเซอร์มีตัวเลือกเป็นรุ่นสเปกรองลงมา (ลดแรมเหลือ 16GB และฮาร์ดดิสก์เหลือ 1TB) อยู่ที่ 79,900 บาท และรุ่นเล็กสุดหน้าจอ 15 นิ้วเริ่มต้นที่ 59,900-69,900 บาท

ถือเป็นไฮเอนด์โน้ตบุ๊กตั้งแต่ซีพียูไปถึงการ์ดจอในตอนนี้ แน่นอน Predator จากเอเซอร์มีความชัดเจนในแบรนด์อยู่แล้วว่าจับกลุ่มเกมเมอร์และไฮเอนด์ยูสเซอร์ที่ต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้เล่นเกมหรือทำงานที่ต้องการสเปกประมวลผลระดับสูงโดยเฉพาะ

โดยสำหรับคนที่สนใจสิ่งหนึ่งที่คุณต้องรับให้ได้นอกจากราคาค่าตัวระดับครึ่งแสนบาทเป็นต้นไปแล้วก็คือ น้ำหนักและความใหญ่โต (เป็นโน้ตบุ๊กที่ผมไม่สามารถยกมือเดียวได้ แถมใส่กระเป๋าสะพายหลังน้ำหนักพี่ท่านเหมือนเราแบกอาวุธสงครามมากกว่าแบกโน้ตบุ๊ก) สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่ต้องรับให้ได้ก่อนคิดจะเลือกซื้อโน้ตบุ๊กกลุ่ม Predator

ข้อดี

– งานออกแบบดูดุดัน เฟรมทั้งหมดงานประกอบดูแข็งแรงมาก
– พัดลม ระบายความร้อนได้ดีและฉลาด ส่วนแรงลมที่เป่าความร้อนออกมาถือว่าแรงใช้ได้
– นอกจากนั้นรังสีความร้อนยังถูกควบคุมให้มีอยู่แค่ช่องระบายความร้อนเท่านั้น บริเวณตัวเครื่อง คีย์บอร์ดจะไม่มีความร้อนสะสมให้ผู้ใช้ได้รู้สึกตลอดการเล่นเกมและใช้งานเลย
– แรม 32GB ให้มาใช้งานเหลือเฟือมาก
– มีพอร์ตใหม่ USB-C และ Thunderbolt 3 ให้ใช้
– รองรับการต่อจอนอก 4K และรองรับจอที่มีเทคโนโลยี NVIDIA G-SYNC

ข้อสังเกต

– ตัวเครื่องใหญ่และหนักเกินจะใส่กระเป๋าธรรมดาเพื่อสะพายหลังได้
– วัสดุหุ้มตัวเครื่องทั้งหมดเป็นรอยง่าย
– ลำโพงให้เสียงทู่ๆและไม่ค่อยสมดุล/วูฟเฟอร์ยังขับเสียงได้ไม่เร้าใจพอ
– มุมเครื่องค่อนข้างแหลมและชอบทิ่มแขนเวลาวางมือบนคีย์บอร์ด
– ทัชแพดตอบสนองไม่ค่อยดี

Gallery

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

REVIEW OVERVIEW
การออกแบบ
8.5
สเปก/ฟีเจอร์เด่น
9.5
ความสามารถโดยรวม
9.5
ความคุ้มค่า
9
SHARE